title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
วิษณุ ยันโรดแม็ปเดิม ตอบไม่ถูกเวลาเลือกตั้ง ต้องรอ รธน.ประกาศใช้ | เมื่อวันที่ 6 ม.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่า การเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปถึงปี 2561 ว่า ขอให้ไปสอบถามกับ สนช. แต่เชื่อว่าคงไม่กล้าพูดอีก เพราะทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งที่ สนช.พูดเนื่องจากผูกกับกฎหมายของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ตนจึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่รัฐบาลยืนยันว่ายังเดินตามโรดแม็ป ซึ่งโรดแม็ปมองได้สองแบบ คือ มีลำดับขั้นตอนและการกำหนดช่วงเวลา โดยเริ่มต้นจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้รัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศใช้ จึงยังเริ่มนับหนึ่งไม่ถูก จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการร่างกฎหมายประกอบร่างรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก ภายใน 240 วัน ก่อนจะส่งกลับให้ สนช.พิจารณา ภายใน 2 เดือน ,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า หากมีการแก้ไขก็จะมีการพิจารณาร่วมกับ กรธ.อีก 1 เดือน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย ภายใน 90 วัน และจะเข้าสู่การเลือกตั้งภายในระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้คือโรดแม็ปที่ยังเป็นแบบเดิมอยู่ ส่วนเดิมที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้ภายในปี 60 นั้น เพราะมาจากสมมติฐานของขั้นตอนเดิมทั้งหมด แต่เมื่อมีเหตุสวรรคตทุกอย่างจึงต้องเลื่อนออกไป ส่วนการพิจารณากฎหมายลูกทั้งหมด 4 ฉบับ ขณะนี้กรธ.พิจารณาแล้วเสร็จ 2 ฉบับ คือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และพ.ร.ป. คณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่ พ.ร.ป.การเลือกตั้งควรจะพิจารณาได้เร็วกลับล่าช้า ดังนั้น กรธ.จะต้องออกชี้แจงถึงเหตุผลว่าทำไมพิจารณากฎหมายดังกล่าวล่าช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ส่วนกรณีที่ สนช. ระบุว่า มีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.เป็นจำนวนมาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อโรดแม็ปนั้น รัฐบาลเคยบอกไว้แล้วว่าในช่วงนี้ของโรดแม็ปกฎหมายจะเยอะกว่าที่ผ่านมา ดังนั้น สนช.จะต้องบริหารจัดการกันเอง เพราะได้มีการเพิ่มสมาชิก สนช.ให้แล้ว. | วิษณุ ยันโรดแม็ปตามขั้นตอนเดิม เชื่อ สนช.หยุดพูดขยับเลือกตั้ง ปัดวิจารณ์ ยึดตามกรอบเวลา ย้ำเริ่มนับโรดแม็ปเมื่อ รธน.ประกาศใช้ | null | เลือกตั้ง,โรดแม็ป,วิษณุ เครืองาม,ร่างรัฐธรรมนูญ,สนช. | https://www.thairath.co.th/content/829502 |
แชมป์โลก 2018 | พ่ายสวีเดนด้วยประตูรวม 0–1 ตกรอบเพลย์ออฟไปอย่างน่าเสียดาย ชวดเล่นบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี,น้ำตาท่วมดินแดนรองเท้าบู๊ต แฟนบอลส่วนใหญ่เว้นแต่พวกอายุ 70 ปีขึ้นไป (อนุมานว่าเด็ก 10 ขวบจำความหลังครั้งตกรอบคัดเลือกปี 1958 ได้) เคยเห็นทีมตัวเองเล่นรอบสุดท้ายเวิลด์คัพมาตลอด แบบนี้พวกเขาจะทำอะไรในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า เมื่อไม่มีบอลให้เชียร์,โค้ชจัมปิเอโร เวนตูรา โดนเด้งไปแล้ว รอดูต่อไปว่ากุนซืออิตาลีคนใหม่จะเป็นใคร กระแสของคาร์โล อันเชลอตติ มาแรงเป็นเต็ง 1 รายการต่อไปคือ รอบคัดเลือกยูโร 2020,หลังจากเปรูชนะนิวซีแลนด์ 2-0 ในเกมเพลย์ออฟ นัดที่ 2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เปรูเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ไปรัสเซีย,สรุป 32 ทีมสุดท้ายให้ดูกันอีกครั้งก่อนฟีฟ่าจับสลากแบ่งสายที่กรุงมอสโก วันที่ 1 ธ.ค. มีดังนี้ครับ,รัสเซีย (เจ้าภาพ), เยอรมนี (แชมป์เก่า), บราซิล, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, เบลเยียม, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, โครเอเชีย, เดนมาร์ก, อียิปต์,อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, โมร็อกโก, ไนจีเรีย, ปานามา, เปรู, โปแลนด์, โปรตุเกส, ซาอุดีอาระเบีย, เซเนกัล, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตูนิเซีย และอุรุกวัย,ทีมที่จะเป็นตัวยืนในแต่ละกลุ่ม จากโถที่ 1 ในพิธีแบ่งสาย คือ รัสเซีย, เยอรมนี, บราซิล, โปรตุเกส, อาร์เจนตินา, เบลเยียม, โปแลนด์ และฝรั่งเศส,ฟีฟ่าใช้อันดับโลกเดือนตุลาคม 2017 เป็นตัวชี้วัดทีมวางอันดับ ทำให้สเปน (อันดับ 8) และอังกฤษ (อันดับ 12) ต้องไปอยู่ในโถที่ 2 จะถูกจับไปชนกับตัวยืนในโถที่ 1,เต็ง 1 เกจิทั่วโลกยกให้ อินทรีเหล็ก เยอรมนี ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า และมีลุ้นทำสถิติเป็นทีมแรกต่อจากบราซิลที่ได้แชมป์โลกติดต่อกัน 2 สมัย ทีมแซมบ้าเป็นชาติเดียวที่ทำได้ในปี 1958 และ 1962 ซึ่งเป็นยุคทองของเปเล่,เยอรมนีภายใต้การคุมทีมของโยอาคิม เลิฟ ทำผลงานรอบคัดเลือกได้คงเส้นคงวา ไม่แพ้ใครรอบคัดเลือกเวิลด์คัพทั้งรอบคัดเลือกและรอบสุดท้ายมาตั้งแต่ปี 2010 ที่พ่ายสเปนในรอบตัดเชือกบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้,เต็ง 2 คือ บราซิล รอบคัดเลือกครั้งนี้ 6 นัดแรกอาการหนักชนะแค่นัดเดียว ทำให้กุนซือดุงก้าถูกปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อได้ติเต้เข้ามาแทน เขานำทีมชนะ 10 นัด เสมอ 2 ลอยลำคว้าแชมป์รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ได้สำเร็จ,ตัวเต็งรองลงมา ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนตินา, เบลเยียม, อังกฤษ และโปรตุเกส แต่หลังจากแบ่งสายแล้ว อาจมีการปรับเปลี่ยนได้หากทีมชั้นนำเหล่านี้เจอศึกหนัก.,โต้ บ้านแหลม | รอกันมา 2 สัปดาห์ บอลสโมสรลีกต่างๆของยุโรปก็กลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งในวีกนี้ ช่วงฟีฟ่าเดย์ รอบล่าสุดทิ้งทวนคัดบอลโลก มีประเด็นให้ฮือฮากันหลังจากอิตาลี หนึ่งในทีมอมตะของวงการลูกหนังโลก | null | ตะลุยฟุตบอลโลก,โต้ บ้านแหลม,บราซิล,เยอรมนี,สถิติ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1130350 |
อังคณา เผยเตรียมร้อง ปอท. หลังถูกโพสต์สร้างความเกลียดชังในโซเชียลฯ | โดยล่าสุดถูกปั่นว่าเรียกร้องให้สังคมให้อภัยเปรี้ยว6 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.59 น. ที่ผ่านมาอังคณา นีละไพจิตรกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับ อังคณา พร้อระบุว่า ทำงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิฯมานาน พรุ่งนี้(7 มิ.ย.60) 10.00 น. จะไปแจ้ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 4 อาคาร B เรื่องการถูกละเมิดสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ถูกเกลียดชังโดยการใช้ภาพ และข้อความเผยแพร่ทาง facebook ต่างๆ โดยล่าสุด คือกรณี เปรี้ยว ทั้งที่ไม่ได้อยู่ประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้คำพูดเพื่อสร้างความเกลียดชัง (HateSpeech) บนแอพพลิเคชั่น เริ่มมีมากขึ้นตั้งแต่ทำหน้าที่ กรรมการสิทธิฯ ในฐานะที่รับผิดชอบ สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรื่องร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิฯต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบางคน | อังคณา กสม. โพสต์ระบุเตรียมเข้าร้องต่อ ปอท.เรื่องการถูกละเมิดสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ถูกเกลียดชังโดยการใช้ภาพ และข้อความเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กต่างๆ | สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | ปอท.,สร้างความเกลียดชัง,อังคณา นีละไพจิตร,เปรี้ยว | https://prachatai.com/journal/2017/06/71817 |
รองผู้ว่าฯภูเก็ตตรวจสอบที่ดินบนเกาะนาคาน้อย กรมที่ดินตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว | วันนี้ (7 เม.ย.2559) นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่ดินของบริษัท ภูเขาหกลูก ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก เลขที่ 3977 เนื้อที่ 24 ไร่เศษ บนเกาะนาคาน้อย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งตั้งติดกับที่ดินของครอบครัว หิรัญพฤกษ์ หลังจากครอบครัวดังกล่าวออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีคนของบริษัทดังกล่าวซึ่งมีอาวุธครบมือ จะเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าบนเกาะนาคาน้อย รวมทั้งจะนำรถแบ็คโฮ เข้าไปปรับพื้นที่ด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่พบการตัดต้นไม้ใหญ่ยกเว้นมีการทำทางเดินเป็นขั้นบันไดโดยใช้ปูนหยอด ขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบนเกาะ เนื่องจากพื้นที่มีความลาดชันและการดำเนินการเช่นนี้ ถือว่า ยังไม่มากเกินไป ส่วนกระบวนการเพิกถอนตามที่มีการร้องเรียนว่าได้มาโดยมิชอบนั้น กรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรรมการสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารและพยานบุคคล โดยมีห้วงระยะเวลาในการโต้แย้งสิทธิ 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 24 เม.ย.นายสายันห์ สรรบรรณ คนเฝ้าพื้นที่ของบริษัท ภูเขาหกลูก เล่าว่า ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับนายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา เจ้าของที่ดินและผู้หญิงสูงอายุประมาณ 8 - 9 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ขายที่ดินให้กับนายชาญวิทย์ เมื่อมาถึงนายภูริ หิรัญพฤกษ์ ได้เดินลัดเลาะเข้ามาสอบถามว่า มาทำไม ขณะที่พูดคุย ฝ่ายนายภูริได้อัดคลิปวีดิโอไว้ด้วย และยืนยันว่า ไม่ได้พกอาวุธหรือยิงปืนข่มขู่ ส่วนของรถแบ็คโฮ ก็ไม่ได้นำมาแต่อย่างใด | รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบเกาะนาคาน้อย ภายหลังที่ ครอบครัว หิรัญพฤกษ์ ออกมาระบุว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์เตรียมเข้ามาแผ้วถางพื้นที่บนเกาะ และข่มขู่ | ภูมิภาค | บุกรุก,ภูเก็ต,เกาะนาคาน้อย,หิรัญพฤกษ์,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/251549 |
