instruction
stringclasses
1 value
output
stringlengths
42
1.55k
input
stringlengths
525
195k
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โค้ชชาวสเปน ระบุ เกมชนะติมอร์ เลสเต 3-0 น่าพอใจ แต่มีหลายอย่างที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ มั่นใจ นัดต่อไปเจอทีมชาติลาว 6 ก.ย.นี้ ต้องเล่นให้ดีขึ้นกว่าเดิม
วันที่ 4 ก.ย. หลังจบการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงแชมป์อาเซียน 2017 ที่สนามธุวันนา สเตเดียม ประเทศเมียนมา โดย ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติติมอร์ เลสเต 3-0 เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ มาร์ค อลาเบดรา ปาลาซิโอส เฮดโค้ชชาวสเปน กล่าวว่า วันนี้ฟอร์มของนักเตะถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถทำได้ดีกว่านี้ หลังเกมนี้ ผมจะกลับไปดูวิดีโอของเกม เพื่อนำข้อบกพร่องไปพัฒนาให้ดีขึ้นในเกมต่อไป,นัดต่อไปที่จะพบกับทีมลาว สิ่งสำคัญคือการแก้ไขในจุดที่บกพร่อง เราต้องเก็บบอลให้มากขึ้น และเสียบอลให้น้อยลง เกมต่อไปต้องดีกว่าเกมนัดนี้ ส่วนประตูของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ทำได้ในช่วงท้ายครึ่งแรกนั้น มันช่วยปลดล็อก และทำให้เราเล่นง่ายขึ้นในครึ่งหลัง ฟุตบอลก็เป็นอย่างนี้ เมื่อทำประตูได้ ทุกอย่างจะสามารถทำได้ง่ายขึ้น ผมต้องขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคน ที่ช่วยส่งแรงใจให้ทีมชาติไทย ยู-18 เราจะพัฒนาทีมให้ดีขึ้นมากกว่านี้ เพื่อมอบความสุขให้แฟนบอลชาวไทย ปาลาซิโอส กล่าว,สำหรับทีมชาติไทย จะลงสนามนัดต่อไป พบกับ ทีมชาติลาว ที่สนามธุวันนา สเตเดียม วันที่ 6 กันยายน เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เริ่มถ่ายทอดสดเวลา 18.00 น.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปากีสถานทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ในวันพฤหัสบดี ในเวลาเดียวกับที่อินเดีย ซึ่งเป็นคู่ปรับกัน กำลังนับผลการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า ปากีสถานออกมาเปิดเผย พวกเขาได้ทดสอบยิงขีปนาวุธที่มีขีดความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์แล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) โดยเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาเตือนถึงอินเดีย ที่กำลังนับผลการเลือกตั้งใหญ่ซึ่งคาดว่า นายนเรนทรา โมดี จะชนะ และได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย,ชาห์อีน-2 เป็นขีปนาวุธขีดความสามารถสูง ซึ่งตรงตามความต้องการทางยุทธศาสตร์ของปากีสถาน ในการรักษาเสถียรภาพด้านการป้องปรามในภูมิภาคนี้ กองทัพปากีสถานระบุผ่านแถลงการณ์ โดยขีปนาวุธชาห์อีนประจำการในกองทัพปากีสถานตั้งแต่ปี 2557 คาดว่าพัฒนาจากขีปนาวุธที่ออกแบบโดยจีน มีพิสัยทำการสูงสุด 1,500 กม.,แถลงการณ์ของกองทัพปากีฯ ไม่ได้ระบุถึงอินเดีย แต่เป็นสิ่งเน้นย้ำให้เห็นความตึงเครียดระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ที่เสี่ยงจะลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามเพื่อแย่งชิงแคว้นแคชเมียร์ หลังปะทะกันอย่างรุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์,อย่างไรก็ตาม ปากีสถานยังแสดงท่าทีเปิดกว้างสำหรับการเจรจาสันติภาพหลังการเลือกตั้งอินเดียจบลง โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายชาห์ เมห์มูด คูเรชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศปากีสถานพบปะพูดคุยกับนาง ซุชมา สวาราช รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย โดยระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันและยุติปัญหาผ่านการพูดคุย
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ฌอง-โคล๊ด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ออกโรงตำหนิประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หลังผู้นำผิวสีกล่าวว่ารัสเซียเป็นแค่มหาอำนาจระดับภูมิภาค
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายฌอง-โคล๊ด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุถึงการใช้คำพูดของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ที่พูดถึงรัสเซียว่า เป็นเพียงมหาอำนาจระดับภูมิภาคนั้นไม่เหมาะสม ประเทศตะวันตกจะต้อง ปฏิบัติกับประเทศรัสเซียอย่างถูกต้อง,ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในที่ประชุมที่เมืองปาสเซา ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนีว่า ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เราควรที่จะปฏิบัติกับรัสเซียอย่างถูกต้องเหมาะสม ผมทราบดีจากการพูดคุยกับประธานาธิบดีปูติน (นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย) ที่ไม่ค่อยพอใจกับประโยคที่นายบารัค โอบามากล่าวว่า รัสเซียเป็นเพียงมหาอำนาจระดับภูมิภาคเท่านั้น เราต้องการจะสื่อถึงอะไรหรือ เราจะพูดกับรัสเซียอย่างนั้นไม่ได้,รัสเซียต้องการให้มีการปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เขาย้ำอีกว่า ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องผลักดันให้เขาขึ้นมายืนอยู่บนหน้าเวทีโดยไม่มีเหตุผล และเราก็เห็นกันอยู่แล้วว่า เขาทำให้เราต้องพูดถึงเขาในเวลาที่รวดเร็วมากเสียด้วย ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปตอกย้ำ,นายยุงเกอร์ยังได้กล่าวอีกว่า รัสเซียยังต้องดำเนินการให้มีความก้าวหน้าอย่างมหาศาล การปฏิบัติการของรัสเซียเกี่ยวกับปัญหาแคว้นไครเมียร์ทางภาคตะวันออกของประเทศยูเครนนั้น จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ได้ สหภาพยุโรปและอเมริกาทำการคว่ำบาตรรัสเซียเนื่องจากได้ให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของประเทศยูเครนและการผนวกรวมแคว้นไครเมียร์เมื่อต้นปี พ.ศ.2557,นอกจากนั้น ประเทศตะวันตกยังได้ตำหนิรัสเซียอย่างมากต่อการปฏิบัติการทางทหารในกรณีความขัดแย้งของประเทศซีเรีย โดยเห็นว่ารัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซัด มากกว่าที่จะหาทางพุ่งเป้าโจมตีกลุ่มรัฐอิสลามหัวรุนแรง
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
นางสาวปราณี สัตยประกอบ รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. มีความห่วงใยสถานการณ์น้ำปี 2560 ดังนั้นเพื่อบูรณาการความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำระหว่าง กทม.กับ 5 จังหวัดปริมณฑล
18 ก.ค.นี้พร้อมกรมชลประทาน, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นางสาวปราณี สัตยประกอบ รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. มีความห่วงใยสถานการณ์น้ำปี 2560 ดังนั้นเพื่อบูรณาการความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำระหว่าง กทม.กับ 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา จึงได้กำหนดจัดการประชุมขึ้นในวันที่ 18 ก.ค.60 เวลา 10.00 น. โดยเชิญ ผวจ.ทั้ง 5 จังหวัด กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าหารือถึงแนวทางบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ในประเด็นการปล่อยและเตรียมรับน้ำให้มีความสอดคล้อง รวมถึงประเมินสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับจังหวัดพื้นที่ตอนล่าง นอกจากนี้ทั้ง 5 จังหวัดปริมณฑลจะร่วมเสนอแผนบริหารจัดการน้ำพร้อมทั้งสถานการณ์น้ำของแต่ละจังหวัด รวมถึงการเตรียมความพร้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,รองปลัด กทม.กล่าวว่า สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพมหานครนั้น ได้มีการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาความสูงของระดับสันเขื่อน+3.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เพื่อเตรียมป้องกันน้ำท่วมจากน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และปริมาณน้ำฝน รวมถึงลอกท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหลจัดเก็บวัชพืช จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณที่มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศ กลุ่มฝนจากเรดาร์ตรวจอากาศอีกด้วย.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวให้กับแฟนๆ ได้หายคิดถึง หลังเข้าเชียร์ต้นสังกัดในสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด เกมลีกคัพ รอบ 4 ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะเรือใบสีฟ้า 1-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 27 ต.ค. ว่า บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์จอมอาภัพของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไปให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมบนบ็อกซ์วีไอพีของสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ในเกมอีเอฟแอล คัพ รอบ 4 กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับโพสต์ภาพและข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว เอาใจเชียร์พลพรรคปิศาจแดง ด้วยเช่นกัน,ดาวเตะวัย 32 ปี ถูกกุนซือคนใหม่ชาวโปรตุกีส สั่งตัดหางปล่อยวัดด้วยการถอดชื่อออกจากทีมชุดใหญ่ พร้อมกับสั่งแยกซ้อมเดี่ยวในช่วงปรีซีซั่นเนื่องจากไม่อยู่ในแผนการทำทีม แต่สุดท้ายเจ้าตัวยังไม่สามารถหาต้นสังกัดใหม่ได้ทันในช่วงซัมเมอร์ และทำได้เพียงแค่ซ้อมเพื่อรักษาความฟิตกับทีมสำรองในขณะนี้,ล่าสุด อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลก 2012 ได้เข้าไปให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมในเกมอีเอฟแอล คัพ รอบ 4 ที่เปิดบ้านทำศึกดาร์บีแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับโพสต์ข้อความและรูปภาพลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวให้กับแฟนๆ ได้หายคิดถึงอีกด้วย,ทั้งนี้คาดว่า ชไวน์สไตเกอร์ น่าจะตัดสินใจย้ายออกอย่างแน่นอนในช่วงเดือนมกราคมนี้ โดยมีหลายทีมดังที่กำลังจับจ้องสถานการณ์ของแข้งดังรายนี้อยู่อย่างใกล้ชิด
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ แจงหลังควงไบรท์ พิชญทัฬห์ ไปพบพ่อแม่ โดนจับตาใกล้แต่งงาน!
ทำเอาแฟนๆ ฟินไปตามๆ กัน เมื่อมีภาพของนักร้องหนุ่มหน้าใส โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ควงผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ไปพบคุณพ่อคุณแม่เมื่อวันพ่อที่ผ่านมา หลายคนเลยลุ้นว่าจะมีข่าวดีเรื่องงานแต่งงานรึเปล่า,ได้เจอ โต๋ ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Café Amazon Drip Coffee ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามถึงเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ กงยู ดาราเกาหลีชื่อดัง หลังจากที่ หญิงแย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข ดาราสาวเซ็กซี่ วิจารณ์เรื่องหน้าตาของกงยูผ่านรายการ โตแล้วแรดได้ ด้วย,ถามถึงเรื่องที่พาน้องไบรท์ไปพบครอบครัว?,เมื่อวานเป็นวันพ่อครับ ปกติที่บ้านเวลามีโอกาสในวันแม่วันพ่อ เราก็จะพยายามนัดกินข้าวกันเพราะว่าแต่ละคนก็ทำงาน ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน ปีนี้ก็เลยนัดกินข้าวเที่ยงกันในวันพ่อ ก็เลยชวนไบรท์ไปด้วยครับ,ทุกคนดูตื่นตาตื่นใจมาก แต่จริงๆ เจอกันอยู่แล้ว มีรูปที่เจอกันบ่อยๆ มันไม่ใช่ครั้งแรก ผมก็ไม่เข้าใจว่าต้องตื่นเต้นกันขนาดนี้เลยเหรอ (ยิ้ม),หลายคนคิดว่ากำลังจะมีข่าวดี?,จริงๆ เราเจอกันตลอดอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นวันพ่อ วันแม่ หรือปีใหม่ เราก็เจอกันตลอดกับที่บ้านอยู่แล้วครับ ฉะนั้นเนี่ยไม่ได้เป็นเรื่องใหม่หรือตื่นเต้นขนาดนั้น,คุณพ่อมีพูดเรื่องแต่งงานไหม?,ไม่มี มันเป็นวันพ่ออยู่ครับ กินข้าวกันและก็ไหว้คุณพ่อ อวยพรคุณพ่อครับผม เป็นเรื่องปกติที่ครอบครัวเจอกันครับ,คุณพ่ออวยพรอะไรเราบ้าง?,คุณพ่อก็อวยพรว่าแต่ละคนก็ทำงาน ขอให้รักษาสุขภาพดีๆ แค่นั้นเองครับ และก็ขอให้การงานที่เราทำประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจครับ,มีของขวัญให้คุณพ่อไหม?,ก็มีพวงมาลัยไปไหว้ครับ ท่านอยากได้โทรศัพท์ใหม่ ก็เลยเปลี่ยนโทรศัพท์ให้ครับ (ซื้อกับน้องไบรท์?) ไม่ใช่ครับ เป็นน้องชายครับ,แล้วนาฬิกาที่ให้ไบรท์ล่ะ?,ไม่ใช่ครับ ไบรท์เขาซื้อเองครับ เราสองคนไม่ได้ซื้ออะไรกันบ่อยๆ เขาอยากได้ เราก็ไปช่วยดูด้วย เราเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ศึกษาว่าอ๋อ เป็นแบบนี้เหรอ เขาซื้อเองครับ ผมไม่ได้สายเปย์ขนาดนั้น แหม (ยิ้ม),แล้วเราคิดจะซื้ออะไรให้?,คู่เราเป็นคู่ที่ไม่ซีเรียสว่าโอกาสไหนต้องไปกินข้าว ต้องมีดอกไม้มีของขวัญ คู่เราไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนั้นสักเท่าไรเพราะทำงานทั้งคู่ คุยกันเข้าใจกันมันเป็นเรื่องสำคัญกว่า มันไม่ได้อยู่ที่สิ่งของ,แล้วใกล้ถึงเวลาแต่งงานรึยัง?,ยังครับ ถ้าเกิดถึงเวลา ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ปิดบังอะไร ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่ เราอยากทำอะไร รับรองว่าบอกแน่ๆ ไม่ได้หนีไปไหน ไม่ได้ปิดบังอะไรเลยครับ ถ้าถึงเวลาจะบอกเองครับ,เวลา 2 ครอบครัวเจอกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้มีถามบ้างเหรอ?,ไม่ครับ ผมว่าเราทั้งคู่โตแล้วครับ มีแพลนเวลาชีวิตไว้ว่าอยากทำอะไรครับ ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในช่วงที่อยู่บนเวทีใหญ่ที่สุดของอาชีพเราครับ ฉะนั้นเราก็อยากทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน เดี๋ยวถึงเวลา วงจรชีวิตมันก็จะเดินมาถึงเวลานั้นเองครับผม พอถึงเวลาแล้วผมก็จะบอกครับ ไม่หนีแน่นอน,ถามถึงเรื่องในทวิตเตอร์ เราอารมณ์ขึ้นรึยังไง?,ผมไม่ได้เจตนาในแง่ลบอะไรเลยครับ ผมแค่รู้สึกว่าผมเป็นผู้ชาย ผมยังรู้สึกว่ากงยูเท่ ผมแค่อยากจะพูดแค่นี้ เพราะผมว่าความหล่อมันไม่ได้อยู่ที่หน้าตายังไง เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันครับ แต่ผมรู้สึกว่าคนนี้เท่ ดูหนังดูซีรีส์ที่เขาเล่นแล้วรู้สึกว่าโห คนนี้เท่มาก ในมุมของผู้ชาย เราอยากจะพูดแค่ตรงนั้นครับ,หลายคนมองว่าเราไม่พอใจ?,ไม่หรอกครับ ข้อความในทวิตเตอร์ผมไม่ได้อยากจะตำหนิอะไรใคร แค่แสดงความคิดเห็นว่าขนาดผมเป็นผู้ชาย ผมยังคิดว่าผู้ชายคนนี้เท่เลย นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะสื่อครับผม,จริงๆ ที่คิดได้คือมุกที่ทวีตหลังจากนั้นมากกว่าครับ คือมุกที่เขียนว่ากงยูเป็นไอดอล แต่ไม่อยากเป็นกงยูนะ อยากเป็นแฟนยูมากกว่า (ยิ้ม) จริงๆ อยากจะเล่นมุกนี้ขำๆ มากกว่าครับแต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนี้ ผมต้องการแสดงให้เห็นว่าผู้ชายด้วยกันยังคิดว่าคนนี้เท่เลยแค่นั้นเองครับ,มีโอกาสได้ดูรายการของหญิงแย้ไหม?,ก็ได้ดูครับ เขามาขนาดนี้ผมก็ได้ดูนิดหน่อยครับ,พอโพสต์ไปแล้ว มีฟีดแบ็กจากเขาไหม?,ไม่มีครับ อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิหรือว่าใคร ผมอยากแสดงความคิดเห็นของผมแค่นั้นเองครับ และผมคิดว่าคนเราความหล่อในสายตาของแต่ละคนมันก็มองไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน ความหล่อไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก,อยากจะบอกว่าทุกคนไม่มีใครเพอร์เฟกต์หรอก แต่หน้าที่ของเราคือการที่เราเป็นคนคนนึง เราไม่น่าจะไปตัดสินคนอื่นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกแค่นั้นเองครับ,กลัวจะถูกโยงว่ามีปัญหาไหม?,ไม่มีครับ เพราะผมไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิหรือว่าใครในแง่ลบเลย ผมต้องการแสดงความคิดเห็นผมในแง่ผู้ชายว่าขนาดผู้ชายเองยังคิดว่าคนนี้เท่ หล่อ สำหรับผมคือตั้งแต่ผมดูซีรีส์ทั้งหมดมา ผมว่าเขาคือโอปป้าเบอร์หนึ่งที่ผมรู้สึกนะว่าคนนี้เท่สุดครับ,แอบตกใจไหมที่คนรีทวีตเยอะ?,ก็ตกใจนิดนึงครับ แต่ผมไม่ได้กังวลอะไร เพราะผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีเจตนาตำหนิใครในแง่ลบครับ ไม่ได้เจตนาว่าใครด้วย ผมแค่ต้องการแสดงความคิดเห็นของผมแค่นั้นเองครับ
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทัวร์จีนร้องเสียงหลง! รถบัสขับกลับจากพาเที่ยวไร่สิงห์ปาร์ค มุ่งหน้าจะไปวัดร่องขุ่น ระหว่างทางพุ่งชนประสานงากระบะคู่กรณี คนขับเสียชีวิตคาพวงมาลัย นักท่องเที่ยวรวม 21 รายได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ส.ค.62 ร.ต.อ.หญิง เกวสีศิริ ผาสุขพนาไพศาล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.เชียงราย รับแจ้งมีเหตุรถบัสโดยสารชนประสานงากับรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนสายวัดร่องขุ่น–น้ำตกขุนกรณ์ ต.ป่าอ้อดอนชัย จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสมาคมศิริกรณ์บรรเทาสาธารณภัยรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ,ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสี่แยกเวียงหวาย ห่างจากวัดร่องขุ่น 3 กิโลเมตร พบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บน 3645 เชียงราย สภาพถูกชนจนยุบพังเสียหายทั้งแถบ จนคนขับรถยนต์กระบะถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตคาพวงมาลัย ตรวจสอบหลักฐานในตัวทราบชื่อคือ นายอุดม อายุรพงค์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/1 ถนนงำเมือง ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกจากซากรถนำส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์,ห่างออกไป 10 เมตร ริมถนนฝั่งตรงข้าม พบรถทัวร์นำเที่ยว สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-6612 เชียงใหม่ ของบริษัท ลานนาฮอลิเดย์ จ.เชียงใหม่ เสียหลักตกลงไปในร่องน้ำ สภาพด้านหน้ารถชนกับท่อระบายน้ำ ภายในห้องโดยสารพบนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งมัคคุเทศก์ จำนวน 21 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.ศูนย์เชียงรายประชานุเคราะห์,จากการสอบสวน นายธวัช สมาจิตทิพย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.7 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน คนขับรถทัวร์นำเที่ยวคันเกิดเหตุ ให้การว่า ขณะที่นำนักท่องเที่ยวจีนกลับจากเที่ยวไร่สิงห์ปาร์ค มุ่งหน้าจะไปเที่ยววัดร่องขุ่น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสี่แยก ปรากฏว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับพุ่งออกมาทางแยกด้านซ้ายขึ้นถนนสายหลักอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนเองเบรกไม่ทัน พุ่งชนเข้าอย่างจัง จากนั้นรถทัวร์นำเที่ยวพุ่งตกลงไปในร่องน้ำ ส่วนรถกระบะจอดพังเสียหายอยู่ข้างทาง คนขับเสียชีวิตดังกล่าว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
23 มิ.ย.2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.
23 มิ.ย.2559 รายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยนางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมสมาชิกกลุ่มมายื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.) มีนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิฯ เป็นผู้รับเรื่อง โดยกลุ่มนปช.ขอให้ตรวจสอบกรณีรัฐบาลขัดขวางการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ซึ่งถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญก่อนที่นปช.จะเปิดศูนย์ปราบโกงฯ วันที่ 5 มิถุนายนไม่มีฝ่ายไหนขัดขวาง แม้แต่นายกรัฐมนตรี หรือกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก็สนับสนุน แต่มามีปัญหา 2 วันก่อนจะเปิดศูนย์ฯ ในภูมิภาควันที่ 19 มิถุนายน โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าทำไม่ได้ และมีเจ้าหน้าตำรวจมาปิดล้อมและไม่ให้เปิด จนเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ได้มีหมายเรียกแกนนำนปช. 19 คน โดยไม่รระบุข้อหาว่าทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ แต่กลับระบุว่ามีความผิดตามประกาศ คสช.ที่ 3/2558 ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ทั้งที่การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศ ควรเปิดให้แสดงความคิดเห็นของทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน ขนาดประเทศอังกฤษจะทำประชามติแยกอังกฤษออกจากอียู ยังให้ประชาชนแสดงความเห็นได้เต็มที่ แต่ของประเทศไทยการแสดงความเห็นของประชาชนอยู่ในบรรยากาศความกลัว นายจตุพร กล่าวนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนของคนไทยอยู่ในขั้นวิกฤติแล้ว บรรยากาศการออกเสียงประชามติ การแสดงความเห็นต่าง ควรได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ แต่ขณะนี้การแสดงความเห็นของประชาชนถูกควบคุม ลิดรอน จำกัดสิทธิ ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถูกยัดเยียดข้อกล่าวหา เป็นผู้ต้องหา เป็นจำเลย เป็นผู้ต้องขัง ซึ่งวิกฤตินี้ กรรมการสิทธิมีบทบาทอย่างไรบ้างในการทำหน้าที่ท่ามกลางรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารขณะนี้ครู ก.และครู ข.ยัดเยียดให้ครู ค. ที่เป็นอาสาสมัครที่ได้รับมอบหมายไปทำหน้าที่ชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญกับประชาชน ถูกคุกคามละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง เพราะถูกยัดเยียดเนื้อหาให้ไปพูดสนับสนุนให้รับร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ครูค.บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ จึงค่อนข้างแน่ใจว่าใกล้วันประชามติจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างอยุติธรรมกับคนที่เห็นต่างมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกผม ในวันที่ 30 มิถุนายนที่ออกหมายเรียกจะมีการปฎิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ขอยืนยันว่าว่าสิ่งที่พวกผมทำไม่มีความผิด ผมพร้อมจะเอาชีวิตและอิสรภาพเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล นี่ไม่ใช่การท้าทาย แต่ต้องวัดหัวใจกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวนางธิดา เรียกร้องให้กรรมการสิทธิกู้เกียรติภูมิ เพราะกรรมการสิทธิชุดเก่าก็เข้าข้างกับฝ่ายละเมิดสิทธิ ขอให้กรรมการสิทธิชุดนี้แสดงท่าทีเรื่องดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าการที่นายกรัฐมนตรีโทรศัพท์คุยกับนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ เชื่อว่าเลขาฯ ยูเอ็นคงพูดเพียงสั้นๆ และเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรีโทรศัพท์ไปหาถือว่ายิ่งกว่าไปฟ้อง นินทาพรรคการเมือง ซึ่งไม่ควรเอาเรื่องในประเทศไปฟ้องใคร ที่ผ่านมาเราร้องเรียนแต่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ต่อไปจะไปร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งและประชามติด้านนางอังคณา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรรมการสิทธิได้แสดงความห่วงใยต่อเนื้อหาของประกาศกกต.ที่กำหนดอะไรทำได้ไม่ได้ เนื่องจากเห็นว่ามีความเคร่งครัดมาก ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ส่วนที่มาร้องเรียนก็จะรับไว้พิจารณา จะพยายามเร่งดำเนินการผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ทางกลุ่ม นปช.จะมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 หรือ บก.น.2 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน 1 หมวด หรือ 48 นาย มาดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากทางการข่าวได้รับรายงานว่ากลุ่มนปช.จะเดินทางมาจำนวนมาก จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหามือที่สาม
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
คริสเตียโน โรนัลโด แผลงฤทธิ์ทำแฮตทริกในช่วงต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้ เรอัล มาดริด ไล่บดเอาชนะ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ไป 4-2 คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 ได้ตามความคาดหมาย
การแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 ประจำวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 รอบชิงนะเลิศ ที่สนามอินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง คาชิมา แอนท์เลอร์ส ทีมแชมป์เจลีกฤดูกาลล่าสุด พบกับ เรอัล มาดริด ตัวแทนจากยุโรปในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,เริ่มเกมในครึ่งแรกไปได้เพียง 8 นาที ราชันชุดขาวก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ ลูกา โมดริช ยิงไปติดเซฟนายทวารคาชิมา บอลกระดอนมาเข้ามาเข้าทาง คาริม เบนเซมา ซ้ำเข้าไปง่ายๆ,จากนั้นถึงแม้ทีมแชมป์ยุโรปจะเป็นฝ่ายบุกอย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายยังจบสกอร์ไม่เฉียบคม กระทั่งในช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 44 คาชิมา ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 จากการยิงหักข้อเสียบเสาสองของ กากุ ชิบาซากิ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังในนาที 52 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮสุดเสียงอีกครั้ง เมื่อ กากุ ชิบาซากิ ลากบอลหลบผู้เล่นเรอัล มาดริด 4 คน ก่อนสับไกด้วยซ้ายยัดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม,แต่ถัดมาอีกเพียงแค่ 8 นาที พลพรรคราชันชุดขาวก็ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 จากการสังหารจุดโทษของ คริสเตียโน โรนัลโด,และในนาที 85 เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูชัย จากจังหวะที่ โทนี โครส โยนบอลยาวไปหน้าประตูให้กับ คาริม เบนเซมา ได้โขกจ่อๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย,ทำให้จบเกม 90 นาที เรอัล มาดริด เสมอกับ คาชิมา แอนท์เลอร์ส อย่างสนุก 2-2 ต้องสู้กันต่อไปในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที,ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 97 คาริม เบนเซมา จ่ายทะลุช่องให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด หลุดเข้าไปยิงสวนตัวนายทวารคาชิมา ตุงตาข่าย เรอัล มาดริด พลิกขึ้นนำ 3-2,และนาที 110 คริสเตียโน โรนัลโด ก็มาทำแฮตทริก เป็นสกอร์ปิดกล่องให้กับทัพนักเตะราชันชุดขาวทิ้งห่างออกไปเป็น 4-2,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ไปอย่างสนุกสะใจแฟนบอล 4-2 คว้าแชมป์สโมสรโลก 2016 มาครองได้ตามความคาดหมาย.,11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม,เรอัล มาดริด :, เคย์เลอร์ นาบาส, ดานี การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, คริสเตียโน โรนัลโด, โทนี โครส, คาริม เบนเซมา, มาร์เซโล, กาเซมิโร, ลูคัส วาสเกวซ, ลูกา โมดริช,คาชิมา แอนท์เลอร์ส :, ฮิโตชิ โซกาฮาตะ, เกน โชจิ, โชมะ โอดิ, เรียวตะ นากากิ, กากุ ชาบิซากิ, ชูโตะ ยามาโมโตะ, ไดโกะ นิชิ, นาโอมิชิ ยูเอดะ, ยาซูชิ เอ็นโดะ, มู คานาซากิ, มิตซูโอะ โอกาซาวาะ
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
แม่จ่านิว เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่บก.ปอท. ศูนย์ราชการฯ หลังศาลทหารออกหมายจับ ข้อหาร่วมกันกระทำความผิด ม.112
วันนี้ ( 6 พ.ค.2559) ศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับที่ 36/2559 ตามคำขอของพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)ให้ ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์เมื่อเวลา 16.00 น. ทนายความ ได้นำตัว น.ส. พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับตามมาตรา 112(คลิป2) นายธีรพันธ์ พันคีรี ทนายความจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดที่ถูกออกหมายจับ และไม่เคยถูกออกหมายเรียกมาก่อน พร้อมเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500000 บาท เพื่อยื่นขอประกันตัวต่อพนักงานสอบสวน แต่หากไม่ได้รับการประกันในชั้นนี้ ก็จะยื่นประกันต่อในชั้นศาล ส่วน นายสิรวิชญ์ กำลังเดินทางกลับต่างจังหวัด เพื่อมาดูแลครอบครัวล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง ตำรวจ ปอท. สอบสวนปากคำนางสาวพัฒน์นรี และทำการพิมพ์มือทำประวัติเสร็จสิ้นแล้ว และไม่อนุญาตให้ประกันตัว หลัง น.ส.พัฒน์นรี ยื่นเงินสด 500000 บาท โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีสำคัญที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยาน จากนั้นเตรียมนำตัวส่งควบคุมที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนฝากขังศาลทหารในวันทำการต่อไป
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ณ เวทีปราศรัยอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บนถนนราชดำเนิน คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประกาศจะต่อสู้กับอำนาจรัฐแบบอหิงสาและเรียกร้องให้ประชาชนทำอารยะขัดขืนต่อการใช้อำนาจรัฐบาลเพื่อล้มระบอบทักษิณให้จงได้
จากเดิมที่ชุมนุมเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาถึงวันนี้การชุมนุมทางการเมืองที่นำโดยคุณสุเทพ และพลพรรคประชาธิปัตย์ได้ยกระดับการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกลาออก ให้ยุบสภา และล้มระบอบทักษิณ โดยได้ปิดถนนหลายสาย เคลื่อนมวลชนเข้ายึดหน่วยงานราชการ และกดดันหน่วยงานสื่อมวลชนซึ่งก่อนเหตุการณ์นี้ มีสองเหตุการณ์สำคัญได้เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างการชิงโหวตผ่าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระสองและสามรวดเดียวในยามวิกาล เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 จนมีประชาชนออกมาชุมนุมในที่สาธารณะอย่างมหาศาลต่อต้านการกระทำดังกล่าวจนพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลยอมถอยถอดร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่คั่งค้างอยู่ในสภาทั้งหมดออกไป คงเหลือแต่เพียงฉบับของคุณวรชัย เหมะ ที่ที่ประชุมวุฒิสภาโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ. ทำให้ถูกแช่แข็งไป 180 วัน และเหตุการณ์การอ่านคำวินิจฉัยพิจารณาคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแถลงไม่ยอมรับอำนาจและไม่ยอมผูกพันตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ การหลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง ฉบับสุดซอย หรือฉบับลักหลับ แล้วแต่จะสรรหามาเรียกกัน (ในทางวิชาการเรียกว่า การนิรโทษกรรมแบบครอบคลุม หรือ Blanket Amnesty) ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ต่อเนื่องมาเช้ามืดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 สื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการกระทำของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ต้องการนิรโทษกรรมประชาชนผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่เป็นผู้บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ต้องการให้มีการลบล้างความผิดของคุณทักษิณที่คั่งค้างอยู่ในสาระบบกระบวนการยุติธรรมทางศาลทั้งหมดด้วยข้อกล่าวหาต่างๆ ของคุณทักษิณไม่ว่าจะเป็นกรณีนโยบายสงครามยาเสพติด กรณีเหตุการณ์ตากใบ ตลอดจนคดีทุจริตต่างๆ โดยแลกกับการเหมาเข่งนิรโทษกรรมคดีสั่งการสลายการชุมนุมอันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคนและผู้บาดเจ็บนับพัน ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะทำให้คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและผู้อำนวยการ ศอฉ. ตลอดจนทหารตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการพ้นจากความรับผิดโดยสิ้นเชิงยิ่งกว่านั้นผลพวงจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะกระทบโดยตรงต่อหลักนิติธรรมที่ผู้กระทำความผิดจะต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมทางศาลอย่างเป็นระบบและเป็นธรรม ทำลายการคืนความเป็นธรรมให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ทำลายหลักประกันว่าหากมีการชุมนุมทางการเมืองในอนาคตและมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าปราบปรามการชุมนุมอีก เช่นนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารก็จะมีความสะดวกใจมากขึ้นที่จะใช้อาวุธสังหารประชาชนที่เห็นต่าง เพราะการกระทำแม้เป็นความผิดก็ย่อมสามารถนิรโทษกรรมได้อีกในอนาคต เท่ากับว่าประชาชนที่จะออกมาประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมไร้หลักประกันในชีวิตและทรัพย์สินจากการบังคับใช้กฎหมายโดยอำนาจรัฐอย่างสิ้นเชิง ทำให้การเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยและเรียกร้องความเป็นธรรมทำได้ยากขึ้น สรุปคือ พรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณก็ไม่ได้ศรัทธากับหลักนิติธรรมอยู่แล้ว กอปรกับการที่คุณทักษิณชอบอ้างว่าตนเองเป็นผู้รู้เพราะทำวิทยานิพนธ์เรื่องหลักนิติธรรมอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยอมทำลายหลักการนี้ด้วยมือของตนเอง จึงไม่มีข้อแก้ตัวใดเลยสิ่งที่คุณทักษิณได้ก่อไว้ในอดีตที่ทำให้ประชาชนระแวงต่อความฉ้อฉลของคุณทักษิณกลับยิ่งทำให้ไม่ไว้ใจต่อการทำงานของน้องสาวรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยิ่งขึ้นไปอีก และคำมั่นสัญญาเรื่องการช่วยนักโทษคดีการเมือง การเอาคนผิดคนสั่งฆ่ามาลงโทษ นี่ยังไม่รวมถึงความขลาดกลัวที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่กล้าที่จะแตะคดีที่เกี่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าคนเหล่านั้นเป็นนักโทษทางการเมือง และยังเห็นดีเห็นงามกับการละเว้นที่จะนิรโทษกรรมคนเหล่านี้ด้วย ทั้งสิ้นที่กล่าวมาล้วนเป็นความชั่วร้ายอย่างยิ่งของคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยในฐานะตัวแทนประชาชนเสียงส่วนใหญ่ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา สิ่งนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยหมดความชอบธรรมที่จะอ้างการเป็นตัวแทนเสียงส่วนใหญ่อีกต่อไปวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องที่ยื่นโดยกลุ่ม 40 สว. และพลพรรคประชาธิปัตย์ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา สว. นั้นขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มต้น ศาลได้ยกหลักนิติธรรมนิติรัฐมาอธิบายและได้มีคำวินิจฉัยโดยสรุปคือ (1) ศาลชี้ว่าผู้ร้องใช้อำนาจพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ศาลจึงมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณาได้ (2) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยื่นให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่ตรงกับฉบับที่รัฐสภาพิจารณาในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ถือว่ามีเจตนาปกปิดสมาชิกรัฐสภา เป็นการเสนอร่างแก้ไขโดยไม่ชอบ (3) การตัดสิทธิ์ผู้อภิปรายและแปรญัตติเป็นการรวบรัดเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบขัดกับหลักนิติธรรม มีการเสียบบัตรแทนกันขัดต่อหลักการซื่อสัตย์สุจริตตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา และ (4) การแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหารัฐธรรมนูญขัดกับหลักตรวจสอบถ่วงดุล เป็นการสร้างสภาผัวเมียที่นำพาไปสู่การผูกขาดอำนาจตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สูญเสียการตรวจสอบ ทำให้ฝ่ายการเมืองคุมอำนาจเด็ดขาดกระทบต่อการปกครองศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 291 และมติ 5 ต่อ 4 ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีลักษณะเป็นการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 แต่ยังไม่มีเหตุยุบพรรค (กล่าวคือผิดตามมาตรา 68 แต่ศาลเลือกที่ไม่ยุบพรรคทั้งที่กฎหมายบัญญัติให้สามารถยุบพรรคได้)ผู้เขียนคงไม่สามารถจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อโต้แย้งทั้งหมดในที่นี้ แม้เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญคงมีเจตนาดีเพื่อ ลดความตึงเครียด และความหวาดระแวงของสังคมที่มีต่อรัฐบาลและรัฐสภา ดังที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เคยให้สัมภาษณ์เป็นแนวทางการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2555 คำวินิจฉัยครั้งนี้จึงมีเป้าหมายให้เป็นคำวินิจฉัยที่เป็นกลางถูกใจทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ ไม่ให้แก้เรื่องที่มา สว. และไม่ยุบพรรคเพื่อไทย แต่ท่านคงลืมว่า ต้องวินิฉัยตามหลักกฎหมายที่เป็นธรรมด้วยประการแรก ศาลยังคงยืนยันว่าศาลมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณาตามมาตรา 68 ตามรัฐธรรมนูญหมวด 3 ซึ่งกล่าวถึงสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยต่อการทำหน้าที่ของรัฐสภาตามหมวด 6 ที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ ประการที่สอง ศาลได้เข้ามาก้าวก่ายระเบียบการประชุมสภาตลอดจนกระบวนการในสภาซึ่งไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจไว้ซึ่งอำนาจดังกล่าวเป็นอำนาจเด็ดขาดของสภาที่จะมีมติร่วมกันเท่านั้นประการสำคัญ ศาลรัฐธรรมนูญได้ก้าวล่วงเข้ามาแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการใช้ อำนาจสถาปนา ไม่ใช่การใช้อำนาจนิติบัญญัติที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ้างสถานะการเป็นองค์กรตุลาการที่จะตรวจสอบถ่วงดุลได้หรือแม้แต่การอ้างกระทำในพระปรมาภิไธยและอ้างอำนาจทั่วไปเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่างจากการตรา/แก้ไขกฎหมายทั่วไป และการทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามมาตรา 291กรณีทำนองเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเป็นคำสั่งในปี 2554 (คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ 4/2554) โดยเมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลศาลปฏิเสธไม่รับคำร้องของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะและคณะ ไว้พิจารณาโดยชี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติเฉพาะตามมาตรา 291 ซึ่งต่างจากการแก้ไขกฎหมายทั่วไป แต่ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลกลับแก้ไขไม่ได้ มีการแนะนำให้จัดการออกเสียงประชามติบ้างแก้เป็นรายมาตราบ้าง แม้บทบัญญัติเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ห้ามแก้ไขตามมาตรา 291 กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและการเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ แต่บทบัญญัติดังกล่าวกลายเป็นบทบัญญัติที่ถูกคำพิพากษาระบุไม่ให้แก้ไขไปเสียแล้วผลจากคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนืออำนาจของปวงชนคนไทยทั้งประเทศในทันที ศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจตนเองให้สามารถกำกับการใช้อำนาจรัฐสภาได้ การแทรกแซงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตามกลไกระบอบประชาธิปไตยที่มีรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนการแสดงเจตจำนงและใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลจากคำวินิจฉัยทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด กล่าวคือ ศาลรัฐธรรมนูญได้เพิ่มเงื่อนไขบทบัญญัติที่ห้ามแก้ไขตามมาตรา 291 จากเดิมที่มีเพียงสองประการ ซึ่งอำนาจดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศไม่มีอำนาจทำได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญทำได้บ่อยครั้งมีการอ้างว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์และพระองค์ทรงใช้พระราชอำนาจผ่านสามเสาหลัก นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่เฉพาะตุลาการเท่านั้นที่กระทำในพระปรมาภิไธย ดังนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจทั่วไปโดยเฉพาะอำนาจพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะตามหลักแล้วสมการควรจะเป็น ประชาชน --> พระมหากษัตริย์ --> สามเสาหลัก และเจตจำนงของประชาชนในการสถาปนารัฐธรรมนูญซึ่งรวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วยนั้น ประชาชนสามารถกระทำได้ผ่านทางการทำหน้าที่ของรัฐสภาและมีพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยรับรองการใช้อำนาจในฐานะประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยตรง (รธน. มาตรา 3) แต่หากมีกรณีขัดแย้งกันระหว่างประมุขและประชาชน รัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้เจตจำนงของประชาชนอยู่เหนือกว่า (รธน. มาตรา 151)การมีคำวินิจฉัยเช่นนี้จึงเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยเอง หรือหลักนิติรัฐที่ศาลรัฐธรรมนูญมักอ้างถึงบ่อยๆ คือการวินิจฉัยเพื่อบรรลุเจตจำนงทางการเมืองของตนโดยไม่คำนึงถึงหลักการและบทบัญญัติกฎหมาย เปรียบได้กับการชิงสุกก่อนห่าม เป็นความชั่วร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการโหวต พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเลยการชุมนุมของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และพลพรรคประชาธิปัตย์ที่ปิดถนน บุกสถานที่ราชการ และชุมนุมกดดันสื่อมวลชนนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายไร้ความเป็นอหิงสา ไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติตามที่ได้ประกาศไว้ ยิ่งประเมินจากการเป็นผู้นำมวลชนของคุณสุเทพ และภาพลักษณ์อดีตผู้อำนวยการ ศอฉ. ในปี 2553 ที่ออกคำสั่งให้มีการใช้อาวุธของทหารจนมีการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก การนำมวลชนโดยคุณสุเทพและการเคลื่อนไหวแบบอหิงสาจึงเป็นภาพที่ขัดแย้งกันอย่างยิ่งโดยเฉพาะการปราศัย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 พ.