คอนเต คนแรกทำสถิติให้ งูใหญ่ สตาร์ทเข้าวินรวด 5 นัด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ย. ว่า หลังจากที่ทัพ เนรัซซูรี หรือที่รู้จักกันในชื่อ อินเตอร์ มิลาน เก็บชัยชนะ 5 เกมรวด โดยเกมล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาเปิดถิ่น จูเซปเป เมอัซซา เฉือนเอาชนะ ลาซิโอ 1-0 จากลูกโหม่งของ ดานิโล ดัมโบรซิโอ ในนาทีที่ 23 ,ส่งผลให้งูใหญ่ที่นอกจากจะคว้าชัย 5 เกมรวดแล้ว ยังทำให้ขึ้นไปรั้งเป็นจ่าฝูงของตารางกัลโชอีกด้วย โดยเก็บได้ 15 คะแนนเต็ม ซึ่งทีมที่ตามมาคือ แชมป์เก่า ยูเวนตุส มี 13 คะแนน และอตาลันตา 10 คะแนน ,นอกจากนี้ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือดังชาวอิตาเลียน ยังสร้างสถิติ กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของอินเตอร์ มิลาน ที่พาทีมเก็บชัยชนะรวดตั้งแต่ 5 เกมแรก ซึ่งเจ้าตัวก็มีดีกรีไม่เบา เคยพาทัพม้าลายเถลิงแชมป์ลีกมาแล้ว 3 ครั้งในฤดูกาล 2011-2012, 2012 -2013 และ 2013-2014 ก่อนจะโดน เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี ชักชวนให้มาคุมทีม และก็สามารถพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ด้วยในซีซั่น 2017-2018 และคว้าถ้วย เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลต่อมา | อันโตนิโอ คอนเต สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน หลังพาสังกัดคว้าชัย 5 เกมรวด ในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลของศึกกัลโช เซเรียอา อิตาลี | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | อินเตอร์ มิลาน,อันโตนิโอ คอนเต,กัลโช เซเรีย อา,งูใหญ่,เนรัซซูรี | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1669033 |
ลุยเจาะไข่แดงตลาดใหม่ พาณิชย์ การันตีปนี้ส่งออกขยายตัว 5% | ด้านฮาลาล ธนาคารพาณิชย์ร่วมมือกันดันส่งออก,นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนยังคงยืนยันเป้าหมายการทำงาน ที่จะผลักดันการส่งออกในปีนี้ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% โดยจะยังไม่มีการทบทวนเป้าหมาย เพราะถือเป็นตัวเลขในการทำงาน แม้ว่าขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจโลก จะขยายตัวลดลงกว่าการคาดการณ์เดิมก็ตาม และตนจะมีการทบทวนแผนการทำงาน เพื่อผลักดันการส่งออกให้ได้เพิ่มขึ้น ทั้งการทำตลาดแบบเจาะจง เป็นรายสินค้าและรายตลาด ที่ต้องทำงานเชิงลึกมากขึ้น,การผลักดันให้ตัวเลขการส่งออกขยายตัวเป็นบวกมากๆเหมือนในอดีตทำได้ยาก แต่ก็จะเร่งทำ คือ การรักษาส่วนแบ่งตลาดส่งออกของสินค้าไทยเอาไว้ให้ได้ เพราะที่ผ่านมาแม้การส่งออกจะติดลบ แต่ก็ติดลบน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่สำคัญ ไทยยังรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้,สำหรับสินค้าที่ไทยยังส่งออกได้ดีอยู่ คือ กลุ่มยานยนต์ ซึ่งเร็วๆนี้จะหารือกับผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าว เพื่อผลักดันยอดการส่งออกให้เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และอัญมณี ที่คาดว่าการส่งออกยังขยายตัวได้ ส่วนสินค้าเกษตรในแง่ปริมาณยังส่งออกได้ดี แต่มูลค่าไม่มาก เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งต้องมีการปรับแผนเพื่อผลักดันการส่งออก เพราะสินค้าเกษตรบางตัว ยังส่งออกได้ดีอยู่ เช่น ไก่สดและแปรรูป ที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการเปิดตลาดหลังจากที่ไทยแก้ไขสถานการณ์ไข้หวัดนกภายในประเทศจนต่างประเทศเชื่อมั่นต่อสินค้าไก่ของประเทศไทย,นอกจากนี้ จะมุ่งเจาะตลาดใหม่ๆ เช่น ตลาดอเมริกากลางที่มีโอกาสสูง โดยได้มอบให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประจำเม็กซิโก ศึกษาช่องทางในการทำการค้า และผลักดันการส่งออก ส่วนตลาดเดิมมีแผนการเจาะตลาดไปยังหัวเมืองรองในประเทศที่ไทยส่งออกอยู่แล้ว เช่น จีน อินเดีย ตลาดอเมริกาใต้ แอฟริกา ฯลฯ,นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงได้กำหนดยุทธศาสตร์สำหรับภาคการค้าระหว่างประเทศในระยะ 5 ปี โดยเน้นการยกระดับเศรษฐกิจการค้าของประเทศเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ ที่สร้างสรรค์มูลค่าเพิ่ม การผลักดันการส่งออกภาคบริการ การเสริมสร้างขีดความสามารถของเอสเอ็มอี เป็นต้น,สำหรับในโอกาสครบรอบ 64 ปี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ใน 5 หัวเรื่องสำคัญ อาทิ ความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สินค้า และธุรกิจบริการฮาลาล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ความร่วมมือโครงการเอสเอ็มอีกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฯลฯ ซึ่งความร่วมมือ ดังกล่าว จะช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศและช่วยผลักดันให้การส่งออกขยายตัวได้ตามที่ตั้งไว้. | พาณิชย์ ยืนเป้าส่งออกปีนี้ยังเติบโต 5% ไว้เป็นกำลังใจในการทำงาน แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว จ่อปรับแผนส่งออกใหม่ หวังเจาะตลาดใหม่ๆให้เข้าเป้า ดันยอดเพิ่ม เล็งหารือเป็นรายกลุ่ม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเซ็นเอ็มโอยูหน่วยงาน | null | ข่าวเศรษฐกิจ,อภิรดี ตันตราภรณ์,ส่งออก,ผลักดัน,สินค้าที่ไทย,กลุ่มยานยนต์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/594241 |
เผยขบวนการโจรใต้ คนหน้าขาว รับงานบึมกทม. | คัดพวกประวัติสะอาด กระจายจุด-ตามแผน แต่มีกลุ่มบงการเดิม จ่อออกหมายจับเพิ่ม,บิ๊กปั๊ดแย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี หลังเรียกประชุมชุดสืบสวนคดีบึมป่วนกรุง สั่งพนักงาน สอบสวน 3 ท้องที่เกิดเหตุทยอยขอศาลออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด ด้านญาติลูไอ-วิลดัน 2 มือบึม สตช.แห่เยี่ยม หลังถูกนำไปสอบสวนที่ศูนย์ซักถาม จ.ยะลา โดยแนวทางสืบสวนพบช่วงปลายเดือน ก.ค. คนร้ายแต่ละทีมแยกย้ายกันเข้ามาดูเป้าหมาย เน้นรอบบริเวณสถานที่ประชุม รมต.อาเซียน ส่วนวันเกิดเหตุ ทีมบึม สตช.แวะรับระเบิดที่ห้างดังใกล้จตุจักร ใช้พวกหน้าขาวไม่มีประวัติ ด้านบิ๊กตู่ป้องบิ๊กแดง โพล่งฟันธงเกี่ยวข้องกับเหตุปี 49 เป็นแค่การเปรียบเทียบเหตุในอดีตที่คล้ายคลึงกัน,จากเหตุกลุ่มวัยรุ่นแนวร่วมโจรใต้ยกทีมขึ้นมาวางระเบิดป่วนกรุงเทพมหานครหลายจุด แยกย้ายกันวางระเบิดแสวงเครื่อง เริ่มตั้งแต่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้านขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ และหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 คน ตำรวจตามลากคอนายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี 2 หนุ่มชาวนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยที่ลงมือซุกระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทันควันที่ จ.ชุมพร หลังลงมือเสร็จนั่งรถทัวร์กำลังจะกลับถิ่น ก่อนถูกคุมตัวกลับไปสอบสวนยัง บช.ภ.9 ขยายผล โฆษก ตร.เผย ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้ง 2 คนให้การเป็นประโยชน์ สามารถขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการได้ ขณะที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หัวหน้าชุดสืบสวน ประสาน ผบช.ภ.9 ส่งทีมสืบสวนตามความเคลื่อนไหว กลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่เดินทางกลับเข้าพื้นที่แล้วกว่า 10 คน ส่วน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.เร่งพนักงานสอบสวนสอบพยานสเกตช์ภาพ ระบุรูปพรรณสัณฐานคนร้ายอย่างละเอียด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้งหมดให้ได้ภายใน 7 วัน,บิ๊กปั๊ดเรียกประชุมทีมคลี่คลาย,ความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีระเบิดป่วนกรุงหลายจุด โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดทั่วกรุง มี พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่นครบาล ร่วมประชุม,จ่อหมายจับ 2 มือบึมศูนย์ราชการ,ในที่ประชุมมีรายงานว่า พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขออนุมัติหมายจับมือวางระเบิด 2 รายตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุวางระเบิดภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ รายแรกเป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำคาดที่ลำตัว และกระเป๋าสีเขียวคล้องไว้ที่ไหล่ซ้าย ก่อเหตุวางระเบิดจุดที่ 1 และจุดที่ 2 บริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารบี คนร้ายรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมหน้ากากอนามัย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทาดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำที่หลัง ถือกระเป๋าสีส้ม วางระเบิดจุดที่ 3 และจุดที่ 4 หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ห่างจากจุดระเบิดอาคารบี ประมาณ 200 เมตร,บีทีเอสช่องนนทรี–ประตูน้ำด้วย,รายงานข่าวระบุอีกว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท อยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพวงจรปิด ที่ลงมือก่อเหตุวางระเบิดเพลิงจนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ 3 จุด ประกอบด้วย 1.ตลาดไซด์วอร์ค ดีดีเฮาส์ ภายในซอยเพชรบุรี 19 ทำให้มีร้านค้าเสียหาย 60 แผง 2.ร้านขายเสื้อผ้า ร้าน ฮ็อบ และ 3.ร้าน ปุ๋ย แฟชั่น ชั้นล่างโรงแรมอินทรา รวมถึงห้องแถวที่อยู่หน้าตลาดเฉลิมลาภ ในส่วน สน.ยานนาวา ที่เกิดเหตุบริเวณทางลงประตู 3 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และอีก 2 จุด หน้าตึกมหานคร โดยพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ท้องที่ นำพยานหลักฐานที่ได้มาอาทิ ภาพถ่าย (ที่จับภาพผู้ต้องสงสัยได้) ที่รวบรวมมาจากจุดต่างๆ เข้าประชุมในวันนี้,แย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี,หลังประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยว่า เร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี แต่จะมีการ แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น ไม่รับปาก หากมีเหตุผลที่จำเป็น โฆษก ตร.คงจะแถลง อะไรที่จะแถลงได้ก็จะแถลง แต่ในส่วนปฏิบัติคงให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ ส่วนจะออกหมายจับใครหรือไม่นั้น ในส่วนนี้เมื่อถึงเวลาจะบอก ขอให้มั่นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจทำ จนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนของการรายงานความคืบหน้าให้ทางนายกรัฐมนตรีทราบส่วนนี้ต้องรายงานตามสายการบังคับบัญชา มีการรายงานอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบในรายละเอียด ในส่วนของการปฏิบัติก็ทำกันอยู่แยกกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้การให้ข่าวกับพี่น้องประชาชนถ้าถึงจุดที่ทำได้จะให้ข่าวแน่นอน ตอนนี้ขอให้เชื่อมั่นการทำงาน ทุกคนก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน,ญาติโร่เยี่ยม ลูไอ–วิลดัน,ส่วนนายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี 2 หนุ่มชาวนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกจับกุมได้ที่ จ.ชุมพร และถูกส่งตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า ต.สะเตง อ.เมืองยะลา โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ญาติและครอบครัวของนายลูไอและนายวิลดัน เดินทางจาก จ.นราธิวาส ไปเยี่ยมผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า โดยญาติคนหนึ่งกล่าวว่า มาเยี่ยมเพื่อต้องการทราบว่าทั้งคู่มีความเป็นอยู่อย่างไร เกรงจะถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมวิงวอนฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่าอย่าทำร้ายร่างกายผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน หากต้องถูกสอบสวนดำเนินการให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ระหว่างนี้ครอบครัวจะหาเวลาเดินทางมาเยี่ยมบ่อยๆ,แฉ 2 มือบึม มีทีมงานพาชี้เป้า,มีรายงานว่า คดีวางระเบิดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้ง 2 คน ได้แก่ นายลูไอและนายวิลดัน แนวทางสืบสวนพบว่า รับงานจากแกนนำฝั่งประเทศมาเลเซีย ช่วงเดือน ก.ค. เดินทางเข้าออกหลายครั้งผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองเพื่อกำหนดเป้าหมาย กำหนดเส้นทางโดยสาร ปลายเดือน ก.ค. ได้โดยสารรถทัวร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาที่สถานี ขนส่งหมอชิต จากนั้นมีทีมงานมารับพาดูจุดที่จะก่อเหตุ คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พาไปห้างสรรพสินค้าพารากอน เพื่อสำรวจสถานที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนพามาดูจุดที่รับระเบิดอยู่ข้างห้าง JJ Mall และจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สถานีขนส่งหมอชิต ก่อนกำหนดวันลงมือก่อเหตุ วางระเบิดที่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันที่ 1 ส.ค. โดยเข้ามาเตรียมก่อเหตุวันที่ 31 ก.ค.,รับระเบิดจากนายอาแบ JJ mall,รายงานสืบสวนระบุต่อว่า ผู้ต้องหาเดินทางรถทัวร์ จ.ยะลา โดยก่อนหน้าเตรียมซื้อแมสก์ปิดปาก เพื่ออำพรางใบหน้า 1 แพ็ก รถทัวร์ถึง กทม.ช่วงเช้า มีคนมารับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าห้าง JJ mall เป็นจุดที่รับระเบิดจากนายอาแบ ข้างห้าง JJ mall จากนั้นเดินทางต่อโดยเรียกรถแท็กซี่ ไปที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เปิดสวิตซ์ระเบิดนำไปวางไว้ที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำชั้น G เสร็จแล้วเดินข้ามสะพานไปยังฝั่งตรงข้ามของสยามพารากอน เรียกรถแท็กซี่ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำหมอชิตขึ้นรถทัวร์ไปต่อที่สถานีขนส่งสายใต้เพื่อเดินทางกลับก่อนถูกตำรวจตรวจพบที่จุดตรวจพื้นที่ จ.ชุมพร,เป้าป่วนรอบที่ประชุุม รมต.อาเซียน,มีรายงานด้วยว่า เหตุระเบิดป่วนจุดอื่นน่าจะ เป็นการแยกชุดทำงานที่ต่างคนต่างรับงานจากผู้บงการ ไม่มีความเชื่อมโยงกัน เป็นกลุ่มคนหน้าใหม่ ที่ไม่มีประวัติก่อเหตุมาก่อน เรียกกลุ่มหน้าขาว กำหนดให้แต่ละกลุ่มนำระเบิดแสวงเครื่องและระเบิดเพลิงนำมาวางเป้าหมายในช่วงกลางคืนเพื่อให้ระเบิดตั้ง เวลาทำงานพร้อมกัน เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โดยรอบการประชุม รมต.อาเซียน ย่านปทุมวัน ชุด สืบสวนได้เบาะแสภาพกล้องวงจรปิดเชื่อมโยงกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 10 คน ในพื้นที่ศูนย์ราชการมีภาพคนร้ายที่ก่อเหตุชัดเจน ได้ประสานข้อมูลชุดสืบสวน บช.ภ.9 เข้าตรวจสอบกลุ่มเป้าหมาย บ้านพักกลุ่มผู้ต้องสงสัยเตรียมเข้าจับกุมหลังขออนุมัติหมายจับ,ผบ.ตร.ยันกลุ่มเดิมใช้คนหน้าใหม่,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างน้อย 2-3 จุด ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจาก ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นผู้มีประสบการณ์มีการเตรียมการมาอย่างดี สำรวจพื้นที่ก่อนลงมือก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัย 2 รายที่จับกุมได้ที่ จ.ชุมพร พื้นเพมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังก่อเหตุเดินทางกลับพื้นที่ให้การเป็นประโยชน์ การสืบสวนคืบหน้าไปได้ดี แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเมื่อปี 59 มองว่าในการก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มเดิมๆ ใช้คนหน้าใหม่มาก่อเหตุ ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามปล่อยข่าวสร้างความตื่นตระหนก ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลฝ่ายความมั่นคงควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ ชุดสืบสวนคดีคืบหน้าไปได้เรื่อยๆ,เตรียมแจงผลคดี ครม.,ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช.สยศ.1 ในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีระเบิดกล่าวว่า คาดว่าวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะชี้แจงภาพรวมเหตุการณ์ความคืบหน้าของ คดีระเบิดทั้งหมดให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ โดยตนจะต้องเข้าพบ ผบ.ตร.เพื่อรับทราบนโยบายและรายละเอียด ส่วนการชี้แจงข่าวสาร ผบ.ตร.จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพียงผู้เดียว,รอผลดีเอ็นเอ 2 มือระเบิด สตช.,ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของวัตถุพยานจากเหตุระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น ขวดน้ำ กล่องผลไม้ กล่องมันฝรั่ง ตัวตั้งเวลา หรือไอซีทามเมอร์ เสื้อผ้าที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยเปลี่ยนและทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ที่ผู้ต้องสงสัยนั่งไปส่งที่สถานีรถขนส่ง มาตรวจพิสูจน์ ก่อนส่งไปยังพิสูจน์หลักฐานภาค 9 เพื่อเทียบเคียงดีเอ็นเอกับ 2 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จะทราบผล,บิ๊กอู๊ดยันกล้องด่านจับภาพชัด,ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออกของนายลูไอและนายวิลดัน ก่อนเกิดเหตุมีการเดินทางเข้าออกนอกประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านด่านตม.นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับหน้าผู้ต้องสงสัยได้อย่างชัดเจน ส่วนวันเวลาเดินทางหรือเดินทางเข้าออกกับใครนั้น รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริง ข้อมูลทั้งหมดรายงานไปเรียบร้อย ทั้งนี้ ผบ.ตร.สั่งการ บช.สตม.ให้กำชับและสั่งการไปยังทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ในการเพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะด่าน ตม.ภาคใต้ ให้เก็บรายละเอียด ตรวจค้นยานพาหนะ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้า-ออก พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบมากขึ้น,รองโฆษก ตร.เผย เร่งหาคนผิดมาลงโทษ,ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เผยถึงเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ กทม.