ย.2556 ณ เวทีเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ที่สี่แยกนางเลิ้ง โดยมีคำปราศัยตอนหนึ่งที่สำคัญ ว่ากรณีดังกล่าวถือได้ว่าคุณสุเทพ ประกาศจะเปลี่ยนประเทศให้มี การปกครองโดยพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง หรือตีความได้ว่า การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ตามระบอบเดิมก่อนปี 2475 ซึ่งต่างกับ การปกครองระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ซึ่งผิด รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 1 เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างชัดแจ้ง มีโทษยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปีแต่เนื่องจากคุณสุเทพลาออกแล้ว พรรคประชาธิปัตย์อาจจะรอดพ้นจากการถูกยุบพรรค เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนรู้เห็น ซึ่งอาจส่งผลให้คุณอภิสิทธิ์ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ส่วนคุณสุเทพมีความผิดอาญาฐานกบฏตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114-118 ต้องระวางโทษสูงสุด 15 ปี ขึ้นอยู่กับว่ามีการยกระดับความรุนแรงระดับไหน ส่วนผู้ชุมนุมอาจเจอความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนระวางโทษสองในสาม แต่อาจมีข้อยกเว้นคือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถถูกยุบได้ สส.ประชาธิปัตย์ไม่อาจถูกตัดสิทธิทางการเมือง ผู้ชุมนุมก็ไม่ต้องรับโทษ เพราะท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยว่าคุณสุเทพ ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ซึ่งเป็นหลักนิติธรรมความเสมอภาคตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมักอ้างอยู่เสมอ นี่ก็เป็นความชั่วร้ายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเปรียบได้กับการโต้ตอบกันไปมาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันตาต่อตาฟันต่อฟัน ได้ถูกบันทึกไว้ว่า เจ้าผู้ครองจักรวรรดิบาบิโลนชื่อกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) โดยในราวปี 1780BC ได้ตรากฎหมายอาญาปกครองบ้านเมืองหรือเป็นที่รู้จักกันว่า โดยกำหนดให้การลงโทษต่อความเสียหายใดที่เกิดจากการกระทำผิดต่อผู้กระทำผิดในลักษณะเดียวกัน กล่าวคือ หากผู้ใดทำให้ผู้อื่นตาบอดก็จะต้องควักลูกตาผู้นั้นออกมา หากผู้ใดทำให้ผู้อื่นเสียแขนก็จะต้องตัดแขนผู้นั้น หรือหากผู้ใดทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตก็จักต้องประหารชีวิตผู้นั้นเสีย ในภาษาลาตินคือ lex talionis หรือในภาษาอังกฤษ Reciprocal Justice หรือ ความยุติธรรมต่างตอบแทนบทบัญญัติเก่าแก่นี้ยังได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือโบราณพระคัมภีร์ใบเบิ้ลในหนังสือ อพยพ บทที่ 21 ข้อ 23-25 ถ้าหากเป็นเหตุให้เกิดอันตรายประการใดก็ให้วินิจฉัยดังนี้ คือชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า รอยใหม้แทนรอยใหม้ แผลแทนแผล รอยช้ำแทนรอยช้ำ และในหนังสือ เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 19 ข้อที่ 21 อย่าให้นัยน์ตาของท่านเมตตาสงสาร ควรให้ชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า เป็นการคืนความยุติธรรมในสถานะเดียวกับที่ถูกกระทำ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการแก้แค้นบทบัญญัติดังกล่าวได้ถูกท้าทายด้วยคำสอนของพระเยซูคริสต์ ปรากฏในหนังสือ ลูกา 6:29-30 และ มัธธิว 5:38-42 ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวว่า ตาแทนตา และฟันแทนฟัน ฝ่ายเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาตบด้วย และในพระคัมภีร์เล่มเดียวกันนี้ยังได้กล่าวว่า อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี (หนังสือ โรม 12:21) ซึ่งหลักนี้กล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบหลักคำสอนหรือแนวทางการต่อสู้แบบ อหิงสา คือการต่อสู้อย่างสันติวิธีต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรม การหลีกเลี่ยงการใช้กำลังประทุษร้าย เป็นการยินยอมให้ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมโดยไม่โต้ตอบ ไม่กระทำความผิดเพื่อตอบแทนความผิดที่ถูกกระทำแต่ในปัจจุบันต่างฝ่ายต่างต้องการเอาชนะกันทางการเมืองแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เหตุการณ์ยากที่จะสรุปว่าอะไรเป็นเหตุเป็นผลของการกระทำต่อมา กล่าวคือ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นผลจากการใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมผ่านทางรัฐสภาของรัฐบาลและท่านตุลาการอาจได้ล่วงรู้มาว่ารัฐบาลจะผูกขาดรวบอำนาจเป็นเผด็จการโดยประการใดๆ หรือรัฐบาลทราบว่าจะมีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระตลอดจนการชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล รัฐบาลจึงต้องชิงโหวตผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ที่ทราบคือไม่ว่าสิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทย ศาลรัฐธรรมนูญ หรือการชุมนุมของคุณสุเทพทำอยู่ในขณะนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก เป็นการทำความผิดเพื่อความผิด ผลลัพธ์คือ ไม่มีฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ แต่เป็น lost-lost situation คือมีแต่ผู้แพ้ และผลพวงจากการต่อสู้ในครั้งนี้จะตกแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ประชาชนผู้รอเวลาที่จะใช้ชีวิตในสังคมอย่างสงบสุขสันติ ประชาชนที่รอเวลาออกไปประกอบอาชีพเพื่อนำรายได้มาจุนเจือหาเลี้ยงครอบครัวและการก้าวให้ทันประชาคมโลกการโต้ตอบจากทั้งทางพรรคเพื่อไทย ศาลรัฐธรรมนูญ และคุณสุเทพจึงไม่ใช่การตอบโต้อย่างสันติวิธี ไม่ใช่หลักอหิงสา ไม่ใช่การเอาชนะความชั่วด้วยความดี อันอาจจะนำพาประเทศไปสู่สันติภาพและความสงบสุขอย่างยั่งยืนได้ แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังทำนั้นขัดกับหลักการอย่างร้ายแรง กระทำความผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติกฎหมายอย่างร้ายแรง จึงเปรียบได้กับการโต้ตอบแบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งล้าสมัยมาก เป็นการ หรือการพยายาม 1. ให้นายกยิ่งลักษณ์ แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยผลักดันให้มีการลงมติรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย โดยการขอโทษประชาชนและลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากจะได้รับเลือกเข้ามาใหม่นั้นก็สุดวิสัย เพราะนายอภิสิทธิ์ก็เคยทำเป็นแนวทางไว้แล้วเมื่อครั้งที่แพ้การเลือกตั้ง และสภาผู้แทนราษฎรจะต้องไม่ลงมติยืนยันร่างเดิมเมื่อผ่านพ้น 180 วันแล้วและปล่อยให้ตกไป2. ศาลรัฐธรรมนูญต้องยึดถือหลักนิติธรรมในการวินิจฉัยอรรถคดีอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ 1) วินิจฉัยตามที่มีบทบัญญัติระบุไว้แล้วอย่างชัดเจน 2) ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ได้ถูกประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว 3) วินิฉัยต่อคู่กรณีอย่างเท่าเทียมโดยไม่เอนเอียงตามรสนิยมทางการเมืองส่วนตน 4) มีความอิสระในการทำคำวินิจฉัยโดยไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจตำรวจทหาร หรืออำนาจรัฐบาล โดยเฉพาะอำนาจหรือแรงกดดันจากกลุ่มนิยมเจ้าซึ่งดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมากที่สุด และ 5) วินิจฉัยตามหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมสอดคล้องกับหลักสากลด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแยกแยะระหว่างสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ตามกฎหมายให้ชัดเจน3. ให้รัฐสภามีมติให้มีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติเรื่อง ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ทั้งฉบับ และระบุให้ชัดเจนว่าจะมีการยุบศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการที่ศาลได้วางหลักตามคำวินิจฉัยตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันทำให้เกิดปัญหาการตีความและความขัดแย้งกับหลัการอื่นๆ จึงจำเป็นต้องล้างออกไปก่อนเพื่อไม่ให้มีการใช้อ้างอิงอีกต่อไป และระบุว่าจะแก้ไขที่มา สว. ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา สว. ที่นายกยื่นทูลเกล้าพระมหากษัตริย์ลงประปรมาภิไธยไปแล้วนั้น ให้รอจนครบ 90 วัน หากเสร็จสิ้นการจัดออกเสียงประชามติแล้วและผลคือให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ก็ให้โหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 วาระ 3 เพื่อตั้ง สสร. ให้ทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทันที4. ให้รัฐบาลประกาศคำมั่นแก่ประชาชนว่าจะยุบสภาเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ทันทีหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่5. ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายโดยคำนึงถึงหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Justice) ตามข้อเสนอ คอป. และละเว้นการสร้างเงื่อนไขที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก6. ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหลายชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ มีความอดทนอดกลั้น และยึดหลักการต่อสู้อย่างอหิงสา หลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย โดยมุ่ง เอาชนะความชั่วด้วยความดี
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
การใช้ภาษาไม่ใช่เพียงแค่การพูด เขียน หรือสื่อสารได้เท่านั้น หากแต่เป็นพลังในการสร้างสรรค์สังคมมนุษย์ให้ดำเนินมาถึงปัจจุบันได้ ภาษาทั้งหลายจึงแปรเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับการจินตนาการเชื่อมโยงข้อมูล
การใช้ภาษาไม่ใช่เพียงแค่การพูด เขียน หรือสื่อสารได้เท่านั้น หากแต่เป็นพลังในการสร้างสรรค์สังคมมนุษย์ให้ดำเนินมาถึงปัจจุบันได้ภาษาทั้งหลายจึงแปรเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับการจินตนาการเชื่อมโยงข้อมูล และเรื่องราวต่างๆ ให้เกิดเป็นความหมายใหม่ ที่ก่อรูปให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอมา คนเราจะสามารถคิดได้ จดจำได้ และสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้ ก็เพราะกระทำการทั้งหมดในกรอบของภาษาเด็กทารกไม่สามารถจะคิด จดจำได้ เพราะยังไม่รู้จักภาษา ลองคิดดูถึงการคิดหรือการรู้สึกของเรา ก็จะพบว่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกกำกับ หรือชี้นำด้วยภาษาทั้งสิ้นอะไรที่ทำให้ภาษามีสถานะ 2 ด้านที่ขัดแย้งกันเช่นนี้ความสามารถในการใช้ภาษาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาษาเป็น คุก หรือเป็นพื้นที่แห่งการสรรสร้าง เพราะความสามารถในการใช้ภาษา จะทำให้เกิดการใช้คำใหม่ หรือคำเก่าที่เชื่อมโยงกับคำ หรือประโยคอื่นๆ และทำให้เกิดการเปลี่ยนความหมายของชุดความคิด ที่กำกับคำ หรือประโยคกลุ่มนั้นๆลองคิดถึงกระบวนการสร้างชุดคำเพื่ออธิบายตัวสินค้าสักหนึ่งชิ้น ผู้คิดคำโฆษณาทุ่มแทในการคิดคำหรือประโยค เพื่อทำให้เกิดความหมายใหม่ที่ตนเองต้องการให้ฝังไว้ในตัวสินค้านั้นความสามารถในการใช้ภาษาจึงไม่ใช่เพียงแค่การคำนึงถึงความถูกต้องของการใช้ไวยากรณ์ หรือ การใช้ศัพท์ที่ถูกต้องตามพจนานุกรม หากแต่เป็นจินตนาการที่มองเห็นความเหลื่อม ความคล้ายคลึง และ ความหมายที่ซับซ้อนของภาษา มีงานวิจัยเสนอผลงานวิจัยทำนองว่า คนที่รู้ภาษาหลายภาษาก็มีโอกาสที่จะเกิดจินตนาการใหม่ได้มากกว่าคนรู้ภาษาเดียว เพราะสามารถที่จะคิดเปรียบเทียบในน้ำหนักของความหมายของคำ/ประโยคในแต่ละภาษาได้ จึงทำให้สามารถหลุดออกจากกรอบคิดหรือ คุก ของภาษาเดียวได้นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้ภาษาได้อย่างน้อย 2 ภาษาในการสร้างผลงาน อันได้แก่ ภาษาทั่วไปที่ตนเองใช้ในสังคม ขณะเดียวกัน ก็สามารถที่จะใช้ภาษาของศาสตร์ตนเองในการคิด จินตนาการควบคู่กันไปการเคลื่อนย้ายทางความคิดระหว่างการใช้ภาษา 2 ภาษา (หรือมากกว่า 2 ภาษา) นี้ทำให้เกิดจินตนาการเชื่อมโยง ระหว่างข้อมูลปลีกๆ ที่ดำรงอยู่อย่างเป็นอิสระให้เกิดสายสัมพันธ์กันขึ้นมา และก่อให้เกิดความหมายใหม่ในโลกปัจจุบันที่ระบบเศรษฐกิจสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้งและไพศาล ชุดภาษาแห่งความรู้เฉพาะทางแบบเดิมเริ่มที่จะไร้พลังในการอธิบายสรรพสิ่งรอบตัว จึงทำให้เกิดความพยายามเชื่อมภาษาแห่งความรู้หลายๆ ชุดเข้าด้วยกัน เช่น การเกิดภาษาและความรู้ชุด ฟิสิกส์เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์อารมณ์ความรู้สึก หรือผลงานนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลคนล่าสุด ที่พยายามเชื่อมต่อภาษาเศรษฐศาสตร์กับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์หากกลับมามองสังคมความรู้ของไทย จะพบปัญหาสำคัญ ที่ขวางกั้นสติปัญญาของผู้คนในหลายด้านด้วยกันความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการใช้ภาษาไทยของคนไทย ซึ่งพูดถึงและถกเถียงกันมานานมากแล้วนักเรียน นักศึกษา ครูบาอาจารย์ทุกระดับขาดความสามารถในการใช้ภาษาแม่ของตนเองมากขึ้นๆ จึงทำให้ คุก ของภาษานั้นรัดตรึงการคิด และจินตนาการให้เรียวเล็กแคบตื้นมากขึ้น น่าแปลกใจที่ภาษาไทยเป็นวิชาบังคับในทุกระดับการศึกษา แต่นักเรียนนักศึกษากลับไม่มีความสามารถในการใช้ภาษาไทยเลยความล้มเหลวของการศึกษาภาษาไทยเกิดขึ้นจากการคิดของผู้คนในวงการศึกษา ที่เน้นเพียงความถูกต้องของการใช้ภาษาโดยไม่มีความเข้าใจธรรมชาติของภาษาเลยแม้แต่น้อย และการเรียนการสอนภาษาไทย/วรรณคดี/วรรณกรรมที่ว่าตามคนรุ่นเก่าก่อนบอกมา โดยปราศจากความตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคม (ผมคิดอย่างมีอคตินะครับ ว่าเอาเข้าจริงแล้วครูในสังคมไทยอ่านหนังสือกันน้อยมาก และเมื่ออ่านน้อยก็ไม่มีทางที่จะใช้ภาษาได้ดี สงสัยต้องใช้มาตรา 44 บังคับให้ครู/อาจารย์อ่านหนังสืออาทิคย์ละเล่มกระมัง)การคิดไม่เป็นประวัติศาสตร์ของคนในวงการการศึกษา ที่ยังคงเน้นว่า รู้อย่างเดียว ให้เชี่ยวชาญเถิด ซึ่งเป็นความคิดเก่าที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่สังคมไทยเพิ่งจะแบ่งงานกันทำเฉพาะด้าน การติดอยู่ในกรอบเก่านี้เอง จึงทำให้วงการศึกษาก้าวไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของความรู้ในโลกปัจจุบันตัวอย่างที่เจ็บปวดสำหรับคนมหาวิทยาลัย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ) ที่ออกระเบียบให้แต่ละภาควิชารับอาจารย์ ที่จบตรงสาขาวิชาเดียวกันทั้ง 3 ปริญญา (ตรี โท เอก ) ซึ่งขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับการสร้างสรรค์ความรู้ในสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์หลายสาขา อาจจะยกเว้นความรู้แคบๆ ของแพทย์ศาสตร์บางสาขาเท่านั้นกระมัง ระบบเศรษฐกิจไทยปัจจุบันวางอยู่บนฐานของภาคบริการ (Service Sector) ระดับชีวิตประจำวัน จึงทำให้บรรดาเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย ต้องการเพียงคนที่ความรู้เฉพาะด้านเพื่อทำงานให้พวกเขา โดยที่ไม่มีจินตนาการสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อความก้าวหน้า และผลักภาระทั้งหมดให้ตกบนบ่าของระบบการศึกษา ซึ่งยิ่งทำร้ายสังคมไทยมากขึ้นตัวอย่างเช่น เจ้าของธุรกิจโรงแรมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตทางการท่องเที่ยวที่ปูที่นอนเป็นเท่านั้น มีเสียงตำหนิทำนองว่าบัณฑิตจบการท่องเที่ยวเสียเปล่า แต่ปูที่นอนไม่เป็น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของการสอนงานขณะทำงาน (On the job training)ยังมีอีกหลายด้านนะครับ ที่กีดขวางจินตนาการของสังคมผ่านความสามารถในการใช้ภาษา เช่น เสรีภาพในการคิด แต่เรื่องนี้คงต้องสู้กันไปอีกนาน เอาเพียงแค่ปราการ 3 ด้านนี้ก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรแล้ว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วันนี้ เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ บินด่วนลงพื้นที่สภ.คลองหาด แถลงความคืบหน้าคดีตยร้ายฆ่าโหดปาดคอ 2 ศพ นักธุรกิจการค้าชายแดนตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ล่าสุดชุดสอบสวนจับตัวได้ 1 คนแกะรอยจากกล้องวงจรปิดพบมีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน
วันนี้ (2 ก.พ.2561) ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าสองสามีภรรยา นางสายันต์ จันทา อายุ 64 ปี นักธุรกิจการค้าตลาดชายแดนและสองสามีภรรยา นายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง อายุ 71 ปีเสียชีวิตที่บ้านพักในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ล่าสุดเมื่อช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ภายหลังแกะรอยได้จากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุ และพบมีผู้ก่อเหตุถึง 4 คนมีรายงานว่าช่วงเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะบินด่วนมาแถลงข่าวด้วยตนเอง ร่วมกับ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.สระแก้ว โดยนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายที่สถานีตำรวจภูธรคลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้วก่อนหน้านี้ ตำรวจตั้งประเด็นการฆ่าไว้ 2 ประเด็นคือ ขัดแย้งธุรกิจค้าขายในตลาดโรงเกลือ และกรณีผู้เสียชีวิตได้ปล่อยเงินกู้ให้นักการเมืองท้องถิ่นกลุ่มหนึ่งเป็นเงินนับสิบล้านบาท และระยะหลังมีการทวงถามกันขึ้นบ่อยครั้ง จนอาจเป็นประเด็นการสังหารเพื่อล้างหนี้กรณีนี้ตำรวจจะได้สอบสวนอย่างละเอียดและจะส่งตำรวจไปรักษาความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองพยานปากสำคัญและบุคคลใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตอ่านข่าวเพิ่มเติม
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เผยสัตว์ป่า 22 ชนิดสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ลิงหนักสุด ส่วนลิง เขาวัง เพชรบุรี-กับลิงลพบุรี อยู่ร่วมกับคนได้ ชี้ต้องห้ามให้อาหารพร้อมจับทำหมันเชื่อ 5 ปีเห็นผล
ขณะที่ไอเดียย้ายลิงไปอยู่เกาะต้องคิดให้รอบคอบ หวั่นเข้าข่าย พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์,เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายศุภากร ปทุมรัตนาธาร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าลงพื้นที่และสำรวจ สอบถาม เก็บข้อมูลทั่วประเทศ พบว่ามีสัตว์ป่าเข้ามาสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 22 ชนิดด้วยกัน เรียงตามลำดับคือ 1.ลิง 183 พื้นที่ไม่รวม จ.ลพบุรีและเขาวัง จ.เพชรบุรี 2.ช้าง 166 พื้นที่ 3.หมูป่า 82 พื้นที่ 4.กระรอก 70 พื้นที่ 5.เหี้ย 57 พื้นที่ 6.งู 41 พื้นที่ 7.นก 34 พื้นที่ 8.กวาง 31 พื้นที่ 9.หมี 10 พื้นที่ 10.เสือ 10 พื้นที่ 11.ค้างคาว 8 พื้นที่ 12.หมาใน 5 พื้นที่ 13.หนู และ 14.-22.คืออีเห็น หอยทาก สมเสร็จ ตัวตุ่น เม่น ตะกวด พังพอน จระเข้ และกระทิง,นายศุภากรกล่าวอีกว่า สำหรับลิง สถานการณ์ค่อนข้างหนักสุดเพราะมีการแจ้งหลายพื้นที่มาก ในจำนวน 183 พื้นที่ หรือ 183 ชุมชนยังไม่นับที่ จ.ลพบุรีและที่เขาวัง เพราะขณะที่สำรวจ ในชุมชนบอกว่า ไม่มีปัญหาอะไรสามารถอยู่ร่วมกันได้ ในรายละเอียดปลีกย่อย พบว่ามีลิงที่สร้างปัญหาทั้งหมด 51,441 ตัว มีพื้นที่ที่มีความรุนแรงที่ถูกลิงรุกรานถึงขั้นรุนแรงมาก จำนวน 44 แห่ง รุนแรงปานกลาง 102 แห่ง รุนแรงน้อย 37 แห่ง ลิงที่สร้างปัญหามากที่สุดคือ ลิงแสม จำนวน 34,608 ตัว ใน 93 พื้นที่,เมื่อถามว่า ในรายงานสัตว์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน มีบางชนิดที่ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะสร้างความเดือดร้อนได้ เช่น นก กระรอก หมูป่า กวาง รวมไปถึงเสือ สัตว์เหล่านี้สร้างความเดือดร้อนอย่างไร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าวว่า กรณีของหมูป่า ขณะนี้มีปริมาณเยอะมาก,ในพื้นที่เกาะสีชัง เข้าไปรื้อกองขยะ ทำลายพืชผลของชาวบ้าน ส่วนกระรอกได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ชอบแอบเข้าไปกัดกินมะพร้าว พืชผลในสวน ส่วนกวางได้รับแจ้งจากหลายพื้นที่ใน จ.พะเยาและน่าน ว่า มีกวางป่า ออกมากินพืชผลจนเสียหาย สำหรับเสือมีปัญหาคือ ชาวบ้านที่อยู่ชายป่าเอาสัตว์เลี้ยงพวกวัว ควาย เข้าไปเลี้ยงในป่าถูกเสือกิน พบในหลายพื้นที่ เช่น ป่าภูเรือ ป่าห้วยขาแข้ง เป็นต้น,ขณะที่นายสุชาติ โภชฌงค์ หัวหน้ากลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการประชากรลิงล้นพื้นที่และออกไปสร้างความเดือดร้อนประชาชนในชุมชน คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ การจับทำหมัน ทำความเข้าใจ ไม่ให้อาหารลิงสะเปะสะปะ ส่วนการจับทำหมันนั้นค่อยๆทำไป แต่ต้องทำต่อเนื่อง จะเห็นผลภายในเวลาราว 5 ปีขึ้นไป ว่าประชากรลิงลดลง,ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ประเด็นที่มีข้อเสนอให้ย้ายลิงไปอยู่ตามเกาะต่างๆ นั้น เคยมีเจ้าหน้าที่นำเสนอเรื่องนี้มาให้พิจารณา ได้ให้ข้อสังเกตไปว่าการนำลิงไปอยู่ที่ใดต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า บริเวณพื้นที่เหล่านั้นต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่อาศัยมาก่อน,จะต้องมีแหล่งน้ำและอาหารให้เพียงพอเพื่อให้ลิงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ ที่สำคัญอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 นอกจากนั้นปัญหาลิงในบางพื้นที่เป็นการที่ชุมชนเข้าไปบุกรุกถิ่นที่อยู่อาศัยของลิง ทำให้พฤติกรรมของลิงเปลี่ยนไป หรือในบางชุมชนก็ไม่ต้องการที่จะย้ายลิงเพราะมีความรักและความผูกพันกับลิงมาก เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กฤษฎา ชูศาสตร์พระราชาแก้ปัญหาความหิวโหยบนเวทีเอฟเอโอ (FAO) ที่กรุงโรม อิตาลี พร้อมสั่งทูตเกษตรยุโรป-ทูตพาณิชย์ สำรวจความต้องการสินค้าเกษตรไทยในตลาดนอก หวังขยายการส่งออกเพิ่มอีก
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2561 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเขาร่วมประชุมคณะกรรมการความมั่นคงด้านอาหารโลก ครั้งที่ 45 ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ว่า ในการประชุมนี้รัฐบาลได้แถลงผลงานของรัฐบาลไทยในการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของสหประชาชาติ (SDGs) ตามเป้าหมายที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับวาระการสร้างความมั่นคงอาหาร และการขจัดปัญหาความอดอยากหิวโหย โดยนำเสนอศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือรัชกาลที่ 9 ผ่านโครงการพัฒนาเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพัฒนาของส่วนราชการต่างๆ ในด้านบริหารจัดการดิน น้ำ และทรัพยากรการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อนำมาใช้ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร,รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ได้ให้ทุกส่วนราชการน้อมนำพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 มาขยายผลสู่การปฏิบัติผ่านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทยในด้านต่างๆ อาทิ โครงการมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามพระราชดำริ เป็นต้น รวมทั้งพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทูตพิเศษด้านการขจัดความหิวโหยของ เอฟเอโอ และทูตพิเศษด้านโครงการอาหารในโรงเรียนของโครงการอาหารโลก (WFP) โดยได้ดำเนินการผ่านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศไทย,ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร อันดับ 11 ของโลก และไทยให้ความสำคัญกับโครงการขจัดความอดอยากหิวโหยของสหประชาชาติ ซึ่งในที่ประชุม ผู้แทนเอฟเอโอ ที่ทำหน้าที่อภิปรายในที่ประชุม ได้กล่าวยกย่องความสำเร็จในการสร้างความมั่นคงอาหาร และความหิวโหยของประเทศไทยผ่านโครงการพัฒนาด้านต่างๆ ของทั้งส่วนราชการและภาคประชาชนของไทย,นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ได้เรียกประชุมทูตเกษตรประจำภูมิภาคยุโรปจาก 4 ประเทศ คือ อิตาลี เบลเยียม รัสเซีย และสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมอบแนวทางปฏิบัติงานตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยให้ทูตเกษตรไทยทุกประเทศลงพื้นที่สำรวจตลาดการค้าสินค้าเกษตรในประเทศที่ตนประจำอยู่ และให้ประสานงานกับทูตพาณิชย์ไทยร่วมลงไปสำรวจตลาดด้วยกัน อีกทั้งให้หาโอกาสพบปะกับหอการค้าหรือภาคเอกชนของประเทศนั้นๆ เพื่อชี้แจงประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรไทยให้ต่างประเทศได้รู้จัก,ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะเน้นประชาสัมพันธ์สินค้าข้าวและยางพารา ซึ่งเป็นสินค้าหลักของประเทศไทย เนื่องจากประเทศในยุโรป อาทิ อิตาลี เยอรมนี และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก มีความสนใจเกี่ยวกับสินค้าข้าวและยางพาราจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าเกษตรไทยมายังยุโรปได้มากขึ้น,นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกสำนักงานเกษตรในต่างประเทศดำเนินการในเรื่องต่างๆ ดังนี้,1. ติดตามสถานการณ์และแนวโน้มด้านการเกษตร และความต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศ,2. เพิ่มโอกาสในการส่งออกยางพารา ข้าว ผักและผลไม้ ปศุสัตว์ และประมง,3. ศึกษาข้อมูลภาคเกษตรของแต่ละประเทศ เพื่อปรับใช้ในการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและการรวมกลุ่มของเกษตรกร,4. ติดตามข้อมูลข่าวสารทางด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการผลิตการเกษตรของต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการลดต้นทุนการผลิตภาคเกษตรของเกษตรกรในประเทศไทย,5. ใช้ระบบไอทีเชื่อมโยงข้อมูลด้านการเกษตรของสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ไปยังเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ และเกษตรกรในประเทศไทย เพื่อให้รับรู้ข่าวสารและก้าวทันต่อสถานการณ์การผลิตและการเปลี่ยนแปลงของโลก.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เป็นอีกหนึ่งคนดังที่เคยรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน เช่นกันสำหรับคู่เลิฟดัง เคน-เอสเธอร์ ล่าสุดทั้งคู่เปิดใจถึงกรณีรีวิวสินค้าดังกล่าวแล้ว
เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ, และ ,เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, ซึ่งหลังจากที่มีข่าวว่าสินค้าในเครือดังกล่าวไม่ได้รับ อย. และมีปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า บรรดาศิลปินดาราที่เคยรีวิวสินค้าดังกล่าวจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเพื่อสอบปากคำด้วย ได้เจอทั้งคู่เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว,ถามถึงเรื่องที่เคยรีวิวสินค้าเมจิกสกิน?,เคน ก็เป็นงานที่พวกเราได้รับมาครับ ก่อนที่จะมาถึงพวกเราก็มีทางทีมงานได้ตรวจสอบแล้ว ถามแล้วว่ามี อย. ไหม เขาก็บอกว่ามี แล้วเราก็ได้เห็นตามโฆษณาต่างๆ ได้เห็นแบรนด์นี้ในที่ต่างๆ หลากหลายมากเลย พวกเราก็คิดว่ามันน่าจะโอเค ก่อนรีวิวเราก็ได้ใช้ครับ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ,เอสเธอร์ เหมือนกันค่ะ แต่อาจจะเป็นความผิดพลาดที่เราไม่มีความรู้มากพอในเรื่อง อย. อย่างที่พี่เคนบอกว่าเราเห็นตามสื่อ ก็เหมือนเป็นอีกหนึ่งการันตีว่าแบรนด์นี้น่าจะโอเค เราก็เลยได้ลองใช้และรีวิวนะคะ แต่ว่าผลที่ออกมาก็เป็นความผิดพลาดของเราเอง ซึ่งเราต้องขอโทษ ถ้าใครที่ดูรีวิวเราแล้วซื้อหรือใช้ตาม ก็เป็นความผิดพลาดของเราที่ไม่ได้ไตร่ตรองอย่างละเอียดมากค่ะ ต่อไปก็จะระมัดระวังมากกว่านี้ ก็คงจะเข็ดไปอีกสักพักนึงเลย,เราเคยทดลองใช้ พอทราบว่าไม่ปลอดภัยเป็นไงบ้าง?,เอสเธอร์ ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่ารู้สึกมากที่ถ้าใครดูของเราแล้วไปซื้อตามใช้ตาม เราจะรู้สึกแย่มาก,ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมารึยัง?,เคน ยังไม่ทราบเลยครับ (ถ้าเกิดเรียกก็พร้อมไปชี้แจง?) แน่นอนครับ,เราต้องเตรียมข้อมูลหลักฐานไปให้ไหม?,เคน เราก็มีแค่ที่เรารู้อะเนอะ ที่เราแค่ไปทำและรีวิวแค่นั้นเองครับ ไม่ได้มีข้อมูลอะไรเยอะเลย,เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร?,เคน ไม่มีแน่นอนครับ,จะงดการรีวิวไปเลยไหม?,เคน ก็ต้องไตร่ตรองอย่างดีที่สุดเลยครับ ต้องเช็กละเอียดมากๆ นะครับ,คิดว่าเราเองก็ถูกหลอกด้วยไหม?,เคน ผมว่าทุกคนน่าจะถูกหลอกหมดแหละ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า อย.มันปลอม,จากกรณีนี้สร้างภาพลบให้นักแสดงหลายคนเลย?,เคน ผมว่าก็อาจจะเป็นคราวที่แบบไม่รู้จริงๆ พวกเราก็ไม่รู้ คนอื่นก็น่าจะไม่รู้เหมือนพวกเราแหละครับ,เขาให้เรารีวิวมาตั้งแต่เมื่อไหร่?,เคน น่าจะปีที่แล้วนะครับ,จากนี้ในแง่การรับงาน เราจะมีวิธีการยังไง?,เคน คงจะต้องผ่านฝ่ายตรวจเช็กแบบละเอียดเลยครับ ต้องเช็กแบบรู้จริงด้วยว่าอันนี้โอเคไหม ถูกต้องตามระเบียบทุกอย่างรึเปล่า เราก็จะพยายามตรวจให้ดีที่สุดครับ,ปรึกษาพี่ๆ ที่เข้าไปพบเจ้าหน้าที่บ้างรึยัง?,เคน ยังเลยครับ,เอสเธอร์ ยังค่ะ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วิกี้ลีคส์ยืนยันว่า นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน จะเดินทางออกจากสนามบินในกรุงมอสโกของรัสเซีย มาลี้ภัยยังประเทศเวเนซูเอลา ภายในวันนี้ (11 ก.ค.) ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า เส้นทางการบินเพื่อไปลี้ภัยจะต้องผ่านเหนือน่านน้ำที่ไม่ใช่เขตอิทธิพลของสหรัฐฯ
หลังจากที่ นายนิโคลัส มาดูโร่ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ยืนยันถึงการได้รับคำขอลี้ภัยจากนายเอ็กเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ เอ็นเอสเอ และ สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ ซีไอเอ เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่าสุด วิกี้ลึคส์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปิดเผยความลับ และให้การช่วยเหลือนายสโนว์เดน เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า เที่ยวบินสู่เสรีภาพ หรือ ไฟล๊ต์ ออฟ ฟรีด้อม จะเริ่มขึ้นในวันพุธที่ 10 กรกฎาคมนี้ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับวันที่ 11 กรกฎาคมตามเวลาในไทยด้าน ฟอเร๊นจ์ โพลิซี นิตยสารด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูตชื่อดัง เปิดเผยการวิเคราะห์เส้นทางการลี้ภัยจากเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ว่า เพื่อหลบเลี่ยงเขตอิทธิพลของสหรัฐฯและมิตรประเทศ เที่ยวบินที่มีนายสโนว์เดน จะออกจากกรุงมอสโคว์ขึ้นเหนือผ่านทะเลแบเร๊นต์ จากนั้นก็ผ่านช่องแคบเดนมาร์กและลงใต้ผ่านนิวฟันด์แลนด์ไปยังหมู่เกาะวินด์เวิร์ดก่อนถึงเวเนซูเอล่า ซึ่งจะเป็นการบินผ่านเหนือน่านน้ำนอกเขตสหรัฐฯทั้งสิ้น
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อันโตนิโอ คอนเต กุนซือจอมแท็กติกชาวอิตาลี ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขาในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ของ สิงโตน้ำเงินเชลซี โดยมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
.,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 14 ก.ค. ว่า อันโตนิโอ คอนเต กุนซือชาวอิตาลี ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขาในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ของ สิงโตน้ำเงินเชลซี  สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันนี้  โดยมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ,เราได้เริ่มต้นการทำงานในมุมมองที่แตกต่างกัน  และผมคิดว่าผู้จัดการทีมทุกคนมีปรัชญาและไอเดียฟุตบอลเป็นของตัวเอง ผมอยากจะถ่ายทอดความคิดและแนวทางในการเล่นของผมไปสู่ลูกทีมของผม ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำงานด้วยแง่มุมที่ต่างกัน ทั้งเรื่องของแท็กติก เทคนิค และด้านร่างกาย และความคิดต่างๆ ซึ่งมันจะช่วยให้เราจูนเข้าหากันและเอาชนะความยากลำบากในช่วงการฝึกซ้อมหรือในระหว่างเกม  ,ผมคิดว่าผมมีนักเตะที่พร้อมจะต่อสู้ในการเล่นฟุตบอลที่ดี เพื่อถ่ายทอดแพสชั่นและอารมณ์ความรู้สึกของเราไปสู่แฟนๆของเรา ซึ่งผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าเราจะแพ้หรือชนะ ถ้าเราสามารถถ่ายทอดแพสชั่นและความกระตือรือร้นของเราให้กับแฟนๆได้เห็น มันก็เป็นดั่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมและนักเตะแล้ว,เรื่องความกดดันมันไม่สำคัญสำหรับผมเลย เพราะผมเกิดมาพร้อมกับความกดดัน เมื่อคุณเป็นผู้เล่นหรือผู้จัดการทีมของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ คุณจะต้องเล่นเพื่อชัยชนะแบะต่อสู้จนถึงที่สุดกับสโมสรอื่นๆที่มีเป้าหมายเดียวกับคุณ  ผมรู้ว่าลีกนี้มันยากมาก เพราะมันมีตั้ง 5 หรือ 6 ทีมที่ลุ้นคว้าแชมป์ได้ ผมตื่นเต้นจริงๆ  เรารู้ว่าปีนี้มันจะไม่ง่ายสำหรับเรา เพราะถ้าเราจบอันดับ 10 เหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา มันจะเป็นฤเูกาลที่เลวร้ายเลยแหละ เราทุกคนรู้เรื่องนั้นดี ทั้งผม นักเตะ และสโมสร เราต้องคิดเกี่ยวกับปัจจุบันเท่านั้น ทำงานหนักมากในทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เพื่อทำในสิ่งที่สำคัญสำหรับเราและสโมสร และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือเพื่อแฟนๆของเรา มันมีทีมเดียวที่จะได้แชมป์ และเราต้องไปอยู่ตรงนั้นตอนท้ายฤดูกาล และสู้เพื่อคว้ามันมาให้ได้ เชลซีต้องเป็นทีมที่อยู่ในแชมเปียนส์ลีก ดังนั้นเราต้องไปอยู่ตรงนั้น,แม้ผมจะเคยมีประสบการณ์กับทีมชาติ มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ก็จริง แต่มันก็ยังยากมากอยู่ดีสำหรับการต้องมาอยู่ในลีกนี้ เพราะคุณจะถูกกดดันจากสื่อและคนทั้งประเทศที่กำลังติดตามคุณและดูสิ่งที่คุณทำ ผมคิดว่านี่มันเป็นความท้าทายที่ดี มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผมที่จะมาคุมทีมในอังกฤษ มันยากมาก แต่ผมเป็นพวกชอบความท้าทายและต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง และผมแน่ใจว่าเราสามารถบรรลุความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมตามที่หวังได้ ในฤดูกาลนี้,มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำผลงานได้ดีในลีกอังกฤษนะ เพราะในลีกอื่นๆมีทีมลุ้นแชมป์สองหรือสามทีม แต่ในลีกนี้มันเป็น หกหรือเจ็ดทีมที่ลุ้นแชมป์ และผลงานของเลสเตอร์เมื่อปีที่แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการแข่งขันนี้   ,ลีกนี้เต็มไปด้วยนักเตะที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม นักเตะที่มหัศจรรย์ และยังมีผู้จัดการทีมที่ดีหลายคน และผมคิดว่สนี่คือสิ่งสำคัญมากสำหรับลีก และสำหรับผมแล้วสถานการณ์เช่นนี้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมนะ เพราะมันเป็นความท้าทายที่จะได้เผชิญหน้ากับบรรดาผู้จัดการทีมฝีมือดี ผมมีความสุขมากที่จะได้แข่งขันกับพวกเขา คอนเต กล่าว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ฝ่ายสนับสนุนประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเดินสายหาเสียงในโค้งสุดท้ายหวังดึงอำนาจกลับมาอยู่ในมือของชาวอังกฤษ ขณะที่อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเตือนอังกฤษว่าอาจจะสูญเสียความสามารถในการรับมือกับการก่อการร้ายหากออกจากอียู
ไนเจล อิงสเตอร์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองและปฏิบัติการหน่วยข่าวกรองอังกฤษหรือเอ็มไอ ซิกซ์ เตือนว่าหากอังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรปจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียโอกาสด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับภัยก่อการร้าย การอยู่ในอียูต่อไปจะช่วยทำให้อังกฤษรักษาความสัมพันธ์อันดีกับประเทศในอียูไว้ได้ ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างกัน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการก่อการร้าย นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลว่าหากอังกฤษออกจากอียูจะสูญเสียผลประโยชน์ที่จะได้รับจากระบบรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินภัยก่อการร้ายที่อียูกำลังพยายามพัฒนาอยู่ขณะที่กลุ่มนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของอังกฤษประมาณ 1300 คน และบริษัทอีก 51 แห่ง ที่มีชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอังกฤษ ซึ่งมีการว่าจ้างแรงงานมากกว่า 1.75 ล้านคน ได้รวมตัวกันลงนามในหนังสือที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ โดยระบุว่า หากอังกฤษออกจากอียูอาจส่งผลให้เกิดภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปริมาณการค้ากับยุโรปและการจ้างงานที่จะลดต่ำลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็กและแรงงานนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนของอังกฤษ ออกมาเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิ์ลงประชามติเชื่อมั่นในประเทศของตนและลงคะแนนสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากอียู ในระหว่างการเดินสายรณรงค์โค้งสุดท้ายในกรุงลอนดอน พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า การลงประชามติครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายในการดึงอำนาจควบคุมเรื่องต่างๆ ให้กลับมาอยู่ในการควบคุมของประเทศ ซึ่งรวมถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจและนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ นอกจากนี้ยังระบุอีกด้วยว่า อียูเปลี่ยนแปลงไปมากนับจากเมื่อครั้งที่สหราชอาณาจักรลงนามเข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี 2515 โดยอียูกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นประเทศเดียว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทนายสงกานต์ พามารดาเหยื่อค้ากามที่ด่านช้าง ยื่นหนังสือ เลขาธิการ ปปง. ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินขบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมด
เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 21 เม.ย.60 ที่สำนักงาน ปปง. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พานางสมศรี (นามสมมติ) มารดาของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ที่ถูกวัยรุ่นข่มขืน เหตุเกิดที่ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อ พ.ย.59 เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์และขอให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายค้ากามใน จ.สุพรรณบุรี โดยมี ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม เป็นผู้รับเอกสารดังกล่าว,นายสงกานต์ เผยว่า หลังจากเมื่อวานไปร้องกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ครอบครัว ด.ญ.เอ เข้ากระบวนการคุ้มครองพยาน และขอเงินช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม ส่วนที่มาร้อง ปปง.เนื่องจากอยากให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มบุคคลที่คาดว่าเป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ามนุษย์และค้ากาม จ.สุพรรณบุรี เพื่อหาหลักฐาน กับดูความเชื่อมโยง เพื่อนำหลักฐานทั้งหมดไปมอบให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ดำเนินคดีทลายเครือข่ายดังกล่าว,เครือข่ายของนายธนภัตร แสงคำ อายุ 30 ปี หรือเจ๊บีม แม่เล้าที่เป็นกะเทย อยากให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อหาความเชื่อมโยงในกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งหมด และที่สำคัญเป็นการป้องปรามบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์จากมนุษย์ด้วยกัน อันเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดการค้ามนุษย์ และก็ทาง ปปง.มีอำนาจโดยตรงในเรื่องนี้ นายสงกานต์ เผย,ร.ต.อ.ไพรัตน์ เผยว่า กรณีนี้เป็นคดีที่เด็กผู้หญิงถูกล่วงละเมิดและเกี่ยวโยงเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ด้วย ทางสำนักงาน ปปง.จะตรวจสอบก่อน และต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่าเป็นความผิดตามมูลฐานตามกฎหมายของ ปปง.หรือไม่ ปปง.จะใช้มาตรการยึดทรัพย์ ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โครงการสร้างของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ยังไม่มีความชัดเจน และยังมีการถกเถียงกันอยู่ โดยในวันนี้ (21 ส.ค.) จะมีการประชุมของหน่วยงานความมั่นคงเพื่อหารือถึงอำนาจหน้าที่และขอบเขตความรับผิดชอบ รวมไปถึงข้อฏหมาย ของโครงสร้าง ศปก.จชต.
พล.ต.ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เปิดเผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ และแนวโน้มการก่อเหตุของกลุ่มก่อการร้ายหลังสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด ในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม ว่า การก่อเหตุจะเป็นไปในลักษณะเดิมที่มีวางระเบิด การซุ่มโจมตีและการยิงรบกวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลจากการตั้งด่านตรวจ จุดสกัด ตามจุดต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ พบว่าคนร้ายและมีความกดดันและตอบโต้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเน้นโจมตีและก่อเหตุในพื้นที่ หรือจุดเสี่ยงที่ยากจะดูแลป้องกัน ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลความปลอดภัยประชาชนมากขึ้นแล้ว สำหรับโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.จชต. ในการกำหนดกฎหมายและอำนาจหน้าที่ พร้อมระบุ ในวันนี้ (21 ส.ค.) จะมีการหารือถึงกรอบการทำงานและอำนาจหน้าที่ของ ศปก.จชต. ที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนของโครงสร้าง ศปก.จชต.ในระดับหนึ่งขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า หลังเทศกาลถือศีลอด การก่อเหตุความรุนแรงจะลดลง แม้ยังไม่สามารถหารถต้องสงสัยได้ครบ อย่างไรก็ตาม ได้ขออนุมัตินายกรัฐมนตรีตั้งด่านเพิ่มเติมเพื่อปราบปรามยาเสพติด และคุมเข้มด่านตรวจคนเข้าเมือง เพราะพบพฤติกรรมต้องสงสัยของกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเชื้อสายกัมพูชา เข้ามาอย่างผิดปกติ วันละประมาณ 1000 คน และไม่ออกนอกพื้นที่ อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบว่าจะเชื่อมโยงกับการเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบหรือไม่
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โคตรรวย! พบเสี่ยเปรมชัย มีชื่อเป็น 1 ใน 5 คณะกรรมการครอบครองที่ดินรังเย็นรีสอร์ท อ.ภูเรือ จ.เลย เผย มีที่ดินรวมกันนับหมื่นไร่
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ได้เข้าจับกุมตัว นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก เข้าไปกางเต็นท์ล่าสัตว์ป่า พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง และเสือดำ ส่งดำเนินคดี จนมีกระแสข่าวว่านายเปรมชัยเป็นเจ้าของรังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยาน และชาโต้เดอเลย และบ้านพักขนาดใหญ่ที่รังเย็นรีสอร์ท ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย และครอบครองที่ดินร่วม 10,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ รอยต่อ 2 อำเภอ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย พบมีการครอบครองที่ดินรังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยาน อ.ด่านซ้าย และ อ.ภูเรือ ประมาณ 6,000-7,000 ไร่ และชาโต้เดอเลย ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ กว่า 1,000 ไร่ รวมเป็นร่วม 10,000 ไร่,มาวันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปรังเย็นรีสอร์ท พบว่าที่หน้าประตูทางเข้ารังเย็นรีสอร์ทมี จนท.ดูแลอยู่ 1 คน เมื่อขับรถผ่านเข้าในพื้นที่รีสอร์ตพบว่า มีพื้นที่ใหญ่โตมโหฬารร่วม 10,000 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และบ้านพักรีสอร์ตตั้งตระหง่านอยู่เนินเขาคุ้งน้ำ มีอาคารปูนห้องพักรีสอร์ต 2 อาคารขนาดใหญ่ ห้องพัก 66 ห้อง และสำนักงานอีกร่วม 10 หลัง สอบถาม จนท.รีสอร์ต ไม่ทราบว่าเป็นของใคร และไม่ขอให้รายละเอียดแต่อย่างไร,จากการลงพื้นที่พบแหล่งข่าว พบว่านายเปรมชัย กรรณสูต มีรายชื่อ 1 ใน 5 เป็นคณะกรรมของบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดเลย (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์) เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2525 มี 1.นายชัยยุทธ กรรณสูต 2.นางพิไลจิตร เริงพิทยา 3.นางนิจพร จรณะจิตต์ 4.นายเปรมชัย กรรณสูต และ 5.นางอรเอม เทิดประวัติ เงินจดทะเบียน 500,000,000.00 บาท (ห้าร้อยล้านบาท) มีสำนักงาน 4 สำนักงาน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อ.ภูเรือ จ.เลย อ.ด่านซ้าย จ.เลย และ อ.เมือง จ.เลย,และยังพบว่ามีการครอบครองที่ดินในป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ รอยต่อ 2 อำเภอ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย จนมีคำสั่งจากอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1115/2545 ให้เพิกถอนที่ดินจำนวน 51 แปลง กว่า 3,000 ไร่ โดยเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดนนำ ส.ค.1 ของที่ดินผู้อื่นมาเป็นหลักฐานในการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ขัดต่อมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับที่ดินที่ออก น.ส.3 ก เป็นที่ภูเขา จนมีคำสั่งเพิกถอนที่ดินดังกล่าวจำนวน 51 แปลง กว่า 3,000 ไร่.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
งาน Movin On 2019 ยังให้ความสำคัญกับการสัญจรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ต่อจากปีที่ผ่านๆ มาพลังงานไฮโดรเจน ยางรถยนต์ไร้ลม และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ แม้จะต่างวิธีการ แต่องค์กรต่างๆ ตีโจทย์เป็นเรื่องเดียวกันได้ นั่นคือคุณภาพชีวิตและโลกที่ดีขึ้น
หลังจากที่งาน Movin On 2018 ได้ปักหมุดหมายสำคัญเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จนแนวคิดดังกล่าวถูกหยิบยกมาพูดถึงในวงกว้าง และทำให้ทั้งวงการอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจทั่วโลกต่างหันมาใส่ใจและเอาจริงเอาจังกับเรื่องดังกล่าวแล้ว THE STANDARD ได้เดินทางกลับไปที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เพื่อติดตามภาคต่อและ สิ่งใหม่ ที่เกิดขึ้นบนเวที Movin On 2019 เพื่อต่อจิ๊กซอว์ทางความคิดและนำเสนอต่อผู้อ่านอีกครั้งรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน ยางล้อที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องหมดลม เพราะไม่ต้องใช้ลม การสัญจรแห่งอนาคต และมุมคิดของซีอีโอแบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลก คือส่วนหนึ่งจากเค้กก้อนใหญ่ที่ถูกคัดเลือกมาเสิร์ฟผ่านบทความพิเศษชิ้นนี้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า เพื่อการสัญจรที่ดีกว่างาน Movin On 2019 จัดขึ้นในพื้นที่ที่แปลกไปจากปีก่อน พื้นที่ใหญ่ขึ้น แต่ก็ห่างไกลจากเมืองมากขึ้นด้วย เมื่อเดินสำรวจรอบๆ งานพบว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ายังเป็นสีสันที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรถนั่งส่วนบุคคลธรรมดา ซูเปอร์คาร์ ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทุกวันนี้ทั่วโลกยังคงตั้งคำถามเรื่องความเป็นไปได้ของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาแทนที่รถในรูปแบบที่ใช้กันอยู่ ทั้งการผลิตแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งาน ราคาของรถที่เป็นต้นทุนสำคัญ ตลอดจนสถานีชาร์จไฟที่ต้องลงทุนขนานใหญ่มีบางธุรกิจที่มองข้ามแบตเตอรี่แบบเดิมๆ และตีโจทย์ล้ำหน้าของอนาคตด้วยไฟฟ้าที่กำเนิดจากพลังงานไฮโดรเจนSymbio กิจการด้านพลังงานไฮโดรเจนสัญชาติฝรั่งเศส พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงที่จ่ายกระแสไฟฟ้าได้แบบเดียวกับแบตเตอรี่ทั่วไปโดยใช้ไฮโดรเจนและออกซิเจนจากอากาศ ผ่านกระบวนการพิเศษจนทำให้ได้ไฟฟ้าออกมาพร้อมกับความร้อนและไอน้ำโดยไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม (Zero Emission) แต่อย่างใด โดยพลังงานที่ผลิตได้จะกักเก็บในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รองรับทั้งกับรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์สิ่งที่น่าทึ่งกว่าความสะอาดของเทคโนโลยีคือระยะเวลาในการเติมไฮเดรเจนซึ่งใช้เพียง 5 นาทีเท่านั้นก็สามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้เต็มถัง ก่อนที่ยานพาหนะจะวิ่งไปต่อได้อีกนับร้อยกิโลเมตร ถือเป็นการปิดช่องโหว่ที่สำคัญของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปแบบที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการชาร์จไฟ หรืออย่างน้อย 30 นาทีสำหรับการชาร์จแบบเร่งด่วน และน่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญของการสัญจรในโลกอนาคตที่แรงกดดันเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกระชับพื้นที่ในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการยานยนต์มากขึ้นเรื่อยๆอุปสรรคสำคัญคือการพัฒนาและผลิตเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ยังใช้เม็ดเงินมหาศาล ไม่นับรวมข้อจำกัดด้านกฎหมาย ภาษี แรงต้านจากอุตสาหกรรมใกล้เคียง และปัจจัยท้าทายอื่นๆ ซึ่ง Symbio เชื่อว่าภายในปี 2030 เทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถผลิตเพื่อการใช้งานโดยทั่วไปได้ โดยเกิดการประหยัดต่อขนาด สามารถนำเสนอด้วยต้นทุนที่ตลาดยอมรับ และเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง ด้วยคุณประโยชน์ที่สำคัญคือการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น และสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนโลกยังมีความหวังเสมอเมื่อมีใครสักคนฝันที่จะเปลี่ยนมันให้ดีขึ้น และพลังงานไฮโดรเจนก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบนั้นนอกจากรถและพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์แล้ว ยางรถยนต์คือสิ่งที่ทำให้การสัญจรเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงเป็นสินค้าที่สะท้อนเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังมีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากการขนส่งผู้โดยสาร บรรทุกสินค้า และการเดินทางของประชาชนล้วนต้องใช้ยางล้อทั้งสิ้น หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเติบโต อุปสงค์ต่อสินค้าประเภทนี้ก็เพิ่มสูงตามไปด้วยสอดคล้องกับภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงในขณะนั้นยางรถยนต์จึงเป็นมากกว่ายางที่เราเข้าใจไฮไลต์สำคัญของงาน Movin On 2019 คือการเปิดตัวยางต้นแบบเทคโนโลยีไร้ลม UPTIS (Unique Puncture-proof Tire System) ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากเป็นยางคอมโพสิตผสมไฟเบอร์กลาส มีความทนทานสูง ไม่ต้องใช้ลมยาง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาของผู้ขับขี่ในการเติมลมยางแล้ว ยังลดปัญหาเวลาที่ล้อยางสัมผัสกับสิ่งแหลมคมหรือถูกตะปูตำ เนื่องจากยางรุ่นนี้จะไม่แตกหรือรั่วซึม ยางจึงยังคงทำงานได้ตามปกติ และสามารถวิ่งไปข้างหน้าได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหากใช้งานไปสักพัก ผู้ใช้งานสามารถนำไปเติมดอกยางด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติได้ เพื่อให้ประสิทธิภาพของยางและสมรรถนะในการขับขี่ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงของเดิมที่สุด ยาง UPTIS รองรับการใช้งานทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งเป็นพาหนะที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในวันข้างหน้า สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสิ่งที่สำคัญคือการเชื่อมต่อของยางรถยนต์กับระบบของรถและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อรับส่งข้อมูลในยุคของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of things – IOT) ด้วยUPTIS พัฒนาโดยมิชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้ในปี 2024 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV โดยความร่วมมือกับ General Motors และคาดว่าจะสามารถนำออกขายได้จริงภายในปี 2024 นี้ ถือเป็นสิ่งใหม่ที่จะมีผลกระทบและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการยานยนต์และบริการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่ต้องใช้ลมยาง และอายุการใช้งานนานกว่ายางทั่วไป ในอนาคตการ เติมลมยาง อาจจะกลายเป็นกิจกรรมที่เด็กสมัยใหม่ไม่รู้จักก็เป็นได้สินค้ามาและไป แต่ความคิดที่ดีอยู่เหนือกาลเวลานอกจากสินค้าและนวัตกรรมล้ำสมัยแล้ว THE STANDARD ยังได้พูดคุยกับ ฟลอรองต์ เมอเนโกซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมิชลินกรุ๊ป ถึงจุดยืนที่มีเสมอมาขององค์กรยักษ์ใหญ่แห่งนี้ รวมทั้งแผนธุรกิจที่สอดรับกับการสัญจรของโลกอนาคตด้วยสร้างการสัญจรที่มากขึ้นและลดผลกระทบกับโลกใบนี้ลงแรงงานคนเป็นมากกว่าเครื่องจักรอยู่แล้ว เราคิดอยู่เสมอว่าคนของเราสามารถทำงานได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง ส่วนเราก็ช่วยพวกเขาให้ได้พัฒนาตนเองมากขึ้น การพัฒนาธุรกิจต้องเคารพสังคมที่คุณใช้ชีวิตอยู่ด้วย ตลาดประเทศไทยหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เป็นพื้นที่ที่สำคัญมาก เรา (มิชลิน) เริ่มธุรกิจที่นี่จากความร่วมมือกับ SCG ถึงตอนนี้ที่เราบริหารจัดการด้วยตัวเอง เราก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่เรามีโรงงานที่แหลมฉบัง พระประแดง และส่วนอื่นๆ ในประเทศไทย เราคำนึงเรื่องชุมชนโดยรอบโรงงานด้วย ตั้งแต่คุณภาพน้ำ คุณภาพชีวิตของผู้คน การจัดการกับของเสียจากการผลิต สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมของเราทั้งนั้นฟลอรองต์เล่าให้ THE STANDARD ฟังว่ามิชลินเองก็ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีไม่แพ้องค์กรอื่นๆ ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่มีได้จากทั่วทุกมุมโลก โจทย์ใหญ่ของผู้บริหารคือการคิดใหม่เพื่อการบริหารจัดการองค์กรและพัฒนาธุรกิจต่อไปได้ การทำธุรกิจในปัจจุบันต้องพบกับความเสี่ยงอยู่เสมอ สิ่งที่ต้องทำคือยอมรับความเสี่ยงนั้นและหาวิธีจัดการกับมัน ซีอีโอของมิชลินกรุ๊ปเน้นย้ำว่ายางรถยนต์ยังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอยู่เสมอ นอกจากนี้มิชลินยังได้พัฒนาธุรกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างธุรกิจพลังงานไฮโดรเจน การสร้างวัสดุโลหะจากเครื่องพิมพ์สามมิติ ซึ่งสามารถนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่มีไปใช้สร้างรายได้ใหม่ๆ ในอนาคตได้ เขาเชื่อว่าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบทบาทของพลังงานไฮโดรเจนจะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมิชลินลงทุนในธุรกิจดังกล่าวมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว และเตรียมที่จะทำตลาดต่อไปในอนาคตเรา (มิชลิน) เชื่อว่าการสัญจรทำให้โลกก้าวหน้าไปได้ เพราะเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและโอกาสของผู้คน ที่ผ่านมาเมื่อเราเพิ่มปริมาณการสัญจรขึ้นก็จะเกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย บางคนจึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นเราลดการสัญจรลงดีไหม เพื่อจะได้ลดผลกระทบดังกล่าวลง แต่เราคิดต่างออกไป เราควรจะเพิ่มการสัญจรที่ดีโดยลดผลกระทบให้น้อยลงมากกว่า (More mobility with less impact) จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีและการจัดการที่ดีขึ้นเพื่อทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นยั่งยืน มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าคำว่า ยืนยาว อยู่พอสมควรงาน Movin On จะยังจัดต่อเนื่องหมุนเวียนไปตามจุดต่างๆ ของโลก เทคโนโลยีใหม่ยังจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ เช่นเดียวกับชีวิตที่ยังต้องเดินต่อไปข้างหน้า รถทุกคัน เมืองทุกเมือง ก้าวทุกก้าวของผู้คนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และนี่คือความประทับใจบางช่วงบางตอนที่ต้องการตอกย้ำเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้โลกใบนี้ยังหมุนรอบตัวเองต่อไปได้อีกนานเท่านานพิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์อ้างอิง:
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รมว.กระทรวงยุติธรรม ระบุปมแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ปลดล็อกความผิด อปท. เป็นเรื่องเข้าใจผิด ลั่นทุกคนรู้จัก พล.อ.ไพบูลย์ ไม่มีใครเชื่อว่ารับเงิน เตรียมสั่งป.ป.ท.หาต้นตอข่าว
เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 8 มี.ค.59 ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า มีการแอบอ้างว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปลดล็อกความผิดหลังถูกคำสั่งมาตรา 44 ว่า เรื่องดังกล่าวเพิ่งทราบข่าวจากบทความในหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีการเขียนข้อความคล้ายกับว่าตนถูกหลอก คาดว่าเป็นการเข้าใจผิด โดยการพูดเรื่องดังกล่าว เป็นการพูดปาฐกถาในงาน อบจ.สีขาว เมื่อ 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา หัวข้อเกี่ยวกับการทุจริต และหารือถึงการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) โดยตอนหนึ่งของการกล่าวปาฐกถาได้มีคนถามว่า สำหรับบุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งตามมาตรา 44 จะทำอย่างไร ตนได้บอกให้พวกเขารวบรวมรายชื่อขอความเป็นธรรมมายังตน และจะนำเรื่องส่งไปยังหน่วยที่ตรวจสอบ เช่น ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ทั้งนี้ ตนไม่มีอำนาจไปบอกว่าใครผิดหรือไม่ผิด และเรื่องนี้เมื่อมีรายชื่อแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้,เท่าที่จำได้หลังจากพูดในงานสัมมนาแล้ว หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับตนเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริต ในโลกนี้ไม่มีใครเชื่อหรอกว่า พล.อ.ไพบูลย์ รับเงิน ในแวดวงทหารเขาก็รู้ดี และรู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร ในเมื่อทำงานการปราบปรามการทุจริต และจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ไม่รู้ว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ มอบหมายให้เลขาธิการ ป.ป.ท. ไปสอบถามถึงที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว ว่าเป็นมาอย่างไร ส่วนการดำเนินการกับคนที่แอบอ้าง ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร เพราะไม่รู้ว่าใครเอาชื่อตนไปแอบอ้าง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เมย์ พิชญ์นาฏ แฮปปี้ความรักกับเจ ชนาธิป ราบรื่นดี แม้ไม่ค่อยเจอกันเพราะต่างคนต่างทำงานแต่คุยเฟซไทม์ทุกคืน เผยให้กำลังใจฝ่ายชายทำงานหนัก รับมีคุยเรื่องอนาคตบ้างเพราะคบกันจริงจังแต่ยังไร้แพลนแต่ง รอฝ่ายชายพร้อม ส่วนตนพร้อมเสมอ
เรียกว่านาทีนี้อะไรก็เป็นสีชมพูไปซะหมดสำหรับนักแสดงสาวเซ็กซี่ เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร เพราะตั้งแต่เปิดตัวคบหาดูใจนักฟุตบอลทีมชาติ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็โชว์ความหวานฉ่ำให้เห็นกันบ่อยๆ แม้ต่างคนต่างงานยุ่งไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคความรักครั้งนี้ หวานกันขนาดนี้น่าจะมีเริ่มคุยเรื่องอนาคตร่วมกันบ้างแน่ๆ ได้เจอเมย์มาร่วมงานแถลงข่าวการเปิดตัวโฉมใหม่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ เทค-ไลฟ์ มอลล์ แห่งแรกของไทย ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ เลยอัพเดตความหวานในหัวใจของเมย์มาฝากกัน,ซึ่ง เมย์ เผยถึงเรื่องหัวใจว่า ก็มีความสุขค่ะ เราเป็นกำลังใจให้กัน ถึงจะไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ทุกวันนี้มันก็ดีที่สุดแล้ว จะพยายามให้มันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา แต่ก็จะพยายามไม่ให้มีอะไรมากระทบค่ะ ช่วงนี้เจอกันบ่อยมากขึ้นไหม? ไม่เลย วันนี้เขาเก็บตัว พรุ่งนี้เขาแข่ง อีกไม่กี่วันเขาก็แข่ง แล้วเดี๋ยวก็มีโอลิมปิก มีบอลถ้วย บอลโลก เยอะมากเลยค่ะ ให้กำลังใจยังไงบ้าง? เขาบอกว่าช่วงนี้เขาน่วมไปหมดทั้งตัวเลยเพราะแข่งเยอะเกินไป คนก็เหนื่อย บางคนต้องเล่นทั้งสโมสร ทีมชาติด้วย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ตอนนี้ก็โอลิมปิกแล้ว ก็เป็นกำลังใจให้ทั้งนักฟุตบอล นักกีฬาทุกประเภทเลย ดีใจด้วยกับนักยกน้ำหนัก ขอให้นักกีฬาไทยสู้ๆ เอาเหรียญทองมาเยอะๆ เมย์เป็นกำลังใจให้และจะเชียร์ทุกประเภทเลยค่ะ เรามีซื้อของบำรุงให้เจเป็นพิเศษไหม? เมย์เคยไปต่างประเทศแล้วเราเห็นยาที่เขาให้พวกนักกีฬา แต่เขาก็บอกว่าพวกนั้นมันไม่ได้ผลหรอก เขาเองมีหมอที่ดูแลเขาอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ยุ่งว่าเขาเป็นอะไรเท่าไหร่ แต่จะให้กำลังใจ จะบอกเขาเสมอว่าให้ระวัง ดูแลตัวเองดีๆ ค่ะ บางทีเขาเล่นกันแรงแล้วมันเสียบกัน เข่ามันเจ็บ ก็เป็นห่วงค่ะ เป็นยาใจให้เจมากกว่า? ก็คงได้แค่นั้น (หัวเราะ) เวลาคิดถึงกันเราเฟซไทม์คุยกัน? เราเฟซไทม์คุยกันก่อนนอนทุกวันค่ะ,มีเริ่มพูดคุยถึงอนาคตรึยัง? อนาคตก็ไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็จริงจังเหมือนกัน รักกันน่ะค่ะ เหมือนคู่เราเป็นการย้ำกระแสว่างานรุ่ง ฟอร์มไม่ตก? ก็มีความสุขค่ะ น่าจะมีความสุขที่สุดตั้งแต่มีแฟนมาค่ะ แสดงว่าคนนี้เรามั่นใจ? ไม่ได้มั่นใจหรอก แต่ตอนนี้เมย์มีความสุขมาก ก็อย่าทำลายความสุขเมย์กันเลยนะคะ แสดงว่าเราก็ต้องวางแผนจะแต่งงาน? เมย์ไม่ได้วางแผนอะไรนะ เมย์วางแผนว่าเมย์จะดีกับเขาที่สุด แล้วเมย์จะเต็มที่กับเขาในทุกๆ เรื่องค่ะ ถามว่ามีแพลนไหมว่ากี่ปี ไม่มีแพลนเลยค่ะ เมย์ตอบอนาคตไม่ได้ แต่เมย์ทำทุกวันให้ดีที่สุดค่ะ มีคิดฝากไข่ไว้ก่อนไหม? (หัวเราะ) ตอนนี้เก็บไข่โปเกมอนอยู่ค่ะ ส่วนชีวิตจริงอะไรก็ได้น่ะ เดี๋ยวดูก่อน ตอนนี้เมย์ว่าร่างกายเมย์ยังโอเค ถ้าอีก 2 ปีค่อยฝากก็น่าจะทันนะคะ แล้วแพลนการใช้ชีวิตคู่มีไหม? ถามว่าเราคุยเรื่องอนาคตกันไหมก็มีคุยบ้างค่ะ คือเราก็ไม่ได้คบกันเล่นๆ หรอก แต่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องอะไรเมื่อไหร่ ต้องกี่ปี ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติค่ะ เมื่อไหร่ที่เราพร้อม เขารู้สึกพร้อมแล้ว มั่นคงแล้ว เมย์เมื่อไหร่ก็ได้ เมย์พร้อมเสมอค่ะ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
19 พ.ย. 2556 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคม ที่สำนักงาน กสทช. ซอยพหลโยธิน 8
กรุงเทพฯสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ด้านกฎหมายในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคม เพื่อเป็นการส่งเสริมให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางเลือกจากการใช้บริการโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคมแห่งแรกในประเทศอาเซียน โดยคู่กรณีได้แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ร้องเรียนสามารถเข้าถึงบริการไกล่เกลี่ยได้โดยง่าย และจะเป็นช่องทางให้สามารถสื่อสารกับสังคมทั่วไปได้อย่างสะดวกอีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2555-2559) ยุทธศาสตร์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ในกิจการโทรคมนาคม ที่ได้กำหนดให้มีการพัฒนาและปรับปรุงระบบจัดการเรื่องร้องเรียนและการระงับข้อพิพาทโดยการไกล่เกลี่ยที่มีหลักเกณฑ์วิธีการและกลไกจัดการปัญหาของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมสุทธิพล ระบุว่า เมื่อ กสทช.ประมูล 3G สำเร็จ ส่งผลให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมขยายตัวอย่างรวดเร็วและประชาชนได้รับบริการโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อมีบริการโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น ก็ย่อมมีจำนวนข้อพิพาทเกี่ยวกับบริการโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น ทำให้กระบวนการระงับข้อพิพาทตามช่องทางปกติไม่สามารถรองรับเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพสุทธิพล ระบุว่า กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคมเป็นวิธีการระงับข้อพิพาททางเลือกนอกเหนือจากช่องทางระงับข้อพิพาทตามปกติที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากลว่าเป็นวิธีการที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง โดยจะมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเป็นกลางทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อให้คู่กรณีสามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้ผู้ไกล่เกลี่ยจะไม่ได้เป็นผู้ตัดสินชี้ถูกชี้ผิด จึงทำให้ข้อพิพาทสามารถตกลงกันได้ด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายอย่างไรก็ตาม การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคมไม่ได้เข้ามาแทนที่การระงับข้อพิพาทตามช่องทางปกติ เนื่องจากหากไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไม่สำเร็จ หรือหากคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายไม่สมัครใจที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยฯ เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามประกาศ กทช. เรื่อง กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ โดยเสนอเรื่องให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป แต่หากคู่กรณีสมัครใจเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จะมีกรอบระยะเวลาการดำเนินการไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่เริ่มกระบวนการไกล่เกลี่ยสุทธิพล กล่าวอีกว่า นับเป็นมิติใหม่ของการระงับข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคมโดยการนำวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาใช้ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้ร้องเรียนและผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอย่างเป็นระบบครั้งแรก เป็นการเพิ่มช่องทางวิธีการระงับข้อพิพาททางเลือกให้กับผู้บริโภคโดยผู้บริโภคสามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เลขที่ 87 ถนนพหลโยธิน 8 (สายลม) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2271 0151 - 60 (ในวันและเวลาราชการ)
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย นำลูกทีมลงฝึกซ้อมก่อนลงสนามพบกับ ฮ่องกง ในเกมอุ่นเครื่อง
วันที่ 9 ตุลาคม 2561 เวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ นำลูกทีมประเดิมฝึกซ้อมที่สนาม ซัง ควัน โอ สปอร์ต กราวด์ ก่อนพบกับ ทีมชาติฮ่องกง ในเกมกระชับมิตรระดับ A Match,โดย ช้างศึก เพิ่งเดินทางถึงเกาะฮ่องกง เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ก่อนที่ล่าสุด กุนซือชาวเซอร์เบีย จะนำลูกทีมประเดิมฝึกซ้อมทันที ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก ภายใต้อุณหภูมิประมาณ 25 องศา โดยเน้นที่ไปการฟื้นฟูสภาพร่างกายผู้เล่น รวมถึงแท็กติกเกมรุกและเกมรับ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง,ขณะเดียวกันยังได้ 5 ผู้เล่นจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่าง ปกเกล้า อนันต์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, มานูเอล ทอม เบียร์ห, มิก้า ชูนวลศรี และ สุมัญญา ปุริสาย ตามมาสมทบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมพบกับ ทีมชาติฮ่องกง ในเกมกระชับมิตร FIFA International A Match วันที่ 11 ตุลาคม 2561 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย,หลังจากนั้นจะได้ ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้ามาสมทบ ในเกมอำลาสนามอย่างเป็นทางการของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่จะพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี จำหน่ายบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ http://bit.ly/Thelastsave ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จ่อออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยทีมฆาตกรรมบิลลี่ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอ แต่ไม่ระบุชื่อ เบื้องต้นจะออกหมายเรียกมารับทราบในใน 3 ข้อหาประกอบด้วย ฆ่าคนตาย ปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ความคืบหน้าหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงผลการสอบสวนคดีของนายพอละจี รักไทยเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปนาน 5 ปี และพบว่ามีการฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากพบหลักฐานในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานวันนี้ (16 ก.ย.2562) มีรายงานว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ จะเรียกประชุมทีมพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำอดีตตำรวจหัวหน้าชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อยืนยันข้อมูลที่ระบุว่า นายพอละจี ไม่ได้รับการปล่อยตัวจากชุดจับกุมนอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ระบุในสำนวนเรื่องนายพอละจี ไม่ได้รับการปล่อยตัวเช่นเดียวกันมีรายงานว่าขณะนี้ดีเอสไอ มีพยานหลักฐานในสำนวนคดีเพียงพอที่จะออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยมารับทราบข้อกล่าวหา ใน 3 ข้อหาประกอบด้วย ฆ่าคนตาย ปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยวคณะพนักงานสอบสวนที่มีอัยการสำนักการสอบสวนมาเข้าร่วมสอบสวน ได้เสนอให้ออกหมายเรียกกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องมาแจ้งข้อกล่าวหา หรือออกหมายจับ เนื่องจากพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว แต่ดีเอสไอ เห็นว่า ควรจะออกหมายเรียกก่อน หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนโดยไม่มีสาเหตุอันสมควร จึงจะขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่าทาง ดีเอสไอ เข้าหารือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานเป็นการภายใน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะสอบถามข้อมูลหรือข้อสงสัยในบางประเด็นที่ยังไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะห่วงว่าจะเกิดความคลาดเคลื่อน และหากดีเอสไอ ส่งข้อมูลมาให้ ทส.ก็พร้อมจะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่อ่าน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ที่ปรึกษา กมธ.ยกร่างรธน. ยัน พร้อมทบทวนระบบโอเพ่นลิสต์ ที่ให้อำนาจประชาชนจัดผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ส่วนระบบสัดส่วนผสม ยังเห็นว่ามีข้อดี ไม่ซับซ้อน ทำให้ได้คะแนนตามความนิยมของปชช.
วันที่ 24 มี.ค.พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ทักท้วงถึงการนำระบบเลือกตั้งสัดส่วนผสมแบบเยอรมนีมาใช้ ทำให้เข้าใจยาก ยืนยันว่า ระบบสัดส่วนผสมไม่ได้ใช้ในประเทศเยอรมนีเท่านั้น ที่ใช้มา 66 ปีแล้ว โดยมี 9 ประเทศทั่วโลก ก็ใช้ระบบนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน ข้อดีของระบบนี้ ทำให้พรรคการเมืองได้ ส.ส.ตามความนิยมของประชาชน ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย ก็เพราะยังยึดติดเรื่องเดิมๆ พอเกิดการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ยอมรับ โดยกำหนด 6 บัญชีรายชื่อตามภูมิภาค ทำให้ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าใช้เขตประเทศ พร้อมยืนยันระบบนี้จะไม่ทำให้พรรคการเมืองใดเสียเปรียบ และทำให้พรรคขนาดเล็กได้ ส.ส. และเกิดรัฐบาลผสม,พล.อ.เลิศรัตน์ ระบุว่า ส่วนระบบโอเพ่นลิสต์ ที่ให้อำนาจประชาชนจัดลำดับผู้สมัคร ส.ส. ลงในระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิจัดผู้สมัครมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ให้อำนาจพรรคการเมืองกำหนดตัวผู้สมัคร โดยคณะกรรมาธิการ พร้อมรับฟังความเห็น ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ประชาชนจัดบัญชีผู้สมัคร ก็พร้อมยกเลิกได้ ส่วนที่สมาชิก สปช. เตรียมชำแหละระบบสัดส่วนผสมและระบบโอเพ่นลิสต์นั้น โดยยืนยันไม่มี สปช.ชำแหละประเด็นนี้ จะมีแต่แสดงความเห็น ซึ่งคณะกรรมาธิการพร้อมจะรับฟังทุกความเห็น ถ้าเกิดนำไปใช้แล้วล้มเหลว ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนได้ โดยคณะกรรมาธิการ จะรับฟังความเห็น สปช.ทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การปรับแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับประชาชน,ขณะที่ นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่สอง เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเชิญสื่อมวลชนทุกสำนัก มาให้ข้อคิดเห็นกับคณะกรรมาธิการ โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการจะร่วมรับฟังด้วย ส่วนที่ประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ พิจารณาทบทวนร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราและบันทึกเจตนารมณ์ โดยผ่านการพิจารณาไปแล้ว 255 มาตรา และในวันนี้ เริ่มพิจารณามาตรา 256 เรื่องการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ประกาศ ฉบับ 1 เตือน 20-22 ต.ค.นี้ หย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ จ่อเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทย ทำให้ภาคกลาง-ตะวันออก-ใต้ และ กทม. เจอฝนตกหนักบางแห่ง ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
วันที่ 19 ต.ค. 61 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ฉบับที่ 1 ระบุว่าในช่วงวันที่ 20-22 ต.ค.นี้ บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ โดยจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้, ,ช่วงวันที่ 20-21 ตุลาคม 2561,- ,ภาคกลาง, จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล,- ,ภาคตะวันออก, จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด,- ,ภาคใต้, จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล,วันที่ 22 ตุลาคม 2561,- ,ภาคกลาง, จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี,- ,ภาคตะวันออก, จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด,- ,ภาคใต้, จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่,ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 20-22 ต.ค.นี้ ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง,อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมกับ การประปาส่วนภูมิภาค จัดโครงการ ปฏิทินเก่าให้เรานะ เพื่อจัดมอบปฏิทินไม่ใช้แล้ว ให้มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำหนังสืออักษรเบรลล์ ให้ผู้บกพร่องทางการมองเห็น
วันนี้(4 มี.ค 2563 ) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัทเอกชน นำปฏิทินตั้งโต๊ะไม่ใช้แล้ว มอบให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อนำไปทำหนังสื่ออักษรเบรลล์ ใช้ในสื่อการเรียนของโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพนายนพดล สงครามรอด ที่ปรึกษางานกิจการพิเศษ บริษัทกรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชน ที่นำปฏิทินที่ใช้แล้วของพนักงานบริษัท มามอบให้กับมูลนิธิ เพื่อหวังช่วยเหลือผู้บกพร่องทางสายตา ได้มีหนังสือเบรลล์เพียงพอต่อความต้องการในการเรียน ทั้งนี้ได้ร่วมทำกิจกรรม ตัดปฏิทินเพื่อแยกส่วนนำไปจัดทำอักษรเบรล์ลอีกด้วยนางสุจิตรา ติกวัฒนานนท์ ผู้จัดการโครงการเรียนร่วมและอาสาสมัคร มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เปิดเผยว่า นอกจากนำปฏิทินไปทำเป็นอักษรเบรลล์แล้ว ยังสามารถนำมาดัดแปลงอย่างสร้างสรรค์ทำเกมส์โดมิโน ตัวต่อทายคำ บัตรคำ เพื่อสร้างเสริมทักษะทางสมองและจินตนาการมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีนักเรียนบกพร่องทางสายตาเกือบ 200 คน โดยแบ่งไปเรียนร่วมกับโรงเรียนอื่นๆและโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพหากประสงค์ต้องการบริจาคปฏิทินที่ใช้แล้ว เพื่อเป็นสื่อในการเรียน สามารถบริจาคได้ที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เลขที่ 420 ถ.ราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 หรือที่
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
มูลนิธิ Save the Children เผยกรณี คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด บริจาคเงินให้ 7 ล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาล ไม่เป็นความจริง แต่ก็ขอขอบคุณที่ช่วยทำให้สังคมรับรู้ถึงสถานการณ์…
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 14 พ.ค. ว่า มูลนิธิ Save the Children ออกแถลงปฏิเสธข่าวที่ว่า คริสเตียโน โรนัลโด ปีกดาวยิงของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรดังประจำลาลีกา สเปน บริจาคเงิน 7 ล้านยูโร (ราว 262 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเนปาล,เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเนปาลได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วราว 8,000 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 19,000 คน ทำให้มีบุคคลหลายฝ่ายระดมทุนเข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทาง โซฟุต นิตยสารลูกหนังของฝรั่งเศส ได้ออกมาเผยว่าอดีตแข้งแมนฯ ยูไนเต็ด ได้มอบเงินบริจาคผ่าน มูลนิธิ Save the Children เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้ด้วย,อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางมูลนิธิก็ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าถึงแม้ตัวนักเตะเองจะเป็นทูตอย่างเป็นทางการของมูลนิธิ และช่วยเหลือมูลนิธิในทางต่างๆ แต่ก็ไม่ได้บริจาคเงินส่วนตัวในจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด,ทางมูลนิธิเปิดเผยว่า ในฐานะทูตระดับโลกของมูลนิธิ Save the Children คริสเตียโน โรนัลโด ได้ใช้เสียงและภาพลักษณ์ในระดับโลกของเขา ทำให้เกิดการตระหนักรับรู้ถึงปัญหาที่เด็กๆ ซึ่งอยู่ในสภาพที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุดในโลกกำลังเผชิญ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเนปาล,แต่จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการบริจาคของ โรนัลโด ผ่านมูลนิธิ Save the Children เพื่อปฏิบัติการเร่งด่วนในประเทศเนปาล นั้นไม่เป็นความจริง หลังแผ่นดินไหวครั้งที่สอง ซึ่งนำความเสียหายเพิ่มเติมมาสู่ประเทศนั้น องค์กรอิสระแห่งนี้อยากขอบคุณ คริสเตียโน โรนัลโด และผู้มีชื่อเสียงท่านอื่น สำหรับการสนับสนุนด้วยการเผยแพร่สถานการณ์ที่เด็กๆ และครอบครัวในเนปาลต้องเผชิญ
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมอุตุฯ เตือน พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีนในวันนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาค
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน)ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีนในวันนี้(1 ส.ค. 2563) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่สะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้ภาคเหนือเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตากอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคายบึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหารอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ภาคกลางเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ภาคตะวันออกเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราดอุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ตอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทางการประเทศเซียร์รีโอนดำเนินการกักกันผู้ต้องสงสัยสัมผัสกับหญิงสาวผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส อีโบลา ที่เพิ่งได้รับการยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของประเทศเซียร์ราลีโอน ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันอาทิตย์ (17 ม.ค.) ว่า ได้ดำเนินการกักตัวคน 109 ราย ที่ติดต่อกับหญิงคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส อีโบลา เมื่อสัปดาห์ก่อน และทำให้เกิดความวิตกว่าไวรัสมรณะตัวนี้จะกลับมาแพร่กระจายอีกครั้ง โดยในจำนวนนี้มี 28 คนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง,ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเซียร์ราลีโอนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาประกาศเมื่อ 14 ม.ค. ว่า ห่วงโซ่การส่งผ่านเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตกทั้งหมดเท่าที่รู้จนถึงตอนนี้ หยุดลงทั้งหมดแล้ว หลังจากไลบีเรียได้รับการประกาศให้ปลอดเชื้ออีโบลา ตามหลังกินี และเซียร์ราลีโอน เนื่องจากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เป็นเวลา 42 วันติดต่อกัน แต่ก็เตือนด้วยว่า อาจมีเชื้อหลงเหลืออยู่ในร่างกายของผู้รอดชีวิตนานหลายเดือน,อย่างไรก็ตาม หลังจาก WHO ประกาศเรื่องดังกล่าวได้เพียงวันเดียว ก็มีการเปิดเผยผลชันสูตรศพ น.ส.มาริอาตู จาลโลห์ นักศึกษาวัย 22 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ว่าเธอเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยเธออาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับคนถึง 22 คนในช่วงที่เธอล้มป่วย และมีคนอย่างน้อย 5 คนช่วยกันทำพิธีชำระล้างศพของเธอ,แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเซียร์ราลีโอนยังระบุด้วยว่า กำลังดำเนินการสืบสวนหาผู้ที่อาจติดเชื้ออีโบลาใน 4 เขตที่หญิงสาวรายนี้เดินทางไปเยือน,ทั้งนี้ การระบาดของไวรัสอีโบลาครั้งล่าสุดเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2013 และตัวเลขที่มีการตรวจสอบจนถึงวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมาชี้ว่า ไวรัสตัวนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11,315 ราย แบ่งเป็นในไลบีเรีย 4,809 ราย, ในเซียร์ราลีโอน 3,955 ราย ในกินี 2,536 ราย และในไนจีเรีย 8 ราย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อจากแอฟริกาตะวันตกแต่ไปเสียชีวิตในต่างประเทศ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทหารพร้อม จนท.กสทช.เข้าตรวจค้นสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ทีวี หลังอดีต ผบ.ตร. ดำเนินรายการ เสียงเสรี เสนอเนื้อหาเสี่ยง กระทบความมั่นคง ชี้เป็นภัยต่อรัฐ จ่อแจ้งข้อหาดำเนินคดี
เมื่อวันนี้ (19 พ.ย.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.นรินทรักษ์ เชษฐศิริ รอง ผบ.ส.1 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุโทรทัศน์ ฟ้าให้ทีวี (Fahai TV) ตั้งอยู่เลขที่ 45/410-411 ซ.บอนด์สตรีท ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 เม.ย.58 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ ประกอบรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 44 หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าช่องรายการดังกล่าว มีการออกอากาศทางเว็บไซต์ยูทูบ และมีเนื้อหาที่เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานี,ขณะเข้าตรวจค้น พบว่า มี น.ส.พรทิพา สุพัฒนุกุล เป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินรายการ เสียงเสรี พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 7 คน ได้แก่ บริษัท ฟ้าคุ้ม จำกัด น.ส.พรทิพา สุพัฒนุกูล นายชัยวัฒน์ จันทร์เต็ม นายขุนน้ำ เนรัญชรา นายณรงค์ฤทธิ์ ภู่ทวี นายวริศ อาคำ นายปัณณธร รัตน์ภูริเดช และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส มาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม ส่วนในรายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ส่งทนายความส่วนตัวมาประสานกองปราบปราม ว่าจะเข้ามาให้ปากคำในภายหลัง,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้ยึดอุปกรณ์ออกอากาศของทางสถานี ประกอบด้วย ห้องควบคุมการออกอากาศ ชั้น 2 (Master control Room) จำนวน 25 รายการ ห้องจัดรายการ (Studio) ชั้น 2 จำนวน 5 รายการ ห้องตัดต่อ (Editer) ชั้น 3 จำนวน 14 รายการ รวม 44 รายการ มาไว้เป็นหลักฐาน และเทปรายการที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. มาส่งมอบให้กับกองปราบปรามด้วย,ด้าน น.ส.พรทิพา ระบุว่า ปกติตนเอง มีทัศนคติที่ดีกับทหารมาโดยตลอด และการดำเนินรายการก็ ไม่ได้ขัดคำสั่ง คสช. แต่มีรายการ เสียงเสรี ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ที่เพิ่งนำมาออกอากาศกับทางสถานีได้ไม่นาน ก็มีเนื้อหาค่อนข้างไปทางหมิ่นเหม่ และเคยเตือนไปครั้งหนึ่งแล้ว จนกระทั่งถูก คสช.บุกเจ้าตรวจค้นจับกุม,อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ทาง คสช. จะมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กับผู้ต้องหาทั้งหมดที่กองปราบปรามในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรฯ และร่วมกันประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รัฐสภายืนยันเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของส.ว.ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายนนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิบัติราชการตามกำหนดการเดิม โดยไม่มีวาระการเรียกประชุมทีมกฎหมาย ตามรายงานข่าวกรณีรัฐบาลหวั่นเกรงการกระทำผิดกฎหมาย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับคณะนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ที่ชนะเลิศการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 17 หลังจากนั้นจะเป็นประธานการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับคณะผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก่อนประชุมปฏิรูปการศึกษาในช่วงบ่าย โดยไม่มีวาระการเรียกประชุมทีมกฎหมาย เพื่อพิจารณาความถูกต้องของข้อกฎหมาย กรณีการลงมติวาระที่ 3 ของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว.ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ด้วยหวั่นเกรงการกระทำผิดกฎหมาย หากร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบแล้วนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องการแก้รัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรรมนูญและแม้จะไม่สามารถติดต่อขอความชัดเจนจาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาได้ แต่ล่าสุดนายนิคม ไวยรัชพานิช ในฐานะรองประธานรัฐสภา ยืนยันว่าในวันที่ 28 กันยายน ยังคงกำหนดการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ตามที่ได้บรรจุระเบียบวาระไว้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว พร้อมกล่าวย้ำถึงความมั่นใจว่า ไม่เสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญทั้งนี้มีรายงานว่า รัฐสภาเตรียมเรียกประชุมในวันที่ 2 ตุลาคม เพื่อเป็นการพิจารณาบันทึกข้อตกลง และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ค้างการพิจารณาอยู่หลายเรื่อง โดยจะเริ่มพิจารณาเรื่องสำคัญก่อน และจะพิจารณาให้แล้วเสร็จทั้งหมด ก่อนเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เรื่องบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ 237 เรื่องยุบพรรคการเมือง ในวาระ 2 ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วมาพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ตำรวจอินเดียจับกุม ชาย 2 พี่น้องกับลุงของพวกเขาในฐานะผู้ต้องสงสัย รุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปีซึ่งเป็นน้องสาวและหลานของพวกเขา ก่อนสังหารแล้วใช้เคียวตัดคอ
สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า ในวันพุธที่ 20 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียดำเนินการจับกุมชาย 2 พี่น้อง ฐานร่วมกันข่มขืนน้องสาวแท้ๆ วัย 12 ปีของตัวเอง ก่อนจะใช้เคียวฆ่าตัดคอที่รัฐมัธยประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน ตำรวจยังจับกุมลุงวัย 40 ปีของเด็กหญิงนนี้ รวมทั้งค้นบ้านพี่ชายคนโตของเธอด้วย,ในเบื้องต้นผู้ต้องสงสัยพยายามกล่าวหาว่าผู้ก่อเหตุคือครอบครัวคู่อริ แต่ตำรวจเขตสาการ์ พบความขัดแย้งกันในคำให้การของพวกเขา และได้รู้ว่าพี่ชายคนตัวของครอบครัวนี้หายไป,นั่นเป็นเบาะแสสำคัญ นาย อมิต สังกี ผู้กำกับกาตำรวจเขตสาการ์บอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ผ่านทางโทรศัพท์ ผู้ชายทุกคน (3 พี่น้องและลุง) มีส่วนร่วมในการข่มขืนเด็กหญิงคนนี้ และเมื่อเธอขู่จะไปแจ้งตำรวจ พวกเขาก็บีบคอเธอจนตายก่อนจะตัดคอและนำศพไปทิ้ง,นายสังกีบอกด้วยว่า ผลการชันสูตรศพยืนยันว่า ผู้ตายถูกรุมโทรมและมีเพศสัมพันธ์อย่างผิดธรรมชาติ เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นคดีอาชญากรรมแบบนี้ แม้แต่ทนายความก็บอกว่า พวกเขาไม่อยากว่าความให้จำเลยในคดีนี้
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ศาลฎีกาตัดสินคดี ชี้ การเลิกจ้างนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ ของบางกอกโพสต์ไม่เป็นธรรม คดี เสนอข่าวสุวรรณภูมิรันเวย์ร้าว พร้อมพิจารณาเรื่องของความเสียหาย โดยกำหนดให้หารือ ในวันที่ 17 ก.ค.นี้
วันที่ 29 มิ.ย. ที่ศาลแรงงานกลาง  ศาลแรงงานกลางได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ อดีตบรรณาธิการข่าวสายทหารและความมั่นคง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และบรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล นิวทีวี เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และพวกรวม 3 คน กรณีเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม โดยไล่ออกจากงาน หลังจากเจ้าตัวนำเสนอข่าวปัญหารันเวย์ร้าวของสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน สิงหาคม ปี 2548 จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งให้ดำเนินการฟ้องร้องกับหนังสือพิมพ์จนต้นสังกัด จนมีการไล่นายเสริมสุขออกจากงาน,ขณะที่ในวันนี้ เฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit ของนายเสริมสุข หรือ เป๊ปซี่ ได้เปิดเผยถึงคำพิพากษาศาลฎีกา โดยระบุว่า คำพิพากษาศาลฎีกายืนตามศาลแรงงานชั้นต้น เห็นว่า การเลิกจ้างของบางกอกโพสต์ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม สิ่งที่ศาลฎีกาเห็นแตกต่างจากศาลชั้นต้นเป็นในเรื่องของความเสียหาย, , คำพิพากษาชั้นศาลฎีกายืนตามศาลแรงงานชั้นต้นเห็นว่า การเลิกจ้างของบางกอกโพสต์เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม สิ่งที่ศาลฎีกาเห็นแตกต่างจากศาลชั้นต้นเป็นในเรื่องของความเสียหายที่ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 1 บางกอกโพสต์ ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์ หลังมีคำสั่งเลิกจ้าง แต่ศาลฎีกาไม่ได้กำหนดความเสียหายในส่วนนี้ ให้เป็นหน้าที่ของศาลแรงงาน จะพิจารณาในเรื่องของความเสียหาย โดยกำหนดให้หารือกันอีกครั้ง ในวันที่ 17 ก.ค. ที่ศาลแรงงานกลาง,ขอขอบคุณองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแรงงานที่ให้ความเป็นธรรมในคดี ขอบคุณเพื่อนๆ ครับที่เป็นกำลังใจให้ตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมากราบขอบพระคุณ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมรับฟังคำพิพากษาในวันนี้ นักข่าวอาวุโสระบุ, , ขณะที่นายเสริมสุขยังโพสต์ข้อมูลด้วยว่า คดีของตนกับบางกอกโพสต์ถือเป็นคดีแรงงานที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะใช้เวลาเกือบ 10 ปี โดยขาดอีกเพียงสองเดือนเท่านั้น พร้อมกับลำดับความว่า, , 09.00 น. วันจันทร์ 29 มิ.ย. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีแรงงานที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์คดีแรงงาน,-ถูกเลิกจ้าง 29 ส.ค. 2548,-ฟ้องคดีปลายปี 2548 เดือน ธ.ค.,-ศาลชั้นต้นตัดสิน ก.ค. 2550,-อุทธรณ์ไปที่ศาลฎีกาคดีแรงงานปลายปี 2550,-29 มิ.ย. 2558 ศาลฎีกาแรงงาน นัดฟังคำพิพากษา, , คดีความดังกล่าว สืบเนื่องจาก นายเสริมสุข ถูกบริษัทโพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ไล่ออกจากตำแหน่งหัวหน้าข่าวฝ่ายทหารและความมั่นคง ภายหลังนำเสนอข่าว ปัญหารันเวย์ร้าวของสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนส.ค.ปี 2548 จนทำคนในรัฐบาลไม่พอใจและสั่งการให้ภาครัฐฟ้องร้องกับหนังสือพิมพ์ จนต้นสังกัดต้องตัดสินใจ ดังกล่าว, , ต่อมา นายเสริมสุข จึงได้ฟ้องร้องต่อศาลแรงงาน โดยกล่าวหาว่า อดีตต้นสังกัดเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งเรียกร้องค่าเสียหาย และศาลแรงงานกลาง ก็ได้มีคำพิพากษาเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี 2550 ให้หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รับนายเสริมสุข กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราเดิมก่อนถูกเลิกจ้าง และให้จ่ายค่าชดเชยจากกองทุนเลี้ยงชีพในส่วนเงินสมทบของบริษัท 623,700.08 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเลิกจ้าง แต่นายเสริมสุข ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาฯ เพื่อให้บริษัทจ่ายค่าเสียหายจากการขาดรายได้จำนวน 8 ล้านบาท และค่าเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียงจำนวน 5 ล้านบาท รวม 13 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่ได้ฟ้องร้องไว้ก่อนหน้านี้ ภายหลังอดีตต้นสังกัดได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาให้รับกลับเข้าทำงาน และจ่ายเงินชดเชยจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงข่าวชี้แจงข้อมูลสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย
ในปัจจุบันว่า สศช.ใช้วิธีการวัดความเหลื่อมล้ำตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากลของธนาคารโลก (World Bank) ที่ใช้วัดความเหลื่อมล้ำในประเทศต่างๆประมาณ 110 ประเทศ พบว่าในรายงานฉบับล่าสุดของปี 2558 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 จาก 67 ประเทศ ดีขึ้นจากปี 2556 ที่อยู่ในอันดับ 46 จาก 73 ประเทศ โดยจำนวนประเทศในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านข้อมูลของประเทศนั้นๆ ซึ่งมีทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา ฉะนั้น กรณีการวัดความเหลื่อมล้ำของรายงาน CS Global Wealth Report 2018 ที่มีการนำมากล่าวอ้างในสังคมออนไลน์ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลกจึงไม่เป็นความจริง และในรายงานดังกล่าวยังระบุไว้ด้วยว่าเป็นการประมาณการอย่างหยาบ,กรณีการวัดความเหลื่อมล้ำของรายงาน CS Global Wealth Report 2018 เป็นการวัดการกระจายความมั่งคั่ง (Wealth Distribution) โดยประเทศที่มีข้อมูลการวัดการกระจายความมั่งคั่งสมบูรณ์มีเพียง 35 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน ส่วนประเทศไทยไม่มีการจัดเก็บ ผู้ทำการวิจัยซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจึงใช้ข้อมูลคำนวณประมาณการของ 133 ประเทศรวมทั้งไทย นอกจากนั้นการประมาณการประเทศไทยได้ใช้ข้อมูลในปี 2549 ขณะที่ข้อมูลของประเทศอื่นๆ เป็นข้อมูลของปีที่มีความแตกต่าง หลากหลายกันไป ดังนั้น การวัดการกระจายความมั่งคั่งในรายงานดังกล่าวอาจไม่สามารถสะท้อนสถานการณ์ของประเทศไทยได้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สลดใจสังคมไทยวิบัติสุด เด็กหญิงกำพร้าวัย 12 ปี นักเรียน ป.6 เมืองขุนแผน อ้างถูกกลุ่มเครือญาติชาย 7 คน ข่มขืนมาราธอนกว่า 2 ปี มีทั้งลุง น้า อา พี่
ไม่เว้นแม้แต่น้องชายวัย 10 ขวบยังร่วมด้วย บังคับกินยาคุมไม่ให้ท้อง เรื่องแดงหลังโดนกระทำรุนแรงจนมดลูกอักเสบ อวัยวะเพศฉีก ต้องอ้อนวอนให้พี่สาวพาไปหาหมอตรวจภายใน ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ ก่อนคุมตัวกลุ่มผู้ใหญ่ 5 คนมาโรงพัก ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธเรื่องราวฉาวโฉ่เมืองขุนแผน กลุ่มเครือญาติรุมข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี มาราธอนจนเหยื่อเจ็บปวดทนไม่ไหว ขอร้องให้พี่สาวพาไปโรงพยาบาลก่อนเข้าแจ้งตำรวจครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.กาฬสินธุ์ ปากวิเศษ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศ รวม 7 คน ประกอบด้วย นายพเยาว์ เรืองฤทธิ์ อายุ 52 ปี นายรัตน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 35 ปี นายทรงวุฒิ หรือโด้ หันกลาง อายุ 20 ปี นายอนันต์ นรินทร์นอก อายุ 52 ปี นายเชิน ปลายนายน อายุ 35 ปี ด.ช.แจ็ค (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และด.ช.โต้ง (นามสมมติ) อายุ12ปี จากนั้นชุดสืบสวนได้ไปควบคุมตัวผู้ต้องหา 5 คนที่เป็นผู้ใหญ่มาสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นทั้งหมดยังให้การภาคเสธ ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กชายทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างประสานผู้ปกครอง ให้พาเข้าให้ปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพคดีนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.กวาง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี พาน้องสาวที่เป็นญาติกันชื่อ ด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กาฬสินธุ์ ปากวิเศษ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเครือญาติผู้ชายรวม 7 คน ที่ร่วมกันข่มขืน ด.ญ.ก้อย เหตุเกิดมานานกว่า 2 ปีน.ส.กวางให้ข้อมูลกับตำรวจอ้างว่า ก่อนหน้านี้น้องสาวมีอาการปวดท้องอย่างหนักจนทนไม่ไหว มาขอร้องให้พาไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย ด้วยความสงสารน้องเลยพาไปตรวจร่างกายที่ รพ.เจ้าพระยายมราช ปรากฏว่าแพทย์ตรวจภายในพบน้องสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีอาการมดลูกอักเสบติดเชื้อเพราะได้รับความกระทบกระเทือน เนื่องจากมีร่องรอยถูกข่มขืนอย่างรุนแรงจนอวัยวะเพศฉีกขาด หลังทราบเรื่องรู้สึกตกใจมาก แพทย์ได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองเด็กและสตรี จ.สุพรรณบุรี พร้อมตำรวจ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มาร่วมกันสอบปากคำเด็กด.ญ.ก้อย ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลอ้างว่า เป็นเด็กกำพร้าแม่ทิ้งไปตั้งแต่เล็ก ส่วนพ่อไม่รู้ว่าเป็นใคร มีกลุ่มญาติเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือ เมื่อราว 2 ปีก่อนตอนเรียนอยู่ชั้น ป.4 ได้ถูกนายโด้ มีศักดิ์เป็นน้าชาย บุกเข้ามาข่มขืนเป็นคนแรกขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน และข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องราวไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะกลับมาทำร้าย จากนั้นนายโด้ได้นำเรื่องบัดสีไปบอกกลุ่มเครือญาติผู้ชายที่มีศักดิ์เป็นลุง น้า อา พี่ชาย แม้กระทั่งน้องชายวัย 10 ขวบ ให้มาล่วงละเมิดทางเพศตน โดยจะพาไปตามบ้านญาติและกระท่อมนา ทุกคนจะสลับสับเปลี่ยนกันมาข่มขืนวันละ 2-3 ครั้ง แต่คนที่ข่มขืนตนแทบทุกวันคือนายโด้ และถูกคนกลุ่มนี้ข่มขืนมานานถึง 2 ปี ระหว่างนั้นจะให้กินยาคุมกำเนิดเพื่อไม่ให้ตั้งครรภ์ กระทั่งครั้งล่าสุดถูกนายรัตน์ข่มขืนอย่างรุนแรงจนมดลูกอักเสบปวดท้องอย่างหนัก ต้องขอร้องให้พี่สาวพาไปพบแพทย์ทำให้เรื่องแดงขึ้นมา
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ประตูชัยจาก จาดอน ซานโช บุกไปเอาชนะ ชาลเก 04 ได้ 2-1 เก็บสามคะแนนสำคัญฉีกบาเยิร์น มิวนิก เป็น 9 แต้ม
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2018/19 ประจำวันที่ 8 ธ.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง ชาลเก 04 เปิดสนามเวลตินส์ อารีนา พบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์,เริ่มเกมมา 7 นาทีเสือเหลืองนำอย่างไว 1-0 จากลูกฟรีคิก มาร์โก รอยส์ เปิดให้กับ เดอลานีย์ โขกเข้าไปและครึ่งแรกก็มีสกอร์เดียวที่เกิดขึ้น,ครึ่งหลังเจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 เมื่อได้ลูกจุดโทษนาทีที่ 61 ฮาริท ไปโดน รอยส์ สกัดล้ม ก่อนที่ คาลิกรี จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซาก,แต่ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูชัย 2-1 นาทีที่ 74 ชานโช ทำชิ่งกับ เกร์เรโร ก่อนที่ ชานโช จะหลุดมายิงผ่านตัว ฟาร์มันน์ เข้าไป,เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกมการแข่งขัน ดอร์ทมุนด์ เอาชนะ ชาลเก 2-1 เก็บชัยรักษาแต้มนำห่าง บาเยิร์น มิวนิก ที่วันนี้ชนะเนิร์นแบร์กไป 3-0 เป็น 9 แต้มตามเดิม,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น,ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ชนะ เอาก์สบวร์ก 1-0,ไฟร์บวร์ก ชนะ ไลป์ซิก 3-0,โวล์ฟบวร์ก เสมอ ฮอฟเฟนไฮม์ 2-2
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของการรับผิดชอบต่อสังคม นักร้องดังพันล้านวิว เบิ้ล
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของการรับผิดชอบต่อสังคม นักร้องดัง เบิ้ล ปทุมราช อาทิตย์ สมน้อย ที่เคยมีประวัติไปคลุกคลีกับ แมทธิว ดีน ซึ่งป่วยเป็นโควิด-19 เกือบมีดราม่าแรงๆ ชาวโซเซียลจับสังเกตได้ ถามหาความรับผิดชอบ ทำไมเบิ้ลถึงไม่ไปตรวจชัดๆ ไม่รีรอเบิ้ลจึงโร่ไปตรวจกับหมอแล้ว ผลตรวจชัดเจนนะ ตอนนี้ไม่ติดโควิด-19 แต่ด้วยสำนึกรับผิดชอบ เพื่อให้ชัวร์ๆ เบิ้ลจึงงดรับงาน กลับไปอยู่บ้านกับครอบครัวอบอุ่น ที่อำนาจเจริญ เรียบร้อยแล้วโดยล่าสุด เบิ้ลได้โพสต์ไอจี ไว้ว่า ร่างกายแข็งแรง การตรวจไม่พบเชื้อ ขอบพระคุณทุกๆ กำลังใจที่เป็นห่วงผมเสมอมา ไม่โกรธไม่ว่าไคร ที่ปล่อยข่าวไม่ดี และขอโทษ ช่วงที่มีรูปไม่ได้กักตัวเอง 1 วัน เพราะไปเตะบอล ผลออกมาผมไม่มีเชื้อ แต่ผมยังเก็บตัวรักษาสุขภาพต่อไป โดยคนสนิทสุดๆ ของโก้ กล่าวปลอบใจไว้ว่า ถือเป็นช่วงพักร้อนก็แล้วกัน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
คุณยายวัย 62 ปี จ.ชัยนาท ผ่านวิกฤตการณ์น้ำท่วมหนัก หลังน้ำลดระดับ รีบเดินลุยน้ำกลับบ้านนำภาพในหลวงแขวนที่เดิม หวังนอนมองประหนึ่งท่านไม่จากไปไหน พร้อมเผยความในใจ ไม่มีความเสียใจไหนทุกข์ระทมเท่านี้มาก่อน ขา-แขน อ่อนแรงไร้กำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ต.ค. 2559 ตรวจสอบระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนลดลงอยู่ที่ 15.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำมีการลดลงชั่วโมงละ 1-2 ซม. ตลอดเวลา เนื่องจากมีการรับ ส่ง และระบายอยู่ตลอดเวลา เพื่อรอมวลน้ำก้อนใหม่ที่กำลังจะมาถึงก่อนอที่จะระบายไม่ทัน ขณะที่ระดับระดับน้ำท้ายเขื่อนก็ลดลงมาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 14.98 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง,ส่วนอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,086 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยขณะนี้ระดับน้ำท้ายตลิ่งที่ลดลงมาทำให้ชาวบ้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ หมู่ 1 ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ที่ประสบกับปัญหาอุทกภัยมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ เริ่มทยอยขนของกลับเข้าบ้านเนื่องจากระดับน้ำเริ่มลดลงแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออกบ้านอยู่เช่นเคย,ขณะที่นางสมควร มหาภู่ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่ประสบปัญหาอุทกภัย ได้ทำการขนถุงยังชีพพระราชทาน ที่ได้รับมาจากที่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ในวันนี้ขึ้นบ้านพร้อมกับนำปฏิทินทั้งปีเก่าและปีใหม่ที่สะสมมาหลาย 10 ปี ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชขึ้นบ้านบนบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง หลังจากที่ต้องขนของไปไว้ในที่ปลอดภัยช่วงที่ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ,นางสมควร มหาภู่ กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยที่ต้องเผชิญ ยังไม่หนักเท่าการสวรรคตของพ่อหลวง ช่วงที่ได้รับฟังแถลงการณ์ มือเท้าสั่น ไม่มีแรงแม้แต่จะเดิน น้ำตาไหลพราก ซึมเศร้าอยู่หลายวัน จนบรรดาลูกๆ เริ่มสงสารจะพาไปหาหมอ แต่ก็บอกกับลูกๆ ว่าไม่เป็นไร แม่ยังไหว แค่ตอนนี้เสียศูนย์ เพราะสูญเสียพ่อหลวงที่เคารพรักมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งหลังจากที่สามารถเข้ามาอยู่ที่บ้านแล้วก็รีบเดินทวนน้ำ นำปฏิทินที่มีรูปในหลวงขนย้ายโดยการนำมาไว้บนเรือบ้าง ชูขึ้นเหนือศีรษะบ้าง เพื่อมาแขวนไว้บนบ้านให้เหมือนเดิม,เพราะก่อนหน้านี้เคยนอนมองรูปพ่อหลวงแล้วนอนหลับเป็นปกติ แต่วันนี้ไม่เหมือนเคย ไม่มีพ่อหลวงแล้ว นอนก็ไม่ค่อยหลับ จึงอยากรีบนำรูปกลับมาแขวนไว้ที่เดิม เสมือนว่าพ่อหลวงยังไม่ได้ไปไหน ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของครอบครัวตลอดไป.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
พบซากช้างสีดอ ตายกลางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไม่พบกระสุนปืน หรือวัถตุแปลกปลอม คาดถูกสัตว์มีพิษกัด ล้มป่วย หรือกินสารพิษ ส่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 มี.ค. นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบสุนัขลากชิ้นส่วนคล้ายเท้าของช้างออกมาจากป่ารุมแทะกิน และเมื่อเดินเข้าทำการตรวจสอบลึกเข้าไปในป่าบริเวณเทือกเขาหุบเต่า ห่างจากถนนสายหัวหิน-หนองพลับ ประมาณ 500 เมตร หลังหอสังเกตการณ์ช้างที่ 6 ใกล้กับอ่างเก็บนํ้าพุไทร หมู่ 1 บ้านเฉลิมพระเกียรติ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบซากช้างป่าขนาดใหญ่นอนตายอยู่,จากนั้นหลังได้เดินทาง พร้อมนายทัศเนศวร์ เพชรคง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และนายสมพร มีอิ่ม พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าเขตบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบซากช้าง ดังกล่าวในป่าละเมาะทึบ ซึ่งยังไม่ทราบเพศ สูงประมาณ 2 เมตร อายุประมาณ 10 ปี สภาพเป็นซากแห้งคาดว่าตายมาแล้ว 2-3 เดือน ส่งกลิ่นเหม็น เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ยังอยู่ครบถ้วน,นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องสแกนตามลำตัวของช้างเพื่อหาโลหะวัตถุ แต่ไม่พบ จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตัดเก็บชิ้นส่วนไปทำการตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ และจะได้ประสานไปยังสัตวแพทย์จากสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อมาทำการผ่าซากช้างพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียด ก่อนเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์,ด้านนายทัศเนาวร์ ระบุว่า ซากช้างดังกล่าวเรียกว่าช้างสีดอ เป็นช้างที่ไม่ทราบเพศ แต่มีงาขนาดเล็กที่เรียกว่า ขนาย เบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย สแกนร่างกายไม่พบกระสุนหรือวัตถุแปลกปลอมใดๆ คาดว่าอาจจะถูกสัตว์มีพิษกัด หรืออาจเจ็บป่วยอยู่ก่อนแล้วล้มตายลง รวมทั้งอาจกินสารพิษในพืชไร่ของชาวบ้านก็เป็นได้ โดยบริเวณที่พบซากช้างตายเป็นเส้นทางผ่านของช้างป่าละอู ที่มีอยู่ด้วยกันประมาณ 80 ตัว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาระบุว่า ที่ดินโครงการมูลแดนซ์ทั้งหมดกว่า 280 ไร่ อาจถูกเพิกถอนโฉนดที่ดิน หากไม่สามารถพิสูจน์เอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.ได้
หลังจากทหารกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโครงการมูนแดนซ์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่กว่า 280 ไร่ ซึ่งมีบ้านของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อยู่ในโครงการนี้ นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่โครงการทั้งหมดมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ตั้งแต่ปี 2519 และออกโฉนดเมื่อปี 2535 แต่ ส.ป.ก.ได้รับมอบพื้นที่เมื่อปี 2536 จึงถือว่าผู้ที่เข้ามาซื้อในโครงการได้ที่ดินมาโดยชอบตามกฎหมาย ซึ่ง ส.ป.ก.ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ แต่ในส่วนของการเดินสำรวจรังวัดออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก เมื่อปี 2519 จะมีความชอบตามกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งหากพบว่าไม่ชอบตามกฎหมาย ก็สามารถเพิกถอนโฉนดทั้งหมดได้ส่วนนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการมูนแดนซ์ ได้รับความเสียหายจากกรณีนี้ ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้องเจ้าของโครงการเอง และเจ้าของโครงการต้องไปหาหลักฐานเพื่อฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นทอดๆ ที่ออกเอกสารสิทธิ์ให้ขณะที่การตรวจสอบบริเวณที่ตั้งบ้านของนายสรยุทธ ซึ่งได้สร้างเขื่อนกั้นลำน้ำสาธารณะ นายไพโรจน์ สุคนธสาคร ปลัดเทศบาลตำบลหมูสี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเจ้าของโครงการไม่ได้ขออนุญาติก่อสร้าง และสร้างเขื่อนปิดกั้นลำน้ำสาธารณะจริง เทศบาลตำบลหมูสีเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการเช่นกัน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
หากพูดถึงสิ่งปลูกสร้างเพื่อระลึกถึงประชาธิปไตยในประเทศไทย หลายคนคงนึกถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลางถนนราชดำเนินแต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยลักษณะนี้อีกจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ
หากพูดถึงสิ่งปลูกสร้างเพื่อระลึกถึงประชาธิปไตยในประเทศไทย หลายคนคงนึกถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลางถนนราชดำเนินแต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยลักษณะนี้อีกจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ บางแห่งถูกสร้างขึ้นก่อนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่เป็นที่รู้จักกันในกรุงเทพมหานครเสียอีกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ราชดำเนินสร้างในปี 2482 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองถึง 7 ปี อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในจังหวัดมหาสารคามสร้างในปี 2477 จังหวัดสุรินทร์และร้อยเอ็ดสร้างในปี 2479 นอกจากนี้ยังปรากฏอนุสาวรีย์ที่มีพานรัฐธรรมนูญเช่นนี้ในจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา อุดรธานี รวมไปถึงภาคอื่นๆ เช่น สมุทรสาคร ปัตตานี อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือ ราษฎรธิปไตย : การเมือง อำนาจ และทรงจำของ(คณะ)ราษฎร ระบุว่าการสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในภาคอีสานสะท้อนภาพปฎิสัมพันธ์ระหว่างคนในท้องถิ่นกับระบอบการเมืองรูปแบบใหม่ในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ทำให้เห็นว่าไม่เพียงแต่ผู้แทนราษฎรจากภาคอีสานจะมีบทบาทโดดเด่น แต่ประชาชนในภาคอีสานยังมีความตื่นตัวทางการเมืองสูงมากอีกด้วยโดยเฉพาะอนุสาวรีย์ที่จังหวัดสุรินทร์และร้อยเอ็ดเกิดจากความร่วมไม้ร่วมมือระดมทุนของคนในท้องถิ่น เช่น ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชนทั่วไปที่ต้องการอนุสรณ์เพื่อเป็น หมุดหมาย ของระบอบใหม่ในท้องถิ่นของพวกเขาความตื่นตัวทางการเมืองของคนในท้องถิ่นทำให้เหล่าข้าหลวงจังหวัดและข้าราชการต้องไปชี้แจงเรื่องราวต่างๆ หนังสือ ราษฎรธิปไตย บรรยายว่า ระบอบใหม่ให้ความสำคัญกับราษฎรด้วยการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการต้องออกไปหาราษฎรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจในการปกครองระบอบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลัก 6 ประการของคณะราษฎร และรัฐธรรมนูญความพยายามในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบอบใหม่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างอนุสาวรีย์ ในปี 2477 รัฐบาลยังได้ทำรัฐธรรมนูญฉบับจำลองส่งไปทุกจังหวัดอีกด้วยรัฐธรรมนูญจำลองนี้มีลักษณะเป็นสมุดไทยวางบนพานแว่นฟ้าเหมือนฉบับจริง ปัจจุบันทราบว่ายังหลงเหลืออยู่ที่จังหวัดเลย ตรัง ระนอง และลำปาง ส่วนจังหวัดอื่นยังไม่ได้ข่าวคราว ปลัดอำเภอเมืองเลย ให้ข้อมูลว่า รัฐธรรมนูญจำลองของจังหวัดเลยเก็บรักษาอยู่ในห้องทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่มีใครสนใจมันนักและมักคิดว่าเป็นพระไตรปิฎก แต่เขาคิดว่าไม่ใช่จึงไปตรวจสอบดูรัชนาทกล่าวว่า รัฐธรรมนูญเหล่านี้เท่าที่พบมักอยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่ที่จังหวัดเลยมีสภาพสมบูรณ์มาก ผู้ว่าฯ ได้บอกตนให้เอาไปทำอะไรก็ได้ให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ตนจึงติดต่อพิพิธภัณฑ์จังหวัดเลยซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อนำไปจัดแสดงไม่นานมานี้เขาเพิ่งได้รับการตอบรับจากทางอบจ. โดยอบจ.บอกว่าจะนำไปจัดแสดงในห้องที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ แต่รัชนาทแย้งไปว่าน่าจะเป็นหมวดการเมืองการปกครองมากกว่าตัวอย่างความพยายามอธิบายระบอบใหม่ในอีสานมีหลายช่องทาง ช่องทางหนึ่งคือ คำกลอน ขุนพรมประศาสน์ (วรรณ พรหมสิกร) นายอำเภอในจังหวัดอุบลราชธานีได้เผยแพร่หนังสือคำกลอนภาษาอีสานเรื่อง เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง คำกลอนภาษาไทยภาคอีสาน ในเดือนตุลาคม 2475 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเพียง 4 เดือน และเผยแพร่ คำกลอนพากย์อีสานบรรยายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม ในปี 2478 เพื่อช่วยคณะราษฎรเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองและระบอบใหม่ที่เน้นความเสมอภาคของราษฎรนอกจากนี้ในปี 2476 เกิดเหตุการณ์กบฏบวรเดช ในพื้นที่ภาคอีสานมีความตื่นตัวทางการเมืองสูงมากทั้งในฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กับคณะราษฎร ศรัญญูตั้งข้อสังเกตว่า แม้กองกำลังทหารจากหัวเมืองและฐานที่มั่นของฝ่ายกบฎจะมาจากภาคอีสาน เนื่องจากพระองค์เจ้าบวรเดชเคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพที่นครราชสีมาและมีนายทหารจำนวนไม่น้อยเคารพยำเกรง แต่พลเมืองในภาคอีสานกลับสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญในจังหวัดขอนแก่น ทั้งข้าราชการและพลเมืองชาวขอนแก่นได้จัดตั้งกองกำลังอาสาสมัครต่อต้านฝ่ายกบฎเพื่อไม่ให้ฝ่ายกบฎเข้ายึดเมืองขอนแก่นเป็นที่มั่นในการต่อต้านรัฐบาล ขณะที่ในจังหวัดมหาสารคาม พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพย์สาร) ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ส่งตำรวจและลูกเสืออาสาออกไปช่วยป้องกันรักษาเมืองพร้อมจับกุมทหารฝ่ายกบฏที่พ่ายแพ้ฝ่ายรัฐบาลแล้วหนีมาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามอีกด้วยอนุสาวรีย์เทอดรัฐธรรมนูญ ในจังหวัดมหาสารคาม สร้างขึ้นในปี 2477 ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญแห่งแรกในประเทศไทย และมีประวัติการก่อสร้างที่ชวนประหลาดใจศรัญญูเล่าว่า การสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์กบฏบวรเดชซึ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2476 และยังเกี่ยวพันกับความวุ่นวายในจังหวัดมหาสารคามหลังเหตุการณ์กบฏบวรเดชที่เรียกกันว่า กบฏผีบุญหรือกบฏผู้มีบุญ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกลางที่กรุงเทพฯ ในช่วงปี 2476 – 2477 อีกด้วยหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบเหล่านี้ยุติลง หลวงอังคณานุรักษ์ (สมถวิล เทพาคำ) ข้าหลวงประจำจังหวัด (ชื่อเรียกตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้น) จึงเห็นว่าประชาชนในพื้นที่จำนวนมากยังไม่เข้าใจการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญ เพราะยังเชื่อฟังคำทำนายของผู้นำกบฏผีบุญที่มักอ้างว่าตนเป็นผู้วิเศษ หลวงอังคณานุรักษ์จึงพยายามที่จะปลูกฝังให้ชาวมหาสารคามรู้จักระบอบใหม่มากขึ้นด้วยการเสนอให้กรมการจังหวัดสร้างอนุสาวรีย์เทอดรัฐธรรมนูญ ตลอดจนจัดการประกวดกลอนลำเทิดรัฐธรรมนูญและขบวนแห่รัฐธรรมนูญ เพื่อสื่อสารเรื่องของระบอบใหม่ในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ความน่าสนใจก็คือ มันไม่ได้เกิดจากความริเริ่มของกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ แต่เกิดมาจากความริเริ่มของข้าหลวงประจำจังหวัดร่วมมือกับข้าราชการประจำจังหวัด แล้วก็บรรดาพ่อค้า ประชาชน ร่วมกันลงขันสร้างแลนด์มาร์กขึ้นมา ศรัญญูกล่าวจนถึงปัจจุบันอนุสาวรีย์ที่สุรินทร์ก็ยังมีรายชื่อของผู้ร่วมบริจาคสร้างอนุสาวรีย์ปรากฏอยู่ที่ตัวฐาน อาจารย์ประจำคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฎสุรินทร์ และเป็นชาวสุรินทร์โดยกำเนิด กล่าวว่าเงินบริจาคที่รวบรวมได้ในการสร้างอนุสาวรีย์มีประมาณ 900 บาทซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะในสมัยนั้นไม่เพียงเท่านั้น รอบตัวอนุสาวรีย์ยังมีเสา 6 ต้นที่มีข้อความจารึกเป็นหลัก 6 ประการของคณะราษฎรอันได้แก่ เอกราช ปลอดภัย เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ การศึกษา หลัก 6 ประการนี้ก็เป็นแนวคิดที่ถูกสะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมสมัยคณะราษฎรอีกหลายแห่งในกรุงเทพฯ เช่นกันอย่างไรก็ดี แม้ว่าตัวอนุสาวรีย์จะยังอยู่ในสภาพเดิมและยังคงตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ 1 ในเสาทั้ง 6 ที่เคยสลักคำว่า เศรษฐกิจ กลับถูกเปลี่ยนเป็นคำว่า ความสามัคคี และยังมีการนำโซ่เหล็กมาล้อมรอบตัวอนุสาวรีย์อีกด้วย โดยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงวันเวลาและการเปลี่ยนคำดังกล่าวรูปพานรัฐธรรมนูญที่เราคุ้นเคยกันนั้น นอกจากจะปรากฏอยู่บนอนุสาวรีย์แล้วยังไปปรากฏอยู่ที่อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บนหน้าบันวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง บนหน้าปกสมุดของนักเรียน ไปจนถึงตราเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นรูปศาลหลักเมือง ส่วนตราเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ยังคงมีรูปพานรัฐธรรมนูญปรากฏอยู่จนปัจจุบัน อาจารย์ประจำภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.มหาสารคาม โชว์สมุดจดของนักเรียนสมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายเล่ม หน้าปกของสมุดจดเหล่านี้ต่างมีตราสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญไปจนถึงภาพสะท้อนค่านิยมการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่รัฐบาลภายใต้ระบอบใหม่ต้องการให้ประชาชนรับไปใช้พอมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มันคือการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ที่สำคัญของการปกครองด้วย พานรัฐธรรมนูญเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่รัฐบาลต้องการให้ชาวบ้านรู้จัก ว่าเรามีระบอบใหม่และมีสัญลักษณ์ใหม่แล้ว การจะทำให้สิ่งใหม่เป็นที่จดจำก็คือการนำสัญลักษณ์นั้นไปใช้หรือไปปรากฎตามที่ต่างๆ แม้แต่แบบเรียนก็จะมีพานรัฐธรรมนูญปรากฎอยู่ ประทีปอธิบายส่วนการที่พานรัฐธรรมนูญไปปรากฏอยู่บนหน้าบันอุโบสถวัดต่างๆ นั้น ประทีปอธิบายว่าเป็นการตอบรับของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการแสดงออกว่าตนมีความทันสมัยและรับรู้เรื่องระบอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ประทีปมองว่าการที่ภาพจำของประชาธิปไตยเป็นภาพพานรัฐธรรมนูญก็มีปัญหาในตัวเองเช่นกัน เนื่องจากภาพมักไม่นำไปสู่หลักการของระบอบประชาธิปไตย(พานรัฐธรรมนูญ)มันถูกใช้มาตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นสัญลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่ยังจำได้ ปัญหาคือเวลาเรานึกถึงประชาธิปไตยแล้วเรามองภาพรัฐธรรมนูญ มันเหมือนกับนึกภาพแล้วจบ ไม่รู้ความหมายที่วิ่งไปต่อคืออะไร หลักการประชาธิปไตยคืออะไร มันไม่ได้นึกต่อได้จากการเห็นพานรัฐธรรมนูญ ผมเลยคิดว่ามันมีข้อจำกัดและเป็นปัญหาอยู่เหมือนกัน ประทีปกล่าวในภาพรวมของอนุสาวรีย์ตามจังหวัดต่าง ๆ ศรัญญูตั้งข้อสังเกตว่า ที่ตั้งของมันมักอยู่ใจกลางเมืองและอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนเข้าถึงได้ เช่น บริเวณศาลากลางจังหวัด ในกรณีของมหาสารคามก็อยู่ที่ศาลากลางจังหวัดก่อนย้ายไปอยู่ในบริเวณของเทศบาลเมืองมหาสารคาม ในจังหวัดสุรินทร์ก็อยู่ในศาลากลางจังหวัด กรณีของบุรีรัมย์อยู่กลางวงเวียนใกล้ตลาดก่อนจะถูกทุบทำลาย ในกรณีของจังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในสวนสาธารณะเกาะกลางบึงพลาญชัยพื้นที่เหล่านี้ผู้คนสามารถเข้าไปใช้ได้ในฐานะพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่จัดงานรื่นเริงหรือจัดกิจกรรม เช่นในงานฉลองรัฐธรรมนูญหรืองานฉลองวันชาติ ซึ่งถือเป็นงานรื่นเริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยคณะราษฎร เริ่มจัดครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 เมื่อครั้งประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรภายในงานมีกิจกรรมออกร้าน การประกวด มหรสพต่างๆ และการออกสลากกินแบ่ง งานนี้เริ่มจัดในเขตพระนครก่อนจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ เมื่อมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับจำลองแจกจ่ายไปทั่วประเทศ โดยในต่างจังหวัดก็มักมีการอัญเชิญรัฐธรรมนูญฉบับจำลองแห่ไปรอบเมืองก่อนจะนำมาประดิษฐานในโรงพิธี พร้อมจัดพิธีสมโภชและจัดกิจกรรมรื่นเริง นอกจากนั้นยังมีการแสดงปาฐกถาของบุคคลสำคัญ เช่นข้าหลวงจังหวัด ผู้แทนราษฎร และผู้พิพากษาอีกด้วย ศรัญญูเสนอว่า นี่คือความพยายามในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจสาระของรัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบใหม่ให้แก่พลเมืองอย่างไรก็ตาม เมื่อคณะราษฎรหมดอำนาจไป งานฉลองรัฐธรรมนูญก็ถูกลดความสำคัญและหายไป ปัจจุบันมีเพียงจังหวัดตรังแห่งเดียวที่ยังจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญอยู่ ส่วนในจังหวัดอื่นมันได้แปลงร่างเป็นงานกาชาดไปจนหมดแล้วเมื่อไม่มีงานรื่นเริงหรือพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ ความผูกพันระหว่างคนในพื้นที่กับอนุสาวรีย์เหล่านี้ก็เริ่มแห้งเหือดไป ตัวอนุสาวรีย์เริ่มไร้พลังเชื่อมโยงคนในท้องถิ่นเข้ากับระบอบใหม่ เมื่อไม่มีบทบาทอยู่ในชีวิตผู้คน ท้ายที่สุดคนในท้องถิ่นก็ค่อยๆ ลืมว่าอนุสาวรีย์เหล่านี้เคยมีความสำคัญอย่างไร กระทั่งลืมไปว่ามีมันอยู่ จึงเป็นการง่ายมากที่จะเคลื่อนย้าย แทนที่ ทุบทำลาย จนไม่เหลือสภาพเดิมในหลายจังหวัดในด้านหนึ่งมันเป็นการเมืองเรื่องของความทรงจำด้วย เพราะเมื่อคนในท้องถิ่นไม่เห็นความสำคัญ หรือว่าข้าราชการท้องถิ่น ข้าราชการระดับจังหวัดไม่เห็นความสำคัญ มันก็ค่อยๆ ถูกลดทอน บางที่อนุสาวรีย์ถูกย้ายออก แล้วตั้งเป็นอนุสาวรีย์ใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งสัมพันธ์กับอุดมการณ์ชุดใหม่ที่เข้ามาแทนที่อุดมการณ์แบบรัฐธรรมนูญหรือแบบคณะราษฎร ศรัญญูกล่าวปัจจุบันมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในภาคอีสานหลงเหลือเพียง 5 แห่งเท่านั้น คือ มหาสารคาม สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิหากมองในภาพรวมของพื้นที่ตั้ง ตัวอนุสาวรีย์ของจังหวัดสุรินทร์ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งใกล้กับรั้วริมถนน ห่างไกลจากตัวอาคารศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เรียกว่าเป็นตำแหน่งที่แทบจะไม่ได้รับความสำคัญ มีสภาพทรุดโทรม ต้นโพธิ์ต้นเล็กงอกอยู่บนตัวพานรัฐธรรมนูญ เทียบกับอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่หน้าอาคารศาลากลางคล้ายกับที่มหาสารคาม ตัวอนุสาวรีย์ถูกย้ายไปอยู่ที่เทศบาลเมืองมหาสารคามเดิม ขณะที่ศาลากลางเก่ากลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ด้านหน้าอาคารมีอนุสาวรีย์สร้างใหม่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรถึงอย่างนั้น พลังทางการเมืองของอนุสาวรีย์ดังกล่าวก็ไม่ได้หมดไปเสียทีเดียว พงษ์พันธ์ระบุว่าอนุสาวรีย์พานรัฐธรรมนูญที่สุรินทร์ยังถูกใช้เป็นที่แสดงออกทางการเมืองร่วมสมัยของหลายฝ่าย เช่น กลุ่มที่เรียกตนเองว่ากลุ่มคณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดสุรินทร์ ไม่เว้นแม้แต่ฝ่าย กปปส.มันมีการแชร์ความทรงจำร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของประชาธิปไตยอยู่ ทั้งสองฝ่ายใช้พื้นที่นั้นในการแสดงออกว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ในแง่หนึ่ง ถ้ายังคงยึดโยงกับความเป็นประชาธิปไตยอยู่ พื้นที่ตรงนั้นก็จะยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ พงษ์พันธ์กล่าวอย่างไรก็ดี จังหวัดสุรินทร์จะมีโครงการย้ายศาลากลางจังหวัดออกไปนอกตัวเมืองในเร็วๆ นี้ และพงษ์พันธ์ยังหวังว่าอนุสาวรีย์จะไม่ถูกเคลื่อนย้ายหรือทำลายมันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่คนสุรินทร์รู้จัก มีความภาคภูมิใจในการสร้าง ถ้าถามคนสุรินทร์ เขาจะภูมิใจว่าตัวอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นก่อนกรุงเทพฯ เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความตื่นตัวทางการเมือง ความชื่นชอบในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของคนสุรินทร์ การที่มันอยู่ที่เดิมตั้งแต่เริ่มน่าจะมีความศักดิ์สิทธิ์ และขลังมากกว่าการเอาไปที่อื่น พงษ์พันธ์กล่าวหนึ่งในอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญที่สูญหายไปในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็คือ อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญจังหวัดบุรีรัมย์ มันเคยตั้งอยู่ในวงเวียนกลางสามแยกหน้าทางเข้าศาลากลางจังหวัดเดิม แต่ถูกรื้อถอนไปในเดือนพฤศจิกายน 2557 ทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ระบุเหตุผลว่าเป็นการรื้อถอนเพื่อแก้ปัญหาการจราจร เจ้าของร้านหนังสือน้ำพุในเมืองบุรีรัมย์ ผู้สนใจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและภาพถ่ายเก่า เล่าว่า อนุสาวรีย์ถูกเคลื่อนย้ายเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนย้ายครั้งที่ 2 หลังจากตัวฐานที่เป็นเสาทรงกลมถูกรื้อเพื่อเปลี่ยนเป็นแท่งคอนกรีตลายธงชาติในช่วงปี 2528 – 2532 เวลาไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดวิวัฒน์กล่าวว่า ถึงแม้คนในพื้นที่จะทราบมาก่อนบ้างแล้วว่าจะมีการรื้อถอนวงเวียนรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีใครได้เบาะแสว่าจะรื้อเมื่อไร จนเกิดการรื้อถอนขึ้น และด้วยเหตุที่อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนถนนจิระซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของเมือง ผู้คนที่สัญจรไปมาจึงสังเกตเห็นได้ง่าย มีการถ่ายภาพและวิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียลมีเดียอย่างมาก ทางเทศบาลจึงได้ติดป้ายประกาศว่าเหตุที่รื้อวงเวียนรัฐธรรมนูญออกเพื่อติดตั้งสัญญาณไฟจราจรดิจิทัล พร้อมทั้งยืนยันว่าพานรัฐธรรมนูญเดิมจะถูกนำไปติดตั้งบนฐานใหม่บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่าศรัญญูระบุว่า เคยมีการนำตัวพานรัฐธรรมนูญไปติดตั้งบนฐานใหม่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเดิมจริง แต่ถูกรื้อออกเมื่อมีการสร้างพระเมรุมาศจำลองในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ในช่วงเดือนตุลาคม 2560 และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการสร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญใหม่แต่อย่างใดขณะที่ประชาไทได้ติดต่อไปทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ แต่ไม่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจากปากนายกเทศมนตรีได้ในภาคประชาชนเราไม่ได้ข่าว เรามีแต่คำพูด ระแคะระคายว่าจะมีการรื้อ ส่วนรื้อแบบไหน โดยใคร ยังไงเราไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปคัดค้านยังไง และต้องยอมรับว่าประชาชนไม่มีการรวมตัวกันเป็นองค์กร ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร วิวัฒน์กล่าวเมื่อถามประชาชนในตึกแถวใกล้สามแยก ทุกคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ทราบมาก่อนว่าในวันนั้นจะมีการรื้อวงเวียน มารู้เอาในตอนเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 หลายคนรู้สึกตกใจ เนื่องจากทำมาหากินอยู่บริเวณนั้นและมองเห็นมันจนชินตา บางรายเห็นด้วยกับเหตุผลของเทศบาล เพราะบริเวณดังกล่าวมีปัญหาจราจรจริง และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยอนุสาวรีย์คือสัญลักษณ์ของการปกครองของเรา เมื่อเราเปลี่ยนจากระบอบกษัตริย์มาเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ ชาวบ้านก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือตัวแทนของการปกครอง สมัยก่อนอ้างอิงกษัตริย์ อ้างอิงในหลวง แต่เมื่อเป็นระบบการเลือกตั้งมันจะไปอ้างอิงใคร ก็ต้องถือว่าสิ่งที่ใหญ่ที่สุดคือรัฐธรรมนูญ เป็นสัญลักษณ์ของการปกครอง วิวัฒน์กล่าวไม่ต้องพูดถึงในแง่การปกครอง เวลามีคนมาเยี่ยมมันเป็นแลนด์มาร์กที่เราจะนัดกันง่ายที่สุด ถ้าเรามองในแง่ประวัติศาสตร์ก็ยิ่งเห็นความสำคัญของมัน สร้างปี 2477 แล้วก็มีการรื้อถอนปี 2557 วัตถุต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาในบ้านเมือง ถ้ามีอายุ 80 ปีก็ถือว่าเป็นของเก่า มันมีความหมายทางประวัติศาสตร์ด้วย ทางการเมืองด้วย วิวัฒน์กล่าวน่าดีใจอยู่ไม่น้อยเมื่อในที่สุด ก็ตามเจอชิ้นส่วนของพานรัฐธรรมนูญของบุรีรัมย์ มันยังอยู่แม้จะอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ เจ้าของเพจเป็นผู้ถ่ายรูปไว้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 แล้วนำมาขึ้นเพจ โดยยืนยันว่า การรื้อถอนไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง และกล่าวตรงกันกับศรัญญูถึงเหตุผลที่อนุสาวรีย์เจ้ากรรมถูกรื้ออีกหนหลังไปอยู่หน้าศาลากลางเก่าแล้วไม่กี่ปีก่อน สามแยกหน้าศาลากลางเก่าเมืองบุรีรัมย์นั้น มีวงเวียนพานรัฐธรรมนูญอยู่ แต่เมื่อรถในเมืองบุรีรัมย์มากขึ้น การจราจรเริ่มแออัด ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดบุรีรัมย์เห็นว่า การมีอยู่ของวงเวียนนั้น ทำการจราจรติดขัดเลยรื้อออก ต่อมามีการสร้างใหม่เลียนแบบสมัยแรกสร้าง โดยตั้งไว้ลานหน้าศาลากลางเก่า พอปลายปี 61 มีการสร้างพระเมรุมาศจำลอง ที่ลานหน้าศาลากลางเก่า รัฐธรรมนูญและพานก็ดันอยู่ขวางลานพิธีอีก ก็เลยได้ย้ายและไม่ได้รับการติดตั้งที่ไหนอีก วันนี้มีโอกาสเลยได้แว่บไปตามหา ดีใจที่มันยังอยู่ฮะ- - - - - - - -ทั้งหมดนี้คือช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยที่ถูกหลงลืมทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถาวรวัตถุซึ่งซุกซ่อนอยู่ในซอกหนึ่งซอกใดของจังหวัดต่างๆ อาจเชื่อมโยงเราไปสู่จุดตั้งต้นที่ทำให้ลูกหลานตาสียายสาทั้งหลายได้เชิดหน้าชูตาอย่างเท่าเทียม บางที อาจต้องเป็นพวกเราเองที่จะเริ่มต้นตามหาสิ่งเหล่านี้ในท้องถิ่นที่อยู่และทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพื่อให้ความทรงจำและสำนึกประชาธิปไตยได้ดำเนินต่อไปอย่างมั่นคง
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปิกอัพขนแรงงานกัมพูชา รับจ้างพาไปส่งชายแดนสระแก้ว เพื่อให้ข้ามด่านกลับประเทศ ยางระเบิดเสียหลักพลิกคว่ำที่ปราจีนฯ ดับ 4 เจ็บ 19 ส่วนโชเฟอร์ หลบหนีไปในความมืด
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 58 ร.ต.อ.สหวัสส์ ดาทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังตะเคียน จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ปิกอัพประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณหลัก กม.ที่ 36 หมู่ที่ 9 ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสัจจพุทธรรมกบินทร์บุรี รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า แค็บ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผพ 8017 ชลบุรี ตะแคงอยู่บนไหล่ทางด้านซ้าย สภาพยางหลังซ้ายแตกระเบิด เหลือแต่ขอบกระทะ ส่วนด้านหน้ารถหลังคายุบ กระจกแตก ภายในรถและบริเวณถนนพบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บที่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี พร้อมวิทยุขอรถสนับสนุนมารับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และจากการตรวจที่เกิดเหตุ ห่างจากตัวรถไปประมาณเกือบ 100 เมตร พบผู้เสียชีวิตเป็นชายและเด็กชายชาวกัมพูชา อยู่ในร่องกลางถนน จำนวน 2 ราย ,ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยว่า ขณะที่ลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยัง รพ.กบินทร์บุรี ได้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มอีก 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย รวมทั้งหมด เสียชีวิต 4 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา,จากการสอบสวนทราบว่า รถคันก่อเหตุ เป็นที่รู้จักของแรงงานชาวกัมพูชา ถ้าใครจะเดินทางกลับประเทศก็จะติดต่อกับโชเฟอร์ให้ไปรับตามจุดหมายที่นัดพบ ในราคาคนละ 1,500 บาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าวได้ตระเวนรับชาวกัมพูชา ตั้งแต่กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ โดยได้ผู้โดยสารมาทั้งหมด 27 คน ขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสระแก้ว โดยใช้เส้นทางสระแก้วตัดใหม่ ปราจีนบุรี – สระแก้ว ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ ล้อยางหลังซ้ายระเบิด ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ส่งผลให้แรงงานชาวกัมพูชาในรถกระเด็นออกจากตัวรถไปคนละทิศคนละทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย เป็นชาย 3 ราย เด็กชาย 1 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวน 19 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 8 ราย และเด็กหญิง 1 ราย สำหรับผู้โดยสารที่เหลือไม่ได้รับบาดเจ็บ ได้วิ่งหลบหนีเข้าป่า เนื่องจากกลัวเจ้าหน้าที่จับกุมและดำเนินคดี ส่วนโชเฟอร์ได้อาศัยความชุลมุนหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัวโชเฟอร์มาดำเนินคดีต่อไป,ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า โชเฟอร์คันดังกล่าวขับรถมาด้วยความเร็วสูง เพราะต้องการทำเวลาให้ถึงจุดหมายตามเวลาก่อนสว่าง แต่ยังไม่ถึงจุดมุ่งหมาย ยางรถมาเกิดระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กมธ.สอบประวัติฯ วุฒิสภา ขอประชาชนส่งข้อมูลร่วมตรวจสอบประวัติ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้
สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับมอบหมายจากวุฒิสภาให้มีการตรวจสอบประวัติ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ในการแจ้งข้อมูลข้อเท็จจริงหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง นายบรรจงศักดิ์ เพื่อประกอบการตรวจสอบดังกล่าวโดยสามารถส่งข้อมูลให้ประธานกมธ.ฯ ที่ตู้ ปณ. 45 ปณฝ. รัฐสภา กรุงเทพฯ 10305 หรือที่สำนักกำกับและตรวจสอบ สำงานเลขาธิการวุฒิสภา เลขที่ 499 อาหารสุขประพฤติ ชั้น 20 ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 หรือ http:/www.senate.go.th ภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรจงศักดิ์ จบการศึกษาปริญญาตรีศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) ม.เชียงใหม่ ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) ม.รามคำแหงการทำงาน เคยดำรงตำแหน่งแรงงานและสวัสดิการสังคมจังหวัด และผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กระทรวงแรงงาน ก่อนมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองชั้นต้นเมื่อ ปี 2544 จากนั้นดำรงตำแหน่งตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้น ปี 2552 และดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด ปี 2555 กระทั่งรับดำรงตำแหน่งตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ปี 2561