และใกล้เคียง ขอเรียนชี้แจงข้อมูลความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน ข้อมูลข่าวสารที่ไม่กระทบต่อรูปคดี ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบเป็นระยะ หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้เร่งพิสูจน์ทราบและจับกุมคนร้ายที่พยายามสร้างสถานการณ์ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมขยายผลผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เร่งระดมสรรพกำลังหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย,มีผู้ไม่หวังดีโพสต์บิดเบือน,รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง นำเข้าข้อมูล ทั้งโพสต์และแชร์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้สังคมเกิดความสับสน สร้างความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ลงข่าวในลักษณะที่ว่าแค้นทหาร แกนนำที่ถูกควบคุมเสียชีวิตในค่ายทหาร และใต้สงบ งบไม่มา มีการจัดฉากขึ้นโดยทหารเลวๆของตู่ที่ส่งไปประจำการ เพื่อกินงบ เสียงจากตำรวจ ได้รับแจ้งให้ไปเก็บกู้ระเบิด แต่เมื่อไปถึงทหารที่ตรึงพื้นที่ได้ไล่ให้กลับ ดูให้จบจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาคใต้นี่คือเหตุ อย่างที่ผมเคยบอกหลายครั้งแล้วว่า การแก้ปัญหาภาคใต้นั้นไม่ยาก หากรัฐบาลและกองทัพจริงจังจริงใจนี่คือ เรื่องจริงครับพี่น้อง เนื้อหาในคลิปที่เผยแพร่ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.แชน วรงคไพสิฐ หรือดาบแชน ตำรวจเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดขณะไปตรวจที่เกิดเหตุ ปัจจุบัน พล.ต.ท.แชน เสียชีวิตไปตั้งแต่ 28 ต.ค. 56 จากการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส,อัศวิน สั่งเฝ้าระวังจุดคนหนาแน่น,อีกด้านหนึ่งที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์กรุงเทพฯ ว่า หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตามสถานการณ์ ขณะเดียวกัน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. สั่งการให้สำนักงานเขต และหน่วยงานของ กทม. ทุกหน่วยงาน ดูแล สอดส่อง และตรวจสอบอย่างเข้มข้น เฝ้าระวังจุดที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น เช่น สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง ป้ายรถเมล์ อาคาร หรือสถานที่ขนาดใหญ่ ทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถานที่สำคัญๆ สถานที่ประวัติศาสตร์ สถานที่เขต สำนักพระราชวัง ขณะที่ กอ.รมน.กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึก ประเมินสถานการณ์ สนับสนุนการทำงานของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับการก่อเหตุนี้ได้แล้วบางส่วน,นายกฯป้องบิ๊กแดงด่วนฟันธง,ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดป่วน กทม. เมื่อเวลา 07.25 น. ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ว่า ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหา 2 คนที่จับกุมได้ ทราบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้อง 10 กว่าคน ขณะนี้ไม่ได้ตัดสาเหตุจูงใจใดทิ้ง ขอให้ใจเย็นๆเพราะมีผู้เกี่ยวข้องอีก 10 กว่าคน ต้องตามจับให้ได้ว่าสาเหตุที่เกี่ยวข้องมาจากอะไร หากไปกดดันเจ้าหน้าที่จะทำงานลำบาก เรื่องเช่นนี้พร้อมที่จะเกิดขึ้นในหลายเวทีของโลกนี้ คนเราแตกต่างทางความคิด ยังไม่ได้มุ่งหมายว่าเป็นกลุ่มไหน ส่วนที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ระบุว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2549 เป็นแค่เพียงการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ที่มีการยึดโยงกัน และมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน กลุ่มการเมืองจะอยู่เบื้องหลังหรือไม่ยังไม่ทราบ อย่าเพิ่งไปสรุปอะไร,ประณามคนทำ ใจร้ายใจดำ,เมื่อถามว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่ตัดเหตุการณ์ใดออก เมื่อถามถึงกรณีที่มารดาของผู้ต้องหาต้องการทราบที่อยู่ของบุตรชาย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่แม่ต้องเป็นห่วงลูก ทั้งหมดเป็นไปตามวัตถุประสงค์พยาน และกล้อง CCTV รวมถึงหลักฐานที่ตรวจสอบพบ เช่น ถุงเสื้อผ้ามีอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องฟังทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ไม่ว่าที่ใดก็ตามมีปัญหากันหมด โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในห้วงเวลานี้ คนที่ดำเนินการหรือคนที่เกี่ยวข้องยังไม่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นใคร แต่ถือว่าใจร้ายใจดำ ที่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย,ไม่เกี่ยวปมนายกฯ คุมทหาร–ตำรวจ,เมื่อถามว่า การลอบวางระเบิดครั้งนี้เกิดจากแรงจูงใจที่นายกฯ ดูแลทั้งทหารและตำรวจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน คุยกับพี่น้องทุกคน ทั้ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รวมถึงกระทรวงมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนให้แนวทางไปกับตำรวจว่า ทุกอย่างต้องดูแลให้เกิดความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามได้จัดคณะทำงานให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นในการสืบสวนสอบสวนคดี และเน้นย้ำว่าการให้ข้อมูลข่าวสารใดก็ตามที่จะทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความไม่พอใจส่วนตัวขอให้เบาๆกันไว้บ้าง,อย่าโยงสโลแกน สงบจบที่ ลุงตู่,เมื่อถามว่า เหตุจูงใจน่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หาเสียงเอาไว้ว่าหากเลือกความสงบจบที่ ลุงตู่ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนไม่ได้เป็นคนพูด ใครจะเลือกใครเป็นเรื่องของการเมืองก็เลือกกันไป ในช่วงนั้นพยายามที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง หลายพรรคก็หาเสียงกันทุกเรื่อง อย่าเอาประเด็นโยงกันไปมา แค่นี้ปัญหาเยอะพอสมควรอยู่แล้ว ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบหรือไร คนที่ไม่ดีทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงกับประเทศชาติต้องถูกดำเนินการ ในฐานะที่ตนเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้บูรณาการการทำงาน และสั่งการเพิ่มเติมให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.) รวมถึงเรื่องการข่าวประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านดูแลการผ่านแดนให้มากกว่าเดิม,เฉ่งพวกไร้ตรรกะมอง รบ.ทำเอง,เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายรัฐบาลมีพิรุธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า รัฐบาลมีพิรุธอย่างไร อยากให้มองในประเด็นใหญ่ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่ เรากำลังประชุมระดับนานาชาติ มีต่างประเทศเข้าร่วม ทั้งในกรอบอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ถามว่าใครจะทำแบบนั้น เว้นแต่ว่าเป็นการทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ อยากให้มองในมุมนี้บ้าง อย่ามองในประเด็นที่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์เอง จะทำทำไม ตนอยู่ดีๆเฉยๆไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรืออย่างไร อยากให้คิดให้มีตรรกะ,วันนอร์ แจ้งจับโพสต์หมิ่น,ส่วนที่ สภ.เมืองนราธิวาส ช่วงสายวันเดียวกัน นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคประชาชาติ ได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อนายปิยะพงษ์ ประสาททอง ในข้อหาหมิ่นประมาทและผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภายหลังโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค.ว่า พรรคประชาชาติเป็นผู้บงการระเบิดป่วนเมืองกรุง และยังนำโลโก้ของพรรคมาลงต่อท้ายข้อความ นายกมลศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าผู้โพสต์มีเจตนาอะไร หลังจากตำรวจจับกุมชาวบ้าน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 2 คน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิด สร้างความเสียหายต่อพรรคประชาชาติที่มีนโยบายการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการสันติภาพ ในฐานะที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ขอเร่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีให้คลี่คลายโดยเร็วเพื่อปลดล็อกมุมมองพรรคประชาชาติในแง่ลบ,หนุ่มตานีโวย ปารีณา แชร์โยงบึม,เช่นเดียวกับที่ สภ.เมืองปัตตานี นายกามารุดดิน โต๊ะดง อายุ 25 ปี ชาว จ.ปัตตานี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แชร์ภาพของตนที่ถ่ายคู่กับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกตำรวจจับกุมคดีลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกัน ขณะเดียวกันนายมะยุ เจ๊ะนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ได้รับผลกระทบลักษณะเดียวกันได้เข้าแจ้งความด้วย นายกามารุดดินเผยว่า น.ส.ปารีณาโพสต์รูปตนเชื่อมโยงผู้ต้องหาคดีระเบิดที่กรุงเทพฯ มีคนแชร์ต่อไป 400 กว่าคน ทำให้ตนและครอบครัวไม่สบายใจ ส่งผลกระทบต่อจิตใจการงาน และครอบครัว เพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงชายแดนใต้ ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ขอให้ผู้โพสต์ให้ความเป็นธรรมช่วยลบออกด้วย รวมทั้งคนที่แชร์อย่าเล่นสนุกอย่างเดียวให้มองคนที่ได้รับผลกระทบด้วย | บิ๊กปั๊ดแย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี หลังเรียกประชุมชุดสืบสวนคดีบึมป่วนกรุง สั่งพนักงาน สอบสวน 3 ท้องที่เกิดเหตุทยอยขอศาลออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด | ข่าว,ทั่วไทย | แนวร่วมโจรใต้,ลอบวางระเบิด,ระเบิดป่วนกรุง,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ไม่มีประวัติ,หน้าขาว,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1631175 |