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมป่าไม้-กรมอุทยานฯ ระดมทีมเหยี่ยวไฟ เสือไฟกว่า 200 คน ลงพื้นที่ดับไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช หลังพบแค่ 7 เดือนเกิดไฟไหม้ 88 ครั้งป่าเสียหาย 4968ไร่ ระบุต้นเหตุชัดเจนฝีมือคนเผาขยายพื้นที่การเกษตร หาปลาในป่าพรุ เล็งเอาผิดคนลักลอบเผาโทษสูงสุด
ปัญหาไฟไหม้พรุควนเคร็ง ถึง 88 ครั้งในเวลาแค่ 7 เดือน มีพื้นที่เสียหายรวม 4968ไร่ มีการตั้งข้อสังเกตตรงกันว่าไม่ปกติข้อมูลพบว่า ป่าพรุควนเคร็ง ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดําริ มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 165825.50 ไร่ ประกอบด้วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 2 แห่ง คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และพื้นที่เตรียมการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ และป่าสงวนแห่งชาติ 4 ป่าคือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านในลุ่ม-ป่าบ้านกุมแป ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองค๊อง ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม และป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทรายและป่ากลอง ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดคือ สงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราชวันนี้ (1 ส.ค.2562) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ ของกรมป่าไม้ และชุดปฏิบัติการพิเศษเสือไฟ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กว่า 200 นายลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมทั้งตั้งศูนย์อำนวยการร่วมระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เป็นประธาน และจะเฝ้าระวังในพื้นที่จนกว่าจะคลี่คลายภาพรวมตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ โดยกรมป่าไม้ ตีวงรอบนอกพื้นที่เขตกันชน ไม่ให้เกิดปัญหากับบ้านเรือนของชุมชนรอบพื้นที่ป่า ส่วนของกรมอุทยานฯ ควบคุมพื้นที่ชั้นใน แต่ต้องเฝ้าระวังเพราะการดับไฟในป่าพรุค่อนข้างดับยาก และพื้นที่ใต้ดินมองไม่เห็น ต้องควบคุมพื้นที่ไม่ให้ไฟลุกลามโดยต้องพยายามระบายน้ำเข้าพื้นที่นายอรรถพล กล่าวว่า ประกอบกับในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค.ทุกปีเป็นช่วงหน้าแล้งของทางภาคใต้ น้ำในพรุ เป็นช่วงที่น้อยแทบไม่มีน้ำในพรุ ซึ่งการสำรวจพื้นที่บางจุดพบว่ามีการทำคันกั้นน้ำไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในป่าได้ทั้งนี้กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงมาตรการให้เอาผิดผู้ที่จุดไฟเผาป่าโดยให้ประชาชนแจ้งเบาะแส และการลักลอบบุกรุกพื้นที่ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับผู้ที่เผาป่าในเขตภาคเหนือถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายทางอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี และมีโทษปรับตั้งแต่ 20000-2000000 บาท หรือมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งอีกด้วยภาพรวมหากเทียบกับปัญหาไฟไหม้พรุควนเคร็ง ในปี 2555 ที่เคยมีไฟไหม้ป่าพรุ129 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 12179 ไร่ แต่จากสถิติการเผาป่าพรุควนเคร็งเพียงช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 ที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครศรีธรรมราช รายงาน พบไฟป่า 88 ครั้ง พื้นที่ 4968 ไร่นายอิศเรศ จิระรัตน์ หัวหน้าชุดปฎิบัติการดับไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) กรมป่าไม้ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งเกิดมาจากภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ซึ่งพื้นที่หัวไทร ชะอวด โดยพื้นที่โดยรอบป่าพรุควนเคร็งฝนไม่ตกมาเป็นเวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ ลักษณะคล้ายกับปี 2554 ที่มีภาวะภัยแล้ง และเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่เสียหายป่าพรุกว่า 20000 ไร่ ซึ่งภาวะภัยแล้งทำให้ระดับน้ำในป่าพรุแห้งขอด น้ำส่วนหนึ่งไหลลงคลองที่ระบายสู่ทะเล ประกอบกับพื้นที่โดยรอบป่าพรุที่มีการปลูกพิชเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้องการน้ำเยอะเมื่อชาวบ้านขุดคลองบริเวณโดยรอบป่าพรุจึงทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงพรุแห้งขอดลงเพราะน้ำถูกนำไปใช้ในสวนปาล์มขณะที่สาเหตุของการเกิดไฟป่ามาจาก 4 สาเหตุ คือ 1.การจุดไฟเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า เช่น การหาน้ำผึ้ง เนื่องจากน้ำผึ้งจากป่าเสม็ดเป็นที่ต้องการของชาวบ้านจึงทำให้นิยมเข้ามาหาน้ำผึ่งโดยมีอุปกรณ์จุดไฟที่เรียกว่า หัวหมี เมื่อชาวบ้านได้รังผึ้งบางส่วนก็จะทิ้งหัวหมีไว้ในพื้นที่ทำให้เกิดไฟไหม้2.การหาปลา บริเวณป่าพรุจะมีคลองไส้ไก่ หรือแหล่งน้ำเมื่อน้ำแห้ง ชาวบ้านก็จะหาปลาและอาจมีการก่อไฟเพื่อประกอบอาหารและอื่น ๆ จนทำให้เกิดไฟไหม้ 3.การทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟไหม้เข้าสู่พื้นที่ตนเองแต่ทำให้ไฟได้ลุกไหม้ในพื้นที่ป่าพรุ และ 4.ความคึกคะนองทั้งนี้ ด้วยลักษณะของป่าพรุที่มีต้นเสม็ด และใบไม้ที่ทับถมจนลึกจึงทำให้เมื่อเกิดไฟไหม้ที่ไหม้ทั้งบริเวณผิวดิน และพื้นที่ตรงกลางจึงยังคงมีเชื้อไฟที่พร้อมจะกลับมาปะทุได้ ซึ่งในปีที่ฝนตกตามปกติ มีน้ำหล่อเลี้ยงในป่าพรุ ก็จะไม่เกิดเหตุไฟไหม้ และหากพบภาวะเอลนิโญ หรือแล้งก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ได้นายอิศเรศ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เสือไฟ เหยี่ยวไฟ และหน่วยงานต่างๆเข้ามาบูรณาการช่วยดับไฟในพื้นที่ทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทหาร โดยเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.- 1 ส.ค.โดยพื้นที่เกิดไฟไหม้กว่า 100 ไร่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่โดยรอบไม่ให้ลุกลามเพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังเตรียมมาตรการดำเนินคดีกับชาวบ้านหากเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุ หรือใกล้เคียงกับชาวบ้าน เพราะส่วนหนึ่งไฟไหม้เกิดจากการทำแนวกันไฟและการขยายพื้นที่เกาตรของชาวบ้านป่าพรุเป็นป่าที่ดับไฟได้ยาก เพราะลักษณะของป่าพรุที่มีต้นไม้คล้ายกันอาจหลงทาง และอาจมีหลุมซึ่งข้างใต้เป็นถ่าน หรือไฟที่ยังไม่ดับซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง การจะดับไฟจึงต้องดับในช่วงกลางวัน ขณะที่ในช่วงกลางคืนไม่สามารถปฏิบัติงานอาจเพราะมีความเสี่ยงสูงขณะที่การดับในช่วงกลางวันก็จะต้องเผชิญกับควันที่มากเพราะเชื้อเพลิงมีความชื้น ควันจะหนากว่าป่าที่แห้งสอดคล้องกับรายงานวิจัยของ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ระบุว่าจากสถิติการเกิดไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งตั้งแต่ปี พ.ศ.2549-2555 เกิดขึ้นมาจากบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่เกษตรกรรมกับพื้นที่ป่าแล้วลุกลามเข้าป่าภายในพรุ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังในบริเวณพื้นที่รอยต่อเหล่านี้อย่างเข้มข้นผลการศึกษาพบว่า ดินพรุในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง มีความลึกโดยเฉลี่ย 0.78 เมตร ซึ่งความลึกสูงสุดของพรุที่วัดได้ 3.10 เมตร โดยปริมาณซากพืชและความสูงของไม้พื้นล่างเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความลึกของพรุเชื้อเพลิงในป่าพรุประกอบด้วยเชื้อเพลิงส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน เศษซากพืช ไม้พื้นล่าง ใบเสม็ดสดและเปลือกที่ติดอยู่ตามต้น รวมทั้งเศษเปลือกเสม็ดที่ถูกลอกทิ้งไว้ในพื้นที่ โดยป่าเสม็ดที่ดอนมีปริมาณเชื้อเพลิงสูงสุด 3.72 ตันต่อไร่ ส่วนเชื้อเพลิงใต้ดินได้แก่ ดินพรุ มีความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 0.23 กรัมต่อลบ.ซม.ส่วนพฤติกรรมไฟพบว่าไฟที่เกิดในทุ่งหญ้าโดยเฉพาะกระจูด มีอัตราการลามเร็วมาก 4.01 เมตรต่อนาที ความสูงของเปลวไฟมากที่สุด 3.4 เมตรส่งผลให้ไฟมีความรุนแรงสูงสุด 639.32 กิโลวัตต์ต่อเมตร โดยบางแห่งมีความรุนแรงสูงถึง 1843.9 กิโลวัตต์ต่อเมตร สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับไฟในสังคมพืชอื่นๆ ของไทยนอกจากนี้แม้พื้นที่มีน้ำขัง แต่ไฟก็สามารถติด และลุกลามได้ อีกทั้งลูกไฟจากเปลือกต้นเสม็ด กระจูดที่ปลิวเป็นสิ่งที่ต้องระวังในระหว่างการเผา เพราะจะมีผลต่อการเกิดไฟลุกลามในพื้นที่อื่นๆ ที่ห่างออกไปอ่าน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เกิดอุบัติเหตุกับรถแวนที่ อาร์-เดอะสตาร์ ดารานักร้องดังนั่งมาด้วย ชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อบนทางด่วนฉลองรัช ทำให้บาดเจ็บ ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีก 1 ราย
เมื่อเวลา 06.20 น.วันที่ 18 ก.ย.2558 พ.ต.ท.ชุมพล เรืองพุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (หัวหน้าพนักงานสอบสวน) สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต บนทาง ด่วนฉลองรัช ฝั่งขาออก ก่อนลงด่านสุขาภิบาล 5 ช่วง กม.20+800A แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. รุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุบนทางด่วน เป็นถนน 3 ช่องทาง บริเวณขอบทางด้านซ้ายพบ รถบรรทุกพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ส่วนหัวทะเบียน 71-5187 สมุทรปราการ ส่วนท้ายทะเบียน 70-9403 สมุทรปราการสภาพพลิกตะแคงข้างพาดกับขอบทางปูนด้านซ้าย หน้ารถพังเสียหายยับเยิน ส่วนท้ายตู้คอนเทนเนอร์พบศพนายอนันต์ ตวนกู อายุ 42 ปี สวมเสื้อโปโลสีเขียว กางเกงแสล็คสีดำ สภาพถูกตู้คอนเทนเนอร์ช่วงท้ายทับติดกับขอบปูน ลำตัวขาดครึ่งออกจากร่าง และแขนซ้ายหวิดขาด ,สอบสวนนายสมพร เรืองรอง อายุ 35 ปี คนขับรถสิบล้อ ให้การว่า ตนเป็นคนขับรถของบริษัทส่งสินค้าของห้างแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุไปส่งของที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร และกำลังจะกลับบริษัทย่านลำลูกกา คลอง7 จ.ปทุมธานี ขณะมาถึงที่เกิดเหตุตนขับอยู่เลนซ้าย ระหว่างนั้นมีรถเก๋งเชฟโรเลตขับมาช่องกลาง เกิดเสียหลักมาชนท้ายรถตนจนรถเก๋งพลิกหงายท้อง ตนและนายอนันต์ ผู้ตาย และเป็นคู่เวรขับรถ จึงลงไปดูว่าคนขับรถเก๋งเป็นอะไรหรือไม่ โดยเมื่อคนในรถเก๋งลงมาจากรถพบว่ามีเลือดไหลที่แขนทั้ง 2 ข้าง ตนจึงถามว่าทำไมขับรถมาชน คนที่ลงจากรถเก๋งจึงบอกว่าเป็น อาร์ เดอะสตาร์ หรือนายอาณัตพล ศิริชุมแสง นักร้องนักแสดงชื่อดัง และกำลังจะให้เบอร์โทรศัพท์ แต่แบตโทรศัพท์ตนหมด,คนขับรถสิบล้อ กล่าวอีกว่า ขณะที่ ยืนคุยกันประมาณ 3-4 นาที ก็มีรถบรรทุกพ่วงคอนเทนเนอร์ขับมาทางช่องซ้าย เห็นรถสิบล้อของตนจอดอยู่ จึงหักหลบไปทางช่องกลาง แต่เมื่อเห็นรถเก๋งพลิกหงายท้องอยู่กลางถนน จึงหักหลบกลับมาซ้ายอีกครั้ง จนชนท้ายรถสิบล้อของตนพลิกตะแคง และส่วนท้ายตู้คอนเทนเนอร์ทับร่างของนายอนันต์ ที่ยืนอยู่ขอบทางเสียชีวิตทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะเรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ประสบเหตุทั้งหมด มาสอบปากคำ ขณะเดียวกันจะเรียกสอบคนขับรถเก๋งที่พยานอ้างว่าเป็นดารา เนื่องจากไม่พบตัวในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างประสานมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,รายงานข่าวแจ้งว่ามีคนขับรถแท็กซี่โทรศัพท์เข้าสถานีวิทยุ สวพ.91 เล่าว่า รับผู้ประสบเหตุรถชนบริเวณทางด่วนฉลองรัช ที่มีใบหน้าคล้ายดารา ก่อนจะพาไปส่งโรงพยาบาลพระราม 9,ล่าสุด จากการสอบถามไปทางประชาสัมพันธ์ค่ายเอ็กแซ็กท์ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ อาร์ เดอะสตาร์ ได้รับการส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่าอาร์ไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงอาการฟกช้ำเพียงเล็กน้อย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หรือข้อมูลจากอาร์ เดอะสตาร์ จะรายงานให้ทราบต่อไป,ด้าน พ.ต.อ.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ตำรวจรับแจ้งเหตุก่อนเวลา 06.00 น. ซึ่งยังมืดอยู่ เกิดเหตุรถชนกัน 2 คัน รถแวนกับ 6 ล้อ โดยรถ 6 ล้อ กีดขวางทางลงทางด่วน มีการจอดรถลงมาตกลงกัน รถ 6 ล้อ มากัน 2 คน ผู้ตายยืนติดกำแพง จากนั้น รถ 18 ล้อ พุ่งชนทั้ง 2 คัน ซึ่งตัวพ่วงกระเด็นอัดผู้ตาย ส่วนคนขับรถแวนไปโรงพยาบาลก่อนตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ร้อยเวรยังไม่ทราบตัว อยู่ระหว่างติดตามไปสอบสวนที่โรงพยาบาล พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป,ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.59 น. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ค่ายเอ็กแซ็กท์ แจ้งเพิ่มเติมว่า อาร์ เดอะสตาร์ ประสบอุบัติเหตุขับรถชนรถเทรลเลอร์เมื่อเช้าวันนี้ หลังประสบเหตุรถอาร์พลิกคว่ำอยู่กลางถนน โดยอาร์ ออกมาจากรถได้ปลอดภัย แต่มีรถเทรลเลอร์อีกคันขับมาชนรถอาร์ที่พลิกคว่ำ ขณะนี้อาร์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว อยู่ในความดูแลของแพทย์ พบอาการบาดเจ็บเล็กน้อย รอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ คาดว่า อาร์ จะพร้อมให้สัมภาษณ์ ในจันทร์ที่ 21 ก.ย. เวลา 11.00 น. ที่ชั้น 21 ตึกแกรมมี่.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สื่อรัสเซียเผย มือปืนกราดยิงวิทยาลัยในแคว้นไครเมียจนมีผู้เสียชีวิต 20 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เกลียดครู อยากล้างแค้น และยังไม่แน่ชัดว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่
จากเหตุสลดนายวลาดิสลาฟ โรซิลยาคอฟ นักเรียนวัย 18 ปี ใช้ระเบิดแสวงเครื่อง พร้อมปืนลูกซองกราดยิง ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเมืองเคียร์ช คาบสมุทรไครเมีย ก่อนยิงตัวตายหนีความผิดนั้น เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายเซอร์เก อัคส์โยนอฟ ผู้บริหารคาบสมุทรไครเมีย เผยตรวจสอบพบว่า คนร้ายเพิ่งได้รับใบอนุญาตครอบครองปืนลูกซอง ซื้อกระสุน 150 นัด แต่จากคำให้การของอาจารย์ในสถาบันระบุว่า คนร้ายเป็นเด็กขี้อาย ไม่ก้าวร้าว ค่อนข้างจะขลาดกลัว จึงคาดว่าอาจดูภาพยนตร์บางเรื่องแล้วดลใจให้ก่อเหตุ,ด้านสื่อท้องถิ่นรัสเซียรายงานอ้างกลุ่มเพื่อนในวิทยาลัยว่า นายโรซิลยาคอฟเกลียดครู อยากล้างแค้น แต่เพื่อนๆไม่ทราบความเคลื่อนไหวเนื่องจากเจ้าตัวเลิกเล่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ บิดาพิการ มารดาเป็นผู้ช่วยพยาบาล ครอบครัวยากจน ส่วนเจ้าหน้าที่รัสเซียบุกค้นบ้านพักคนร้าย และยังไม่ตัดประเด็นมีผู้สมรู้ร่วมคิด พร้อมยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ศพ ถือเป็นเหตุรุนแรงในโรงเรียนที่ก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ของรัสเซีย นับแต่เหตุกลุ่มก่อการร้ายเชเชน โจมตีโรงเรียนเมืองเบสลันปี 2547 ที่มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 333 ศพ ทั้งมีสื่อตั้งข้อสังเกตว่านายโรซิลยาคอฟสวมชุดแบบเดียวกับคนร้ายในเหตุกราดยิงมัธยมโคลัมไบน์ในสหรัฐฯปี 2542.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน เกี่ยวกับอิทธิพลพายุโซนร้อนโซนามุ ที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งอ่าวไทย และจะอ่อนตัวก่อนถึงฝั่งก็ตาม แต่ชาวบ้านตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรือประมงที่พากันนำเรือมาจอดเทียบท่าเพื่อความปลอดภัย
เรือประมงขนาดใหญ่ และขนาดกลางจากหลายจังหวัดกว่า 2000 ลำ ทยอยเข้าจอดเทียบท่า ตลอดสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี เพื่อหลบคลื่นลมมรสุม ไม่ต่างกับเรือประมงขนาดเล็ก ทั้ง 6 อำเภอของจังหวัด ที่ต้องหยุดออกจับสัตว์น้ำชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย ตามประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ให้เฝ้าระวังพายุโซนร้อน โซนามุ ที่เคลื่อนตัวจากทะเลจีนใต้ตอนล่าง เข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ในช่วงระหว่างวันที่ 7-9 มกราคมนี้ และอาจเกิดดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมาด้านท่าเทียบเรือบริเวณแพปลา ตำบลปากพูน อำเภอเมืองครศรีธรรมราช เรือประมงขนาดใหญ่ ต่างทยอยเข้ามาหลบพายุโซนร้อนโซนามุ ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งอ่าวไทย แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนใหม่อีกครั้งว่า พายุดังกล่าวจะอ่อนตัวก่อนเข้าถึงฝั่งก็ตามส่วนสภาพคลื่นลมทะเลอ่าวไทย ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยังไม่รุนแรงมากนัก เรือประมงขนาดกลางและขนาดใหญ่ ยังคงออกมาทำการประมงตามปกติ เช่นเดียวกับเรือประมงขนาดเล็กจำนวนมาก ที่ยังออกจับสัตว์น้ำใกล้กับชายฝั่งขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม ในอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะที่ชุมชนหัวสะพานท่าโรงเลื่อย บือเร็ง ท่าชมพู ท่าเจ๊ะกาเซ็ง และท่าประปา ที่เคยมีน้ำท่วมสูง จนชาวบ้านต้องอพยพมาอาศัย ในศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 บางส่วนเริ่มทยอยขนของกลับบ้าน ล่าสุดพบผู้ป่วยด้วยโรคเท้าเปื่อย ขอเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลแล้วเป็นจำนวนมาก
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เหลืออีกเพียงแค่ 2 วันเศษเท่านั้น ที่ศึก เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017 ที่จะระเบิดความมันในวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2560 ณ สนามบางกอก อารีนา โดยมี สิงห์คลองเตย สโมสรการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ เป็นตัวแทนของประเทศไทย
เหลืออีกเพียงแค่ 2 วันเศษๆ เท่านั้นศึก เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017 จะระเบิดความมันในระหว่างวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2560 ณ สนามบางกอก อารีนา กรุงเทพฯ โดยมี สิงห์คลองเตย สโมสรการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ เป็นตัวแทนของประเทศไทย ซึ่งพกดีกรีแชมป์สองสมัยซ้อนติดตัวมาด้วย พร้อมกับความหวังที่จะคว้าแชมป์และเป็นทีมแรกและทีมเดียวที่คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และในวันนี้ ทีมข่าวกีฬา ไทยรัฐออนไลน์ ได้ส่งเหยี่ยวข่าวหนุ่มพร้อมกับช่างภาพสาวสุดสวยไปสัมภาษณ์และเก็บภาพ โค้ชดม อุดม ทวีสุข หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนเก่งของทีมดังจากย่านคลองเตย ว่าจะพร้อมแค่ไหนกับภารกิจที่สำคัญในครั้งนี้,พูดถึงการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017 ในครั้งนี้หน่อย?,สำหรับรายการนี้ (เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017) เราเป็นแชมป์เก่ามา 2 ปีติดต่อกัน และปีนี้ก็จัดในการแข่งขันขึ้นที่ประเทศไทยด้วย (บางกอก อารีนา) โดยไทยรัฐทำการถ่ายทอดสดให้แฟนๆ ทั้งประเทศได้รับชมถึงบ้าน ในส่วนของทีมการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ เราได้วางเป้าหมายที่จะรักษาแชมป์เป็นสมัยที่ 3 เอาไว้ให้ได้ ,ดีกรีแชมป์เก่าสองสมัยซ้อนมันทำให้เรากดดันมั้ย?,เป็นเรื่องปกติ มันก็มีความกดดันอยู่แล้วเป็นธรรมดา เพราะการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ เรามีเป้าหมายคือ เราจะต้องคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ผมจึงพยายามทำให้นักเตะทุกคนในทีมรู้สึกผ่อนคลายและมีความพร้อมให้มากที่สุด ซึ่งวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เป็นวันแรกที่เราจะลงทำการแข่งขัน,สภาพความพร้อมของนักเตะในทีมตอนนี้เป็นอย่างไร?,อาการบาดเจ็บตอนนี้ก็จะมี เจ้าโอ๋ สราวุฒิ ใจเพชร ที่มีปัญหาอยู่ตรงที่บริเวณโคนขาหนีบ อย่างไรก็ตามเขาก็ลงทำหน้าที่ได้ดี (เกมชนะ ห้องเย็นท่าข้าม 6-3) ส่วนนักเตะทุกคนคนอื่นๆ ก็กำลังปรับจูนสภาพทีมให้ลงตัว และที่สำคัญเรากำลังเล็งที่จะคว้านักเตะเข้ามาเพิ่มอีกประมาณ 1-2 คน คนแรกที่พอจะเปิดเผยได้ก็คือ เจ้าตั้ม วิวัฒน์ ไทยเจริญ ที่จะยืมตัวมาช่วงที่เล่นในรายการนี้ ซึ่งเขามีดีกรีไปแข่งฟุตซอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2016 ที่ประเทศโคลอมเบีย ส่วนตัวอื่นเรากำลังอยู่ในช่วงคัดเลือกนักเตะ หากมีความแน่นอนแล้วจะเปิดเผยให้ได้ทราบกันเพิ่มเติม,ได้ยินมาว่าช่วงนี้เพิ่มการซ้อมเป็น 2 มื้อต่อวัน?,(ยิ้ม) ก็จะเป็นการซ้อมทั้งช่วงเช้า-เย็น เราพยายามเข้มงวดทุกขั้นตอน ดังนั้น 1-2 แมตช์ที่ผ่านมานี้นักเตะดูจะตึงหน่อย เพราะจากการที่ซ้อม 2 ครั้งต่อวัน ก็มีผลทำให้นักเตะในทีมออกอาการล้า แต่ในระหว่างการแข่งขันช่วงหลังๆ พวกเขาก็รักษามาตรฐานได้ดี เก็บ 3 คะแนนได้ตามเป้า ซึ่งนั่นก็ถือว่าทำได้ดี ถ้าถามว่าการซ้อมเช้า-เย็น เราซ้อมอะไรบ้างน่ะเหรอ เรามาพูดถึงช่วงเช้ากันก่อน โดยผมจะเน้นให้ลูกทีมซ้อมในเรื่องของพละกำลัง, เสริมสมรรถภาพทางร่างกาย รวมถึงแก้ไขข้อบกพร่องในเกมต่างๆ ที่ผ่านมา ส่วนช่วงเย็นจะเป็นการลองระบบทีม ทดสอบแท็กติกต่างๆ ตลอดจนทำความเข้าใจ และเน้นรูปแบบการคิดเร็วทำเร็วในส่วนของเกมการเล่น,แท็กติกหรือรูปแบบการเล่นที่จะใช้เป็นหลักในทัวร์นาเมนต์นี้?,รูปแบบหลักๆ สำหรับในการแข่งขันครั้งนี้คือ เราจะใช้การเพรสซิ่ง และบีบพื้นที่การเล่นของคู่ต่อสู้ ในย่านอาเซียนหลายๆ ทีมคงยังไม่ใช้การเพรสซิ่งมากนัก แต่ในประเทศไทย เราจะมีการใช้รูปแบบการเล่นแบบนี้บ่อยๆ ซึ่งน่าจะได้เปรียบในการเล่น แต่เราก็จะไม่ประมาทคู่ต่อสู้เช่นกัน เพราะทุกทีมในย่านอาเซียนก็พัฒนาขึ้นเยอะเลยทีเดียว,คู่แข่งที่น่าจับตามองในครั้งนี้?,ที่เห็นชัดคือ ทีมจากประเทศเวียดนาม และออสเตรเลีย เพราะไม่รู้ว่าปีนี้เขาใช้ทีมชุดไหนมาเล่น ซึ่งทีมเหล่านั้นค่อนข้างจะมีความแข็งแรง ได้เปรียบเรื่องสรีระและรูปร่าง แล้วก็ เปอร์มาตา อินด๊ะห์ ทีมจากอินโดนีเซีย ที่จะได้ ปีเตอร์ เป็นโค้ช ทำให้ทีมมีประสิทธิภาพในเกมมากขึ้น นอกจากนี้ก็ทีมจากมาเลเซีย เป็นอีกหนึ่งทีมที่ค่อนข้างมีคุณภาพ,จุดแข็งและจุดที่ยังต้องปรับปรุงของทีม?,จุดแข็งของเขาคือ ความเป็นทีมของนักเตะทุกคน ระบบการเล่นที่ค่อนข้างจะลงตัว รวมถึงการช่วยเหลือกันในทีมที่ภาพรวมออกมาค่อนข้างดี เวลาเจอสถานการณ์กดดันเขาจะเล่นกันได้ดีมากๆ ส่วนเรื่องที่ปรับคือ การเพรสซิ่ง เวลาที่บีบไม่อยู่ จะมีเรื่องการโรเตชั่นตำแหน่งเข้ามา ทำให้ความไหลลื่นดูดร็อปลงไป,การเจอคู่แข่งในรายการนี้กับเกมในลีก อะไรคือความแตกต่าง?,จะเป็นเรื่องของความกดดัน เพราะเราเล่นเป็นตัวแทนประเทศไทย อย่างที่บอกไปว่าทีมจากอาเซียนเขาก็พัฒนาขึ้นมา และบางทีมเราก็ไม่รู้ว่าเขาส่งใครมาบ้าง เล่นรูปแบบใด บางคนก็เป็นหน้าใหม่ ซึ่งเราอาจไม่คุ้นมากนัก แต่เราก็ต้องพยายามรักษาความเป็นทีมให้มากที่สุด ต้องคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ขณะที่ในลีกส่วนใหญ่แต่ละทีมจะทันกัน ระบบใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับจังหวะ สมรรถนะของนักเตะแต่ละทีมก็ค่อนข้างจะเหนื่อยกว่า ส่วนในด้านอาเซียนเราน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้,สุดท้ายมีอะไรอยากฝากถึงกองเชียร์การท่าเรือฯ และแฟนฟุตซอลทีมชาติไทย?,อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้การท่าเรือฯ เป็นทีมตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศไปแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ถ้าทำสำเร็จจะเป็นทีมแรกและทีมเดียวที่สร้างสถิติคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ซึ่งยังไม่มีทีมไหนทำได้แบบนี้มาก่อน ซึ่งผมก็อยากชวนแฟนคลับทุกท่าน คนไทยทั้งประเทศ ตามมาเชียร์พวกเราทั้งที่สนามเอง ขอบคุณครับ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ดาวเตะคนสำคัญของทัพชบาแก้วอ้อนแฟนบอล ขอกำลังใจก่อนเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลหญิงเอเชียนเกมส์ 2018 พร้อมลั่นทุ่มเทแบบเต็มร้อยอย่างแน่นอน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 22 ส.ค.ว่า ความเคลื่อนไหวของทัพนักเตะ ชบาแก้ว ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมก่อนสู้ศึกรอบ 8 ทีมสุดท้าย,โดยล่าสุด ณัฐกานต์ ชินวงษ์ เผยถึงความพร้อมล่าสุดของทีมว่า วันนี้เราซ้อมเกมรับและโต้กลับทางด้านข้าง บรรยากาศในทีมตอนนี้ก็ถือว่าดีมาก เราสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ดีใจมากนัก เพราะไม่สามารถเก็บคะแนนได้เลย แต่เราได้ประสบการณ์จากทีมระดับโลกอย่างญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ต่อยอด และพัฒนาไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีหน้า,ตอนนี้เราก็รอลุ้นประกบคู่ว่า จะได้เจอกับเกาหลีใต้หรือเกาหลีเหนือ แต่ไม่ว่าจะเจอกับทีมอะไรเราก็จะสู้อย่างเต็มที่ ก็ฝากถึงแฟนบอลชาวไทยทุกคน ถึงพวกเราจะทำให้ผิดหวังบ้าง แต่ก็อย่าเพิ่งเลิกติดตามเชียร์พวกเรา เป็นกำลังให้พวกเราด้วย,ด้าน บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งกำลังใจถึงทัพชบาแก้วว่า ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จ สามารถลบคำปรามาส สร้างสรรค์ผลงาน สร้างรอยยิ้ม ความสุข ให้คนไทยให้จงได้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เกิดเหตุระเบิดกลางตลาด ซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตชนเผ่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ติดชายแดนอัฟกานิสถาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดกลางตลาด ซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมชีอะห์ ในเมืองปาราชินาร์ เมืองใหญ่ที่สุดในเขตพื้นที่ชนเผ่าที่ส่วนกลางบริหาร (federally administered tribal areas) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน เมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน,ตามการเปิดเผยของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดปากีสถาน ระเบิดเวลาอานุภาพสูงน้ำหนัก 30-35 กก. ระเบิดขึ้นกลางตลาดขายเสื้อผ้ามือ 2 ในขณะที่ฝูงชนจำนวนมากกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใช้ในฤดูหนาว ด้านสำนักงานใหญ่โรงพยาบาลเขตในเมืองปาราชินาร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บถูกส่งเข้าไปเป็นจำนวนมาก และหลายคนอาการอยู่ในขั้นวิกฤติด้วย,ทั้งนี้ อาลี บิน ซุฟยาน โฆษกของกลุ่มติดอาวุธ ลาชการ์ อี จางวี (Lashkar-e-Jhangvi) แนวร่วมใกล้ชิดของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สผ่านทางโทรศัพท์ว่า พวกเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งนี้ นี่เป็นการแก้แค้นสำหรับการฆ่าชาวมุสลิมฝีมือของประธานาธิบดีซีเรีย และอิหร่าน,โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีกลุ่มนักรบมุสลิมชีอะห์ในปากีสถานชื่อ เซนาบิยวน ไปเข้าร่วมสงครามต่อต้านกลุ่มไอซิสในซีเรีย และนักรบจำนวนมากในกลุ่มนี้มาจากเมืองปาราชินาร์
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ขู่เอาผิดวินเถื่อน หลังผู้โดยสารถูกชายที่อ้างเป็นวินรถจักรยานยนต์ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 เรียกเก็บค่าโดยสาร 450 บาท ทั้งที่ระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร พร้อมแนะวิธีสังเกตวินถูกกฎหมายและสอบถามราคาก่อนใช้บริการ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอ ระบุว่า มีชายที่อ้างตัวว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ชักชวนให้ใช้บริการ แต่เมื่อขับออกจากสถานีขนส่งฯระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร กลับเรียกเงินถึง 450 บาท และข่มขู่ทำร้ายหากไม่จ่ายเงิน จากนั้นมีผู้เสียหายโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกัน ว่าถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็นวินรถจักรยานยนต์ เรียกค่าโดยสาร ราคาคนละ 480 บาท และพบว่าเป็นชายคนเดิมที่ก่อเหตุล่าสุด ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 2 คน พร้อมดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ และมีความผิด พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ อีก 4 ข้อหา นอกจากนี้ ยังพบว่ามีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติดและลักทรัพย์มาแล้วหลายคดีผู้โดยสารหลายคน เล่าว่า เคยถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน มาชวนให้ใช้บริการและยอมใช้บริการ เนื่องจากคิดว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์เหมือนกันนายวิธาน แสงสีดา ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง บอกว่า วินรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน มีทั้งประเภทเดี่ยวและกลุ่ม ส่วนใหญ่ให้บริการในช่วงเทศกาล แม้จะเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยกวดขัน แต่ก็ไม่เพียงพอ จึงขอให้ประชาชนสังเกตก่อนใช้บริการ ว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์ที่ถูกกฎหมายหรือไม่คนขึ้นไม่ยอมถามราคาจึงเกิดปัญหา พอไปส่งถึงที่เขาก็เรียกเงินตามใจเขา วินผีจะมาเฉพาะช่วงเทศกาล นายวิธาน กล่าวขณะที่นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า หากเป็นวินเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นการใช้รถที่ไม่ได้รับใบอนุญาต และการใช้ใบอนุญาตขับรถผิดประเภท กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาขั้นสูงสุดคือการเพิกถอนใบขับขี่สำหรับผู้ใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง สามารถสังเกตได้จากเสื้อวิน โดยมีป้ายทะเบียนสีเหลืองบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง ระบุตัวตนว่าได้ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกจริง และควรสอบถามราคาก่อนขึ้นรถเพื่อความปลอดภัย
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สมเด็จพระเทพฯเสด็จพระราช ดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนิน งานก่อสร้างพระเมรุมาศอย่างละเอียด พร้อมโปรดเกล้าฯ ฉายพระรูปร่วมกับคณะผู้ปฏิบัติงาน ธนะศักดิ์ เผยติดตั้งประติมากรรม ประดับพระเมรุมาศงามสง่า ตระการตา
ขยายวันถวายบังคม พระบรมศพถึง 24.00 ของคืนวันที่ 5 ตุลาคม,สมเด็จพระเทพฯเสด็จพระราช ดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนิน งานก่อสร้างพระเมรุมาศอย่างละเอียด พร้อมโปรดเกล้าฯ ฉายพระรูปร่วมกับคณะผู้ปฏิบัติงาน ธนะศักดิ์ เผยติดตั้งประติมากรรม ประดับพระเมรุมาศงามสง่า ตระการตา เตรียมนำกังหันน้ำชัยพัฒนามาเพิ่มอีก 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่-จิตอาสาน้ำตาริน ประกอบฉากบังเพลิงฉากแรกสมบูรณ์ฝั่งทิศตะวันตก นายกฯแจงมติ ครม.ลดธงครึ่งเสา 13-27 ต.ค. ออกทุกข์ 28 ต.ค. ย้ำหยุดราชการ 26 ต.ค.วันเดียว ขอความร่วมมือตลอดเดือน ต.ค.วิทยุ-โทรทัศน์งดรายการบันเทิง ขอความร่วมมือ ราชการ-รัฐวิสาหกิจ-เอกชน ปลดผ้าระบายดำ-ขาวออกในวันออกทุกข์ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯเตรียมแถลง 4 ต.ค. ชี้แจงทำความเข้าใจงานพระราชพิธี ยูเนสโกถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาของโลก,เมื่อเวลา 07.07 น. วันที่ 26 ก.ย. สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระ ราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังท้องสนามหลวง ทอดพระเนตรความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ สํานักพระราชวัง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และจิตอาสาเฝ้ารอรับเสด็จ,ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปยังพระที่นั่งทรงธรรม ทอดพระเนตรการประดับศิลปกรรมลวดลายผ้าทองย่นและการติดตั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้นเสด็จฯไปยังพระเมรุมาศ ทอดพระเนตรงานประดับตกแต่งลวดลายผ้าทองย่นบุษบกประธาน หอเปลื้องและซ่าง การทดลองติดตั้งฉากบังเพลิงเข้ากับกรอบบริเวณบุษบกประธานทางฝั่งทิศตะวันตก งานประดับประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ ได้แก่ บันไดนาค เทพชุมนุมฐานไพทีนั่งราบ ครุฑยุดนาคประดับท้องไม้ แล้วจึงเสด็จฯลงจากพระเมรุมาศทางฝั่งทิศใต้ทอดพระเนตรการประดับสัตว์หิมพานต์บริเวณสระอโนดาต และการประดับตกแต่งภูมิสถาปัตยกรรมภายในลานพระราชพิธี ก่อนเสด็จฯไปยังแปลงนาบริเวณทางเข้าพระเมรุมาศฝั่งทิศเหนือ แล้วทอดพระเนตรการประดับตกแต่งพลับพลายกสนามหลวง และเสด็จฯไปยังศาลาลูกขุน 1 ทอดพระเนตรประติมากรรมคุณทองแดง คุณโจโฉ ครุฑประดับหัวเสา เทวดายืน และท้าวจตุโลกบาล แล้วเสด็จฯไปด้านหน้าฝั่งทิศตะวันตกพระเมรุมาศ ทรงฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และจิตอาสาก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ,พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำประติมากรรมเทวดา ครุฑยืนและครุฑหัวเสาประดับพระเมรุมาศในชั้นต่างๆ ทำให้พระเมรุมาศในภาพรวมมีความสง่างามตระการตามากยิ่งขึ้น ขณะที่สระอโนดาตได้นำสัตว์หิมพานต์มาประดับเข้าไว้ได้อย่างลงตัว รวมทั้งมีการทดลองระบบน้ำ และไอน้ำที่ทำเป็นเมฆหมอกทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ปรากฏว่ามีความเรียบร้อยบรรลุผลตามแผนงานที่วางไว้น่าพอใจมาก หลังจากนี้ช่างจะทยอยนำพรม ผ้าม่าน เข้ามาประดับพระเมรุมาศ ภายในวันที่ 10 ต.ค. ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร วันที่ 18 ต.ค. นอกจากนี้ ในการทดลองยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 12 ต.ค. จะต้องมีการพิจารณาแบบแผนการทดลองการนำพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขึ้นไปสวมกับยอด เพราะมีขนาดความสูงถึง 5.10 เมตร โดยจะได้ข้อสรุปในวันที่ 12 ต.ค. ก่อนที่จะมีการซ้อมอีกรอบวันที่ 17 ต.ค. สำหรับนั่งร้านที่ติดอยู่กับอาคารประกอบพระเมรุมาศจะย้ายออกภายในวันที่ 10 ต.ค.,รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในด้านภูมิทัศน์ประกอบพระเมรุมาศ จะมีการนำกังหันน้ำชัยพัฒนามาติดตั้งเพิ่มอีก 2 เครื่อง โดยจะพิจารณาขนาดให้มีความเหมาะสมลดหลั่นกันไปให้มีความสวยงาม ในวันที่ 2 ต.ค. จะเข้ามาตรวจการทำงานในด้านระบบไฟฟ้าที่ส่องเข้ามายังพระเมรุมาศยามค่ำคืน ให้มีความสมพระเกียรติมากที่สุด,นายเกียรติศักดิ์ สุวรรณพงศ์ จิตรกรชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า ในส่วนของงานจิตรกรรมฉากบังเพลิงได้เขียนสีแล้วเสร็จและเข้ากรอบด้านทิศตะวันตกเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตร จากนั้นจะนำภาพกลับไปสำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม เพิ่มน้ำหนักสีช่องล่างของฉากบังเพลิงโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 หมวดลม ให้ภาพรวมดูกลมกลืนและเด่นชัดยิ่งขึ้น จิตรกรและจิตอาสาถึงกับน้ำตาไหลเมื่อได้เห็นผลงานจิตรกรรมฉากบังเพลิงที่สร้างถวายในหลวง ร.9 สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในทิศตะวันตกบนพระเมรุมาศ เพราะทุกคนรวมจิตใจเป็นหนึ่ง บางคนขอแค่ขนย้ายชิ้นงานมาส่งที่พระ เมรุมาศก็บอกนอนตายตาหลับแล้ว การจัดสร้างจิตรกรรมฉากบังเพลิงครั้งนี้มีจิตอาสาช่วยปฏิบัติงาน 40 กว่าคน เราคัดมือหนึ่งมาร่วมรังสรรค์ให้เนื้องานกลมเกลียว ถือเป็นงานที่ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ของชาวไทยทุกคน,นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันเดียวกันนี้ มีพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดปิดการเข้าถวายสักการะ ทำให้หลายคนมารอตั้งแต่กลางดึกของวันก่อน โดยทุกคนเฝ้ารอเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด แต่ไม่มีผู้ใดเกิดความย่อท้อ ยังคงรอคอยเพื่อจะได้เข้าไปแสดงความจงรักภักดีที่มีเปี่ยมล้นหัวใจ,ที่ทำเนียบรัฐบาลช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงมติ ครม.เกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ทุกคนทราบดีแล้วว่าในวันพุธที่ 25 ต.ค. จะมีพระราชพิธีออกพระเมรุมาศ วันพฤหัสฯที่ 26 ต.ค. จะมีพิธีพระบรมโกศ เวียนรอบพระเมรุมาศ ถวายพระเพลิงในเวลา 16.30 น.และเวลา 22.00 น.อีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 27 ต.ค. เวลา 08.00 น.จะมีพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เวลา 09.00 น. พระราชพิธีเชิญพระบรมอัฐิเข้าสู่พระ บรมมหาราชวัง ในวันเสาร์ที่ 28 ต.ค. มีการออกทุกข์ เวลา 17.30 น. มีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล วันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. เวลา 10.30 น. พระราชพิธีเชิญพระบรมอัฐิขึ้นสู่พระวิมาน เวลา 17.30 น. พระราชพิธีเชิญพระบรมอัฐิไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามกับวัดบวรนิเวศราชวรวิหารในส่วนที่เป็นเถ้าสรีรางคาร,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เนื่องจากมีการครบรอบ 1 ปี การไว้ทุกข์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ในส่วนของข้าราชการ มติ ครม.วันเดียวกันนี้จึงให้มีการขยายการไว้ทุกข์ไปถึงวันที่ 27 ต.ค. เพื่อให้จบงานพระราชพิธีฯไปก่อน ในวันที่ 28 ต.ค. ก็ถือเป็นวันออกทุกข์ จะต้องมีการเก็บผ้า ป้ายขาวดำทั้งหมด ตามที่สาธารณะ และสถานที่ราชการทั้งหมดภายในวันที่ 28 ต.ค. ทั้งนี้ มติ ครม.ให้มีการลดธงครึ่งเสาตั้งแต่วันที่ 13-27 ต.ค. รวม 15 วัน พร้อมยืนยันว่าวันหยุดราชการมีเพียง 1 วันเท่านั้น คือวันที่ 26 ต.ค. ส่วนการจัดรายการของสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ที่เป็นรายการบันเทิงต่างๆขอความร่วมมือตลอดเดือน ต.ค.2560 รวมทั้งขอเชิญชวนประชาชน พ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ ร่วมกันทำหน้าที่จิตอาสาเฉพาะกิจในงานพระราชพิธีดังกล่าว,เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าใจหายสำหรับคนไทยทุกคน โศกเศร้า แต่ทุกคนก็ต้องช่วยกันเพื่อทำให้ชาติ บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งรัชกาลที่ 9 ท่านทอดพระเนตรพวกเราทุกคนอยู่และอยู่ในใจของพวกเราเสมอไป นายกฯกล่าวตอนท้าย,ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 13.30 น. คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะแถลงข่าวที่ศูนย์สื่อมวลชน หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและการปฏิบัติตัวของประชาชนในการเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ เส้นทางการจราจร การรักษาความปลอดภัย และการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ,อีกด้านวันเดียวกัน ที่สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ฝรั่งเศสมีการจัดประชุมสันติภาพนานาชาติ กันยายน 2560 หัวข้อการสร้างสังคมแห่งสันติภาพที่ยั่งยืน-มรดกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ได้ถ่ายทอดสดในช่วงเวลาที่องค์การยูเนสโกทำพิธีประกาศยกย่องในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาของโลก โดยนางสาวอิริน่า โบโคว่า ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ได้กล่าวสดุดีถวายพระราชสักการะแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ยึดหลักการประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเป็นแง่คิดที่ยูเอ็นได้นำมาใช้เป็นพิมพ์เขียว ที่จะผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในแผน SDGs ของสหประชาชาติ มีแผนดำเนินการ 17 ด้าน ทรงวางแนวทางการศึกษาที่เป็นวิสัยทัศน์ในการพัฒนาผู้ด้อยโอกาส ในขณะเดียวกัน เพื่อยกระดับความเท่าเทียมกันของสังคม,นางสาวอิริน่ากล่าวสดุดีอีกว่า พระองค์ทรงท้าทายแนวคิดการเติบโตของประเทศแบบดั้งเดิม ปรัชญาของพระองค์เป็นแนวทางในการพัฒนาที่สหประชาชาตินำมาประยุกต์ใช้สำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งกำหนดเป้าหมายและแบบฉบับแห่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และปกป้องโลกใบนี้ ขอชมเชยรัฐบาลไทย เพื่อการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พระราชกรณียกิจของพระองค์ยังทรงเป็นครูของแผ่นดิน การศึกษาหมายถึงแนวทางในการส่งเสริมศักยภาพของคน ในการเรียนรู้ คิดและการทำตามกำลังความสามารถของตนเอง โดยปราศจากความขัดแย้ง การศึกษาไม่ได้หมายรวมเพียงแค่อ่านออกเขียนได้เท่านั้น การศึกษายังต้องรวมถึงความรู้เท่าทันวัฒนธรรม,ขณะที่ตัวแทนประธานกลุ่มจี 77 จากประเทศเอกวาดอร์ กล่าวว่า คำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9 คือหลักคำสอนถึงสันติภาพ ที่ควรน้อมนำกันไปปฏิบัติในระดับโลก โดยเฉพาะการเรียนรู้ตลอดชีวิต พระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีความลึกซึ้ง ด้านตัวแทนจากกลุ่มเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเน้นหลักการสันติภาพ หลักการยั่งยืนในการเป็นหน่อที่นำไปสู่สันติภาพในระดับนานาชาติ,คืนวันเดียวกัน สำนักพระราชวังมีประกาศ เรื่อง การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ บพิตร ความว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรี นฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมานั้นและเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 สำนักพระราชวังได้มีประกาศเรื่องการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะขอเปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในวันที่ 30 กันยายน 2560 เป็นวันสุดท้าย เพื่อดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้เป็นไปด้วยความสมบูรณ์ เรียบร้อยและสมพระเกียรติไปแล้วนั้น,บัดนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตระหนักถึงความอาลัยรัก ความศรัทธาและความจงรักภักดีของประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มุ่งมั่นที่จะเดินทางเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ สักครั้งหนึ่งในชีวิตของตนเอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในห้วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ จากประกาศของสำนักพระราชวังที่ได้กำหนดไว้ก่อนที่จะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 26 ตุลาคม 2560,ด้วยทรงซาบซึ้งในน้ำใจ ทรงห่วงใยว่าประชาชนจะมีโอกาสกราบถวายบังคมพระบรมศพได้ไม่ทั่วถึงและเพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน ในการนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เลื่อนกำหนดวันสุดท้ายของการกราบถวายบังคมพระบรมศพ จากเดิมวันที่ 30 กันยายน 2560 ออกไปเป็นถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2560
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
หลังมีภาพซุปตาร์สาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ควงไฮโซ ฟลุค-วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์ ไปกินหมูกระทะ ยิ่งตอกย้ำสถานะความสัมพันธ์ในฐานะคนพิเศษ ที่หลายคนจับตามอง
อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, ควงไฮโซ ,ฟลุค-วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์, ไปกินหมูกระทะ ยิ่งตอกย้ำสถานะความสัมพันธ์ในฐานะคนพิเศษ ที่หลายคนจับตามอง ล่าสุดเจอ อั้มมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว วีโว วี 5 เอส ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์,เลยถามถึงภาพไปกินหมูกระทะกับไฮโซฟลุค?,วันนั้นไปช่วยน้องหมา พอเสร็จ แล้วก็แวะทานข้าว, คนชมว่าคู่เราติดดิน?,เอาจริงๆ วันนั้นอั้มโทรมมากเลย ก็เลยแวะกินที่หน้าปากซอย เพราะอั้มเป็นคนที่ทานได้ตั้งแต่ร้านข้างทางยันร้านหรู แล้วฟลุคก็เพิ่งมาหาพอดี ซึ่งอั้มก็เห็นคนแอบถ่ายปาปารัซซี่ เราด้วย อั้มจำหน้าได้ว่ามาจากหนังสือเล่มไหน เพราะจำคนถ่ายได้ เราก็พยายามหันหลังให้เค้าแล้ว เอาจริงๆ อั้มมีรูปเค้าด้วยคือ อั้มเจอเค้ามา 8 ปีแล้ว ซึ่งอั้มก็บอกพี่เค้าว่ามีปาปารัซซี่แอบถ่ายนะ แล้วก็บอกเพื่อนสนิทให้ยืนปิ้งหมูบังอั้มไว้ เพราะหน้าอั้มไม่ได้แต่ง หัวอั้มยังติดกิ๊บอยู่เลยเพราะอากาศร้อนมาก ถามว่าโกรธมั้ย อั้มชินมากกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าอั้มกำลังอ้าปากกินข้าว เราก็อยากกินแบบสบายๆ แล้ววันนั้นอารมณ์เสีย เพราะอากาศร้อนและหิวข้าวมาก ตอนนั้นยังไม่ได้กินข้าวด้วย อารมณ์อยากจะกินข้าวแบบสบายใจ แล้วเลือกรูปอั้มออกมาไม่สวยเลย,เรื่องความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?,ก็ยังคุยกันอยู่ค่ะ พี่เค้าก็น่ารักดี แต่ยังไม่ถึงขั้นดูใจหรือเป็นแฟนนะคะ บางทีเราก็ต้องดูให้แน่ใจ บางทีคิดว่าใช่ก็ไม่ใช่ ก็ต้องดูเรื่อยๆ ดูให้ดี ถามว่าเค้าจีบเรามั้ย ก็ต้องถามพี่เค้าเลยค่ะ กับพี่เค้าก็เอาเป็น ว่ากำลังคุยๆกันดีกว่าค่ะ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดและประพฤติผิดมิชอบ บุกเข้าตรวจค้นบ้านเจ้าหน้าที่ศุลกากรแม่สอด ในเมืองกรุง พบเอี่ยวโกงภาษีน้ำมัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ทำให้รัฐเสียหายกว่า 3 ล้าน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปราบการกระทำความผิดและประพฤติผิดมิชอบ หรือ ปปป. ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร เพื่อเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในกรุงเทพมหานคร 2 จุด ย่านยานนาวา บางขุนเทียน และพื้นที่จังหวัดนครปฐมอีก 1 จุด รวมถึงที่อ.แม่สอด จ.ตาก ในยุทธการปราบการโกงภาษีน้ำมันที่ส่งผลความเสียหายให้กับประเทศ,พล.ต.ต.กมล เปิดเผยว่า เป้าหมายตรวจค้นเป็นบ้านของเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดจากการลงชื่อบันทึกตรวจปล่อยน้ำมันเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษี แต่กลับมีการส่งภายในประเทศที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ใน จ.พิษณุโลก ซึ่งมีความผิดในกฎหมายอาญา มาตรา 162 การรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, การตรวจค้นจะตรวจค้นพวกเอกสารการทำสัญญาต่างๆ ที่เกิดจากการกระทำความผิด, การติดต่อ การรับผลประโยชน์ที่จะสามารถเชื่อมโยงไปยังบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเข้าข่ายการฟอกเงินด้วยหรือไม่,สำหรับการตรวจค้นจุดแรก พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผู้กำกับ 1 ปปป. นำหมายค้นศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1769/93 ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. บ้านของนายธีรพันธ์ ภู่บัวเผื่อน เจ้าหน้าที่วิชาการฝ่ายศุลกากรชำนาญการ เคยประจำด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก เมื่อปี 2556 โดยปัจจุบันย้ายไปดำรงตำแหน่งเดียวกันที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งไม่พบตัวนายธีรพันธ์ พบเพียงน้องสาว ซึ่งระบุว่าพี่ชายไปทำงานต่างจังหวัด , ,ส่วนพฤติการณ์ของกลุ่มผู้กระทำความผิด จากการสอบสวนของชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิง พบว่าบริษัทซี ผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ทำเรื่องขอซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมัน ตามมาตรา 7 ที่มีสิทธิ์ขอยกเว้นหรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 ในจ.ชลบุรี อ้างว่านำไปขายต่อให้ บ.เวียงมิง ในประเทศเมียนมา จากนั้นบริษัทซี ผู้ค้ามอบหมายให้บริษัทขนส่ง ไปรับน้ำมันที่โรงกลั่นเพื่อขนไปส่งที่ชายแดนเมียนมา จ.ตาก แต่บริษัทขนส่ง กลับแวะขายให้ปั๊มน้ำมันที่จ.พิษณุโลก จำนวน 32,000 ลิตร ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือ ส่งให้ชายแดน อ.เเม่สอด ซึ่งการสืบสวนพบทำมาแล้ว 36 ครั้ง แต่พบหลักฐานยืนยันการกระทำผิด 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงนามใบรับรองจำนวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นกรมสรรพสามิต 3 คน และเจ้าหน้าที่ศุลกากร 3 คน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. โรงแรมซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ อ.คลองหลวง ปทุมธานี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล รอง ผวจ.ปทุมธานี เป็นประธานเปิดการสัมมนาสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียด
กรมทางหลวงสรุปโครงการขยายโทลล์เวย์ไปบางปะอิน 18 กม.,เมื่อวันที่ 25 เม.ย. โรงแรมซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ อ.คลองหลวง ปทุมธานี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล รอง ผวจ.ปทุมธานี เป็นประธานเปิดการสัมมนาสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียด ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษา โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าร่วมประมาณ 200 ราย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวมีรูปแบบเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณโรงกษาปณ์ ถนนพหลโยธิน กม. 33 + 942 สิ้นสุด ประมาณ กม.51+924 บริเวณแยกต่างระดับบางปะอิน ระยะทาง 18 กม. โดยยกข้ามไปเชื่อมต่อกับถนนสายเอเซีย (AH1) และเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกกับด้านตะวันออก รวมถึงโครงการทางหลวงพิเศษบางปะอิน-นครราชสีมา มีจุดขึ้น-ลง 7 จุด ค่าเวนคืน 197 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 30,030 ล้านบาท รวมวงเงินลงทุนทั้งโครงการ 30,538 ล้านบาท ส่วนรูปแบบการลงทุนขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล คาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2562 สำหรับการจัดเก็บค่าผ่านทางจะใช้ระบบปิด คิดตามระยะทาง สามารถรองรับปริมาณการจราจรได้ถึง 88,300 คัน/วัน และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 146,100 คัน/วัน ในปี พ.ศ.2582 ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่เร่งรัดก่อสร้างให้เร็วขึ้น เนื่องจากศึกษามาตั้งแต่ปี 2555 จากวงเงิน 26,000 ล้านบาท ขณะนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30,000 ล้านบาท.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เซร์คิโอ อเกวโร ดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มั่นใจ วิลเฟร็ด โบนี กองหน้าที่เพิ่งย้ายมาจาก สวอนซี ซิตี้ จะช่วยให้ทัพเรือใบสีฟ้า ซิตี้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 20 ม.ค. ว่า เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าจอมถล่มประตูของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อมั่น วิลเฟร็ด โบนี ดาวยิงทีมชาติไอวอรีโคสต์ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทัพเรือใบสีฟ้าเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน,สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดการคว้า วิลเฟร็ด โบนี มาจากสวอนซี ซิตี้ ด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์ โดย อาเกวโร เชื่อว่าการเสริมทัพครั้งนี้จะช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้กับเรือใบสีฟ้าได้อย่างแน่นอน,พวกเรามีความสุขสุดๆเมื่อทีมเราได้นักเตะใหม่อย่าง วิลเฟร็ด โบนี  ไอเดียของทีมก็คือการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อพัฒนาขุมกำลังของทีมรวมทั้งพัฒนาฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีม นับตั้งแต่ วิลเฟรด มาเล่นในอังกฤษ เขาสามารถรับความกดดันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาคือการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา และเราก็รู้สึกขอบคุณที่ได้เขามาร่วมทีม อดีตกองหน้า แอตเลติโก มาดริด กล่าว,ทั้งนี้ ปัจจุบัน แมนฯซิตี้ รั้งอันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามหลัง เชลซี ทีมจ่าฝูง อยู่ 5 คะแนน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ธนาคารน้ำใต้ดิน โดยพื้นฐานแล้วหมายถึง สถานที่สร้างขึ้นให้สามารถเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาหรือน้ำจากแหล่งน้ำบนผิวดิน เพื่อให้น้ำซึมลงไปเก็บไว้ในชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดิน น้ำใต้ดินจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
และกระจายไปตามแรงดึงดูดและแรงเหวี่ยงจากการหมุนรอบตัวเองของโลก นอกจากนี้การเก็บน้ำบนผิวดินจะมีการสูญเสียจากการระเหยสูงกว่าน้ำที่อยู่ใต้ดิน อีกปัญหาที่เกษตรกรพบเจออยู่ตลอดเวลา คือ ฤดูฝน เมื่อเวลาฝนตกจะตกหนักมาก ฝนที่ตกลงมาบนผิวดินน้ำจะไหลจากภูเขาแล้วมารวมตัวมายังพื้นที่ต่ำลงสู่แม่น้ำลำคลอง หากระบายไม่ทันก็จะล้นเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยของเกษตรกรและพื้นที่ทำการเกษตร ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ อบต.วังหามแหและสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชรจึงร่วมกันหาวิธีการแก้ไขและพบว่าการทำธนาคารน้ำใต้ดินสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้,นายไฉน อำไพริน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังหามแห กล่าวว่า ก่อนที่จะนำศาสตร์ธนาคารน้ำใต้ดินของหลวงพ่อสมาน แสงสี มาใช้ในพื้นที่ เมื่อปี 2560 นั้น อบต.วังหามแห ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งไม่มีระบบชลประทาน พื้นที่เป็นที่ลูกคลื่นลอนลาด คือสูง ๆต่ำ ๆ เวลาฝนตกน้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ราบปลายเนินทุกครั้งที่ฝนตก พอถึงฤดูแล้งตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป น้ำก็เกิดการแห้งไปจนเกษตรกรมีน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ระบบประปาผิวดิน 4 -5 หมู่บ้านไม่มีน้ำใช้ ชาวบ้านและเกษตรกรประสบปัญหานี้มากว่า 20 ปี สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ส่วนราชการอื่น ๆและอบต.วังหามแห มีการก่อสร้างแหล่งน้ำผิวดินไว้มากมาย แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมได้,ต่อมา ปี 2560 จึงได้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับทำธนาคารน้ำใต้ดินศาสตร์ของหลวงพ่อสมาน แสงสี ผู้ก่อตั้งสถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ ที่วัดอาฮงศิลาวาส ที่ได้ดำเนินการครั้งแรกในพื้นที่อบต.เก่าขาม อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และได้นำตัวอย่างการทำธนาคารน้ำใต้ดินเข้ามาดำเนินการในพื้นที่จ.กำแพงเพชร ในเดือนพฤษภาคม ปี 2560 โดยบูรณาการร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร เรื่อยมาจนประสบความสำเร็จ เป็นการช่วยเติมเต็มให้ชาวบ้านและเกษตรกรที่ต้องประสบปัญหาที่แก้ไม่ได้มากว่า 20 ปี,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังหามแห กล่าวอีกว่า ปัจจุบันอบต.วังหามแหและสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ยังพัฒนาวิธีการทำธนาคารน้ำใต้ดิน อีกอย่างคือ การเอาน้ำที่สะสมใต้ดินในบริเวณที่ขุดเจาะบ่อบาดาลที่แล้วไม่มีน้ำ โดยต่อท่อลงไปทำเป็นบ่อนวัตกรรม ทรีอินวัน จากการที่ทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบบ่อเปิดและบ่อปิดกระจายเต็มพื้นที่ ทำให้สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้เป็นบ่อฉุกเฉินไว้ใช้เมื่อขาดแคลนน้ำในการเกษตร ปัจจุบันบ่อทรีอินวันใช้เวลาสูบน้ำประมาณ 2 นาที สามารถสูบน้ำได้ถึง 12,000 ลิตร นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งปั๊มมอเตอร์ ก็สามารถน้ำเข้าระบบประปาหมู่บ้านได้อีกด้วย ทำให้ชาวบ้านหรือเกษตรกรใช้น้ำฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย,ธนาคารน้ำใต้ดิน แก้แล้ง แก้ท่วม แก้จน มีประโยชน์คือ 1.แก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมได้ 2.ประหยัดพื้นที่ในการก่อสร้าง 3.ใช้งบประมาณน้อย ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเกษตรกรในต.วังหามแหสามารถปลูกพืชสร้างรายได้ เช่น มะละกอ ข้าวโพดฝักอ่อน การปลูกมันสำปะหลังแบบน้ำหยด พืชผักสวนครัว ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นและพึงพอใจในโครงการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ถือเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จจากการร่วมมือบูรณาการการทำงานอย่างแท้จริง นายกอบต.วังหามแห กล่าว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อีก 11 วันเลือกตั้ง ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มแรงขึ้น เมื่อ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปวิดีโอประกาศจุดยืนว่า ผมไม่มีวันยอมให้พรรคที่ทุจริตนำประเทศ
ไม่เอาทั้งพวกบกพร่องโดยสุจริต หรือทุจริตเชิงนโยบาย และยังประกาศด้วยว่า ชัดๆเลยนะครับ ผมไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อแน่นอน เพราะการสืบทอดอำนาจสร้างความขัดแย้ง และขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า ประชาชนเป็นใหญ่ ห้าปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจย่ำแย่ ประเทศชาติเสียหายมากพอแล้ว หมดเวลาเกรงใจแล้วครับ,แปลความง่ายๆ คือ คุณอภิสิทธิ์ ประกาศจุดยืนทางการเมืองไม่ร่วมกับ พรรคเพื่อไทย และ พรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน,ผมก็หวังว่า คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่คืนคำ เมื่อรู้ผลการเลือกตั้งแล้ว จากนี้ไป 3 พรรคการเมืองใหญ่ใน 3 อันดับแรกของทุกโพล เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ คงต้องสู้กันสุดฤทธิ์ เพื่อชิงจำนวน ส.ส.ให้ได้มากที่สุดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะออกมารูปแบบไหน ยังยากที่จะเดา แต่ขั้นแรกต้องได้ ส.ส.มากที่สุดก่อน แล้วค่อยไปรวมเสียงพรรคเล็กพรรคน้อยให้ได้ 250 เสียงขึ้นไป เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย 3 พรรคนี้จะไม่อยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน,เป็นเกมการเมืองในอนาคตที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง,ประเด็นหนึ่งที่ คุณอภิสิทธิ์ พูดไว้อย่างน่าสนใจก็คือ ถ้ามีการสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งที่ง่ายที่สุดหลังการเลือกตั้ง และเส้นทางนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าเป็นห่วง เพราะต้องพึ่งพาพรรคการเมือง ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในแนวทางของตัวเองได้,ทั้งนโยบายข้าว ส.ป.ก.ทองคำ และหลายสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่ควรทำ ทำไม่ได้ แต่วันนี้กลับต้องพึ่งคนเหล่านี้,ประเด็นที่ คุณอภิสิทธิ์ ระบุว่า ถ้ามีการสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งง่ายที่สุดหลังการเลือกตั้ง ทำให้ผมนึกถึง พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ที่สืบทอดอำนาจจาก รสช.หลังการเลือกตั้ง เลยขอนำข้อมูลการเมืองจาก สถาบันพระปกเกล้า ที่บันทึกเรื่องนี้ไว้มาเล่าสู่กันฟัง ไม่อยากเห็นอนาคตประเทศไทยจะต้องกลับไปยังเส้นทางความขัดแย้งที่รุนแรงอีก,(พล.อ.สุจินดา ได้ร่วมกับ บิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 เป็น รองประธาน รสช.),ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2535 ในการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคสามัคคีธรรม (เป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ หลังการปฏิวัติของ รสช. และมีรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว โดยไปรวบรวมนักการเมืองจากหลายพรรค มี คุณณรงค์ วงศ์วรรณ ที่ใกล้ชิดกับ รสช.เป็นหัวหน้าพรรค) มีผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ได้เตรียมการให้ นายณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากเหตุผลบางประการทำให้ นายณรงค์ วงศ์วรรณ ไม่สามารถเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ พรรคพันธมิตรทั้ง 5 พรรค คือ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย และ พรรคราษฎร จึงสนับสนุนให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี,ทันทีที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เข้าดำรงตำแหน่ง ได้เกิดกระแสคัดค้านอย่างรุนแรงลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จากกลุ่มนักศึกษา กลุ่มประชาชน และกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ จนเกิด เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ,ผู้นำทุกคนที่อยู่ในอำนาจ ก็คิดว่าตัวเองมีอำนาจมาก สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง แต่ประวัติศาสตร์ก็สอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่ 14 ตุลาคม จนถึง พฤษภาคมทมิฬ ผมหวังว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯก็หวังว่าท่านจะไม่ตั้งคนที่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริตคอร์รัปชันเป็นรัฐมนตรี เพราะต้องพึ่งเขาชูมือให้เป็นนายกฯ ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เดิมๆอีก.,ลม เปลี่ยนทิศ,อ่านข่าวล่าสุด ,เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อสมท ผนึกกำลัง ทรู วิชั่นส์ ร่วมถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2015 จำนวน 17 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2015 พร้อมด้วยทีมงานคุณภาพจากเครือข่ายพันธมิตร ร่วมสร้างสีสันการรับชม ประเดิมสนามเกมแรก 11 ก.ค. ทีโอที พบ เชียงราย ยูไนเต็ด
18.20 น. เป็นต้นไป,เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่ห้องโถงชั้น 1 อาคารอำนวยการ บมจ.อสมท ได้มีพิธีแถลงข่าวการถ่ายทอดศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก โดยมี นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท พร้อมด้วย นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจากสโมสรบางกอก กลาส เอฟซี, บีอีซี เทโรศาสน และ การท่าเรือ รวมถึงสื่อมวลชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง,นายศิวะพร กล่าวว่า อสมท ได้พยายามคัดสรรคอนเทนต์กีฬาที่น่าสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชม และเพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผังรายการ โดยได้รับความร่วมมือย่างดีจาก ทรูวิชั่นส์ ให้ร่วมถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลไทย พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015 จำนวน 17 แมตช์ ตลอดฤดูกาล โดยออกอากาศในระบบเอชดีทางช่อง โมเดิร์น ไนน์ และ MCOT HD ช่อง 30 รวมถึงรับชมออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.mcot.net อีกด้วย,นอกจากนี้ ยังเพิ่มอรรถรสในการรับชมด้วยทีมผู้บรรยายคุณภาพจาก FM 99 Active Radio อีกทั้งอัพเดตความเคลื่อนไหว ไฮไลต์การแข่งขันได้ทางรายการ MCOT Sports Weekly และรายการ เจาะสนามบอลไทย,ด้าน นายพีรธน เผยว่า ทรู วิชั่นส์ รู้สึกยินดีที่ได้มีความร่วมมือกับ บมจ.อสมท ในการเปิดช่องทางการรับชมไทยพรีเมียร์ลีก ทางช่อง โมเดิร์น ไนน์ ซึ่งถือเป็นการคืนความสุขให้กับคอบอลไทย และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับแฟนบอลทั่วประเทศ ได้ติดตามทีมโปรดอย่างใกล้ชิด และเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเชื่อว่าจะตอบสนองความต้องการ ในการรับชมได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน,สำหรับการถ่ายทอดสดนัดแรก จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม นี้ ซึ่งเป็นการพบกันของ ทีโอที เอสซี เปิดบ้านที่สนามทีโอที สเตเดียม ปะทะ กว่างโซ้งมหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด ทางช่อง โมเดิร์นไนน์ ทีวี และ MCOT HD ช่อง 30 ตั้งแต่เวลา 18.20 น. เป็นต้นไป
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วิษณุ แจงในที่ประชุม ครม. ยืนยันไม่มีหนังสือจากสภาฯ ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ฝ่ายค้านถอนกระทู้เอง ด้านโฆษกรัฐบาลแจ้งข่าวดี ไซเตส ประกาศให้ไทยพ้นจากการเกี่ยวข้องกับการค้างาช้างผิดกฎหมาย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวรัชดา ธนาดิเรก และนางสาวไตรสุรี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าวมติคณะรัฐมนตรี ถือเป็นการทำหน้าที่ของทีมโฆษกรัฐบาลผู้หญิงล้วนทั้ง 3 คนเป็นครั้งแรก โดยได้แจ้งข่าวดีว่า ไซเตส (CITES) ประกาศให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากการเกี่ยวข้องกับการค้างาช้างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมดูแลที่เข้มงวด ทำให้ประเทศไทยไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมายอีกต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป,นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบถึงกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะไปตอบกระทู้ฝ่ายค้านในเรื่องของการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ว่า ความจริงยังไม่เคยมีหนังสือจากสภาผู้แทนราษฎรถึงนายกรัฐมนตรีให้ไปตอบกระทู้ดังกล่าวเลย ทราบว่าครั้งแรกที่ประชุมวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่าน นายกรัฐมนตรีติดภารกิจ ฝ่ายค้านจึงถอนกระทู้ดังกล่าวเอง ส่วนครั้งที่ 2 ก็ไม่ได้มีหนังสือมาถึงนายกรัฐมนตรีเช่นกัน และได้มีการถอนกระทู้ออกไป จึงอยากชี้แจงให้สังคมรับทราบว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงการไปตอบกระทู้ของฝ่ายค้าน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ แถลงข่าวเข้าร่วมการแข่งขัน ในรายการ วอลเลย์บอลสโมสรชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย2017 ที่เมืองนิงห์บิงห์ ประเทศเวียดนาม 22 มิถุนายน 2560 ณ ห้องเบญจมาศ อาคารสโมสรทหารอากาศชั้นสัญญาบัตร
สโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ แถลงข่าวเข้าร่วมการแข่งขัน ในรายการ วอลเลย์บอลสโมสรชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย20 17 ที่เมืองนิงห์บิงห์ ประเทศเวียดนาม 22 มิถุนายน 2560 ณ ห้องเบญจมาศ อาคารสโมสรทหารอากาศชั้นสัญญาบัตร,วันที่ 22 มิ.ย.60 สโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ หรือ เจ้าเวหาสีน้ำเงิน จัดงานแถลงข่าวการเข้าร่วม การแข่งขันในรายการ วอลเลย์บอลสโมสรชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2017 ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2560 ที่เมืองนิงบิ่ง ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 เวลา 13.30 - 15.30 น. ณ ห้องเบญจมาศ อาคารสโมสรทหารอากาศชั้นสัญญาบัตร โดยมีผู้บริหาร ผู้ฝึกสอน และนักกีฬาดาวเด่น ของสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ เข้าร่วมงานแถลงข่าว โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ การเปิดตัวนักกีฬา ฟอร์มเก๋าที่เคยร่วมงานกับสโมสร กลับมาร่วมทีมอีกครัง ซึ่งประกอบไปด้วย กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์, จิรายุ รักษาแก้ว, มนตรี แหวนประดับ และยุรนันท์ บัวแดง,พลอากาศเอก สุทัศน์ แสงเดชะ ประธานอนุกรรมการแผนกวอลเลย์บอลกองทัพอากาศ กล่าวว่า ในส่วนของสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สโมสรฯ ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนเข้าร่วม การแข่งขันในรายการ วอลเลย์บอลสโมสรชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย2017 ที่ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยม เวียดนาม โดยผลงานจากการแข่งขันในรอบปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ การแข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพไทยแลนด์ลีกในฤดูกาล 2559 – 2560 ทำให้สโมสรคว้าสิทธิ์เข้าร่วม การแข่งขันระดับเอเชียในครั้งนี้ จากผลงานความสำเร็จที่ผ่านมา สโมสรยังมุ่งมั่นพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่ ในการสร้างเยาวชนผู้มีความสามารถและพัฒนานักกีฬาเข้าสู่ระดับทีมชาติ ต้องขอขอบคุณในความอนุเคราะห์ และน้ำใจไมตรีของผู้สนับสนุนทั้งหลาย ที่ได้สนับสนุนทีมในช่วงเวลาที่ผ่านมา และอยากให้แฟนๆ วอลเลย์บอล ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ และติดตามผลงานของสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซต่อไปด้วยครับ,ขณะที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอน นาวาอากาศตรี เผด็จศึก วรรณโชติ กล่าวว่า ในด้านการฝึกสอนนักกีฬา จะเน้นหนักไปที่ทักษะการเล่นเทคนิคและแท็กติก การวางตำแหน่งและการวางรูปแบบเกมในแต่ละแมตช์โดยในส่วน นักกีฬา มีการนักกีฬารุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มาเสริมทัพ ดังนั้นความสามัคคีของผู้เล่นในทีม จึงเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุด โดยทีมเราอยู่สายค่อนข้างแข็ง อยู่ร่วมสายกับ โตโยดะ โกเซย์ จาก ญี่ปุ่น, ปักกิ่ง มอเตอร์ จากจีน และ มัลดีเวียน สปอร์ต จากมัลดีฟส์ เพราะฉะนั้น การแข่งขันในรอบแรกจึงค่อนข้างจะกดดัน ผมคิดว่า หากเราสามารถเรียกฟอร์มนักกีฬาออกมาได้ และชนะทะลุรอบแรกผ่านเข้าไปใน รอบลึกๆ ได้ ปีนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ เราหวังถึงได้เหรียญเลย จึงอยากจะฝากผลงานของสโมสรวอลเลย์บอล แอร์ฟอร์ซไว้ เราจะตั้งใจ และทำมันให้ดีที่สุดครับ,ส่วน จ่าอากาศโท สราญจิต เจริญสุข กัปตันทีม และนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้ คงจะสนุก ลุ้นระทึก และตื่นเต้นมากๆ เกมน่าจะสูสี พลิกไปพลิกมา พวกเรา เจ้าเวหาสีน้ำเงิน มุ่งมั่นและตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อคว้าแชมป์รายการนี้กลับมาฝากแฟนๆ วอลเลย์บอลชาวไทยให้ได้ อย่าลืมติดตามถ่ายทอดสดและเทปการแข่งขัน และส่งกำลังใจไปให้พวกเราที่ เวียดนามกันเยอะๆ ด้วยนะครับ,ส่วนไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด แอร์ฟอร์ซ ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ ผ่านทาง www.ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ .com ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ถ่ายทอด สดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อ ส.ค.ติดลบ 1.19% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 จากราคาน้ำมันร่วง ชี้ยังไม่น่าห่วง จ่อหั่นเป้าเงินเฟ้อปีนี้จากเดิมที่คาดโต 0.6-1.3%
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายสมเกียรติ ศรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค.58 อยู่ที่ 106.33 ลดลง 1.19% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.57 เป็นการขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ส่งผลให้ CPI ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.58) ลดลง 0.89% จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล และกลุ่มแก๊สโซฮอล์ รวมทั้งราคาก๊าซหุงต้มที่ปรับตัวลดลงจากมติปรับลดราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีของ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน และการปรับตัวลดลงของราคาอาหารสด ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากเพียงพอต่อการบริโภค,ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน ส.ค.58 อยู่ที่ 105.96 เพิ่มขึ้น 0.89% จากเดือน ส.ค.57 อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาสินค้าทั่วไปยังเพิ่มขึ้นและทรงตัว โดยมีจำนวนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 148 รายการ ทรงตัว 191 รายการ ขณะที่จำนวนสินค้าที่ราคาลดลงมีจำนวน 111 รายการ,สำหรับดัชนีราคา สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือน ส.ค.58 อยู่ที่ 114.51 เพิ่มขึ้น 1.27% จากเดือน ส.ค.57 และเพิ่มขึ้น 0.09% จากเดือน ก.ค.58 ตามการสูงขึ้นของราคาข้าวสารเหนียว ปลาน้ำทะเลสด เช่น ปลาทู ไข่ไก่ เนื้อสุกร และไก่สดมีราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงปลดระวางแม่ไก่ รวมทั้งผักสดและผลไม้ เช่น ผักบุ้ง หัวหอมแดง ส้มเขียวหวาน มะละกอสุก เงาะ และฝรั่ง มีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาอาหารโทรสั่ง (delivery) ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน,ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 101.94 หดตัว 2.52% จากเดือน ส.ค.57 และลดลง 0.39% จากเดือน ก.ค.58 จากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ ที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ 91 95 E20 และก๊าชยานพาหนะ (LPG) รวมทั้งการปรับตัวลดลงของราคาก๊าซหุงต้ม ค่าโดยสาร รถประจำทางปรับอากาศ สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน และค่าของใช้ส่วนบุคคล เช่น ยาสีฟัน ปรับราคาสูงขึ้นเช่นกัน,สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือ คาดว่า ยังมีโอกาสติดลบต่อเนื่องได้อีก เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลง จากที่ในช่วงปลายปีปริมาณการผลิตน้ำมันจากแหล่งต่างๆ จะออกสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งผิดไปจากก่อนหน้านี้ที่เคยประเมินไว้ว่าในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปริมาณความต้องการใช้ที่ เพิ่มขึ้น,อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ก็มีความเป็นไปได้มากที่อัตราเงินเฟ้อของปีนี้จะติดลบ เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะลงไปต่ำกว่าระดับนี้ ในขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ คงไม่น่าจะอ่อนค่ามากไปกว่าระดับปัจจุบัน ดังนั้นในเดือนหน้ากระทรวงพาณิชย์จะมีการทบทวนเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะปรับลดลงจากปัจจุบันที่วางกรอบไว้ที่ 0.6-1.3% ซึ่งนอกจากราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องทบทวนเป้าหมาย เงินเฟ้อใหม่แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ที่ปัจจุบันอ่อนค่าลงไปจากสมมติฐานเดิม,ทั้งนี้ ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปในปี 58 ไว้ในกรอบ 0.6-1.3% ภายใต้สมมติฐานที่สำคัญ ดังนี้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เติบโต 3-4% ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อยู่ที่ระดับ 50-60 ดอลลาร์/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ระดับ 32-34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ,พร้อมย้ำว่า หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปีนี้ต้องติดลบจริงก็ไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ถ้าเป็นการติดลบที่มีสาเหตุมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำ ในทางกลับกันสิ่งที่ควรจะต้องเป็นห่วงมากกว่าคือ ราคาน้ำมันลดลงแล้วแต่สินค้าอื่นๆ ไม่ปรับลง ซึ่งเท่ากับเป็นการไม่สะท้อนตามต้นทุนที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปัจจุบันยังคงเป็นบวก ซึ่งถือว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ปัจจุบันประชาชนจะเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น, 
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
นักท่องเที่ยวหญิงอเมริกัน เผยภาพถ่ายสุดท้ายของพลตำรวจคีธ พัลเมอร์ ตำรวจอังกฤษสุดกล้าหาญ ที่เธอขอถ่ายรูปด้วย เพราะชอบหมวกตำรวจที่เขาสวม เพียง 45 นาที ก่อนถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดในเหตุการณ์ก่อการร้ายใจกลางลอนดอน
(Staci Martin (สเตซี่ มาร์ติน)เผยแพร่ภาพสุดท้ายของคีธ พัลเมอร์ ),นักท่องเที่ยวหญิงอเมริกัน เผยภาพถ่ายสุดท้ายของพลตำรวจคีธ พัลเมอร์ ตำรวจอังกฤษสุดกล้าหาญ ที่เธอขอถ่ายรูปด้วย เพราะชอบหมวกตำรวจที่เขาสวม เพียง 45 นาที ก่อนถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด ในเหตุการณ์ก่อการร้ายใจกลางลอนดอน,เมื่อ 24 มี.ค.60 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน เผยแพร่ภาพสุดเศร้า เพราะเป็นภาพสุดท้ายของพลตำรวจคีธ พัลเมอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชาวอังกฤษวัย 48 ปี ก่อนเขาจะถูกนายคาลิด มาซูด คนร้ายใช้มีดแทงจนเสียชีวิตที่ด้านนอกอาคารรัฐสภา ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา,นางสาวสเตซี่ มาร์ติน นักท่องเที่ยวหญิงชาวสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพถ่ายสุดท้ายของพลตำรวจพัลเมอร์ ที่เธอได้ขอถ่ายรูปด้วย เพียง 45 นาทีก่อนเขาจะจบชีวิต โดยเธอเล่าว่า ได้ขอถ่ายรูปกับพลตำรวจพัลเมอร์ ที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา เพราะเธอเพิ่งเคยมาลอนดอนเป็นครั้งแรก และชื่นชอบหมวกตำรวจที่เขาสวมอยู่ ซึ่งพลตำรวจพัลเมอร์ก็น่ารักมาก ยินดีที่จะให้ถ่ายรูปกับเธอ,แต่แล้วไม่ถึงชั่วโมงต่อมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ กลับได้ยินข่าวร้ายว่า ที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาเกิดการยิงกันขึ้น เธอเห็นเฮลิคอปเตอร์และรถพยาบาลฉุกเฉิน ต่อมา เมื่อมีการเผยแพร่ภาพพลตำรวจพัลเมอร์ว่า เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายแทง ทำให้เธอจำหน้าเขาได้ดี โดยนางสาวมาร์ติน กล่าวกับนักข่าวเอบีซี นิวส์ว่า หลังเธอทราบข่าวร้ายของพลตำรวจพัลเมอร์แล้ว เธอต้องการที่จะแชร์แบ่งปันภาพถ่ายสุดท้ายกับครอบครัวของเขา,ขณะที่ครอบครัวของพลตำรวจพัลเมอร์ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปอย่างกะทันหันของคีธ พัลเมอร์ว่า ครอบครัวจะรำลึกถึงเขาตลอดไปในฐานะพ่อและสามีที่ดี.,อ่านข่าวเกี่ยวข้อง,ลำดับเหตุการณ์ อังกฤษช็อกโจมตีเวสต์มินสเตอร์สุดสะพรึง แรงสุดในรอบ12ปี ,ก่อการร้ายลอนดอนดับ 4 เจ็บอื้อ สถานทูตเตือนคนไทยติดตามข่าวสารใกล้ชิด
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการณ์กุนซือทีมชาติไทย ออกมาตอบสนองสื่อจีนที่มาตามเกาะติดช้างศึกซ้อม
วันที่ 18 ม.ค. โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการณ์หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ระบุ ไม่ค่อยโอเคนักกับการที่สื่อของประเทศจีนมาตามเกาะติดการฝึกซ้อมของทัพช้างศึก แต่มองแง่ดีก็สื่อถึงผลงานที่ดีของทีม,ในวันนี้ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ลงฝึกซ้อม ณ สนาม สเปเชี่ยล นีต เซนเตอร์ เพื่อเตรียมพบกับ ทีมชาติจีน ในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. โดยมีสื่อจีนส่งสปายมาเกาะติดทำข่าวอย่างใกล้ชิด,โค้ชโต่ย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็รู้สึกดี บางครั้งเราทำฟุตบอล เราซ้อม ก็ไม่ยากให้สื่อเดินเข้ามา แต่ก็ถือว่าเขาให้เกียรติเรา ว่าผลงานเรามาถึงขนาดนี้ได้ ก็ต้องการอยากจะรู้ว่าเป็นไปยังไง ก็ถือว่าโอเค,ถ้าถามตัวผมเรื่องค่าเหนื่อยระหว่างผมกับลิปปี้ ผมรู้สึกเฉยๆ เพราะตัวผมกับลิปปี้ก็คนละอย่างกัน เพราะว่ากว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ เขาใช้เวลาเท่าไหร่ ตัวผมเป็นแค่การเริ่มต้น ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไรตรงนี้ ผมมองไปที่การทำทีมที่จะเจอกันวันที่ 20 มกราคม เพราะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักเตะไทย น้องๆจะได้เจอกับแท็คติกของโค้ชระดับโลก แต่ในสนามอะไรก็เกิดขึ้นได้,เรื่องเซอร์ไพรส์ มันก็อยู่ที่เกม ทุกสิ่งทุกอย่างในทีมมันดีมาก เพราะบรรยากาศในทีม ความฮึกเหิม ความกระหาย มันเกิดขึ้นกับพวกเขา ต้องทำการบ้านเยอะในเรื่องเกมรับ เพราะจีนแข็งแรง เราดูเขามาหลายแมตช์ และดูเกมที่เราเล่นกับเขาที่ไทย รวมถึงที่นี่ เขามีลูกตั้งเตะที่อันตราย รูปร่างสูงใหญ่ ก็ให้โค้ชโชคติวเข้มเกมรับ ปรึกษากันว่าจะรับมือเขาอย่างไร เอาเขาให้อยู่,รู้สึกภูมิใจแทนคนทั้งชาติที่ทำให้คนดูทั่วโลก ทั่วเอเชีย มันถือเป็นสิ่งที่ยาก แต่ตอนนี้น้องๆนักเตะทำได้แล้ว โอกาสมันเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง ในวันที่ 20 ออกได้ทั้งสามหน้า ตอนนี้นักเตะเรามีความกระหาย เราสู้แน่นอนเพื่อชาติไทย
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทีมเรือพิจิตรนาวา ชนะทีมเรือเทพสุริยะจากจังหวัดสุรินทร์คว้าถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในประเภทเรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย ที่สนามท่าน้ำนนท์
การแข่งขันเรือยาวประเพณี สนามท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี ที่งดการแข่งขันในปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม กลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในวานนี้ (16 ก.ย.) โดยประเภทเรือยาวเล็ก 30 ฝีพายเยาวชน ทีมเรือสาวเมืองนนท์ เอาชนะทีมเรือเทพเทวาจากนครปฐม 2-0 เที่ยวคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนผลการแข่งขันประเภทเรือยาวเล็ก 30 ฝีพาย ก1 ปรากฎว่า ทีมเรือสาวเมืองเพชร จากชมเรือยาวเพชรบุรี ชนะทีมเรืออินทณัฐจากวัดไร่ขิง 2 เที่ยว คว้าถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 100000 บาทส่วนประเภทเรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย ก1 ทีมเรือพิจิตรนาวา จากจังหวัดพิจิตร ซึ่งใช้ฝีพายยุทธการนาวา จากกองทัพเรือ พบทีมเรือเทพสุริยะ จากจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งใช้ฝีพายจากจังหวัดพิจิตร ผลปรากฎว่าเที่ยวแรกเป็นเทพสุริยะที่ชนะไปได้ ก่อนที่เที่ยว 2 พิจิตรนาวาจะเอาชนะได้บ้าง ต้องไปตัดสินกันในเที่ยวที่ 3 ปรากฎว่า พิจิตรนาวาก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังเอาชนะไปได้อีกในเที่ยวนี้ คว้าถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมเงินรางวัล 200000 บาททั้งนี้ไทยพีบีเอสจะถ่ายทอดสดเรือยาวประเพณีจากแม่น้ำโขง สนามเทศบาลบางทรายใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เป็นสนาม 3 ในวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายนนี้ เวลา14.05 น. เป็นต้นไป
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รพ.ศิริราช ได้เปิดบริการผู้ป่วยนอกแบบใหม่ (OPD New Normal) โดยสามารถพบแพทย์ออนไลน์รวมทั้งติดตามคิวตรวจ คิวชำระเงิน และรับยาทางไปรษณีย์ได้ ผ่านแอปพลิเคชัน Siriraj Connect
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดเผยว่า รพ.ศิริราช ได้เปิดบริการผู้ป่วยนอกแบบใหม่ (OPD New Normal) โดยสามารถพบแพทย์ออนไลน์รวมทั้งติดตามคิวตรวจ คิวชำระเงิน และรับยาทางไปรษณีย์ได้ ผ่านแอปพลิเคชัน Siriraj Connect เพื่อลดระยะเวลาการอยู่ในโรงพยาบาลให้สั้นที่สุด ลดความแออัด และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้ป่วยที่ใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์นี้จะต้องเป็นผู้ป่วยที่มีนัดหมายและมีอาการคงที่ รักษาต่อเนื่องที่ รพ.ศิริราช ซึ่งบริการแบบใหม่นี้ได้พัฒนาระบบมาเกือบปีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย เป็นมิติใหม่การบริการที่เป็นต้นแบบให้กับ รพ.อื่นๆด้าน รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช กล่าวว่า รพ.ศิริราชได้ทดลองระบบดังกล่าวกับคนไข้ 2000-3000 รายแล้ว ผลตอบรับ 90% มีความพึงพอใจ สิ่งสำคัญของการพบแพทย์ออนไลน์ผู้ป่วยต้องใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Siriraj Connect และ Line เข้าร่วมได้ 2 ช่องทางคือ1.แจ้งความประสงค์ผ่านแอปพลิเคชัน Siriraj Connect หรือติดต่อทางโทรศัพท์ 0-2414-2000 เพื่อประเมินการใช้งานและ 2.แพทย์คัดเลือกผู้ป่วยตามเกณฑ์ที่เหมาะสมในการเข้ารับบริการ กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Siriraj connect สามารถให้ญาติหรือผู้ดูแลใกล้ชิดที่อยู่กับผู้ป่วย หรืออยู่คนละจังหวัดทำการดาวน์โหลดลงทะเบียนและทำธุรกรรมอื่นๆ แทนผู้ป่วยได้ และให้ผู้ป่วยใช้ LINE หรือพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับแพทย์ขณะที่ รศ.นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รอง ผอ.รพ.ศิริราช กล่าวว่า การเข้าพบแพทย์ออนไลน์แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลักคือ1.ผู้ป่วยเตรียมความพร้อมก่อนพบแพทย์ออนไลน์ โดยดาวน์โหลดแอป Siriraj Connect พร้อมตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวให้ถูกต้อง2.ผู้ป่วยพบแพทย์ออนไลน์ผ่านวิดีโอคอลบนแอปพลิเคชัน Line โดยจะได้รับการติดต่อจากพยาบาลคลินิก 1 ครั้งเพื่อพบแพทย์ และพบเภสัชกรอีก 1 ครั้ง (ในกรณีที่แพทย์สั่งยาให้ผู้ป่วย) เพื่อแนะนำการใช้ยาและยืนยันที่อยู่สำหรับการจัดส่งยาทางไปรษณีย์และ 3. ชำระเงินและรอรับยาทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมทาง YouTube Channel ศิริราชพบแพทย์ออนไลน์ หรือ โทร. 0-2414-2000 กด 1.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปภ.ประกาศภัยแล้ง 14 จังหวัด รวม 69 อำเภอ อีสานมากที่สุด 7 จังหวัด เร่งประสานทหารและหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำรถน้ำออกแจกจ่ายให้ประชาชนบรรเทาความเดือดร้อน และขอให้เกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตร
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.63 นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 14 จังหวัด รวม 69 อำเภอ 420 ตำบล 3785 หมู่บ้าน ชุมชน แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ รวม 22 อำเภอ 125 ตำบล 965 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา รวม 31 อำเภอ 215 ตำบล 2151 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา และอุทัยธานี รวม 16 อำเภอ 80 ตำบล 649 หมู่บ้านอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประสานจังหวัดเตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้วยการจัดชุดปฏิบัติการสำรวจข้อมูลสถานการณ์น้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำและประมาณการใช้น้ำในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ โดยแยกเป็น น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีแหล่งน้ำ ควบคู่กับการปรับปรุงบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งให้เป็นปัจจุบัน นายมณฑล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบภาชนะกักเก็บน้ำให้ใช้การได้เพียงพอ พร้อมกำหนดจุดแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วัยเด็กของแอนดี้ถือได้ว่ายากลำบาก เพราะตัวเองเป็นโรคการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Sydenhams Chorea) ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีอารมณ์แปรปรวน ในยุค 50s แอนดี้ได้กลายเป็นศิลปินอิลลัสเตรเตอร์ด้านพาณิชย์ศิลป์ระดับต้นๆ ของวงการนิตยสารและโฆษณา มีผลงานในนิตยสารทั้ง Harpers Bazaar Vogue และ Esquireเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้แอนดี้เริ่มหันมาวาดของใช้ประจำวันที่มนุษย์เราใช้กัน ซึ่งเมื่อคำว่า กระป๋องซุป ถูกเอ่ยขึ้นมา แอนดี้ก็มีไอเดียปิ๊งเข้ามาในหัวและออกไปซื้อกระป๋องซุปยี่ห้อ Campbells มาทั้งหมด 32 ประเภท สุดท้ายงานชุดนี้กลายเป็นงานอมตะ ที่แม้ว่าคุณจะไม่ได้สนใจหรือติดตามงานศิลป์ก็ต้องเคยผ่านตางานของเขาสักครั้งอย่างแน่นอนในยุค 70s และ 80s เราก็ได้เห็นวิวัฒนาการของแอนดี้ในการเป็นศิลปินเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว พร้อมวลีเด็ด การทำเงินคือศิลปะอย่างหนึ่ง และการทำงานก็เป็นศิลปะ ซึ่งธุรกิจที่ดีก็คือศิลปะที่ยอดเยี่ยม
โลกศิลปะในสายตาหลายคนมักถูกมองว่ามีความเฉพาะกลุ่มที่เข้าถึงยาก ต้องอาศัยความรู้เบื้องต้น ซึ่งพูดกันตรงๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เสพได้ง่าย และมักจะมาพร้อม ราคา ที่บางคนมองว่าสู้เอาไปซื้อกองทุนกับธนาคารยังจะดีเสียกว่า แต่หากเอ่ยชื่อ แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) เขาเป็นมากกว่าเจ้าพ่อศิลปะเชิงป๊อปอาร์ตที่วาดรูปกระป๋องซุป แต่เขาคือหนึ่งในศิลปินระดับโลกเพียงไม่กี่คนผู้สร้างผลงานที่เปลี่ยนบริบทของสังคมได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในวันคล้ายวันเกิดของแอนดี้ THE STANDARD จะพาย้อนกลับไปดูเส้นทางชีวิตของอีกหนึ่งวีรบุรุษคนนี้ แอนดรูว์ วาร์โฮลา (Andrew Warhola) เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1928 ที่เมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบครัวของเขาอพยพมาจากหมู่บ้าน Miková ทางตอนเหนือของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งในตอนนั้นคือราชอาณาจักร ออสโตร-ฮังการี ที่ล่มสลายภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แอนดี้มีพี่ชายสองคน พ่อของเขาทำงานในเหมืองถ่านหิน ก่อนที่จะเสียชีวิตตอนแอนดี้อายุเพียง 13 ปี สำหรับชีวิตในวัยเด็กของแอนดี้ก็ถือได้ว่ายากลำบาก เพราะตัวเองเป็นโรคการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Sydenhams Chorea) ซึ่งส่งผลทางระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีอารมณ์แปรปรวน โรคนี้ทำให้แอนดี้ต้องพักรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านบ่อยครั้ง และมีผลกระทบต่อการเข้าหาเพื่อนฝูง แต่แอนดี้ก็เรียนจบจาก Schenley High School และไปต่อมหาวิทยาลัยที่ Carnegie Mellon University สาขา Pictorial Design ก่อนที่จะย้ายไปมหานครนิวยอร์กในปี 1949 หลังจากรับปริญญาตอนอายุ 20 ปีงานของแอนดี้ในนิตยสาร Harpers Bazaar ภายในไม่กี่เดือน แอนดี้ก็ได้งานแรกที่นิตยสารแฟชั่น Glamour ในเครือ Condé Nast หลังจากพอร์ตงานไปเข้าตาอาร์ตไดเรกเตอร์ ทีนา เฟรเดอริกส์ (Tina Fredericks) ซึ่งทีนาให้แอนดี้เริ่มวาดภาพรองเท้าสุภาพสตรี ก่อนที่จะได้วาดไอเท็มอื่นๆ เช่น ขวดน้ำหอม เครื่องประดับ และแว่นตา โดยแอนดี้จะใช้เทคนิคการวาดภาพแบบ Blottled-line ในช่วงเวลาเดียวกัน นิตยสาร Glamour เกิดพิมพ์นามสกุลของแอนดี้ผิดจาก Warhola เป็น Warhol ที่ขาดตัว A ไป แต่แอนดี้ก็ไม่ได้ขอให้แก้ไข และปล่อยมาโดยตลอด ในยุค 50s แอนดี้ได้กลายเป็นศิลปินอิลลัสเตรเตอร์ด้านพาณิชย์ศิลป์ระดับต้นๆ ของวงการนิตยสารและโฆษณาที่มีงานในนิตยสาร Harpers Bazaar Vogue และ Esquire เป็นต้น งานของเขาเริ่มสร้างรายได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับแอนดี้ เขาอยากท้าทายตัวเองและสร้างชื่อเสียงในแวดวงศิลปะ แอนดี้มีงานนิทรรศการภาพวาดครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ Hugo Gallery ในนิวยอร์ก ปี 1952 ที่ชื่อ Fifteen Drawings Based on the Writings of Truman Capote เกี่ยวกับนักเขียนชื่อดัง ทรูแมน คาโปต (Truman Capote) แต่แอนดี้ก็ไม่สามารถขายผลงานได้แม้แต่ชิ้นเดียว และพิพิธภัณฑ์หลายที่ก็ปฏิเสธงานของเขา อย่างเช่น MoMa ในตอนนั้นมีแค่ร้านขนมหวาน Serendipity 3 ที่ยอมโชว์ผลงานเขา ซึ่งในปีแรกๆ ที่แอนดี้ย้ายไปอยู่นิวยอร์ก เขาก็มักจ่ายค่าขนมในร้านแลกกับภาพวาดของเขานั่นเองแอนดี้ที่ The Factory ผลงาน Campbells Soup Can ที่พิพิธภัณฑ์ MoMa เริ่มต้นยุค 60s ผลงานของแอนดี้ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ถ้าเทียบกับศิลปินคนอื่นในศิลปะแนวป๊อปอาร์ตอย่าง รอย ลิกเทนสไตน์ (Roy Lichtenstein) ที่มีชื่อเสียงกับพวกภาพวาดล้อเลียนการ์ตูนคอมิก แต่ในปี 1962 มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้แอนดี้เริ่มหันมาวาดของใช้ประจำวันที่มนุษย์เราใช้กัน ซึ่งเมื่อคำว่า กระป๋องซุป ถูกเอ่ยขึ้นมา แอนดี้ก็มีไอเดียปิ๊งเข้ามาในหัวและออกไปซื้อกระป๋องซุปยี่ห้อ Campbells มาทั้งหมด 32 ประเภท ในราคากระป๋องละ 29 เซนต์ ซึ่งพอแอนดี้วาดทุกกระป๋องเสร็จบนแคนวาสไซส์ 20×16 นิ้ว ต่อชิ้น เขาก็ได้เอาผลงานนี้ที่ตั้งชื่อว่า Campbells Soup Can ไปเป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการแรกของเขาที่ลอสแอนเจลิส ณ Ferus Gallery ซึ่งเจ้าของแกลเลอรี เออร์วิง บลัม (Irving Blum) ได้ขอซื้อผลงานในราคา 1000 เหรียญสหรัฐ โดยผ่อนเดือนละ 100 เหรียญสหรัฐ และต่อมาเออร์วิงก็ได้ขายผลงานนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ MoMa ในปี 1996 ด้วยราคา 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ในปี 1956 พิพิธภัณฑ์ MoMa เคยปฏิเสธที่จะโชว์ผลงานของเขาด้วยซ้ำ ในปี 1962 แอนดี้ได้ก่อตั้งสตูดิโอชื่อ The Factory ที่ทาสีเงินทั้งหมด และเป็นศูนย์กลางการทำงานของเขาในหลายศาสตร์ เช่น การทำภาพพิมพ์ซิลก์สกรีนของเหล่าดาราฮอลลีวูด ศิลปะจัดวางต่างๆ และเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังของเขา ตั้งแต่ปี 1963 โดยหนังของแอนดี้มักมีความทดลองอยู่ในตัว เขาชอบใช้หลายเทคนิคในการถ่ายทำ เช่น ถ่ายคนนอนไปเรื่อยๆ โดยไม่ตัดต่ออะไร การจัดวางให้มีหน้าจอสองจอฉายภาพเคลื่อนไหวไซส์ 16 มม. พร้อมกันในหนังเรื่อง Chelsea Girls หรือการทำหนังแบทแมนเวอร์ชันของตัวเองชื่อ Batman Draculaแอนดี้ที่ The Factory แม้แอนดี้จะเป็นคนเปราะบาง นิ่มนวล พูดน้อย และไม่ค่อยแตะยาเสพติดที่เล่นกันในสตูดิโออยู่ตลอดเวลา แต่อีกหนึ่งเสน่ห์ของแอนดี้คือการนำผู้คนจากหลากหลายอาชีพ ชนชั้น และเพศ มาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันคือ The Factory ความหลากหลายที่ว่านี้มีตั้งแต่นักธุรกิจ นักดนตรี สาวสังคม วัยรุ่น นักแสดง ยันแดรกควีน โดยก๊วนเพื่อนของแอนดี้จะชื่อว่า Warhol Superstars มีหลายคนที่เขาปลุกปั้นให้มีชื่อเสียง เช่น อีดี เซ็ดจ์วิกซ์ (Edie Sedgwick) และแคนดี้ ดาร์ลิง (Candy Darling) สาวข้ามเพศที่ได้กลายมาเป็นมิวส์ของวงร็อกระดับตำนาน The Velvet Underground ที่แอนดี้เป็นผู้บุกเบิกอีกด้วย และแน่นอน นี่คือวงดนตรีประจำที่ The Factory แต่ในปี 1968 แอนดี้เกือบเสียชีวิต หลังจากสาวเฟมินิสต์หัวรุนแรง วาเลอรี โซลานาส (Valerie Solanas) ยิงปืนใส่เขาที่ The Factory แอนดี้ต้องผ่าตัดหัวใจและพักฟื้นในโรงพยาบาลอยู่นาน ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเขาทั้งทางร่างกายและจิตใจ เขาเริ่มเก็บตัวมากขึ้น และลดทอนหลายกิจกรรมสุ่มเสี่ยงที่ The Factoryปกนิตยสาร Interview ในยุค 70s และ 80s เราได้เห็นวิวัฒนาการของแอนดี้ในการเป็นศิลปินเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว พร้อมวลีเด็ด การทำเงินคือศิลปะอย่างหนึ่ง และการทำงานก็เป็นศิลปะ ซึ่งธุรกิจที่ดีก็คือศิลปะที่ยอดเยี่ยม โดยในตอนนั้นมีทีมเข้ามาบริหารเรื่องการซื้อขายผลงานและโปรเจกต์ว่าจ้างของแอนดี้ภายใต้ชื่อบริษัท Andy Warhol Enterprises ซึ่งคนดังหลายคนได้มาจ้างให้แอนดี้ทำภาพพิมพ์ซิลก์สกรีนให้ นอกจากนี้แอนดี้ยังได้โฟกัสกับนิตยสาร Interview ที่เขาก่อตั้ง ผลิตรายการทีวีต่างๆ เช่น Andy Warhols Fifteen Minutes ทางช่อง MTV และเขายังไปปรากฏตัวในโฆษณา Diet Coke อีกด้วย วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1987 เวลา 6.31 น. แอนดี้เสียชีวิตที่นิวยอร์กหลังจากผ่าตัดถุงน้ำดีและเกิดอาการหัวใจวาย โดยสุสานของเขาตั้งอยู่ที่ St. John the Baptist Byzantine Catholic Cemetery ในรัฐเพนซิลเวเนีย ข้างๆ คุณพ่อคุณแม่ของเขาเอง ส่วนผลงานก็มีการจัดแสดงไปทั่วโลกตามธีมนิทรรศการ รวมถึงที่ The Andy Warhol Museum พิพิธภัณฑ์สูง 7 ชั้นที่เปิดเมื่อปี 1994 ในเมืองพิตส์เบิร์ก บ้านเกิดของแอนดี้รูปปั้นที่ยูเนียนสแควร์ นิวยอร์ก ในปี 2011 แม้แอนดี้จะจากเราไปแล้ว 30 ปี แต่ความสนใจในตัวเขาและพลังขับเคลื่อนสังคมก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ถ้าเราเปิดโปรแกรม Photo Booth ในคอมพิวเตอร์ของ Mac เราจะยังเห็นเอฟเฟกต์ชื่อ Pop Art ที่มาในสไตล์การพิมพ์ซิลก์สกรีนของแอนดี้ หรือถ้าไปเดินช้อปปิ้งที่ร้าน Uniqlo หรือ Converse เราจะเห็นสินค้าที่เอาผลงานแอนดี้มาสกรีน หรือตระกูลคาร์ดาเชียนเองที่เป็นหนึ่งในผู้นำวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ ก็มีหลักการของแอนดี้อยู่ไม่น้อย ตั้งแต่การสร้างตัวเองให้มีชื่อเสียง การทำเงิน หรือสิทธิเรื่องเพศกับเคทลิน เจนเนอร์ (Caitlyn Jenner) ที่แอนดี้เองก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญในการทำให้คนทุกเพศทางเลือกมีจุดยืนในวงการ ส่วนของวลีที่ดังที่สุดของแอนดี้ที่ว่า ในอนาคต ทุกคนต้องมีโอกาสดัง 15 นาที ที่เขากล่าวไว้ในปี 1968 ทุกวันนี้เราก็เห็นคอนเซปต์นี้ล้อมรอบสังคมเรา กับการที่หลายคนผลักดันตัวเองให้มีชื่อเสียง ทั้งเป็นดารา ศิลปิน หรือ Influencer ซึ่งด้วยกลไกของโซเชียลมีเดียที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เราเชื่อว่าแอนดี้เองคงจะเป็นผู้นำโลกออนไลน์อย่างแน่นอน ถ้าเขายังอยู่ เพราะเขาเป็นคนที่มองไปข้างหน้าเสมอภาพถ่ายโพลารอยด์ของแอนดี้ คงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบ ถ้าถามว่าแอนดี้เป็นศิลปินคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์หรือไม่ แต่ถ้าต้องหาศิลปินที่หมั่นเพียรเรียนรู้ศาสตร์หลายแขนงของโลกศิลปะ โลกบันเทิง โลกป๊อปคัลเจอร์อย่างไม่รู้จบ ที่หนึ่งคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแอนดี้ วอร์ฮอลอ้างอิง:
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมควบคุมโรค เผยแรงงานหญิงไทยกลับจากเกาหลีใต้ที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รักษาที่ห้องแยกโรคความดันลบ สถาบันบำราศนราดูร อาการดีขึ้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่งไม่พบเชื้อ รอส่งตัวกลับบ้าน
เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.2563) นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร เปิดเผยว่า จากกรณีพบแรงงานหญิงชาวไทย เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2563 และคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ถูกส่งตัวมารักษาที่ห้องแยกโรคความดันลบ สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่งไม่พบเชื้อดังกล่าว และรอส่งตัวกลับบ้านตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ 4 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย จึงได้มีมาตรการเฝ้าระวังและสังเกตอาการผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ดังกล่าว และแจ้งอาการตามความเป็นจริงทุกวันอย่างน้อย 14 วัน ที่สำคัญสังเกตอาการหากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย หรือมีอาการเข้าข่ายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ได้รับมอบหมายที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ตามที่ประกาศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไต้หวัน สิงคโปร์ เยอรมนี ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยการกักกันตัวเอง (Self quarantine) เพื่อเป็นการป้องกันโอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคไปยังคนใกล้ชิดหรือบุคคลในครอบครัว และเป็นสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ช่วยให้ประเทศไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ประชาชนเข้าโรงจำนำสูงกว่าช่วงปกติ หลังถูกผลกระทบเชื้อ โควิด-19 แพร่ระบาดขาดรายได้
วันที่ 27 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพังงา ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา ว่า มีประชาชนทยอยนำทรัพย์สินเข้าโรงจำนำรับบริการ ในช่วงกระแสเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดสูงกว่าในช่วงปกติ ซึ่งเป็นผลกระทบจากรายได้ลดลง บางรายไม่มีรายได้เข้าสู่ครัวเรือนในช่วงนี้นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพังงา ได้ให้บริการโดยมีการป้องกันการแพร่เชื้อภายในโรงรับจำนำด้วยการนำน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดที่จับประตู เก้าอี้ ใช้มาตรการเข้มงวด แจ้งให้ผู้เข้ารับบริการ ล้างมือ สวมหน้ากาก และจัดเก้าอี้รักษาระยะห่างไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ส่วนเจ้าหน้าที่จะมีน้ำยาฆ่าเชื้อประจำโต๊ะทำงานทุกจุดเบื้องต้นพบสิ่งของที่เข้าจำนำ มีเครื่องดนตรีไทย เช่น ระนาด ขิม มาใช้บริการเนื่องจากโรงเรียนสอนดนตรีไทยปิดการเรียนการสอน นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ประกอบอาชีพ เช่น จักรเย็บผ้า เครื่องเลื่อย อุปกรณ์เครื่องมือช่าง แม้กระทั่งขันทองแดงโบราณครบชุดทางนายเพียงศักดิ์ บานเย็น ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพังงา กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนส่วนมากในพื้นที่ขาดรายได้ ทำให้มีผู้เข้ารับบริการโรงรับจำนำมากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยินดีให้บริการตามปกติ พร้อมเน้นย้ำในการช่วยเหลือพิจารณาอนุมัติเงินสำหรับสิ่งของทุกชิ้นที่มีมูลค่าพอจะช่วยเหลือประชาชนในช่วงนี้ได้ พบว่ามีเงินออกจากโรงรับจำนำวันละไม่ต่ำกว่า 500000 บาท โดยยืนยันการปลอดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ภายในโรงรับจำนำ ซึ่งมีการทำความสะอาดและมาตรการป้องกันบ่อยครั้งในแต่ละวัน ทั้งสถานที่ อุปกรณ์ และบุคลากร.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
หนุ่มวัย42ปี ชอบเข้ามาขโมยกรีดยางในสวนชาวบ้าน เจ้าของไปเจอแจ้งตำรวจจับ กลับขัดขืนพุ่งฉมวกใส่ ไล่ตี ยิงขู่ยังคว้าสปาร์ตาไล่ฟัน ต้องยิงใส่ขาไป 2 นัด ไม่หมดฤทธิ์แว้งฟันตำรวจเจ็บ 2 นาย
เวลา 10.00 น.วันที่ 2 เม.ย. พ.ต.ท.เฉลิมพงษ์ ทองพันธ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เป็นเจ้าของสวนยางว่าได้มีคนร้ายเข้าไปแอบกรีดยาง ในสวนยางหลังบ้านไม่มีเลขที่ พื้นที่บ้านทุ่งก็อง หมู่ 6 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จึงประสาน ร.ต.ท.ไพศาล ถิระผะลิกะ รอง สวป.กับ จ.ส.ต.อำนวย น้าวประจุล ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ,พบชาย ทราบชื่อต่อมา คือ นายขนบ สังสวัสดิ์ อายุ 42 ปี อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ กำลังกรีดยางอยู่ในสวนของชาวบ้าน ตำรวจจึงพยายามเข้าไปพูดคุยและควบคุมตัว แต่นายขนบขัดขืนไม่ยอมให้จับและในมือยังถือฉมวก 2 อันขู่ไม่ให้ตำรวจทั้งสองนายเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะใช้ฉมวกตี ร.ต.ท.ไพศาล เข้าที่แขนซ้ายและใช้ฉมวกอีกอันพุ่งใส่แฉลบกางเกงจนขาด ร.ต.ท.ไพศาล จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ยิงขึ้นฟ้า 3 นัด เพื่อป้องปรามให้หยุด,แต่ นายขนบ ยังไม่ยอมหยุด กลับใช้อาวุธมีดสปาร์ตาที่พกติดตัว จะเข้าทำร้ายตำรวจทั้งสองนาย ทาง ร.ต.ท.ไพศาล จึงตัดสินใจยิงสกัดไป 2 นัด กระสุนถูกเข้าที่ขาซ้ายและหน้าแข้งซ้าย จนล้มลงบาดเจ็บ แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์เพราะขณะที่ตำรวจทั้งสองนายจะเข้าไปควบคุมตัว นายขนบ ยังขัดขืนไม่ยอมให้จับและพยายามใช้มีดฟันทำให้ ร.ต.ท.ไพศาล ถูกมีดบาดเข้าที่หัวแม่มือซ้าย นิ้วซ้ายและนิ้วชี้ขวา ส่วน จ.ส.ต.อำนวย ถูกมีดบาดเข้าที่นิ้วชี้ซ้าย แต่สุดท้ายตำรวจทั้งสองนายก็รวบตัวเอาไว้ได้ ,ต่อมา พ.ต.อ.บัญชา มีบุญ ผกก.สภ.รัตภูมิ ได้นำกำลังตำรวจเข้าไปเสริม พร้อมหน่วยกู้ภัยรัตภูมิธรรมาวาส และรีบนำทั้งคนร้ายและตำรวจที่บาดเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาลรัตภูมิ,สำหรับ นายขนบ คนร้ายรายนี้ชอบขโมยกรีดยางพาราในสวนยางของชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นประจำ ในช่วงที่เจ้าของสวนหยุดกรีด จนในวันนี้ทางเจ้าของสวนยางได้มาพบและแจ้งตำรวจให้จับกุม กระทั่งเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น เบื้องต้นได้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหาหนัก ทั้งพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธ, พาอาวุธมีดเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
แนะนำ ผู้หญิง วัยทำงานที่ต้องสู้งานหนัก พักผ่อนน้อย บางวันก็เครียด คิดเยอะจนนอนไม่หลับ หลายวันเข้าก็ส่งผลเสียต่อ สุขภาพ มาดูวิธีผ่อนคลายร่างกายจิตใจ ช่วยแก้ไขให้ สุขภาพดี
ผู้หญิง, วัยทำงาน โดยเฉพาะพนักงาน ,สาวออฟฟิศ, ที่ต้องสู้งานหนัก มีประชุมทั้งวันหรือเจองานเร่ง งานโหลด งานค้าง จนเกิดความเครียดสะสมไปถึงที่บ้าน ทำเอานอนไม่หลับ ปิดสวิตช์ตัวเองไม่ลงสักที เป็นแบบนี้หลายๆ วันเข้า ร่างกายก็ทรุดโทรม ขอบตาดำ ไม่มีสมาธิ ป่วยง่าย แล้วจะแก้ไขยังไงดี?,Thairath Women, มี,วิธีผ่อนคลาย,ร่างกายและจิตใจของคุณ หลังจากการทำงานหนักและเคร่งเครียดในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้คลายเครียด ทำให้หลับสบาย ปิดสวิตช์ความเครียดจากงานได้ง่าย เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูตัวเองเต็มที่ในขณะนอนหลับ ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง? มาดู How to กันเลย,7 วิธี Relax ร่างกายจิตใจหลังลุยงานหนัก,1. กินมื้อเย็นให้เร็วขึ้น,ถ้าวันไหนที่คุณรู้สึกเหนื่อยหนักจากการทำงาน เมื่อยล้า เครียด ต้องการการนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้เริ่มต้นจากการปรับเวลาดินเนอร์ของคุณให้เร็วขึ้น จากเดิมที่กินข้าวเย็นทุ่ม-สองทุ่ม ให้เลื่อนมากินสัก 6 โมงเย็น (กรณีที่คุณเลิกงานปกติ ไม่ดึก) ร่างกายจะได้มีเวลาย่อยอาหารก่อนที่จะเข้านอน เพราะหากคุณดินเนอร์ตอนดึกจะทำให้นอนไม่หลับ เนื่องจากกลไกในร่างกายจะไม่สามารถนอนหลับได้หากกระเพาะยังทำงาน (ย่อยอาหาร) อยู่,2. งดเครื่องดื่มกาเฟอีน,ควรงดเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือขนม ไอศกรีมรสกาแฟ เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ถ้ากินช่วงเย็นหรือช่วงค่ำๆ จะทำให้คุณนอนหลับยาก ทำให้คุณนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอไปอีก ให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ 4-6 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน แต่ทางที่ดีคือ งดดื่มไปเลยเป็นดีที่สุด,3. ฝึกลมหายใจก่อนนอน,เคยได้ยินคำว่า ทำสมาธิก่อนนอน กันมั้ยคะ? ถ้าไม่เคยทำ คืนนี้สาวๆ ลองไปทำกันดูนะ ว่ากันว่าวิธีนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้ดี ทำให้นอนหลับได้ง่าย ใช้เวลาทำแค่ไม่กี่นาทีก่อนนอน โดยให้ทำแบบนี้,หายใจลึกๆ เข้าทางจมูก กำหนดให้ช่วงท้องพองขึ้น และหายใจออกทางปาก กำหนดให้ท้องยุบลง พยายามจดจ่อและเพ่งสมาธิอยู่ที่ลมหายใจ ตัดความคิดต่างๆ ทั้งหลายออกไป ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-3 นาที เป็นการทำให้ร่างกายผ่อนคลายและพร้อมสำหรับการนอนหลับ,4. จินตนาการความเบาสบาย,หลังจากกำหนดลมหายใจให้ร่างกายผ่อนคลายแล้ว ถัดมาคือการผ่อนคลายจิตใจเพื่อช่วยให้หลับง่าย หลับสบายมากขึ้น ช่วยปิดสวิตช์ความเครียดและลบขยะความคิดต่างๆ ออกไปให้หมด โดยให้ทำแบบนี้,ในขณะหลับตาและหายใจเข้าออกช้าๆ ให้นึกภาพจินตนาการว่าคุณกำลังอยู่ ณ สถานที่หนึ่งที่สวยงาม สงบเงียบ เบาสบาย ให้คิดในใจว่า จิตใจของฉันสงบ ร่างกายของฉันผ่อนคลาย ฉันอยู่ในที่ที่สงบสุขและพร้อมสู่การนอนหลับ,5. ตั้งกฎไม่รับสายเวลาพักผ่อน,รู้หรือไม่? การที่คุณคอยเช็กงาน เช็กอีเมล ส่องโลกโซเชียลในเวลาจะเข้านอน จะส่งผลให้คุณนอนไม่หลับ หลับยาก โดยเฉพาะการรับโทรศัพท์กลางดึกบ่อยๆ เนื่องจากแสงจากหน้าจอมือถือจะไปขัดขวางการผลิตเมลาโทนินตามธรรมชาติของร่างกาย มันจะหลอกร่างกายให้คิดว่าเป็นเวลากลางวัน ซึ่งทำให้คุณตื่นกลางดึก ทางที่ดีควรปิดมือถือ หรือวางมือถือไว้ที่ไกลๆ เตียงนอนจะดีที่สุด,6. นั่งสมาธิหรือโยคะ,นอกจากนี้ยังมีวิธีการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจแบบอื่นๆ อีก เช่น การนั่งสมาธิ เดินจงกรม หรือการอาบน้ำอุ่นๆ ก็ช่วยให้คลายเครียดจากการทำงานได้เช่นกัน หรือจะเล่นโยคะเบาๆ เน้นท่าที่ช่วยยืดเส้นบริเวณหลัง บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ เนื่องจากเป็นส่วนที่มักจะเกิดออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย จากการนั่งทำงานหน้าคอมฯ เป็นเวลานานๆ ,7. ใช้กลิ่นอโรมาก่อนนอน,สุดท้ายแนะนำให้หาน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ช่วยให้นอนหลับสบาย เช่น น้ำมันหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือไม้หอมรมควันกลิ่นใบเสจ ช่วยให้คุณสงบสติอารมณ์ กำจัดพลังงานเชิงลบ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาความเมื่อยล้าต่างๆ ในร่างกาย,ติดตามอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ ,ผู้หญิง, ได้ที่นี่ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ,หรือหาตัวช่วยง่ายๆ อาหารเสริม สุขภาพดีไปกับ ,lazada ส่วนลด, ที่นี่ที่เดียว,บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ,How to นอนหลับ ให้ถูกวิธีช่วย ผู้หญิง ชะลอความแก่,ป้อม วินิจ เนรมิตความฉ่ำ ชมพู่ อารยา Cannes 2019,หน้าร้อน กับ น้ำหนักตัว ซัมเมอร์ผู้หญิงดูอ้วนขึ้น?,เลือก บรา แบบไหน? ให้เหมาะกับทุกชุด,ที่มา : ,anamai.moph,, ,goop
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กัปตันสนอง เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้โดยสารควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย เมื่ออยู่บนเครื่องบิน ดังนี้
หลังจากที่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับสายการบินต่างๆ เป็นเหตุให้มีบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, จึงต่อสายโทรศัพท์ไปยัง ,นายสนอง มิ่งเจริญ นายกสมาคมนักบินไทย, นักบินผู้มากประสบการณ์ เพื่อสอบถามถึงวิธีการนั่งเครื่องบินผู้โดยสารควรจะปฏิบัติอย่างไรขณะอยู่บนเครื่องบินเพื่อความปลอดภัย,กัปตันสนอง เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้โดยสารควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย เมื่ออยู่บนเครื่องบิน ดังนี้,เครื่องแต่งกายที่เหมาะสม,ผู้โดยสารควรแต่งกายให้เหมาะสม ใส่เสื้อผ้าที่ครอบคลุมทั้งแขนขา เพื่อป้องกันวัตถุ เช่น โลหะ กระจก แก้วที่จะพุ่งเข้าใส่ตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากเป็นไปได้ไม่ควรใส่ส้นสูงหรือใช้ผ้าที่ติดไฟง่าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุสิ่งของพวกนี้อาจจะทำให้ไม่คล่องตัวในการอพยพ,ห้ามนำวัตถุอันตรายขึ้นเครื่อง,ผู้โดยสารไม่ควรนำวัตถุอันตรายขึ้นเครื่องตามคำแนะนำของสายการบิน เช่น ของที่ทำให้ติดไฟได้ง่าย กระป๋องอัดแก๊ส ไฟแช็ก วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด วัตถุมีพิษ วัตถุมีคม และล่าสุดแบตเตอรี่สำรองหรือเพาเวอร์แบงก์ที่มีความจุเกิน 20,000 แอมป์,สังเกตทางออกฉุกเฉิน,ผู้โดยสารควรที่จะสังเกตว่าทางออกฉุกเฉินอยู่ที่ใด เผื่อเกิดกรณีที่ต้องมีการอพยพออกจากเครื่องบินในกรณีฉุกเฉินจะได้ตื่นตระหนก เพราะส่วนมากเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ระบบไฟฟ้าบนเครื่องมักจะโดนตัด,สนใจการสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน,ผู้โดยสารควรที่จะศึกษาและสนใจการสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบินจากพนักงานต้อนรับ รวมไปถึงศึกษาแผ่นคู่มือความปลอดภัย,เก็บสัมภาระให้เข้าที่,ผู้โดยสารควรเก็บสัมภาระให้เข้าที่ไม่ควรวางไว้บนพื้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ความเร็วของสัมภาระที่เคลื่อนที่มันจะมีความเร็วและเป็นอันตรายอย่างมาก หากผู้โดยสารจะอพยพสัมภาระที่วางอยู่บนพื้นอาจทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ สะดุดล้มได้ เวลาเกิดเหตุเครื่องบินจะมืดมีควัน ผู้โดยสารอาจเดินเหยียบของต่างๆ,รัดสายเข็มขัดที่นั่งอย่างถูกต้อง,ผู้โดยสารควรรัดสายเข็มขัดที่นั่งอย่างถูกต้อง กระชับช่วงเอว และปรับเบาะนั่งให้อยู่ในระดับตรง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุตัวคนจะไหลลงไปในช่องของเบาะนั่งด้านหน้า หรือผู้โดยสารบางคนรัดสายเข็มขัดที่นั่งเสร็จก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือเครื่องจะออกก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ อีกทั้ง เมื่อเครื่องลงจอดแล้วผู้โดยสารบางคนก็ปลดสายเข็มขัดออก หยิบสัมภาระเตรียมตัวลงจากเครื่อง แต่หารู้ไม่ว่าเครื่องบินที่กำลังแท็กซี่เข้าหลุมจอดหรือเครื่องเคลื่อนที่อยู่บนพื้นนั้น บางครั้งมีความเร็วถึง 40-50 กม./ชม. อาจจะเบรกกะทันหันก็ได้,หากเป็นไปได้ให้นั่งใกล้กับทางออก,จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยกรีนวิชถึงแนวโน้มที่จะอยู่รอด พบว่า หากนั่งอยู่ภายในห้าแถวของทางออก และเมื่อนั่งอยู่แถวหกหรือมากกว่า โอกาสของการรอดจะเหลือ 50:50 หรือถ้านั่งอยู่บนทางเดินออกจากนั้นยิ่งดี ขณะที่ นั่งริมทางเดิน โอกาสในการอยู่รอดเป็นร้อยละ 64 เทียบกับที่นั่งริมหน้าต่าง ร้อยละ 58,สติมาปัญญาเกิด,ผู้โดยสารควรจะมีสติและมีความพร้อมขณะที่เครื่องกำลังขึ้น-ลง เหตุฉุกเฉินมักจะเกิดในช่วงนั้นมากที่สุด วิธีที่ทำได้เบื้องต้นคือการไม่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก และการรัดเข็มขัดที่นั่งอย่างถูกวิธี,จากผลการศึกษาในต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าถ้าออกจากเครื่องบินภายในเวลา 90 วินาที หลังจากที่การเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มโอกาสในการอยู่รอดมากขึ้น ซึ่งปฏิกิริยาที่จะทำให้เกิดความผิดพลาด คือ การนั่งอยู่ในภวังค์ตะลึงปนตกใจ และรอให้คนมาช่วย ฉะนั้น การออกจากเครื่องบินให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้อาจช่วยให้มีชีวิตรอด,ทั้งนี้ กัปตันสนอง ระบุว่า การเกิดอุบัติเหตุทางการบินมีน้อยมาก โดยสถิติแล้วโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากทางรถยนต์ระหว่างการเดินทางไปสนามบินมีมากกว่าอุบัติเหตุจากการขึ้นเครื่องบินถึง 2,000 เท่า,The Popular Mechanics, ได้เปิดเผยผลการวิเคราะห์ทางสถิติ โดยผลการวิเคราะห์ได้แบ่งลำตัวเครื่องบินออกเป็น 4 ส่วน และพบว่า ยิ่งนั่งใกล้หางเครื่องบินมากกว่า ก็จะมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่านั่งในส่วนหน้าถึง 20% ขณะที่ ส่วนหัวของเครื่องบินคือจุดเสี่ยงตายมากที่สุด และเป็นที่นั่งชั้น First Class และ Business Class ซึ่งมีโอกาสรอดชีวิตประมาณ 49% เท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 56% เมื่อนั่งตรงส่วนกลางและส่วนบริเวณปีกของเครื่องบิน ด้าน ชั้นประหยัดในส่วนท้าย จะมีโอกาสรอดมากถึง 69%,ด้าน ,FAA สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา, ระบุว่า ไม่มีที่นั่งใดปลอดภัยที่สุด เพราะไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินในลักษณะใด,อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารควรปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยบนเครื่อง และคำแนะนำของพนักงานต้อนรับ โดยเฉพาะกฎเหล็กที่ไม่ควรฝ่าฝืนเด็ดขาดขณะอยู่บนเครื่องบิน และต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม ที่สำคัญที่สุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องตั้งมั่นครองสติอยู่เสมอ เพื่อจะได้หาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัย.,ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก,www.aol.co.uk,    ,www.howstuffworks.com,  ,www.popularmechanics.com
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ รวม 5 ประโยคเด็ดเผ็ดๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ทำคนไทยฟังแล้วแสบหู ถึงกับร้องอู้หู ทำไมนายกฯ พูดออกมาได้
มึงมาไล่ดูสิ, ประโยคสั้นๆ แต่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอาณาจักร หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงท้ายของการแถลงผลงาน 4 ปีรัฐบาลว่า อย่าไปไล่ล่ากันมากนัก พอไล่คนนี้แล้วลาออก แล้วเดี๋ยวมาไล่นายกฯ ออก ก็กฎหมายว่าอย่างนี้ มึงมาไล่ดูสิ ไล่ให้ได้สิ ผมไม่ท้าทาย แต่ไม่ออก,ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์, รวมประโยคเด็ดเผ็ดๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ทำคนไทยฟังแล้วแสบหู ถึงกับร้องอู้หู ทำไมนายกฯ พูดออกมาได้,บิ๊กตู่ฉุน-แบ่งเขต ด่ากราดจะตายห่ากันหรือไง (30 พฤศจิกายน 2561),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่ง ระหว่างเป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 5/2561 ซึ่งมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก สภาพัฒน์ ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.),แม่งจะตายห่ากันให้หมดหรืออย่างไร ก็ไม่รู้กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้., พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,บิ๊กตู่ ด่าคอลัมนิสต์เก่งนักมึงมาบริหาร (25 มี.ค.2558),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศบรูไน โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดและแสดงอารมณ์โกรธและโมโหตลอดระยะเวลาการให้สัมภาษณ์ รวมทั้งได้มีการเตรียมเอกสารเพื่อชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงถึงขนาดบางช่วงเสียงสั่น และมีการโยนเอกสารใส่ผู้สื่อข่าว โดยการให้สัมภาษณ์วันนี้ใช้เวลาทั้งสิ้นรวม 23 นาที,เก่งนักหนา มึงมาบริหารงานมา มาเป็น ส.ส.เลย , พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,บิ๊กตู่ ฟิวส์ขาด ให้สัมภาษณ์ดุเดือด สบถหยาบ ไอ้ห่า ไอ้บ้า ขี้ข้า ทำไมวะ (29 มกราคม 2558),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ทยอยเรียกนักการเมืองเข้ามารายงานตัว,ไอ้ห่า ถ่ายออกมาดีๆ,จิตใจมันต่ำ ด่าที, พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ,ในวันดังกล่าว เป็นไปอย่างดุเดือดและมีการพูดคำสบถหลายคำทั้ง ไอ้ห่า ขี้ข้า บ้า ทำไมวะ พร้อมสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็พยายามจะบอกว่าที่เสียงดังนั้นไม่ได้โมโหแต่อย่างใด,บิ๊กตู่ ฉุน หลุดสบถ โง่ เฮงซวย (25 มีนาคม 2558),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนบรูไนถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุระเบิดหลายครั้งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเองว่า,ก็มันโง่ไง, พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,เมื่อถามว่า การออกมาพูดเช่นนี้จะมีการห้ามปรามอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สนใจ เมื่อถามต่อว่า จะเรียกมาปรับทัศนคติอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ,เฮงซวยพวกนี้,บิ๊กตู่ ปรี๊ดขั้นสุด ขู่พวกด่าไม่หยุด จะชกปาก (24 ก.ค.2561),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปสวนสัตว์อุบลราชธานี เพื่อพบประชาชน และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดการที่ดินทำกินให้ชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2,ใครด่าก็ชกปากแล้ว, พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,บิ๊กตู่ ยัวะพวกวิจารณ์ซื้อยาง แล้วจะให้กูทำยังไงวะ (12 ม.ค.2559),พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ,แล้วจะให้กูทำยังไงวะ ปัดโธ่, พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,แม้ว่า นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย จะฉุนและหัวร้อนอยู่บ่อยครั้ง,แต่ท่านผู้นำก็มักจะจบลงด้วย คำขอโทษ พร้อมเหตุผล คนเราก็มีอารมณ์โกรธ,ฉะนั้น คนไทยจึงได้ยิน คำขอโทษ ขอโทษ และขอโทษ ออกจากปากนายกรัฐมนตรีของเราจนคุ้นชิน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปปง.เผยอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กรณีมีการตรวจสอบว่า นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ และผู้ใกล้ชิดโยกย้ายเงินจากบัญชีต่างๆ 40 บัญชี จากเงินที่พบกว่า 200-300 ล้านบาท เหลือเพียง 3 ล้านบาท ขณะที่วันนี้มีผู้นำข้อมูลการแอบอ้าง และเชิญชวนให้บริจาคสร้างโรงพยาบาลใน จ.ร้อยเอ็ด ของอดีตพระเณรคำให้ตรวจสอบเพิ่ม
นายสงกรานต์ อัจริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วยใบโฆษณาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด เมื่อปี 2554 ที่ให้ร่วมบริจาค เพื่อนำไปสร้างอาคาร และให้ร่วมบริจาคเงินรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แต่ละลำดับชั้น วงเงินตั้งแต่ 100000 บาทถึง 30 ล้านบาท และมีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งพระ และนักธุรกิจกว่า 20 คนนายสงกรานต์ ยังได้นำภาพการขอรับบริจาคทองคำ 9000 กิโลกรัม เพื่อใช้สร้างเครื่องทรง พระเเก้วมรกตจำลอง 3 ฤดู ซึ่งขณะนี้พบว่ามีทองคำแล้ว 8000 กิโลกรัม ซึ่งมีนักธุรกิจค้าทองคำ และนักการเมืองมีศรัทธามอบให้ รวมทั้งยังนำจดหมายของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณวัดแจ้งเบาะแสข้อมูลต่างๆ มามอบให้เป็นหลักฐานอีกด้วยขณะที่ ร.ต.อ.หญิงสุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า จะนำหลักฐานไปให้คณะกรรมการร่วมพิจารณา ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทรัพย์สิน และอสังหาริมทรัพย์ของอดีตพระเณรคำ และผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนประเด็นการตรวจสอบ ล่าสุด พบว่ามีการโยกย้ายเงินในบัญชีเณรคำกว่า 200 ล้านบาท ปปง.ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ และหากพบว่ามีการโยกย้ายจริงก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง ส่วนทองคำ 8000 กิโลกรัมที่นายสงกรานต์อ้างถึง ป.ป.ง.กำลังตรวจสอบเช่นกัน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
คาดการณ์อังคารที่ 10 ม.ค. ครม.จะพิจารณาแผนช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ด้านสำนักงานปลัดนายกฯ เปิดสายด่วน 1111 เป็นศูนย์กลางประสานความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย
วันนี้ (6 ม.ค.2560) นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดสายด่วน 1111 เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับประชาชนที่มีความประสงค์มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากภาครัฐ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ประกอบด้วย การจ่ายให้ผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตคนละ 50000 บาท เยียวยากรณีที่ทรัพย์สินเสียหายตามข้อเท็จจริง และสุดท้ายคือ กรณีเร่งด่วนโดยทางจังหวัดร้องขอมา และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สามารถอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือได้ทันทีจำนวน 5 ล้านบาท สำหรับการเยียวยากรณีทรัพย์สินเสียหายตามข้อเท็จจริงนั้น ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีตัวอย่างเบื้องต้น คือ ค่าซ่อมบ้านทั้งหมดหรือบางส่วนตาม การช่วยเหลือค่าเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องมือประกอบอาชีพหรือเครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย ซึ่งการจ่ายเงินช่วยเหลือนี้ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่นทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าหลังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เดินทางกลับจากการลงพื้นที่ภาคใต้ จะมีการหารือนอกรอบถึงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ และมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าระเบียบการช่วยเหลือที่ว่านี้จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันอังคารที่ 10 มกราคมนี้ เพื่อเห็นชอบอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเร็ว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ขวัญชัย แท่นนิล คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ รายการ สิงห์ ออล ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ไปครองได้สำเร็จ
หลังรอบสุดท้ายทำสกอร์เพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันสกอร์ 22 อันเดอร์พาร์ 266 คว้าเงินรางวัล 450,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 5 คะแนน ในการแข่งขันที่สนามสุวรรณ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จังหวัดนครปฐม ,การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ จากการสนับสนุนโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) จัดแข่งขันรายการ สิงห์ออลไทยแลนด์แชมเปี้ยนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 13-16 มิถุนายน 2562 ณ สนามสุวรรณ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จังหวัดนครปฐม ระยะ 7,055 หลา พาร์ 72 ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 5 คะแนน,โดยในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน โดย โปรแม๊กซ์ ขวัญชัย แท่นนิล วัย 33 ปี จากหัวหิน ซึ่งเป็นผู้นำรอบที่แล้ว รอบนี้ยังโชว์ฟอร์มดี โดยเริ่มต้นด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้รวดที่หลุม 2, 3 และ 4 ก่อนมาพลาดเสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 6 และมาเก็บเบอร์ดี้คืนได้อีก 2 หลุมรวดที่หลุม 9 และ 10 แต่มาพลาดเสียอีก 1 โบกี้ที่หลุม 12 และมาแก้ตัวเก็บคืนได้ 1 เบอร์ดี้ที่หลุม 14 ก่อนจะตีประคองตัวจนจบ 18 หลุม จบรอบทำสกอร์เพิ่มได้ 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวมสี่วันคว้าแชมป์ไปครองที่ 22 อันเดอร์พาร์ 266 ชนะห่างที่สอง อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ 2 สโตรก โดยขวัญชัย ได้รับเงินรางวัล 450,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 5 คะแนน,ขวัญชัย ที่คว้าแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ได้เป็นรายการที่สาม หลังเคยคว้าแชมป์ สิงห์พัทยาโอเพ่น 2013 กับ สิงห์เชียงใหม่โอเพ่น 2019 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากและภูมิใจที่ได้แชมป์ที่สองในปีเดียว เพราะไม่เคยทำได้ แล้วก็ได้เล่นกับน้องเก่งๆ หลายคน สนามนี้เหมือนเข้าทางเพราะไม่ยาวมากแค่ไดร์ฟอยู่และก็ชอบที่ได้ตีแต่เหล็กสั้น ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ตีสบายๆ แต่น้องๆ ก็ไล่มาเกือบทัน โดยเฉพาะหลุม 14 พาร์ 5 น้องพชรเค้าพัตต์เบอร์ดี้ลงไปก่อน ผมคิดในใจว่าต้องพัตต์ลงไปด้วยไม่งั้นน้องเค้าจะสกอร์เท่ากัน ก็รู้สึกกดดัน แต่ก็ได้ประสบการณ์ของเรา ค่อยๆ คิด ค่อยๆ เล่นไปเรื่อย แล้วน้องเค้ามาตีหลุดเอง จนถึงแฟร์เวย์หลุม 18 ก็เริ่มมั่นใจ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่นำแค่ 2 แต้ม ถ้าเราโบกี้แล้วน้องเบอร์ดี้ก็มีสิทธิ์ทัน ช่วงปีสองปีที่แล้วผมฟอร์มไม่ดีเลย ไดร์ฟแย่มาก ตอนนี้ไดร์ฟถือว่าดีประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ควอลิฟายเอเชียนทัวร์ได้ก็เริ่มมั่นใจขึ้น สำหรับอาทิตย์หน้าก็จะพัก แล้วก็ไปแข่งเอดีทีที่มาเลเซีย ปีนี้ก็พยายามเล่นเอเชียนทัวร์ให้ติดท็อป 60 ให้ได้ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่ให้การสนับสนุน ขอบคุณ สนามกอล์ฟสุวรรณ การกีฬาแห่งประเทศไทย สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ที่ให้สนับสนุนสถานที่ซ้อม,ทางด้าน อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ โปรวัย 26 ปีจากนนทบุรี ทำสกอร์เพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ 65 จาก 7 เบอร์ดี้ ไม่เสียโบกี้ สกอร์รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าที่สอง ได้รับเงินรางวัล 277,500 บาท พร้อมอันดับโลก 3 คะแนน ส่วน พชร คงวัดใหม่ โปรวัย 20 ปีจากหาดใหญ่ ทำสกอร์เพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวมสี่วัน 19 อันเดอร์พาร์ 269 คว้าที่สาม ได้รับเงินรางวัล 171,000 บาท พร้อมอันดับโลก 2 คะแนน ส่วน ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย โปรวัย 25 ปีจากราชบุรี ผู้นำในวันแรก ทำสกอร์เพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 ได้ที่ 4 ร่วมกับ คิม จู ฮยอง โปรดาวรุ่งวัย 17 ปีจากเกาหลีใต้ที่รอบนี้ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 ได้รับเงินรางวัลคนละ 126,000 บาท และอันดับโลก 1.4 คะแนน ทางด้าน นพรัฐ พานิชผล สวิงทีมชาติวัย 20 ปีจากสระแก้วทำสกอร์ 15 อันเดอร์พาร์ 273 คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นดีเด่น ได้รับถ้วยรางวัล ศุภพร มาพึ่งพงศ์ ไปครอง,ผลงานนักกอล์ฟที่น่าสนใจ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ(65) ทำสกอร์ 16 อันเดอร์พาร์ 272 ได้ที่ 6, ชัพชัย นิราช(67) ทำสกอร์ 15 อันเดอร์พาร์ 273 ได้ที่ 7 ร่วม, นำโชค ตันติโภคากุล(65) ทำสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ 274 ได้ที่ 9 ร่วม, กัมลาศ นาเมืองรักษ์(68) ทำสกอร์ 11 อันเดอร์พาร์ 277 ได้ที่ 18 ร่วม, ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง(68) ทำสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 278 ได้ที่ 21 ร่วม, เชาวลิต ผลาผล(74) และ เนติพงศ์ ศรีทอง(74) ทำสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 282 ได้ที่ 37 ร่วม, และ ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต(72) ทำสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 283 ได้ที่ 42 ร่วม,สำหรับรายการต่อไปของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ได้แก่ รายการ สิงห์ ออลไทยแลนด์ เมมโมเรียล 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท แข่งขันระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2562 ที่สนามชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ท สอยดาว จังหวัดจันทบุรี.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เป็นหน่วยงานหลักขับเคลื่อนภารกิจการสร้างองค์ความรู้ในศาสตร์สาขาต่างๆ โดดเด่นด้านการสร้างภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้ปรากฏเด่นชัดยิ่งขึ้น
โดดเด่นด้านการสร้างภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้ปรากฏเด่นชัดยิ่งขึ้น,และเชื่อมโยงสังคมให้ใช้ คำราชาศัพท์ ได้เหมาะสมในห้วงแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร,องค์กรนี้คือต้นธารแห่ง คลังคำ-คลังความรู้ ของศาสตร์สาขาต่างๆ ซึ่งมีปราชญ์กระจายอยู่ตามสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง สำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักศิลปกรรม ได้ค้นคว้า วิจัย บำรุงสรรพวิชา จนตกผลึก ก่อนนำผลงานที่ได้สร้างสรรค์ออกเผยแพร่ในนาม ราชบัณฑิตยสภา,ราชบัณฑิตยสภา กำลังก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆด้าน คลังคำ-คลังความรู้ ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้อย่างไร ดร.โสภา ชูพิกุลชัย ชปีลมันน์ นายกราชบัณฑิตยสภา ได้แย้มความคิดและเปิดใจให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง,โดยชี้ให้เห็นถึงพันธกิจสำคัญๆถึงการให้ความเห็น คำแนะนำ คำปรึกษาทางวิชาการแก่นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์การมหาชน หน่วยงานอื่นของรัฐ สถาบันการศึกษา หน่วยงานของเอกชน ประชาชน,รวมถึงการอนุรักษ์ภาษาไทยมิให้แปรเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี ในทางที่เสื่อม คนไทยย่อมภูมิใจภาษาไทย แสดงให้เห็นถึงประเทศไทยไม่เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของต่างประเทศ,สิ่งที่สำคัญเราต้องพยายามกระตุ้นจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน เห็นคุณค่าของภาษาไทยและเอกลักษณ์ความรักชาติ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลอย่างรวดเร็ว วัฒนธรรมต่างๆไหลบ่าเข้ามา ถ้าเด็กและเยาวชนไร้ภูมิต้านทาน ย่อมจะซึมซับสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเหมาะสมเข้าไปได้,ฉะนั้น จะต้องกระตุ้น ปลูกฝังเด็กให้เห็นว่าเราเป็นชาติที่น่าภาคภูมิใจมากในความเป็นไทยซึ่งมีภาษาลักษณะพิเศษ มีคำใช้ที่ลึกซึ้งมากกว่าภาษาอื่น,พร้อมยังทำงานเชิงรุกเดินหน้า ราชบัณฑิตยสภาสัญจร เปิด แอพพลิเคชั่นพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แอพพลิเคชั่นอ่านอย่างไรและเขียนอย่างไร แอพพลิเคชั่นชื่อบ้านนามเมือง แอพพลิเคชั่นภาษาอาเซียนฉบับราชบัณฑิตยสภา เพื่อช่วยให้คนไทยใช้ภาษาไทยได้ง่าย เข้าถึงแหล่งอ้างอิงได้สะดวกรวดเร็วแค่ปลายนิ้ว,ปัจจุบันเรื่องราวเกี่ยวกับ,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ, ซึ่งอยู่ในความสนใจของพสกนิกรทุกคน ที่เทิดทูนและจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักงานราชบัณฑิตยสภาจึงตั้ง คณะกรรมการเฉพาะกิจจัดทำอธิบายคำราชาศัพท์,มี อาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ราชบัณฑิต เป็นประธาน น.ส.สุปัญญา ชมจินดา เลขานุการกรมและโฆษกสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เป็นหนึ่งในกรรมการ เพื่อให้ข้อมูลและความรู้แก่นิสิตนักศึกษา ประชาชน สื่อมวลชน หรือใครก็ตามที่อยากรู้ คณะกรรมการชุดนี้พร้อมที่จะตอบคำถามด้วยความภาคภูมิใจ,ตอนนี้เราเน้นราชาศัพท์เกี่ยวกับ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เผยแพร่คำอธิบายผ่านรายการ รู้รักภาษาไทย ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และเผยแพร่การใช้ราชาศัพท์ที่ถูกต้องผ่านสื่อออนไลน์ของสำนักงานราชฑิตยสภา ,www.royin.go.th,  เฟซบุ๊ก,ราชบัณฑิตยสภา, หรือถ้าหากใครอยากทราบอะไรให้โทรศัพท์มาที่หมายเลข 0-2356-0466 ถึง 70 ในเวลาราชการ เราจะตอบได้ทันที,เช่น คำว่า พระยานมาศสามลำคาน ได้รับการสร้างขึ้นใหม่เมื่อแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สำหรับเชิญพระบรมโกศทรงพระบรมศพโดยขนบนิยมในราชประเพณี,ต่อมาในงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีความอ้างถึงพระยานมาศในจดหมายเหตุครั้งนั้นว่า เจ้ากรมพระตำรวจทั้งแปดกรม แต่งตัวนุ่งสมปักลายใส่เสื้อครุยขาว ขัดกระบี่ แห่พระบรมโกศขึ้นประดิษฐานเหนือพระยานมาศสามคาน,พระยานุมาศสามคาน ปัจจุบันเรียกว่า พระยานมาศสามลำคาน,เมื่อเชิญพระบรมโกศทรงพระบรมศพขึ้นประดิษฐาน กางกั้นด้วยพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรคันดาล ต้องใช้เจ้าพนักงานแบกพระยานมาศขึ้นบ่าเพื่อเคลื่อนไป จำนวน 60 คน เป็น 2 ผลัด ระหว่างทาง รวม 120 คน,พระที่นั่งทรงธรรม เป็นอาคารทรงไทยที่ปลูกสร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งพระเมรุมาศสำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ,ราชาศัพท์บางคำตามเอกสารตั้งแต่โบราณก็ใช้ทั้ง 2 คำมาตลอด เหมือนคำว่า กระบวน กับ ขบวน ใช้สลับกันมาตลอด แต่เนื่องในราชพิธีนิยมในรัชกาลที่ 9 ใช้คำว่า ขบวน,บางคำเราก็ไม่สามารถตอบไปเลยได้ ก็จะให้ข้อมูลไปเบื้องต้น ก่อนตรวจสอบจากอาจารย์ในสำนักพระราชวังเพื่อข้อยุติ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาสุดท้ายจริงๆ,และยังมีราชาศัพท์หรือคำที่ประชาชนสื่อสารกันออกมาหลากหลายเกี่ยวกับการแสดงออกถึงรัชกาลที่ 9 เพื่อแสดงถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะวัยรุ่นพยายามตัดคำให้สั้นและบัญญัติคำใหม่ขึ้นมาใช้เอง,ฉะนั้นคำที่เหมาะสมแสดงให้เห็นถึงจุดหลอมรวมใจของคนในชาติ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,ขณะที่ น.ส.สุปัญญา ชมจินดา เลขานุการกรมและโฆษกสำนักงานราชบัณฑิตยสภา บอกเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจจัดทำอธิบายคำราชาศัพท์ เริ่มทำในช่วงที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และยังมีคณะกรรมการที่จัดทำหลักเกณฑ์การใช้คำราชาศัพท์,โดยทำตั้งแต่ช่วงแรกๆ ในวันที่ 14 ต.ค.59 สำนักงานราชบัณฑิตยสภา รีบออกคำแสดงความอาลัยถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก เผยแพร่เป็นตัวอย่างที่ถูกต้องแก่ประชาชน สื่อมวลชน ภาครัฐและเอกชน,เช่น เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล ปวงประชาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาสุดมิได้ เสด็จสู่สวรรคาลัย ผองพสกนิกรชาวไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ แล้วตามด้วยคำว่า ข้าพระพุทธเจ้า และให้ระบุชื่อบุคคล คณะบุคคล หรือหน่วยงานต่อท้าย,แต่คำบางคำที่สังคมถามหรือมีข้อถกเถียงหาข้อยุติไม่ได้ ก็ต้องสอบถามสำนักราชบัณฑิตยสภา หน้าที่ของราชบัณฑิตต้องหาข้อยุติให้ได้ โดยปราชญ์ศาสตร์สาขาต่างๆ ถ้าเป็น ราชาศัพท์ เราก็มีคณะกรรมการเฉพาะ,ถ้าหากเรามีคำถามและไม่มีองค์ความรู้ที่ยุติหรือยังถกเถียงกันอยู่ เราจะนำเข้าที่ประชุมเพื่อหาข้อยุติด่วน โดยพยายามค้นคว้าข้อมูล หลักฐานทั้งประวัติศาสตร์ หลักฐานจากหนังสือตำราแบบแผนต่างๆ และอาจารย์ในสำนักพระราชวัง,ต้องเข้าใจว่าราชบัณฑิตไม่ได้เป็นผู้บัญญัติการใช้คำราชาศัพท์ แต่คำราชาศัพท์มีการพัฒนาการมาอย่างยาวนาน เกิดขึ้นในโรงเรียนตำรามหาดเล็ก มีตำราเป็นเล่มว่าคำนี้ใช้อย่างไรในราชสำนัก ตอนหลังก็พัฒนาการมาเรื่อยๆ แบบแผนที่เห็นชัดคือแบบแผนในรัชกาลที่ 4 ระบุเลยคำนี้ควรใช้ คำนี้ไม่ควรใช้ ไม่เหมาะสมประมาณนี้,พัฒนาการของคำราชาศัพท์ก็เกิดกับโลกกับการวิวัฒน์ของสถาบันกษัตริย์ โดยปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากขึ้น มีอะไร,ต่อมิอะไรที่กว้างขึ้น เราก็ได้เห็นพระมหากษัตริย์ทรงงานมากขึ้นๆ,โดยเฉพาะรัชกาลที่ยาวนานก็มีพระราชกรณียกิจมากมาย ประชาชนก็เห็นมาก ราชาศัพท์ก็ขยายออกไปมากก็เกิดคำใหม่ๆบ้าง ประชาชนสร้างคำใหม่ โดยเข้าใจว่าการเติมคำว่า พระ นำหน้าคำๆนั้นก็กลายเป็นคำราชาศัพท์แล้ว เช่น วิสัยทัศน์ ก็เติมว่า พระวิสัยทัศน์ ถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นความเข้าใจของประชาชน,แต่แบบแผนคำราชาศัพท์ให้ใช้ว่า สายพระเนตรอันยาวไกล,เฉกเช่นคำว่า ถวาย ที่ประชาชนเข้าใจว่าเป็นคำราชาศัพท์ เมื่อจะไปวางดอกไม้จันทน์ถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ถ้าใช้แค่คำว่าไปวางดอกไม้จันทน์ ก็คิดว่าเป็นคำที่ใช้สำหรับบุคคลทั่วไปหรือไม่,ความจริงคำว่า ถวาย ใช้นำหน้าสำหรับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นนามธรรม เช่น ถวายพระราชกุศล,การใช้ภาษาเพื่อสื่อความเข้าใจ เราไม่ไปปิดกั้น เพราะเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี,แต่ตามแบบแผนถ้อยคำที่ใช้เพื่อสื่อความเข้าใจได้ง่ายที่สุด คือ,วางดอกไม้จันทน์เพื่อร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ.,ทีมการเมือง 
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ผบช.ภ.7 กางโต๊ะแถลงโชว์ผลงานการจับกุม มือปืนอันดับที่ 19 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการตัวมากที่สุด มีรางวัลนำจับถึง 100,000 บาท หลังหลบหนีเป็นคนงานสวนทุเรียนที่แก่งกระจาน ติดชายแดนพม่า เผย วีรกรรมก่อคดีมาแล้วโชกโชน…
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 มี.ค.58 ที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 แถลงการจับกุม นายอภิชาติ ศิลปะศร ( อ้วน หรือ เอก สับปะรด ) อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 ถ.สวนตะไคร้ ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม คนร้ายตามหมายจับหลายคดี และเป็นมือปืน 1 ใน 75 มือปืนเมืองไทย และอยู่ในอันดับที่ 19 ของกลุ่มที่ 1 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องการตัวมากที่สุด มีรางวัลนำจับ 100,000 บาท,พล.ต.ท.วีรพงษ์ กล่าวว่า นายอภิชาติ ก่อคดีสำคัญไว้หลายคดี ระหว่างการหลบหนีได้ก่อคดีใหม่ขึ้นตลอดเวลาในหลายพื้นที่ โดยก่อคดีแรกคือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจึงได้ก่อคดีร่วมกันใช้บังคับหรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในพื้นที่ จ.นครปฐม แต่ถูกจับกุมตัวได้ และหลบหนีประกันระหว่างการพิจารณาคดี โดยระหว่างหลบหนีคดีได้ก่อคดีเรื่อยมา จนปี พ.ศ.2554 ได้ถูกบันทึกให้เป็นมือปืนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการตัวมากที่สุด และมีการตีพิมพ์เป็นปฏิทินหมายจับมือปืนออกแจกจ่าย ทำให้นายอภิชาติ เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2557 ปลายปีที่ผ่านมา ได้ก่อคดีขึ้นอีกครั้งคือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในพื้นที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ จ.ตราด แต่ถูกเจ้าหน้าที่กดดัน จนต้องหลบหนีมารับจ้างทำงานเป็นคนงานในสวนทุเรียนที่ ใน ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ใกล้กับชายแดนพม่า,พล.ต.ท.วีรพงษ์ กล่าวต่อว่า แต่ด้วยความช่างสังเกตของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของผู้ต้องหารายนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิม และไม่เหมือนในปฏิทินที่ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2554 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถสืบสวนจนทราบว่าเป็นมือปืนคนสำคัญ และสามารถบุกเข้าจับกุมตัวได้ที่สวนทุเรียนในช่วงเช้าวันนี้ และนำตัวมาแถลงข่าวดังกล่าว,สำหรับ นายอภิชาติ ศิลปะศร ได้ถูกออกหมายจับมาแล้ว 7 คดี แต่เหลือคดีที่ยังมีอายุความอยู่ 3 คดี คือ หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 479/2557 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 57 และ หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.509/2551 ลงวันที่ 2 พ.ค. 2551 ทั้งสองคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ. 1334/2557 ในข้อหาร่วมกันใช้บังคับจ้างวาน หรือ ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 4 ช่วงวันที่ 21-26 ต.ค.นี้ ความกดอากาศสูงจากจีน จะแผ่ลงปกคลุมไทยตอนบน ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิลดลง 2-5 องศาฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ ภาคใต้มีฝนมากขึ้นช่วง 24-26 ต.ค.นี้
วันนี้ (20 ต.ค.2560) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 4 เรื่อง สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-26 ต.ค. 2560) ดังนี้ในช่วงวันที่ 21-26 ต.ค. 60 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนชื้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยในช่วง 1-3 วันแรกจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไปผลกระทบมีดังนี้- ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. 2560 บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์- ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. 2560 บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และชลบุรี- ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 2560 ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นจึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ประกาศ ณ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 05.00 น.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
หนุ่มใหญ่ชุมพร ถูกคนร้ายดักซุ่มยิงลูกซอง 2 นัด ดับคาถนนลูกรังในสวนปาล์ม ขณะไปหาเพื่อน ด้านตำรวจคาด คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวอย่างดี มุ่งปมล้างแค้นส่วนตัว - ขัดแย้งธุรกิจ
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 58 ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ รักสกุล พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่หมู่ 3 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จึงนำกำลังไปยังที่เกิดเหตุ เป็นถนนลูกรังในสวนปาล์ม  ห่างจาก อบต.บางมะพร้าว 800 เมตร กลางถนนพบศพ นายราชัน สุวรรณภัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 3 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน ถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้น 2 นัด เข้าที่กลางหลัง 1 นัด และที่แขนซ้ายอีก 1 นัด ห่างจากศพเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ทะเบียน กพค 20 ชุมพร ซึ่งดัดแปลงเป็นรถซาเล้ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนเนื่องจากเป็นที่มืด จึงนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายราชัน ขับรถซาเล้งคันดังกล่าวเดินทางไปหาเพื่อนซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุเพียง 200 เมตร ระหว่างทางถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิต สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจทราบความเคลื่อนไหวของ นายราชัน เป็นอย่างดี และรู้ว่าผู้ตายจะแวะเวียนมาหาเพื่อนที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุประจำ จึงมาดักรอและเจรจาอะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักของการสังหารโหดในครั้งนี้ในเรื่องธุรกิจบางอย่าง หรือเรื่องชู้สาว หรือความแค้นส่วนตัว ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
พณ.เผยหลังไทยถูกคงอันดับเทียร์ 3 ยังอีก 90 วันที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพิจารณาตัดความช่วยเหลือหรือไม่ ยัน ก.ม.มะกันไม่ให้สิทธิ์ประธานาธิบดีคว่ำบาตรการค้า ยกเว้นตัดช่วยเหลือด้านอื่น เช่น การศึกษา วัฒนธรรมเท่านั้น
ย้ำไม่มีผลกระทบต่อการค้าไทย-สหรัฐฯ,เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 58 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีระดับ 3 (เทียร์ 3) หรือประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์สหรัฐฯ และไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหา ตามรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 58 ว่า ตามกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ภายหลังการเผยแพร่รายงานแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีระยะเวลา 90 วัน ในการพิจารณามาตรการที่จะดำเนินการกับประเทศที่อยู่ในบัญชีระดับ 3,ทั้งนี้ ตามกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ หากประธานาธิบดีสหรัฐฯ พิจารณาจะใช้มาตรการกับไทย จะไม่สามารถใช้มาตรการตัดสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือในด้านการค้า และด้านมนุษยธรรมได้ ยกเว้นการตัดสิทธิ์ให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา วัฒนธรรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้คนไทยกังวลในเรื่องนี้ เพราะในปี 57 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ตัดความช่วยเหลือไทยในด้านใดๆ เลย และหวังว่า ในปีนี้ ก็อาจไม่ตัดสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือไทยเช่นกัน,ยังมีเวลาอีก 90 วัน ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับไทย แต่กฎหมายไม่ได้ให้สิทธิ์ประธานาธิบดีคว่ำบาตร หรือตัดสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือไทยในด้านการค้า และมนุษยธรรม ดังนั้น การอยู่เทียร์ 3 จะไม่มีผลกระทบกับการค้าของไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับเอกชนยังคงค้าขายกันเหมือนเดิม,อย่างไรก็ตาม จากการได้หารือกับอุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ได้รับแจ้งว่า สหรัฐฯ ทราบดีว่ารัฐบาลไทยดำเนินการอย่างเข้มงวด และจริงจัง ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งไทยหวังว่า ในการประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ในครั้งต่อไป ไทยน่าจะถูกจัดให้อยู่ในบัญชีที่ดีขึ้น,ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) อยู่ระหว่างการพิจารณาจะให้ใบแดงไทยหรือไม่ ภายหลังจากไทยมีการทำประมงที่ผิดระเบียบของอียู ไม่มีการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ว่า ประมาณเดือน ต.ค.นี้ ที่อียูจะประกาศให้ใบแดงไทยหรือไม่นั้น คาดว่า ไทยน่าจะรอด เพราะขณะนี้ รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมายแล้ว ซึ่งเชื่อว่า อียูน่าจะเข้าใจรัฐบาล และเห็นสิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังพยายามแก้ไข.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ตำรวจน้ำนครพนม สกัดรถแก๊งค้ายาเสพติด ยึดกัญชาลอตใหญ่ กว่า 555 กก. มูลค่า 10 ล้านบาท ซุกกระสอบปุ๋ย นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีไปได้
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2558 เวลา 11.00 น. ที่สถานีตำรวจน้ำนครพนม พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.10 บก.รน. พ.ต.ท.โกวิท สุมงคล สว.ตำรวจน้ำนครพนม พ.ต.กริชเพชร โภคา หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 4 พิเศษทหารพราน ร่วมแถลงผลงานการตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง จำนวน 555 แท่ง น้ำหนักรวม 555 กิโลกรัม พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีเทา ทะเบียน 1 ฒง 8210 กทม. (ทะเบียนปลอม),การตรวจยึดในครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ สนธิกำลังหลายฝ่าย สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนกัญชาข้ามโขง มาขึ้นที่บริเวณบ้านเชียงยืน ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ขณะลาดตระเวนพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งสวนมา พบว่าเป็นรถที่สายข่าวแจ้งว่าลักลอบขนกัญชา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ตาม พอไปถึงริมถนนสายนครพนม-บ้านแพง บริเวณสะพานห้วยฮ่องดินจี่ บ.ไชยบุรี ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนน ไม่พบเจ้าของรถ คาดว่าจอดรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง,จากการตรวจสอบกระบะด้านหลังรถพบกัญชาอัดแท่ง บรรจุในกระสอบถุงปุ๋ย ตรวจยึดพบเป็นกัญชาอัดแท่ง จำนวน 555 แท่ง น้ำหนัก 555 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว พบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามหาตัวเจ้าของรถ เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เรามีหัวใจไว้ไถ่บาปหรือมีไว้ก้มกราบความอำมหิตมีไว้เพื่อปันแบ่งทุกทุกชีวิตหรือมีไว้รอนลิดลมหายใจเรามีความอ่อนโยนต่อทุกสิ่งหรือความจริงเราเลือกเอาแต่ฝักฝ่ายกระจายความเมตตาให้ปลิวไกลหรือฉวยใช้โหดร้ายในนา
เรามีหัวใจไว้ไถ่บาปหรือมีไว้ก้มกราบความอำมหิตมีไว้เพื่อปันแบ่งทุกทุกชีวิตหรือมีไว้รอนลิดลมหายใจเรามีความอ่อนโยนต่อทุกสิ่งหรือความจริงเราเลือกเอาแต่ฝักฝ่ายกระจายความเมตตาให้ปลิวไกลหรือฉวยใช้โหดร้ายในนามเป็นธรรมเราสะทกสะเทือนต่อเพื่อนบ้านหรือเพียงท่องอาขยานอยู่เพ้อพร่ำเรายินเสียงคำโกหกทุกทุกคำหรือหูบอดมืดดำในถ้ำลึกเราหัวใจระเริงเมื่อเห็นเด็กเด็กโลดเล่นหรืออาฆาตเลือดเย็นในความรู้สึกเราเอมใจเมื่อหนุ่มสาวได้คิดนึกหรือเฆี่ยนคมสร้างแผลลึกในหัวใจเราหว่านโปรยเมล็ดพันธุ์เพื่อวันพรุ่งหรือหมายมุ่งย่ำเหยียบให้สูญหายเราราดรดดินน้ำเพื่อผลิใบหรือทับกดกล้าไม้ให้หงิกงอเรามีหัวใจเพื่อสิ่งใดกันแน่เพื่อชนะหรือพ่ายแพ้-เพื่อร้องขอ?มีไว้เพื่อต่างหัวใจได้ถักทอหรือไว้เพียงเพื่อบั่นคอใครสักคน.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เยอโรม บัวเต็ง ปราการหลัง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก เตือน เควิน เดอ บรุน เพลย์เมกเกอร์ฟอร์มแรงป้ายแดงของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจพบกับแรงกดดัน หลังย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติ…
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 8 ก.ย. ว่า เยอโรม บัวเต็ง ปราการหลัง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก ออกโรงเตือน เควิน เดอ บรุน เพลย์เมกเกอร์ป้ายแดงของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ระวังเรื่องการปรับตัว ระบุ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่มีอะไรที่เหมือนกับ บุนเดสลีกา เยอรมัน,กองหลังวัย 27 ปีเคยมีโอกาสได้ค้าแข้งกับ แมนฯ ซิตี้ เป็นเวลา 1 ฤดูกาลก่อนจะย้ายกลับไปเล่นในลีกบุนเดสลีกา ในปี 2011 ซึ่ง บัวเต็ง ก็เชื่อว่า เดอ บรุน จะต้องรับมือกับแรงกดดันมากมายอันเนื่องมาจากความหวังอันสูงลิบ หลังจากที่แข้งวัย 24 ปีย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก มาค้าแข้งในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ด้วยค่าตัว 54.4 ล้านปอนด์ (ราว 2,970 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา,บัวเต็ง กล่าวว่า จำนวนเงินที่พวกเขาจ่ายไปในการย้ายทีมมันจะสร้างความกดดันให้กับเขา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อเขามาเหมือนกับว่าเขาเป็นพระเจ้า พวกเขาคาดหวังปาฏิหาริย์จากเขา,แต่ชีวิตในพรีเมียร์ลีก ไม่มีอะไรที่เหมือนกับบุนเดสลีกา กรรมการไม่เป่าฟาล์วบ่อยๆ และเกมยังเต็มไปด้วยความเร็วอีกด้วย หลายทีมยังเน้นการเล่นบอลโยนยาว ถึงแม้ว่า แมนฯ ซิตี้ จะมีรูปแบบการเล่นของตัวเองที่ต่างออกไป
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบร่วมตามกำหนดการณ์เดิม โดยไม่สนใจคำขู่ของเกาหลีเหนือที่ระบุว่าจะโจมตีเกาหลีใต้ เพราะเชื่อว่าการซ้อมรบร่วมในครั้งนี้เป็นการประกาศสงครามอย่างเงียบๆ
สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า กองกำลังสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ประมาณ 2100 นายร่วมซ้อมรบ ตั้งแต่วันนี้ (27 ก.พ.) ถึง วันที่ 9 มี.ค.นี้ โดยใช้ชื่อปฏิบัติการว่า Key Resolve ซึ่งการซ้อมรบเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยการซ้อมรบร่วมจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ทหารเกาหลีใต้ประมาณ 200000 นาย สามารถรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือได้ดีขึ้นขณะที่ผู้ประท้วงต่อต้านสงคราม รวมตัวชุมนุมหน้า ฐานทัพสหรัฐฯ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการกระทำใดๆ ที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางทหารหรือการปะทะกันบนคาบสมุทรเกาหลี หลังก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือ ประกาศว่าจะทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ในรูปแบบของตัวเอง หากว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบร่วมเพราะถือว่าเป็นการประกาศสงครามอย่างเงียบๆส่วน สถานีโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพถ่ายการปฏิบัติภารกิจของนายคิม จอง อุน ผู้นำเกาหลีเหนือที่เดินทางไปเยี่ยมทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้า บริเวณชายแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยนายคิม จอง อุน ขอให้ทหารตอบโต้ศัตรู อย่าปล่อยให้ศัตรูรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของเกาหลีเหนือแม้แต่ก้าวเดียว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ประชาชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร
วันนี้ (5 ธ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานนำคณะผู้บริหาร สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ข้าราชการ และบุคลากรกระทรวงวัฒนธรรมและกรุงเทพมหานคร พร้อมประชาชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีพระสงฆ์ 189 รูป รับบิณฑบาตบริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ก่อนช่วงเย็นวันนี้จะมีการแสดงดนตรีแจ๊สในเวลา 17.30 น.ส่วนบรรยากาศที่บริเวณปากคลองตลาด มีประชาชนให้ความสนใจถ่ายภาพซุ้มดอกไม้ แสดงความอาลัยเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งผู้ค้านั้นได้ร่วมแบ่งปันดอกไม้นานาพันธุ์ จัดเป็นซุ้ม 35 ซุ้ม เช่น ซุ้มดอกกล้วยไม้ ดอกดาวเรืองประดับล้อมรอบพระบรมฉายาลักษ์ โดยจะจัดไปจนถึงวันที่ 6 ธ.ค.นี้ขณะที่ประชาชนทยอยเดินทางมาเข้าคิวกราบถวายบังคมพระบรมศพในพระบรมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดในเวลา 04.00 น. และ 08.00 น. เป็นต้นไป หากประชาชนมีปัญหาในเรื่องเครื่องแต่งกาย จะมีจุดให้ยืมเครื่องแต่งกายที่สุภาพ ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าด้านแยกถนนจันทน์
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ครม. เห็นชอบ ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ยกเว้น อ.แม่ลาน ต่ออีก 3 เดือน หลังคนร้ายยังก่อเหตุร้ายแรง สร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ลงนามในประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ จ.นราธิวาส จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ยกเว้น อ.แม่ลาน ซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ว่า ตามที่ได้มีการขยายระยะเวลาไปก่อนหน้านี้ ตามประกาศลงวันที่ 15 ก.ย. 58 ทําให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถขยายผลการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งสามารถคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น แต่ปรากฏว่า ยังคงมีการก่อเหตุการณ์ร้ายแรงเพื่อสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการ และยังมีความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงด้วยการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อทําร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยมุ่งหวังให้เกิดการเกรงกลัวอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน จนไม่อาจดํารงชีวิตได้อย่างปกติสุข,จึงสมควรขยายระยะเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและของบุคคล ซึ่งจําเป็นต้องใช้มาตรการตามพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในการแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา 5 และมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ จ.นราธิวาส จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ยกเว้น อ.แม่ลาน ออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 58 เป็นต้นไป.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ผบ.ตร. ขอบคุณทุกฝ่ายช่วงปีใหม่ สถิติอุบัติเหตุ เมาแล้วขับลดลง เผยยอมรับเสียความรู้สึกฉายา ผบ.เสียทรง ขอความเป็นธรรมจากสมาคมฯ ควรวิเคราะห์มิติของการทำงานก่อนตั้งฉายา
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.59 พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวขอบคุณตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมดูแลความปลอดภัยและการจราจรให้กับประชาชน ทั้งการเดินทางไปและกลับจากต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากกล่าวชื่นชมทุกหน่วยที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี พร้อมกล่าวอวยพรปีใหม่กับสื่อมวลชน โดยขอให้มีความสุข ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานด้วย,ส่วนมาตรการยึดรถเป็นมาตรการที่ควรบังคับใช้ในทุกเทศกาล เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำหรับจำนวนของผู้เสียชีวิตในปีนี้มีทั้งสิ้น 343 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2 คน รวมถึงมีประชาชนเดินทางออกเพิ่มขึ้นกว่า 33% ซึ่งก็ได้เตรียมสั่งการให้ทุกพื้นที่สรุปการบริหารเส้นทางจราจร เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการดูแลด้านความปลอดภัยของประชาชนบนท้องถนนในเทศกาลต่อไป,นอกจากนี้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยังได้เปิดเผยถึงกรณีที่ถูกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพตั้งฉายาว่า ผบ.เสียทรง โดยยอมรับว่าเสียความรู้สึกกับฉายาดังกล่าว เนื่องจากการบริหารงานต้องมีการกระจายการทำงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เนื่องจากหากปฏิบัติงานทุกอย่างด้วยตนเองก็จะทำให้เสียระบบ ยืนยันตนเองทำงานไม่น้อยไปกว่าพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด พร้อมขอความเป็นธรรมจากสมาคมฯ หากต้องการตั้งฉายาควรวิเคราะห์ในทุกมิติของการทำงานด้วย,ด้าน พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถิติการสัญจรออกต่างจังหวัดของประชาชนว่าปีนี้มีจำนวนประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่ถูกยึดรถจากการเมาแล้วขับนั้น สามารถนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ มารับรถคืนได้ทันทีที่ครบกำหนด 7 วันหลังจากวันที่ถูกยึด,ขณะที่ พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้พบผู้กระทำความผิดในข้อหาพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 1 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหา ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ /ไม่สวมหมวกกันน็อก /ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด แต่ความผิดฐานเมาแล้วขับนั้นลดลงจากปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สุดฮา! ชาวเน็ต แชร์ภาพยาบ้าในซองสีฟ้า หล่นอยู่กลางถนนในจังหวัดขอนแก่น ตร.ประกาศเก็บไว้ให้อย่างดี เจ้าของสามารถรับได้ที่โรงพัก สภ.พล จ.ขอนแก่น แต่ต้องถูกดำเนินคดี
มีกรณีเพจเฟสบุ๊กชื่อ คำโดนๆ กะคนแรงๆ แชร์ภาพนิ่ง จำนวน 9 ภาพ เป็นภาพขอยาบ้า ที่มีคนทำหล่นไว้กลางถนน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบ และรวบรวมของกลางทั้งหมดกลับไปที่โรงพัก พร้อมข้อความระบุว่า ใครทำยาบ้าตกกลางถนน อำเภอเมืองพล จ.ขอนแก่น หลัก กม.270 ไปรับคืนได้กับผู้กำกับในเขตพื้นที่ได้เด้อ เค้าเก็บไว้ให้อยู่,ทำให้มีชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจาร์และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องฮาๆ ว่า ใครจะกล้าไปรับคืน ถ้าไปรับก็คงจะโดนจับอย่างแน่นอน,ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามียาบ้าหล่นอยู่กลางถนน เป็นจำนวนมาก จึงได้เข้าตรวจสอบ ซึ่งเป็นบริเวณกลางถนนมิตรภาพ หลักกิโลเมตรที่ 270 สาย อ.พล มุ่งหน้าไปอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น บริเวณใกล้กับร้านขายเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง,จากการตรวจสอบ มีทั้งยาบ้าเม็ดแตกละเอียด เนื่องจากรถเหยียบ และเป็นยังเป็นเม็ดสมบูรณ์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้มีการแกะรอยหาเจ้าของยาบ้าทั้งหมดนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีโลกโซเชียลแชร์หาเจ้าของนั้น หากเจ้าของที่แท้จริงเดินทางมารับก็สามารถมารับได้ แต่ก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
แม่ทัพภาคที่ 4 มอบเหรียญ บางระจัน เชิดชูเกียรติแก่ ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการข่าว ฉก.กิจปัตตานี ที่ยิงต่อสู้กับ 4 คนร้าย ที่กราดยิงใส่รถของชาวบ้านจนยอมล่าถอย เจ้าตัวยืนยันไม่คิดที่จะย้ายออกจากพื้นที่
แม่ทัพภาคที่ 4 มอบเหรียญ บางระจัน เชิดชูเกียรติแก่ ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการข่าว ฉก.กิจปัตตานี ที่ยิงต่อสู้กับ 4 คนร้าย ที่กำลังกราดยิงใส่รถของชาวบ้านจนยอมล่าถอย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันไม่คิดที่จะย้ายออกจากพื้นที่ แม้หลังจากนี้จะตกเป็นเป้าหมายคนร้ายก็ตาม,เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 10 ก.ค.60 ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานมอบเหรียญบางระจัน หรือเหรียญเชิดชูเกียรติ แก่ ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ ผู้บังคับกองร้อย กองบังคับการ กรมทหารราบที่ 153 ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการข่าว หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เพื่อเชิดชูวีรกรรมอันกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว หลังจากกรณีเมื่อวันที่ 9 ก.ค.50 ได้ปฏิบัติหน้าที่อันหาญกล้าใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับผู้ก่อความไม่สงบจำนวน 4 คน ที่กำลังใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของชาวบ้านได้รับบาดเจ็บบนถนนในพื้นที่ ม.3 ต.ลูโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอย และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป,จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนรอดชีวิตมาได้ทั้งหมด 4 คน โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ชื่นชมการทำหน้าที่ของ ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ว่า มีความกล้าหาญสมกับเป็นทหารของพระราชา ซึ่งไม่ได้เกรงกลัวต่อเหตุการณ์ หรืออันตรายใดๆ ถึงแม้ว่า จะต้องต่อสู้กับคนร้ายถึง 4 ต่อ 1 โดยถือได้ว่า ทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติ และเป็นทหารอาชีพ ที่ทหารทุกนายควรเอาเป็นแบบอย่าง,ด้าน ร.อ.รักษ์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะผ่านไปประสบเหตุ และยิงต่อสู้กับคนร้าย 4 คน นั้น ตนไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เพราะ ผ่านเหตุการณ์ยิงต่อสู้มาหลายครั้ง แล้ว และทำงานอยู่ในพื้นที่นานถึง 13 ปี แต่ก็ไม่เคยประมาท ทั้งนี้ตนยืนยันที่จะทำหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป และไม่คิดจะย้ายหนีไปไหน แม้ว่าหลังจากนี้ อาจจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็ตาม,ต่อมา พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ พร้อมด้วย ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และถูกส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาล ม.อ. ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จำนวน 2 ราย คือ นายอภิวิชญ์ ดอนพล อายุ 37 ปี และ นายกิตติศักดิ์ ดอนพล อายุ 59 ปี สองพ่อลูกชาว ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา พร้อมพูดคุยกับครอบครัวของผู้บาดเจ็บ และกระเช้า รวมทั้งมอบของเล่นเด็กให้แก่เด็กชายวัย 3 ขวบ ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย,ทุกคุณต่างขอบคุณในวีรกรรมอันกล้าหาญของนายทหารในครั้งนี้ ที่สามารถช่วยชีวิตของคนในครอบครั้ง 4 คน ให้ปลอดภัย ก่อนที่จะโผกอดกัน ซึ่งทุกคนต่างเชื่อมั่น และศรัทธากับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย และการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โลกต้องจารึก โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา แหวกทุกกฎเกณฑ์ เดินข้ามเส้นแบ่งแดนสองเกาหลี มาพบกับ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างเป็นกันเอง
เดินข้ามเส้นแบ่งแดน,สองเกาหลี มาพบกับ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างเป็นกันเอง พร้อมพากันก้าวข้ามมาร่วมประชุมในดินแดนเกาหลีใต้ร่วมชั่วโมง ก่อนเห็นพ้องควรตั้งทีมงานกลับมาเจรจาเรื่องข้อตกลงปลดนิวเคลียร์กันใหม่ หลังเจรจาล้มเหลวมาก่อนหน้านี้ แลกกับการเลิกคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ผู้นำสหรัฐฯแย้มยังมีเวลาและไม่รีบกลายเป็นเหตุการณ์ที่ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองโลกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่ข้ามเส้นแบ่งแดนแห่งประวัติศาสตร์ ที่แบ่งเขตแดนประเทศเกาหลีเป็นเหนือและใต้ บริเวณเส้นขนานที่ 38 เข้าไปในประเทศเกาหลีเหนือ ที่เขตปลอดทหารในหมู่บ้านปันมุนจอม,ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศพร้อมใจรายงานถึงเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์ครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ภายหลังนายทรัมป์เสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ หรือจี 20 ที่นครโอซากา ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย. และมีกำหนดการเยือนประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย. หลังเดินทางถึงเกาหลีใต้ นายทรัมป์ได้เขียนทวิตเตอร์เชิญชวนนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นัดพบปะเจรจา ก่อนที่นายทรัมป์แถลงต่อมาว่า จะข้ามเส้นแบ่งเขตแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ ไปพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ,จากนั้นในวันที่ 30 มิ.ย. กระบวนการเริ่มขึ้นในลักษณะเดียวกันกับการเจรจาสุดยอดระหว่างสองผู้นำเกาหลี นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อเดือน เม.ย.2560 ครั้งนี้ทั้งนายทรัมป์และนายคิมต่างเดินเข้าหากันที่เส้นแบ่งเขตแดน และนายทรัมป์ได้ก้าวข้ามแนวคอนกรีตที่กั้นประเทศเกาหลีออกจากกัน เข้าไปในพรมแดนของเกาหลีเหนือ ก่อนเดินลึกเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือมากกว่าคราวของผู้นำเกาหลีใต้ เข้าไปจับมือนายคิม จอง อึน สนทนากันเล็กน้อย ก่อนเดินเคียงคู่และข้ามเข้าพรมแดนเกาหลีใต้ นายทรัมป์เชิญชวนให้นายคิมก้าวเท้าก่อน ท่ามกลางการ จดจ้องของสื่อนานาชาติที่ติดตามทำข่าวนี้,หลังก้าวเข้าเขตพรมแดนเกาหลีใต้ นายคิม จอง อึน มีท่าทีผ่อนคลายและพูดคุยอย่างมีความสุขกับนายทรัมป์ ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า สิ่งนี้เป็นการแสดงถึงความตั้งใจของนายทรัมป์ที่จะมุ่งไปสู่อนาคตใหม่ และนายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯที่เข้ามาในเกาหลีเหนือ ส่วนนายทรัมป์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของโลก และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาที่นี่,ต่อมาทั้งผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือเดินทางเข้าประชุมร่วมกันแบบปิด ที่เรือนเสรีภาพ ในฝั่งเกาหลีใต้ นานราว 50 นาที ต่างเห็นพ้องว่าควรจัดตั้งทีมงานเพื่อกลับมาเจรจาเรื่องข้อตกลงปลดนิวเคลียร์กันใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประเทศเวียดนาม จบลงด้วยความล้มเหลว เนื่องจากเงื่อนไขยกเลิกคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหารือกันไม่ลงตัว และเหตุการณ์ครั้งนี้ยังถือเป็นการพบปะครั้งที่ 3 ของนายทรัมป์กับนายคิม ที่ต่อมามีรายงานว่า ทั้งสองผู้นำต่างเสนอไมตรี เชื้อเชิญอีกฝ่ายเดินทางเยือนสหรัฐฯ-เกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการด้วย,วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายทรัมป์ได้หารือกับกลุ่มธุรกิจเกาหลีใต้ ทั้งบริษัทซัมซุง ฮุนได มอเตอร์ ล็อตเต เอสเค และปุงซัน กรุ๊ป โดยนายทรัมป์เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ถึงแม้ส่วนตัวจะมีความสัมพันธ์ที่ดี กับผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ยังอีกไกลกว่าจะบรรลุข้อตกลง ยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ อันจะนำไปสู่สันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี กระนั้นนายทรัมป์เชื่อว่ายังมีเวลาอีกมาก และไม่รีบที่จะบรรลุข้อตกลง,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า นอกจากนายทรัมป์จะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ข้ามเขตแดนเข้าไปในเกาหลีเหนือแล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯพบกับผู้นำเกาหลีเหนือที่พรมแดน นับตั้งแต่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงสงครามเกาหลีเหนือ เมื่อ 66 ปีก่อนด้วย
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปราสาทสายฟ้าแถลงเปิดตัว โบซิดาร์ บันโดวิช เข้ามาทำหน้าที่เฮดโค้ชใหม่แทนที่ของ รันโก โพโพวิช เรียบร้อยแล้ว โดยจะลงคุมทีมประเดิมสนามนักแรกพบกับ ราชนาวี วันเสาร์นี้
วันที่ 14 มิ.ย.60 ทัพ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง บอสโก โบซิดาร์ บันโดวิช หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของสโมสร ขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่แทน รันโก โพโพวิช ที่ขอลาออกจากการคุมทีมไปก่อนหน้านี้,โดยก่อนหน้านี้ทีมปราสาทสายฟ้า ล้มเหลวในการยื่นอุทธรณ์โทษแบน 3 เดือนของ รันโก โพโพวิช จากกรณีที่ไปทำร้ายร่างกาย แอนดี้ นักกายภาพของทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้กุนซือยูโกสลาเวียวัย 49 ปี ตัดสินใจอำลาตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง,กระทั่งล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศแต่งตั้ง โบซิดาร์ บันโดวิช ที่ปัจจุบันทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเทคนิค ขึ้นมารับงานคุมทีมอีกครั้งเป็นคำรบที่ 2 หลังจากเคยทำหน้าที่ดังกล่าวมาแล้วเมื่อปี 2014 รวมถึงยังเคยคุมทีมในไทยลีกทั้ง โปลิศ เทโร และ ศรีสะเกษ เอฟซี ด้วยเช่นกัน,ทั้งนี้ โบซิดาร์ บันโดวิช จะเริ่มคุมทีมเกมแรกในศึกไทยลีก 2017 เลกที่ 2 ซึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนามไอโมบาย สเตเดียม รับการมาเยือนของ ราชนาวี ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ถูกที่สุดกับแพงแบบมหาโหดโคตรสุด เจาะรถสองคันสองสไตล์ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ Suzuki celerio ราคา 363,000 บาท และ Phantom Drophead Coupe จาก Rolls Royce 46,500,000 บาท!!!
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 มาถึงช่วงกลางๆ ของงานกับตัวเลขยอดจองรวม 9,294 คัน สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดได้แก่ยานยนต์ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ ส่วนรถยนต์นั่งขนาดเล็กราคาถูกและรถหรูจากแบรนด์เยอรมนีอย่าง BMW New Series-5 520d และ 530i M-Sport Mercedes Benz New E-Class Coupe E300 Coupe AMG Dynamic กับ Audi Q2 ยังคงได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ รวมถึงรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน จากสภาพเศรษฐกิจที่ดีวันดีคืนทำให้ผู้คนกล้าใช้จ่ายกันมากยิ่งขึ้น วงการรถยนต์ในประเทศไทยก็ขยับตัวตามด้วยการระดมเปิดตัวรถรุ่นใหม่กันแทบจะทุกแบรนด์ รถ PPV-SUV แบบอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งนั้นมียอดจองภายในงานครั้งนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ,จากการรวบรวมตัวเลขยอดจองที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2560 พบว่ามียอดจองรถยนต์ภายในงานรวมอยู่ที่ 9,294 คัน เช่น Honda 2,153 คัน, Toyota 1,847 คัน, Isuzu 1,238 คัน, Mazda 990 คัน และ Ford 635 คัน ยังไม่นับรวมยอดจองในกลุ่มรถยุโรปทั้ง BMW, Mercedes, Volvo, Audi, Porsche กับรถจักรยานยนต์นับสิบแบรนด์ที่ขนรถเข้ามาโชว์ในงาน ,ราคาและรูปแบบของตัวรถกับโปรโมชั่นดอกเบี้ยประกันภัยชั้นหนึ่ง รวมถึงของแจกของแถมที่ประดังให้กับลูกค้า คือประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ภายในงาน นอกจากซุปเปอร์คาร์ราคาแพงจาก Aston Martin DB11 / Lamborghini Huracan / McLaren 720S / Porsche 911 และอภิมหายานยนต์อย่าง Rolls Royce แล้ว ยังมีรถราคาประหยัดที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้อย่าง Suzuki celerio ราคา 363,000 บาท,Rolls Royce Phantom Drophead Coupe 2017 อภิมหายนตรกรรมราคามหาโหดสุดโคตรของความแพงที่จัดแสดงภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ถือเป็นรถที่มีราคาสูงที่สุดภายในงาน เปิดค่าตัวที่ 46,500,000 บาท Phantom Drophead Coupe 2017 มาในรูปแบบรถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ เน้นงานสีตัวถังที่โชว์ให้เห็นเนื้อแท้ของความประณีตบรรจงระดับสูงสุด ฝากระโปรงหน้าทำจากอัลลอยปัดเงา เสาหน้าหุ้มด้วยงานอัลลอยขัดแบบผิวด้าน รวมถึงตัวฝากระโปรงหน้าที่โชว์เนื้ออะลูมิเนียมสีเงินยวง ที่ปิดช่องเก็บหลังคาด้านหลังที่ทำจากไม้สักคล้ายกับไม้พื้นในเรือยอร์ช โลหะอัลลอยปัดเงาผ่านกระบวนการเก็บผิวอย่างละเอียด โดยใช้มือผสมกับเครื่องจักรสำหรับขัดถูเพื่อให้ผิวงานขึ้นเงาและมีความสม่ำเสมอ การขัดผิวฝากระโปรงอัลลอยด้วยมือเพื่อให้เกิดความเงางาม บริเวณด้านหลังนั้นงานไม้สักถูกผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความงามของเนื้อไม้ตามธรรมชาติ และให้ความมันเงาที่ยาวนาน,Rolls Royce Phantom Drophead Coupe ใช้แชสซีอะลูมิเนียมแบบพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดที่สะท้อนให้เห็นถึงความประณีตบรรจงอันเป็นตำนานของแบรนด์ ด้วยความที่เป็นรถเปิดหลังคา แชสซีจึงถูกดามให้มีความแข็งแกร่งมากกว่ารุ่น หลังคาปกติ เพื่อป้องกันการบิดตัวและทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ยนตรกรรมที่ผลิตด้วยมือรุ่นนี้ต้องเชื่อมแชสซีแต่ละส่วนที่มีความยาวมากกว่า 140 เมตรเข้าด้วยกัน ถือเป็นหนึ่งในยานยนต์เปิดประทุนที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในโลก,Rolls Royce Phantom Drophead Coupe วางเครื่องยนต์แบบ V12 ที่มีกระบอกสูบมากถึง 12 ตำแหน่ง เป็นเครื่องยนต์หายใจเองโดยไม่พึ่งพาระบบอัดอากาศขนาด 6.75 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับที่วางในรุ่น Phantom แม้ตัวจะหนัก 2 ตันเศษ แต่สมรรถนะด้านแรงบิดนั้นเหลือล้น เครื่องไซส์ยักษ์ให้ความปราดเปรียว และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที ระบบส่งกำลังของปิศาจเปิดหลังคาคันนี้ใช้ชุดเกียร์ 8 สปีดที่แม้จะดูโบราณ แต่มีประสิทธิภาพสูงในด้านการทดกำลังและการเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาขับเคลื่อน แพ็กเกจไดนามิกมาพร้อมระบบ Spirited Drive ติดตั้งเหล็กกันโคลงกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลมใหม่ล่าสุด พร้อมการปรับแต่งเกียร์และระบบเบรกเพื่อทำให้รถมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น,Rolls Royce Phantom Drophead Coupe รุ่นพิเศษสำหรับอภิมหาเศรษฐีของไทย มีราคาค่าตัว 46.5 ล้านบาท เป็นรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในงานมอเตอร์โชว์ 2017,มาที่ค่าย Suzuki กับรถยนต์ขวัญใจมหาชนคนชอบรถราคาประหยัด รุ่น Celerio ยานยนต์ 5 ประตู สไตล์คนเมืองขนาดกะทัดรัด มีราคาในรุ่นเกียร์ธรรมดาแค่ 363,000 บาท สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัตินั้นก็ยังถูกอยู่ดี โดยมีราคาขาย 443,000 บาท กับ 488,000 บาท เท่านั้นเอง โดยเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดาถือว่าเป็นรถที่ถูกที่สุดในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์,ความน่ารักสดใสกับขนาดของตัวถังและอุปกรณ์ที่ให้มาจากโรงงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายพวกค่าซ่อมบำรุงหลังการขายที่ไม่แพง ทำให้ Celerio เข้าไปครองใจนักขับหน้าใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก มิติตัวถังแนวอีโคคาร์เล็กได้ใจ แต่ทำไมใช้งานได้ดี Suzuki Celerio มีมุมมองข้างแบบทรงกล่องนม โดยออกแบบแนวหลังคาให้สูงโด่งเข้าไว้ไม่ให้รู้สึกอึดอัด มิติตัวถังยาว 3,600 มิลลิเมตร กว้าง 1,600 มิลลิเมตร และสูง 1,540 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อหน้า-หลัง 2,425 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้า 1,420 มิลลิเมตร กับความกว้างที่ฐานล้อหลัง 1,410 มิลลิเมตร สำหรับความสูงวัดจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่ 145 มิลลิเมตร ,ห้องโดยสารใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่เรียบง่ายและมีราคาไม่แพง พลาสติก พรมแบบอัดและไวนิลเป็นส่วนประกอบสำคัญของห้องโดยสารใน Suzuki Celerio คอนโซลขึ้นรูปด้วยพลาสติก ออกแบบจัดวางอุปกรณ์ให้มีความทันสมัยน่าใช้งาน แม้จะเป็นรถ Eco Car แผงกลางคอนโซลเดินกรอบล้อมรอบอุปกรณ์ด้วยพลาสติกโครเมียมสีเงินเลียนแบบงานอัลลอยในรถหรู ช่องแอร์ทรงเหลี่ยมมีสวิตช์ไฟฉุกเฉินอยู่ตรงกึ่งกลาง ต่ำลงมาเป็นชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพงแบบสี่ทิศทาง เครื่องเสียงของ Suzuki Celerio รองรับ CD/FM/AM บวกกับช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก USB / AUX ชุดควบคุมอุณหภูมิแบบปุ่มหมุนสามตำแหน่ง ทั้งทิศทางของลม ระดับความแรงของพัดลมแอร์ กับปุ่มหมุนควบคุมระดับความเย็นภายในห้องโดยสาร ก้านเลื่อนปิด-เปิดอากาศจากภายนอก,นอกจากขนาดของเรือนร่างที่เล็กแล้ว ขุมกำลังยังเป็นเครื่องไซส์จิ๋วแจ๋วไฮเทคขนาดกะทัดรัดโตกว่าเครื่องรถตัดหญ้าหน่อยเดียว Suzuki Celerio วางเครื่องยนต์แบบเบนซินสามกระบอกสูบ โดย Suzuki พัฒนาเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อความประหยัดและลดการปล่อยมลพิษในอากาศ ด้วยเครื่องแบบสามกระบอกสูบแบบใหม่รหัส K10B ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี 12 วาว์ล อัดตราส่วนกำลังอัด 11.0:1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไฟฟ้าแบบมัลติพอยท์ รองรับเชื้อเพลิง E20 ให้กำลัง 50 กิโลวัตต์ หรือ 68 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 13.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังใช้เกียร์แบบสายพาน CVT ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยแบบแรคแอนพีเนียน ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช็คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าแบบดิสก์เบรกจานเหล็กพร้อมครีบระบายความร้อน เบรกหลังแบบดรัมเบรก,ความที่เป็นรถเล็ก ทุกอย่างจึงเล็กตาม ระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้าต่อเชื่อมกับแกนพวงมาลัยและพวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มด้วยไวนิลไม่มีสวิตช์ควบคุมบนพวงมาลัย สัมผัสของพวงมาลัยกับชุดบังคับเลี้ยวใน Celerio ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าที่ควร เนื่องจากระยะของการหมุนบริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย ที่ถูกปรับมาแบบตรงๆ สื่ออาการแบบแปลกๆ พวงมาลัยในย่านความเร็วต่ำสามารถตอบสนองต่อการควบคุมทิศทางร่วมกับช่วงล่างหน้าได้ดีน่าพอใจ ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตร ก็ยังให้ความมั่นคงจนรู้สึกได้ แต่ความที่เป็นยนตรกรรมขนาดย่อม จึงไม่แนะนำให้ขับเร็วบนรถแบบ Eco Car เช่นเดียวกับ Suzuki Celerio ความเร็วที่ไม่มากจนเกินไปบนไฮเวย์ จะช่วยให้การควบคุมเปลี่ยนทิศทาง เบรก หรือขับด้วยความเร็วคงที่ มีความง่ายดายขึ้น ตามด้วยความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ที่ผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้ต้องระลึกรู้อยู่เสมอว่า ขนาดตัวรถที่เล็กไม่ควรอย่างยิ่งที่จะขับให้เข้าใกล้กับขีดข้อจำกัดของตัวรถ,Suzuki Celerio เหมาะกับคนที่เริ่มต้นมีรถยนต์เป็นคันแรก สำหรับท่านที่ต้องการเพียงแค่พาหนะเล็กๆ ในการไปถึงยังจุดหมายที่ไม่ต้องรีบเร่งอะไรมากนักในชีวิตประจำวัน Celerio จะเป็นรถที่ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี น้ำหนักที่เบาไม่ถึง 900 กิโลกรัม ทำให้มันเป็นรถที่คล่องตัวคันหนึ่งสำหรับการขับใช้งานในเมือง ลืมเรื่องพลาสติกราคาถูกแล้วหันมามองความอเนกประสงค์บนเรือนร่างขนาดเล็ก เจ้า Celerio น่าจะเข้าไปครองใจวัยรุ่นที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน หรือแม้แต่คนที่ต้องการมีรถยนต์ส่วนตัวคันแรกได้บ้างตามระดับของราคาค่าตัวที่มีให้เลือกสามรุ่น ลองไปขับทดสอบดูหากมีความสนใจที่โชว์รูมของ Suzuki Motor ทั่วประเทศ คุณจะค้นพบความแปลกใหม่ในรถเล็กมากความสามารถคันนี้ได้อย่างแน่นอน. ,ราคา Suzuki Celerio รุ่น GA (MT) 363,000 บาท,ราคา Suzuki Celerio รุ่น GL (CVT) 443,000 บาท,ราคา Suzuki Celerio รุ่น GLX (CVT) 488,000 บาท,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th,Facebook  ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รูปปั้นโมอายเกือบพันตัวที่เหลืออยู่บนเกาะ ถูกสร้างและลงมือแกะสลักโดยชาวโพลินีเซียนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อพันกว่าปีก่อน ชาวเกาะเชื่อว่ารูปปั้นโมอายจะช่วยปกปักรักษาจิตวิญญาณของหัวหน้าเผ่าและหัวหน้าครอบครัวเอาไว้ ซึ่งท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้จะทำให้สิ่งดีๆ อยู่กับเกาะตลอดไป
ไม่รู้ระยะทางจากบางกอกไปหาเกาะอีสเตอร์ (Easter Island) คือเท่าไร รู้แต่ว่าน้ำหนักของความอยากทำความรู้จักกับเกาะอันน่าพิศวงแห่งนี้มันขยับขยายพองตัวมากขึ้นทุกวัน เอาเข้าจริงๆ แล้ว นอกจากรูปปั้นหินโมอาย (Moai) แล้ว ฉันแทบไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำเกี่ยวกับเกาะอีสเตอร์ มีแค่ความกระหายใครรู้ที่แบกมันข้ามน้ำข้ามทะเลมาด้วย ก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ เราควรเรียนรู้ทุกๆ อย่างในโรงเรียนแห่งการเดินทาง และ 3600 กิโลเมตรจากชายฝั่งประเทศชิลี คือระยะการบินในพิกัดที่ใกล้ที่สุดในการมาหาเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ เรียกว่าบินกันยาวเท่ากับบินไป-กลับกรุงเทพฯ-ฮ่องกง จังหวะที่เรือบินกำลังจะร่อนลง ฉันพอได้เห็นรูปพรรณสันฐานของเกาะอีสเตอร์ หรือที่ชาวเกาะเขาเรียกกันว่า เกาะราปานุย (Rapa Nui) แต่ความที่ชิลีใช้ภาษาสเปน เกาะนี้จึงเรียกกันอีกชื่อว่า อิสลา เดอ ปาสกัว (Isla de Pascua) เกาะนี้อาจจะไม่ใหญ่มากนัก แต่สภาพภูมิประเทศของเกาะอีสเตอร์เป็นเกาะที่มีภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ 3 ลูก มองจากองศาเดียวกับวิหคจึงจะเห็นปากปล่องภูเขาไฟที่กว้างมาก พูดก็พูดเถอะ มู้ดของการมาเกาะอีสเตอร์เหมือนไปเกาะโบรา โบรา แห่งเฟรนช์โพลินีเซียมากกว่าอยู่อเมริกาใต้ ทั้งผู้คน ทั้งดินฟ้าอากาศ ชวนให้คิดอย่างนั้น ระหว่างที่กรุงซันติอาโกถูกห่มไว้ด้วยลมหนาว แต่ที่นี่มีลมร้อนโกรกเบาๆ แบบอยู่เกาะ หน้าตาของผู้คนก็ไม่ได้ไปทางสเปน แต่ไปทางชาวโพลินีเซียนมากกว่า เรือนพักบนเกาะอีสเตอร์ส่วนใหญ่ เจ้าของเป็นคนท้องถิ่น และราคาที่พักค่อนข้างแพงมาก เรียกว่าจ่ายกันคืนละ 3-4 พันนี่ยังเป็นห้องหน้าตาธรรมดามาก ต้นทุนค่าทำความรู้จักเกาะอีสเตอร์ ถ้านับรวมตั้งแต่ค่าเรือบินมาจนถึงค่าที่พักและค่าใช้จ่ายบนเกาะจึงแพงสะเทือนใจนักเดินทางชั้นประหยัดกันพอสมควร พูดถึงเรื่องที่พัก โรงแรมเชนดังๆ ใหญ่ๆ ไม่มีมาเปิดตลาดที่นี่ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนต่างถิ่นจะเข้าไปซื้อที่ดินจากชาวเกาะ แม้กระทั่งคนชิลีเองที่ไม่ใช่คนพื้นเมืองที่เติบโตมาจากบนเกาะ ก็ไม่มีสิทธิ์ซื้อที่ดินบนเกาะเช่นกันพวกเธอมายืนตรงนี้ได้อย่างไรกัน ใครกันที่สร้างรูปปั้นหินเหล่านี้ คนเหล่านี้อยู่บนเกาะนี้ได้อย่างไรกัน ที่สำคัญคืออยู่กันมานานเท่าไรแล้ว ความจริงจะให้สนุก มาที่นี่แล้วใช้เวลาสัก 4 วันเต็มๆ ค่อยๆ เดินสายเที่ยวไปทีละโซนดูท่าจะดี เพราะเกาะอีสเตอร์นั้นใหญ่พอตัว บ้างปั่นจักรยาน บ้างเช่ารถขับไปให้ทั่วเกาะ บ้างซื้อทัวร์ไปจอยกับชาวบ้าน ส่วนฉันเลือกเช่าแท็กซี่ให้พาวนไปทั่วเกาะ แท็กซี่แบบนี้เขาจะวิ่งคอยหาลูกค้าอยู่แถวฮังกา รัว (Hanga Roa) มุมที่เป็นย่านศูนย์กลางของเกาะ จากนั้นรถพาวิ่งลงทางใต้ของเกาะ จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ภูเขาไฟราโน คาอู (Rano Kau) มุมนี้มีปากปล่องภูเขาไฟให้เดินเทร็กกันพอหอมปากหอมคอ ที่จริงแถวนี้เป็นหมู่บ้านหินโบราณที่ว่ากันว่ามีชุมชนเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 เลยมีร่องรอยการใช้ชีวิตของผู้คนในอดีต ทั้งมุมที่เป็นบ้านพักอาศัย มุมที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของชาวเกาะ นอกจากจะเห็นบ้านก้อนหินกว่า 50 หลังแล้วยังมีพวกภาพสลักบนหินให้ดูด้วย ฉันย่างสองเท้าจรดลงไปบนทางเดินรอบๆ ปากปล่องภูเขาไฟราโน คาอู นี่คือปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว เกิดจากการทับถมของลาวาเมื่อแสนกว่าปีก่อน ปากปล่องมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างมากกว่า 1 กิโลเมตร ทุกก้าวจึงย่ำไปด้วยระดับการดีดของหัวใจที่ไม่ปกติเท่าที่ควรนัก จะอ้อยอิ่งก็ไม่ได้ เพราะเส้นทางการตามรอยโมอายรออยู่ โชเฟอร์พาวิ่งเลาะทะเลกินลมชมอากาศไปเรื่อย แต่นั่นทำให้เห็นรูปปั้นโมอายตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเลเป็นระยะ อาจจะเจอกะปริบกะปรอยในหลายจุด แต่ที่อากาฮังกา (Akahanga) ถือว่าเป็นจุดหลักๆ ที่เจอโมอาย กลุ่มหินขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะมุมนี้เป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และคนระดับสำคัญของเกาะ น่าแปลกตรงที่มุมนี้ฉันได้เห็นโมอายนอนล้มระเกะระกะเป็นจุดๆ เพราะแถบนี้เกิดสึนามิบ่อยครั้งจนพัดให้รูปปั้นโมอายที่อยู่ริมทะเลล้มกระจัดกระจายไปทั่ว มุมนี้นี่ถือว่าเป็นแค่ออร์เดิร์ฟ แต่ย่านทงการิกิ (Tongariki) ถือเป็นฮอตสปอตสำหรับแขกเหรื่อของเกาะอีสเตอร์ นี่คือมุมที่มีรูปปั้นโมอายยืนหันหลังให้ทะเลเรียงรายกัน 15 ตัว ความสงสัยที่เคยแออัดอยู่ในหัวค่อยๆ คลี่คลายตัวลง แม้ว่าบางเรื่องราวของโมอายยังดูเร้นลับ แต่ปล่อยให้น่าค้นหาแบบนี้ ยิ่งเป็นเสน่ห์ให้ผู้คนหลั่งไหลมาหาโมอาย ดูเหมือนฝนกำลังจะมา แต่คณะโมอายยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ค่อยๆ เดินมาหย่อนก้นลงบนสนามหญ้าสีเขียว สบตากับโมอายทั้ง 15 พวกเธอมายืนตรงนี้ได้อย่างไรกันนะ แล้วใครกันที่สร้างรูปปั้นหินเหล่านี้ คนเหล่านี้อยู่บนเกาะนี้ได้อย่างไรกัน ที่สำคัญคืออยู่กันมานานเท่าไรแล้ว แต่ที่อยากรู้มากที่สุดคือ ทั่วทั้งเกาะอีสเตอร์จะมีมากสักแค่ไหน สืบสาวราวเรื่องได้ความว่า รูปปั้นโมอายเกือบพันตัวที่เหลืออยู่บนเกาะถูกสร้างและลงมือแกะสลักโดยชาวโพลินีเซียนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อพันกว่าปีก่อน ส่วนเรื่องเหตุผลในการสร้างโมอายนั้นอาจจะมีหลายอย่าง บ้างก็ว่าสร้างเพื่อเป็นตัวแทนถึงคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว หรืออาจจะเป็นผู้นำของเกาะ นั่นอาจจะเป็นเพราะพวกชาวเกาะพากันเชื่อว่ารูปปั้นโมอายจะช่วยปกปักรักษาจิตวิญญาณของหัวหน้าเผ่าและหัวหน้าครอบครัวเอาไว้ ซึ่งท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้จะทำให้สิ่งดีๆ อยู่กับเกาะตลอดไป ทั้งเรื่องข้าวปลาหารและดินฟ้าอากาศ แค่รู้เรื่องของโมอาย จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่เมื่อเพ่งดูให้ดีก็จะพบว่ารูปปั้นที่ยืนเรียงรายกันอยู่นั้น หน้าตาก็ไม่ได้เหมือนกันซะด้วยสิ จริงอยู่ที่รูปปั้นพวกนี้ส่วนหัวมีขนาดใหญ่ ในรายละเอียดนั้นไม่เหมือนกัน บางตัวสมบูรณ์ บางตัวเว้าแหว่ง ขณะที่บางตัวมีหมวกที่วางอยู่บนหัวของโมอาย ว่ากันว่าเดิมทีโมอายพวกนี้ไม่ได้ยืนเด่นตระหง่านอยู่อย่างนี้ แต่ล้มระเนระนาดในช่วงสงครามระหว่างชนเผ่า แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมาเจอคลื่นยักษ์สึนามิถล่มอย่างหนักเมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมาอีก แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง บริษัทญี่ปุ่นได้ทำโครงการฟื้นคืนชีพโมอายภายใต้การดูแลของพวกนักโบราณคดี ใช้เวลาเกือบ 4 ปี โมอาย 15 ตัวก็ฟื้นคืนชีพมาตั้งอยู่ริมอ่าวทงการิกิได้เหมือนเช่นทุกวันนี้ ฉันขยับตัวเข้าใกล้ โมอายเกือบทั้งหมดถูกแกะสลักมาจากหินก้อนเดียวกัน และรูปปั้นโมอายที่เห็นอยู่ทั่วเกาะนั้น เกือบทั้งหมดทำมาจากเหมืองหินที่ปากปล่องภูเขาไฟราโน ราราคู (Rano Raraku) ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติราปานุย รู้เท่านี้ ฉันก็รีบถอนสมอจากทงการิกิ แล้วพุ่งไปหาอุทยานแห่งชาติราปานุยอย่างเร็วพลัน นี่คือจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเจอกับโมอายได้มากที่สุด เพราะตามข้อมูลของอุทยานระบุไว้ชัดเจนว่า โมอายเกือบครึ่งหนึ่งที่พบบนเกาะอีสเตอร์อยู่ที่นี่ รูปปั้นหินโมอายเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโพลินีเซียนที่เริ่มสร้างโมอายกันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 และเริ่มจากแกะหินบะซอลต์เป็นรูปสลักคนนั่งคุกเข่า จะว่าไป โมอายคือประติมากรรมที่ไม่ธรรมดา ทั้งเรื่องของวัตถุดิบ การสร้าง การแกะสลัก ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายเมื่อแกะสลักเสร็จ การแกะสลักในแต่ละยุคสมัยมีพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงตลอด เช่น ในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 เริ่มแกะรูปสลักโมอายจากหินภูเขาไฟราโน ราราคู แต่เริ่มเป็นลักษณะโมอายครึ่งตัว ส่วนใหญ่จะเหมือนผู้ชาย หน้าตาละม้ายคล้ายกันหมด แต่ส่วนของดวงตาจะใช้วัสดุอื่นฝั่งลงไปในหิน ปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย ปากแบะ มีคางเป็นเหลี่ยม ติ่งหูค่อนข้างยาว มีแขนแนบชิดลำตัว และโมอายทั้งหมดจะตั้งอยู่บนฐานหินที่เรียกว่า อาฮู (Ahu) ในแต่ละจุดที่แวะมา ฉันค่อนข้างชอบที่นี่มากที่สุด เพราะเราแทบไม่รู้เลยว่า การเดินไปตามมุมต่างๆ ของอุทยานจะเจอโมอายซ่อนตัวอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ที่ชอบมากกว่าคือ ที่นี่มีทั้งโมอายที่แกะสลักเสร็จแล้ว และถ้าเดินไต่เขาขึ้นไปในบริเวณถ้ำก็จะพบกับโมอายบางตัวที่อยู่ระหว่างการแกะสลัก แต่ยังไม่เสร็จ ที่ชายหาดอนาเคนา (Anakena) ยังมีโมอายมวยผมสีแดงตั้งเรียงติดชายหาด และนี่เป็นหนึ่งในสองหาดทรายบนเกาะอีสเตอร์ที่มีหาดทรายขาวเนียนให้นอนผึ่งแดด ความสงสัยที่เคยแออัดอยู่ในหัวค่อยๆ คลี่คลายตัวลง แม้ว่าบางเรื่องราวของโมอายยังดูเร้นลับ แต่ปล่อยให้น่าค้นหาแบบนี้ ยิ่งเป็นเสน่ห์ให้ผู้คนหลั่งไหลมาหาโมอาย ฉันนอนเลื้อยอยู่บนหาดทาไฮ (Tahai) รอดูดวงตะวันค่อยๆ แนบลงกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว พลางคิดไปว่า ไม่ใช่ทุกครั้งของการเดินทางที่จบลงแบบหายสงสัย บางทีทริปนั้นจบลงไปแล้ว แต่เรื่องบางเรื่องยังค้างคาใจจนถึงทุกวันนี้ เรื่องของโมอายก็เป็นแบบนั้นแหละ