เกร็ดข่าวลูกหนัง 16/05/58 | เซบีญา ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมสมราคาแชมป์เก่า หลังบุกไปย้ำแค้นเอาชนะ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ถึงถิ่น 2-0 ส่งผลให้รวมผล 2 นัด เซบีญาลิ่วเข้าไปป้องกันแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวมขาดลอยถึง 5-0 ขณะที่ดนิโปรฯพลิกล็อกเปิดรังเฉือนชนะนาโปลี 1-0 รวม 2 นัด ดนิโปรฯซิวชัย 2-1 พลิกเข้าชิงกับแชมป์เก่า เซบีญา ในศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา,ที่สนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ทีมดังแห่งศึกกัลโชซีรีเอ อิตาลี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แชมป์เก่า เซบีญา โดยนัดแรกนั้น เซบีญาเป็นฝ่ายเปิดรังถล่มชนะขาดลอยมาได้ก่อนถึง 3-0 เกมนี้ เจ้าบ้านฟิออเรนตินาวางโมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฮัวคิน ซานเชซ และดาวิด ปิซาร์โร เป็นสามประสานแนวรุก ขณะที่เซบีญาส่ง คาร์ลอส บัคคา เป็นตัวความหวังในแดนหน้า,เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้ 22 นาที เป็นเซบีญา ที่บุกมาพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่เอเวอร์ บาเนกา เปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาเข้าไปหน้าประตู และเป็นคาร์ลอส บัคคา ซัดบอลเข้าประตูไป จากนั้นอีก 5 นาทีให้หลัง แชมป์เก่า ได้ประตูนำห่างเจ้าถิ่นเป็น 2-0 จากการซัดของดาเนียล คาร์ริโก หมดครึ่งแรก เซบีญาบุกมานำห่างก่อน 2-0,ส่วนเกมครึ่งหลังฟิออเรนตินายังไม่ยอมง่ายๆ เดินหน้าบุกหนักหวังทวงประตูคืน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะแนวรับแชมป์เก่าเซบีญาได้ จบเกม เซบีญาบุกมาย้ำแค้นเอาชนะฟิออเรนตินาได้อีกคำรบ 2-0 รวมผล 2 นัด เซบีญาผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์อีกสมัย ด้วยสกอร์รวมขาดลอย 5-0,ทางด้านเกมรอบรองฯ นัด 2 ระหว่างดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสก์ ทีมม้ามืดจากยูเครน เปิดสนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงเคียฟ ดวลกับ อัซซูรา นาโปลี ทีมแกร่งจากเวทีกัลโชซีรีเอ อิตาลี หลังจากนัดแรกทั้งคู่เสมอกันมา 1-1 ที่บ้านของนาโปลี,ผลดวลแข้ง 90 นาทีปรากฏว่า ดนิโปรฯเปิดบ้านเฉือนเอาชนะนาโปลีลงได้ 1- 0 จากประตูชัยโทนของเยฟเฮน เซเลซนียอฟ ในนาทีที่ 58 ส่งผลให้ดนิโปรฯเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยประตูรวม 2 นัด 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับแชมป์เก่า เซบีญา ที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ในวันพุธที่ 27 พ.ค.นี้ต่อไป.,วิลลาอ่วม โดนเอฟเอปรับเงิน 2 แสนป.,สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อ่วมอรทัยแน่ หลังโดนเอฟเอสั่งลงโทษปรับเงินก้อนโตถึง 200,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) โทษฐานที่ปล่อยให้แฟนบอลของตัวเองบุกลงไปในสนาม ระหว่างเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 ที่เจอกับเวสต์บรอมวิช อัลเบียน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา,สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งลงดาบปรับเงิน แอสตัน วิลลา สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นจำนวนถึง 200,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) จากความผิดที่ทีมปล่อยให้แฟนบอลของตัวเองบุกลงไปในสนามวิลลา พาร์ก ระหว่างเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 ซึ่งวิลลาเปิดบ้านเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียน คู่อริร่วมเมือง ขาดลอย 2-0 เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา,แถลงการณ์ของเอฟเอระบุว่า แอสตัน วิลลา โดนปรับเงิน 200,000 ปอนด์ หลังจากยอมรับข้อหาแฟนบอลของพวกเขาประพฤติตัวไม่เหมาะสม ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 กับเวสต์บรอมวิช เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2015 โดยวิลลาถูกตั้งข้อหาว่าไม่สามารถควบคุมแฟนบอลของตัวเองได้ ทำให้มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งบุกลงไปในสนามวิลลา พาร์ก ขณะเดียวกัน แอสตัน วิลลา ก็โดนตักเตือนห้ามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต,ทั้งนี้ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทีมของกุนซือทิม เชอร์วูด หลังจากเอาชนะเวสต์บรอมวิช 2-0 ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 6 ก็ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะปราบลิเวอร์พูลลงได้ 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล แชมป์เก่า ที่เวมบลีย์ ในวันที่ 30 พ.ค.นี้.,เอเชียนแฮนดิแคป 16 พฤษภาคม,พรีเมียร์ลีก,18.45 น. เซาแธมป์ตัน-วิลลา 0 : 0.5/1,21.00 น. เบิร์นลีย์-สโต๊ก 0 : 0,21.00 น. ควีนสปาร์ก-นิวคาสเซิล 0/0.5 : 0,21.00 น. ซันเดอร์แลนด์-เลสเตอร์ 0 : 0,21.00 น. สเปอร์ส-ฮัลล์ 0 : 0.5/1,21.00 น. เวสต์แฮม-เอฟเวอร์ตัน 0 : 0,23.30 น. ลิเวอร์พูล-พาเลซ 0 : 1/1.5,บุนเดสลีกา,20.30 น. เลเวอร์คูเซน-ฮอฟเฟนไฮม์ 0 : 1/1.5,20.30 น. เอาก์สบวร์ก-ฮันโนเวอร์ 0 : 0/0.5,20.30 น. แฮร์ธา-แฟรงก์เฟิร์ต 0 : 0.5,20.30 น. ไมน์ซ-โคโลญ 0 : 0/0.5,20.30 น. ไฟร์บวร์ก-บาเยิร์น 1 : 0,20.30 น. ชาลเก้-พาเดอร์บอร์น 0 : 1,20.30 น. สตุตการ์ต-ฮัมบวร์ก 0 : 0.5/1,20.30 น. เบรเมน-กลัดบัค 0.5/1 : 0,20.30 น. โวล์ฟสบวร์ก-ดอร์ทมุนด์ 0 : 0,กัลโช ซีรีเอ,23.00 น. อินเตอร์ฯ-ยูเวนตุส 0 : 0/0.5,01.45 น. ซามพ์โดเรีย-ลาซิโอ 0/0.5 : 0 | เซบีญาย้ำแค้นม่วง 2-0 ลิ่วชิงยูโรปากับดนิโปร | null | เกร็ดข่าวลูกหนัง,ฟุตบอล,เซบีญา,ฟิออเรนตินา,นาโปลี,แอสตัน วิลลา,ปรับเงิน,สมาคมฟุตบอลอังกฤษ,พรีเมียร์ลีก,บุนเดสลีกา,กัลโช ซีรีเอ | https://www.thairath.co.th/content/499085 |
MERCEDES BENZ เปิดตัว MAYBACH S500 2015 รถหรูสำหรับผู้บริหารระดับสูง | 6 สิงหาคม 2558 Mercedes Benz ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Maybach (เมอร์เซเดส-มายบัค) ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรู เหนือระดับ จัดหนักใส่ความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในที่เลิศหรู ล้ำสมัยในทุกอณู รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยความยาวตัวถัง และระยะฐานล้อที่เพิ่มมากขึ้น เป็นยนตรกรรมที่ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารภายในมีความเงียบมากที่สุดในโลกอีกด้วย Mercedes-Maybach S 500 พร้อม เปิดให้จองได้ในราคา 16,900,000 บาท ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น,ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes Benz Thailand กล่าวว่า Mercedes-Maybach นับเป็นค่ายยนตรกรรมหรูลำดับที่ 2 ภายใต้แบรนด์ Mercedes ต่อจาก Mercedes-AMG โดยรุ่นที่ทางบริษัทฯ นำมาเปิดตัวในประเทศไทยนั้น คือรุ่น Mercedes-Maybach S 500 ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่หรูหราล้ำสมัย สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแบรนด์ในการมอบ สิ่งที่ดีที่สุด และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ให้แก่ลูกค้า โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูงและกลุ่มธุรกิจฟลีทกับโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองไทยสำหรับให้บริการเหล่าลูกค้าคนสำคัญ,มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes Benz Thailand กล่าวว่า Mercedes-Maybach S500 โดดเด่นด้วย ดีไซน์ภายนอก อันหรูหราสง่างาม โดยการคงไว้ซึ่งการออกแบบบริเวณด้านหน้าให้ยังคงความหรูหราแบบ The new S-Class เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับโลโก้ Mercedes Benz บนฝากระโปรงลาย 3 แถบ เสริมโครเมียม ฝากระโปรงหน้าที่ยาว พร้อม คิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคันพร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System, ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก, ปลายท่อไอเสียคู่, ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์แบบ Run-flat tyres และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ขนาดใหญ่ พร้อมปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยโลโก้ Maybach บนฝากระโปรงหลัง,Mercedes-Maybach มาพร้อมกับความยาวตัวรถประมาณ 5,453 มม. (S-Class ยาว 5,246 มม.) ระยะฐานล้อ 3,365 มม. (S-Class ยาว 3,165 มม.) ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสำหรับ ดีไซน์ภายในยังคงเน้นการผสมผสานความหรูหรา ความนุ่มสบายขณะขับขี่ และความกว้างขวาง เข้าไว้ด้วยกันโดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa แบบ Exclusive Package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, ด้านบนของคอนโซลหน้า และส่วนกลางของแผงประตูหุ้มหนัง nappa, ผ้าหลังคาและแผงบังแดดหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre, นาฬิกาแบบอนาล็อก ที่มาพร้อมกับ IWC ดีไซน์ รวมถึงระบบมัลติมีเดียอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบ COMAND Online เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และระบบ นำทาง (navigation system) พร้อมรีโมตควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, เครื่องเล่นดีวีดีแบบ 6 แผ่น (DVD Changer), ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ระบบเครื่องเสียงแบบ Burmester® high-end 3D surround sound system, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า (Head-up display) และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังพร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง,ห้องโดยสารภายใน,มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังริมหน้าต่าง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอุ่นเบาะนั่งและระบายอากาศพร้อมทั้งสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าได้มากกว่าปกติถึง 4 เซนติเมตรและเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 เซนติเมตร เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ multi-contour ที่มาพร้อมระบบที่นั่งแบบ First Class และโต๊ะทำงานแบบพับได้ รวมถึงการเพิ่มความสบายตลอดการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นนวด ENERGIZING สำหรับเบาะด้านหลัง ที่ใช้หลักการนวดผ่อนคลายเหมือนการใช้หินร้อนโดยสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 รูปแบบ ได้แก่ Hot Relaxing Massage Back, Hot Relaxing Massage Shoulder,Activating Massage, Classic Massage, Mobilizing Massage และ Workout ที่พร้อมเพิ่มความสบายในการพักผ่อนด้วยรองขาปรับระดับ สำหรับผู้โดยสารด้านหลังซ้าย-ขวา,ตู้เย็นภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลัง, ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา และด้านหลัง ที่สามารถปรับเลื่อนขึ้น-ลงด้วยระบบไฟฟ้า,ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC หน้า-หลัง รวมถึงการช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 7 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ,นอกจากนี้ Mercedes-Maybach ได้ทำการติดตั้งระบบ active perfuming system ที่มาพร้อมกับ AIR-BALANCE Package โดยระบบจะผลิตกลิ่นหอมและปรับระดับความหอมได้ด้วยตัวคุณเอง ผ่านการใช้น้ำหอมปรับอากาศคุณภาพสูงเพื่อให้ความสดชื่นและความรื่นรมย์มากขึ้น โดยกลิ่นหอมที่ใช้มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่,FREE SIDE MOOD,NIGHTLIFE MOOD,DOWNTOWN MOOD,SPORTS MOOD,รวมถึงอีก 1 กลิ่นพิเศษสำหรับ Mercedes-Maybach โดยเฉพาะ อย่างกลิ่น AGARWOOD,เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย,Mercedes-Maybach ได้ถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system และ PRE-SAFE impulse system, ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (PRE-SAFE rear system) ที่มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยแบบถุงลมเพื่อลดแรงกระแทกเมื่อ เกิดอุบัติเหตุและหัวล็อกเข็มขัดนิรภัยแบบเรืองแสง, ถุงนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า,ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ElectronicStability Program - ESP), ฟังก์ชั่นช่วยการทรงตัวขณะเร่งแซงทางโค้ง (Curve Dynamic Assist), ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบช่วยเบรก (Brake Assist – BAS), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist, ไฟเบรกกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Lights), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Accelerationskid control –ASR), สัญญาณป้องกันการโจรกรรมพร้อมระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST), ระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ (AIRMATIC), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre pressure monitoring system), ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ฟังก์ชั่นที่ฉีดน้ำกระจกบังลมหน้าติดตั้งบริเวณใบปัดน้ำฝน (MAGIC VISION CONTROL), ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน (Night view assist), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus), ระบบช่วงล่างแบบ MAGIC BODY CONTROL และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง,Mercedes-Maybach S 500 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบใหม่ล่าสุด 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 4,663 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 455 แรงม้าที่ 5,250-5,550 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาทีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.,Mercedes-Maybach S 500 ราคา 16,900,000 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดพร้อมสั่งจองรถยนต์ได้ที่ผู้จำหน่าย Mercedes Benz อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th, ,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom, | Mercedes Benz เปิดตัว Maybach 2015 อภิมหายนตรกรรมพันธุ์หรูสำหรับบุคคลสำคัญและผู้บริหารระดับสูง ปล่อยราคาท้าความร่ำรวยที่ 16.9 ล้านบาทเท่านั้นจ้า
| null | ARCOM ROUMSUWAN,MERCEDES BENZ MAYBACH S500 2015,อาคม รวมสุวรรณ,เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-มายบัค,รถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยม,ไมเคิล เกรเว่,The new S-Class,ยานยนต์,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/516621 |
เลือกตั้ง ผญบ.ใหม่ แทนผู้ใหญ่บัติ ตร.ยังคุ้มครองเข้ม 3 พยาน คดี 8 ศพ | ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ แทน ผู้ใหญ่บัติ ที่ถูกฆ่าพร้อมครอบครัว 8 ศพ จนท.ยังคุ้มกันหนาแน่น 3 พยาน ขณะที่พ่อตาคนตายวอนภาครัฐช่วยเรื่องถูกโกงที่ดิน ,วันที่ 8 ส.ค.60 ที่ศาลาประชาคม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นายวุฒิชัย บัวทอง นายอำเภออ่าวลึก พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ ร่วมกันดูแลการจัดการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน แทนนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตพร้อมครอบครัวและญาติๆ รวม 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัคร 3 ราย คือ นางวันดี จงรักษ์, นายจักกฤษณ์ หนูรินทร์ และนายไชยา มาตย์บุตร บรรยากาศการใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้มีประชาชนชาวหมู่ 1 ต.บ้านกลาง ทยอยเดินทางมาลงคะแนนไม่ขาดสาย ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง มีผู้มาใช้สิทธิ์แล้วกว่า 400 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 878 คน ,นายวุฒิชัย บัวทอง นายอำเภออ่าวลึก กล่าวว่า หลังปิดหีบเชื่อว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีการจัดเจ้าหน้าที่ อส. ร่วมกับตำรวจกว่า 20 นาย มาคอยดูแลสถานที่เลือกตั้งในครั้งนี้ โดยในส่วนของผู้สมัครแต่ละรายนั้น ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ส่วนการทำผิดกฎหมายจนถึงขณะนี้ยังไม่พบ คาดว่าประมาณ 5 โมงเย็นจะทราบผลการเลือกตั้งว่า ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่คือใคร,ส่วนที่บ้านของ นายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของนายวรยุทธ ยังมีเพื่อนบ้านเดินทางมาเยี่ยมไม่ขาดสาย และยังตั้งเต็นท์ไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อรอทำบุญครบรอบ 1 เดือน และ 40 วัน ตามพิธีทางศาสนา ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลพยานที่รอดชีวิต คือ นางอัชญลี บุตรเติบ และลูกสาว 2 คน ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน,นายจรีย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีนั้น เชื่อว่าอีกไม่นานนี้ทางตำรวจจะส่งฟ้องได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มาตามชาวบ้านไปสอบปากคำเพิ่มเติมหลายราย ส่วนปัญหาเรื่องโฉนดที่ดิน ที่ถูกนายซูริก์ฟัต ผู้ต้องหาโกงไปนั้น ขณะนี้มีชาวบ้านมาแจ้งขอความช่วยเหลือกับทางอำเภอ และยุติธรรม จ.กระบี่ แล้วกว่า 10 ราย อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือให้เต็มที่ เพราะชาวบ้านถูกหลอกโกงเอาที่ดินไปจนไม่มีบ้านจะอยู่ ,ขณะที่ พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ กล่าวว่า คดีขณะนี้ยังอยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการตรวจพยานวัตถุ ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ส่งกลับมา หากส่งมาก็จะสามารถเร่งสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ขณะนี้ได้ฝากขังเป็นผัดที่ 2 ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และจะครบกำหนดในวันที่ 11 สิงหาคมนี้. | ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ แทน ผู้ใหญ่บัติ ที่ถูกฆ่าพร้อมครอบครัว 8 ศพ จนท.ยังคุ้มกันหนาแน่น 3 พยาน ขณะที่พ่อตาคนตายวอนภาครัฐช่วยเรื่องถูกโกงที่ดิน | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่ายกครัว,ฆ่า8ศพ,ผู้ใหญ่บัติ,เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน,กระบี่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1031674 |
บุ๋ม ปนัดดา เปิดบริษัท 13 ถ้ำหลวง ดูแลสิทธิประโยชน์ 13 หมูป่า | เอง,เมื่อวันที่ 3 มี.ค.62 ที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย บุ๋มปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกรชื่อดัง และแคนดี้ รากแก่น หมอลำชื่อกระฉ่อน พร้อมนักฟุตบอล 13 หมูป่า ร่วมจุดธูปเทียน วางดอกไม้เซ่นไหว้เจ้าแม่นางนอน และทำพิธีไหว้บอกกล่าวรูปปั้นจ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีล ที่สละชีพกลางถ้ำหลวง ในภารกิจช่วยเหลือ 13 หมู่ป่าติดถ้ำ ที่หน้าพิพิธ ภัณฑ์ถ้ำหลวง ก่อนจะเดินทางไปที่วัดพระธาตุดอยเวา ทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลแผ่ส่วนบุญกุศลให้จ่าแซม และพันผ้ารอบพระธาตุดอยเวา พร้อมกับทำพิธีตัดริบบิ้นเปิด บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด เพื่อดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ ของ 13 หมูป่าติดถ้ำ หลังจากมีการเจรจาพูดคุยกับผู้ปกครองมีข้อตกลงมอบให้ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดูแลผลประโยชน์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นกับทีมฟุตบอลเยาวชน 13 หมูป่า โดยมีแนวทางเน้นการศึกษา และฝึกซ้อมบอล ปั่นจักยาน กิจกรรมที่ชอบ เป็นอันดับแรก ก่อนจะไปทำกิจกรรมอย่างอื่น,บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งบริษัท 13 ถ้ำหลวง เป็นการจัดตั้งเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของเด็ก ในการรับงานต่าง ๆ จากนี้เป็นต้นไปใครจะติดต่อประสานงานให้ผ่านบริษัท จะได้ดูแลน้อง ๆ ได้เต็มที่ จะได้เรียนไปตามเส้นทางที่ฝัน ซึ่งการบริหารจะเป็นลักษณะแบบครอบครัว จะมีการดูแลกันตลอดไป จนกว่าทุกคนจะเติบโต ทำอนาคตให้สำเร็จตามที่ทุก ๆ คนหวังไว้ และตามความปรารถนา ของคนทั้งโลกที่จะให้เด็กมีอนาคตที่ดีเป็นที่รักของคนทั่วไป ท้ายสุดขอฝากให้กำลังใจบริษัท 13 ถ้ำหลวง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใกล้ชิดกับ 13 หมูป่าติดถ้ำ เล่าว่า ผู้ปกครองนักฟุตบอลเยาวชน ต่างเข็ดเขี้ยวหน่วยงานราชการที่สั่งให้ไปไหน ต่อไหนโดยไม่คำนึงถึงเวลาเรียน เวลาซ้อมบอลของเด็ก ต้องการให้ไปออกงานไหน ต้องไปให้ได้โดยไม่กล้าปฎิเสธ ทำให้เด็กเสียโอกาสการเรียน การฝึกซ้อมเตะบอล วิถีชีวิตเปลี่ยน ถูกผู้ใหญ่กำหนดขีดเส้นให้เดิน ไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง และทุกครั้งที่ไปก็ไม่มีค่าเหนื่อย ต้องดิ้นรนทำเสื้อยึดขาย นำเงินมาใช้จ่ายกันเอง ส่วน ผู้ใหญ่ได้หน้าบาน มีผลงาน จึงเป็นมูลเหตุต้องให้ บุ๋ม ปนัดดา มาตั้งบริษัทช่วยดูแลสิทธิ์ประโยชน์ให้เด็ก ๆ. | บุ๋ม ปนัดดา เปิดบริษัท 13 ถ้ำหลวง ดูแลสิทธิประโยชน์ 13 หมูป่าติดถ้ำ ประกาศต่อไปนี้ ใครจะเชิญไปไหน สร้างหนังต้องติดต่อผ่านบริษัทเท่านั้น หลังจากถูกผู้ใหญ่ใช้งานฟรี เอาประโยชน์สร้างผลงานตัว | ข่าว,ทั่วไทย | 13หมู่ป่า,ถ้ำหลวง,บริษัท13ถ้ำหลวง,บุ๋ม ปนัดดา,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1510151 |
ญาตินำร่างยายวัย 62 ปีเหยื่อรถชนจากการแข่งแรลลี่ที่สระบุรีเผาแล้ว | ส่วนที่ จังหวัดสระบุรี หลังจากทางโลกโซเชียล มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องเกี่ยวกับ ยายวัย 62 ปี ถูกรถแข่งแรลลี่ชนกระเด็นเสียชีวิต ขณะขับรถ จยย. ข้ามถนน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ช่วง 17.00 น. จากนั้นก็มีการเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่ชนมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันทางญาตินำศพฌาปนกิจตามประเพณี โดยขณะที่ ญาติ ไม่พบผู้ชนที่รับผิดหรือทีมงานเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด จนมีการวิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์ ถึงการกระทำผิดที่ไม่ไยดีกับผู้เสียชีวิต
,เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ส.ค.2560 ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่วัดท่าพลู หมู่ที่ 4 ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพราะในวันนี้เป็นวันที่มีการฌาปนกิจเหยื่อรถแข่งแรลลี่ นาง บุญมา เอี่ยมสะอาด อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 5 ต.เขาน้อย อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี โดยภายในงานกำลังเตรียมเผาร่างผู้เสียชีวิต โดยมีเพื่อนบ้านและญาติ ทั้งสามีลูกหลานมาร่วมงานจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาศพได้เคลื่อนสู่เมรุทำการเผา
,นายสอน อุดราช อายุ 63 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้น วันที่ 18 ส.ค. ช่วงประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ตายหรือภรรยา ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน งขฟ 607 ชลบุรี ออกจากบ้าน เพื่อไปซื้อกระสอบมาใส่ของในบ้าน ในขณะที่ผู้ตายขับออกจากบ้านไปประมาณครึ่งชั่วโมง มีเพื่อนบ้านบอกว่า ภรรยาของตนถูกรถชนตาย ตนเองจึงได้มาที่เกิดเหตุเป็นถนนสายบ้านทรัพย์ดินดำ-เขาวง ม.6 ต.ลำยากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นสามแยกพอดี,เมื่อตนเองมาถึงพบร่างภรรยาของตน ขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต นอนอยู่ข้างป่าริมถนน ส่วนรถ จยย.พบถูกชนกระเด็นลากไปประมาณ 50 เมตร โดยตนพบว่ามีตรายี่ห้อรถโตโยต้าตกอยู่กับรถ จยย. และเศษชิ้นส่วนบังโคลนรถ 1 ชิ้น ขณะที่ตนเห็นว่าภรรยายังได้หายใจอยู่ จึงได้ช่วยกันกับเพื่อนบ้านที่มามุงดูนำส่งโรงพยาบาลปากช่องนานา แต่อาการสาหัสมากและได้เสียชีวิตลง จากนั้นตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำตู้ยามลำสมพุง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามรถคันที่ชนภรรยาของตนให้มาดำเนินคดี
,สามีผู้ตายกล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวหลังจากที่ตนได้แจ้งความตำรวจให้ติดตามคนร้ายที่ขับชนเพื่อมาดำเนินคดี ตนเองและญาติก็ได้ทำการนำศพมาทำพิธีการทางศาสนาที่วัดท่าพลู ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จน 3 วันแล้ว ก็ยังไม่มีผู้จะมารับผิดชอบหรือช่วยเหลือแต่อย่างใดเลย เพราะว่า หลังจากที่ภรรยาของตนได้ถูกรถนักแข่งแรลลี่ชนนั้น ตนเองและครอบครัวก็พอทราบเบาะแสว่า รถที่ชนเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มรถในขบวนที่จัดแรลลี่ ที่วิ่งผ่านมาทางพื้นที่ของชาวบ้านตน แต่แล้ววันงานไม่เห็นมีใครที่จะมาร่วมเยียวยาใจ หรือสำนึกผิดแม้แต่นิดเดียวที่ชนคนตาย,นายสอน กล่าวอีกว่า จนกระทั่งประมาณวันที่ 21 ที่ผ่านมาลูกๆ หลานๆ ได้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่โลกโซเชียล เพื่อขอความเป็นธรรมแก่คนตาย และขอให้ช่วยตามรถผู้กระทำความผิดที่มาขับร่วมจัดการแข่งขัน โดยตนเองเชื่อว่าทางผู้จัดงานเชื่อว่าน่าจะมีข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุนี้ด้วย และเชื่อว่า น่าจะมีข้อมูลในการเดินทางของรถแต่ละคันและวันเวลาใกล้เคียงกับที่ชน,สามีผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากนั้น จนเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ช่วงเวลา 14.00 น. ตนได้รับทราบจาก นักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้มาประสานกับตนและครอบครัว โดยในขณะนั้นกำลังเตรียมงานศพอยู่ว่า ได้มีเจ้าของบริษัทที่ร่วมจัดการแข่งขันรถแรลลี่ข้ามจังหวัด ในครั้งนี้ได้โทรศัพท์มาเพื่อขอช่วยเหลือเรื่องศพในเบื้องต้น โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา มาก่อน 4 แสนบาท พร้อมโอนผ่านมาให้ทันที โดยที่ตนก็ดีใจรับเงินไปทำการใช้จ่ายในงาน,ถึงแม้ว่าทางเจ้าของจัดงานรถแรลลี่ จะช่วยเยียวยาในเบื้องต้นในงานศพนั้น ตนเองและครอบครัวก็ดีใจและขอบคุณมาก แต่กลับกันทางด้านคดีความตนมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยในส่วนคดีความ ยังไม่ได้เข้าให้การปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะติดจัดงานศพอยู่ และตนเองก็ยังไม่ทราบว่ารถคันไหนชนภรรยา แต่พอรู้แค่คร่าวๆ ว่า จะต้องเป็นในขบวนรถแข่งแน่นอน ซึ่งตนเสร็จงานตนเองก็จะเข้าให้ปากคำตำรวจเพื่อที่จะหารถคันที่ชนมาดำเนินคดี นายสอน กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง,ส่วน พ.ต.อ.ธัชกร รอดเจียม ผกก.สภ.มวกเหล็ก กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวหลังจากทางเจ้าหน้าที่รับแจ้ง ก็มีพนักงานสอบสวนลงตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามรถคันที่ชน โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานไปทางผู้จัดการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐานและดูว่าในการแข่งขันมีรถกี่คัน และดูเวลาที่ลงนัดครั้งสุดท้ายที่ใกล้กับเหตุการณ์ที่ชน จะได้เชิญตัวเจ้าของรถที่ต้องสงสัยมาสอบสวนเพื่อหาคนผิดและรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี ส่วนทางด้านสอบปากคำทางญาติผู้ตายทราบว่า หลังเสร็จงานศพตนจะดำเนินการสอบสวนต่อไป. | ยายวัย 62 ปีเหยื่อรถแรลลี่ข้ามจังหวัดถูกรถชนกระเด็นดับ ขณะที่ เจ้าของรถแรลลี่ไม่เหลียวแล จนศพใกล้เผา จึงส่งทีมเข้าช่วยเหลือ มอบเงินเยียวยา ส่วนญาติให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนชนดำเนินคดีตามกฎหมาย
| ข่าว,ทั่วไทย | รถชนคนตาย,อ.มวกเหล็ก,สระบุรี,รถแข่งแรลลี่,ชนกระเด็นดับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1047782 |
ชาวกรุงเก่าผวา โครงเหล็กป้ายโฆษณายักษ์ โผล่หลังคาตึก หวั่นล้มทับบ้าน | เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 นายการุณ บันลือสุข สมาชิกสภาเทศบาลเมืองอโยธยา เขต 3 พร้อมตัวแทนชาวบ้านชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องเรียนต่อนายวุฒิชัย ด่านชัยวิจิตร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอโยธยา หลังจากที่มีบริษัทเอกชนก่อสร้างโครงเหล็กเพื่อติดตั้งจอป้ายโฆษณาระบบ LED ขนาดใหญ่บนหลังคาตึกริมถนนโรจนะขาออกจากเมือง ก่อนถึงแยกวัดพระญาติการาม ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งป้ายดังกล่าวมีขนาดใหญ่อยู่บนหลังคาตึกสูง 3 ชั้น ขึ้นไปอีกประมาณ 5-6 เมตร โดยโครงเหล็กและฐานของป้ายดังกล่าวมีขนาดใหญ่โต และคาดว่าน้ำหนักน่าจะหลายสิบตัน เกรงว่าจะล้มลงมาทับบ้านเรือนหรือรถยนต์ที่สัญจรไปมา หากเกิดลมพายุฝนก็เป็นได้,นายการุณ สมาชิกเทศบาลเมืองอโยธยา เขต3 และเป็นตัวแทนของชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านในชุมชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้มาปรึกษาตนถึงกรณีที่มีการสร้างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ได้มีการเริ่มก่อสร้างมาแล้วประมาณ 1 เดือน เดิมทีก็คิดว่าเป็นโครงขนาดเล็กๆ ธรรมดา จนสังเกตเห็นว่ามีขนาดใหญ่มาก จึงสอบถามมาทางเทศบาลเมืองอโยธยา และทางเทศบาลเมืองอโยธยาแจ้งว่าได้มีการขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณาอย่างถูกต้อง ตนและชาวบ้านจึงได้เดินทางมาร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อว่าป้ายดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการล้มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนได้ และเกรงว่าตัวอาคารจะรับน้ำหนักไม่ได้ เพราะตึกดังกล่าวสร้างมานานกว่า 45 ปีแล้ว อีกทั้งป้ายยังมีน้ำหนักมาก และอาจจะถูกลมพายุพัดลงมาได้ จึงอยากให้ทางวิศวกรออกไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน,นางสมจิตร กลิ่นดี อายุ 75 ปี กล่าวว่า ตนเองได้เปิดร้านซ่อมหม้อน้ำรถยนต์มานานกว่า 40 ปี และพักอาศัยอยู่ติดกับตึกที่มีการสร้างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ช่วงแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นป้ายขนาดเก่าและทำการปรับปรุงซ่อมแซม แต่มารู้อีกทีว่าเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ จึงเกรงกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้ทุกวันนี้ตนนอนไม่ค่อยหลับ ต้องหายาทานทุกวันเพื่อไม่ให้เครียด จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยแก้ปัญหาให้ด้วย,ทางด้าน นายวุฒิชัย รองนายกเทศบาลเมืองอโยธยา กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนแล้วและให้กองช่างออกไปสำรวจตรวจสอบพบว่า ป้ายดังกล่าวตรวจสอบได้ทำการขออนุญาตทำป้ายกับทางเทศบาลเมืองอโยธยาแล้ว ขนาดของป้ายที่ได้รับอนุญาตคือ ความกว้าง 5 เมตร และความยาว 12 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงตัวป้าย ไม่เกิน 15 เมตร แต่ทางบริษัทได้ทำผิดแบบที่ขอไว้ ความสูงเกินไปประมาณ 4 ถึง 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 10 ตัน แต่ถ้าทางบริษัทรีบดำเนินการแก้ไขทำให้ถูกต้อง ก็สามารถดำเนินการสร้างต่อได้ แต่ถ้าบริษัทไม่แก้ไข ทางเทศบาลเมืองอโยธยาจะต้องระงับการก่อสร้างทันที ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 53 (พ.ศ.2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งเบื้องต้นแจ้งด้วยวาจาไปแล้ว เนื่องจากสูงเกินมาก และยังมีอีกบางแห่งที่มีเอกชนมาขออนุญาตติดตั้งป้าย แล้วติดตั้งเกินกว่าที่กำหนด ซึ่งหากไม่แก้ไขก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | ชาวกรุงเก่าเริ่มผวา โครงเหล็กป้ายโฆษณา LED ขนาดยักษ์โผล่ตระหง่านหลังคาตึกสูง หวั่นล้มครืนลงมาทับบ้านเรือนประชาชน เทศบาลเมืองอโยธยายอมรับผิดแบบ เตรียมสั่งรื้อ | null | ป้ายโฆษณา,จอ LED,ป้ายโฆษณาจอแอลอีดี,กรุงเก่า,อยุธยา,ฝนตก,พายุ,สร้างผิดแบบ | https://www.thairath.co.th/content/714288 |
พิวจ์ ซัดชัย บอร์นมัธ เฉือน จิ้งจอกสยาม 1-0 ขึ้นที่ 8 | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดุกาล 2016-17 ประจำวันอังคารที่ 13 ธ.ค. คู่ที่น่าสนใจ เดอะ เชอร์รีส์ บอร์นมัธ อันดับ 12 ของตารางเปิดสนามวิตาลิตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14 ของตาราง,เปิดฉากครึ่งแรกมา 3 นาที บอร์นมัธ ทักทายได้น่ากลัว จากจังหวะที่ ชาร์ลี ดาเนียลส์ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง อดัม สมิธ พุ่งมาโขก แต่บอลไม่โดนบอล บอลเลยผ่านหน้าประตูออกไปหวุดหวิด,จากนั้นนาทีที่ 7 เลสเตอร์ น่าได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อิสลาม สลิมานี จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทาให้ เจมี วาร์ดี หลุดไปล็อกหลบ อาเธอรื โบรุต นายด่านของบอนร์นมัธ ไปแล้ว แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดบล็อก สตีฟ คุก กองหลังของบอร์นมัะ อย่างน่าเสียดาย,นาทีที่ 22 บอร์นมัธ ได้ลุ้นขึ้นนำ จากจังหวะที่ แจ็ค วิลเชียร์ ได้ยิงจากนอกกรอบ แต่ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ เซฟไว้ได้,ถึงนาทีที่ 34 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ จากจังหวะที่ อดัม สมิธ หลุดมาในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายย้อนมาให้ เบนิค อโฟเบ ซัดเต็มข้อ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ เซฟออกมาเข้าทาง มาร์ค พิวจ์ วอลเลย์สวนเข้าไปตุงตาข่าย,ถึงนาทีที่ 42 เลสเตอร์ ได้ลุ้นตีเสมอ จากจังหวะที่ คริสเตียน ฟุคส์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เวสต์ มอร์แกน ได้ขึ้นโหม่ง แต่ อาเธอร์ โบรุค ผู้รักษาประตูบอร์นมัธเซฟไว้ได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 53 บอร์นมัธ เกือบได้ประตุเพิ่ม จากจังหวะที่ ไซมอน ฟรานซิส จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ อดัม สมิธ ซัดด้วยขวา บอลเหินเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว,จากนั้นนาทีที่ 63 เป็นโอกาสของเลสเตอร์ จากจังหวะที่ เจมี วาร์ดี เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แแอนดี คิง ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคานออกไป,ถึงนาทีที่ 74 เลสเตอร์ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทา บอลเลยมาถึงเสาสอง โรเบิร์ต ฮุธ โขกน้นๆ เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ,ถัดมานาทีเดียว เลสเตอร์ น่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ชินจิ โอกาซากิ พาบอลมาถึงหน้าเขตโทา แล้วซัดเน้นๆ บอลแฉลบนักเตะเจ้าถิ่นหลุดกรอบออกไปนิดเดียว,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาแพ้ บอร์นมัธ 0-1 มี 16 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 14 ส่วน บอร์นมัธ เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 | มาร์ค พิวจ์ ยิงประตูชัยช่วยให้ เดอะ เชอร์รีส์ บอร์นมัธ เปิดบ้านเอาชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ขยับขึ้นที่ 8 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | null | บอร์นมัธ,เลสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก,ผลบอล,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/810486 |
สมศักดิ์ เจียม ดันปัญญาชนไทยคิดยาว-ทำใหญ่ ปฏิรูปสถาบัน | ชี้ถ้าไม่ยกเลิกองค์ประกอบอย่างมาตรา 8 ไทยก็ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยสมศักดิ์ เปิดการอภิปรายด้วยการกล่าวถึงการจัดงานเผาพระเมรุที่ท้องสนามหลวงเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ซึ่งมองว่าเป็นตัวดัชนีชิวัดความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยได้ จากการดูว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์หรืออภิปรายเรื่องดังกล่าวในที่สาธารณะได้หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่ได้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เพราะหากใช้มาตรฐานเดียวกันกับนักการเมือง เช่น หากญาติของนักการเมืองเสียชีวิต แล้วมีการใช้เงินหลายพันล้านบาท เพื่อที่จะใช้จ่ายเป็นค่าจัดงานศพ แล้ว เหล่านักวิชาการหรือภาคส่วนอื่นๆ ก็จะคงจะทนไม่ได้ออกมาคัดค้านอย่างเป็นแน่แท้ หากแต่เมื่อเป็นเรื่องของสถาบันกษัตริย์ กลับไม่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์mso-bidi-language:TH>เช่นเดียวกับการนำเสนอข่าวพระราชสำนักในเวลาสองทุ่ม ไม่มีการนำเสนอข่าวสารที่ใด ที่เป็นการนำเสนอด้านเดียวเช่นนี้ และยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้อีก จึงแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ในขณะนี้ประเทศไม่ได้เป็นประชาธิปไตยmso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>เมื่อโยงเข้ามากับเรื่องการรณรงค์ของคณะกรรมการรณรงค์เพื่อแก้ไขมาตรา mso-bidi-language:TH>ประเมินการรณรงค์ของครก. mso-bidi-language:TH>จึงมีข้อเสนอคือ ให้มุ่งเปลี่ยนการรณรงค์เพียงการแก้ไขม. mso-bidi-language:TH>คำถามในตอนนี้ก็คือว่า ทำไมเราไม่ยกระดับการรณรงค์เรื่องนี้ไปสู่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มตัว เพราะถ้าหากว่ากลุ่มที่รณรงค์ต้องการจะเปิดพื้นที่การดีเบตจริงๆ หรือให้มีการยกเลิกม. mso-bidi-language:TH>112mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>ในบริบทสังคมไทย การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ก็คือการต่อสู้เพื่อยุติสถานะสถาบันกษัตริย์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าไม่แก้เรื่องสถานะของสถาบันกษัตริย์ ตัวกฎหมายมาตรา mso-bidi-language:TH>ถ้าเราจะรณรงค์เรื่องนี้ในระยะยาว ก็ต้องเข้าใจและชัดเจนว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ว่าอุดมคติที่เราอยากเห็นคืออะไร มองว่าเรื่องม.mso-bidi-language:TH>ประเด็นที่สำคัญคือ เราต้องยุติของสถานะของสถาบันกษัตริย์ ที่มักถูกเอาไปอ้างกัน เพราะในประเทศอื่นๆ ไม่ว่าในประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ หรือเบลเยี่ยม ก็ไม่อ้างกันแล้ว แต่ที่ไทยยังอ้างอยู่ ก็เป็นเพราะอุดมการณ์ทางกษัตริย์นิยม และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ประกอบกันขึ้นมา จะเห็นจากเหตุผล mso-bidi-language:TH>8 mso-bidi-language:TH>ต่อให้รณรงค์ให้ตาย ตราบใดที่ยังมีข่าวสองทุ่ม มีโครงการหลวงอยู่ มันก็แก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น บ้านเราฟังดูมันโชคร้าย เรามาถึงจุดที่ว่า ถ้าคุณต้องการแก้ mso-bidi-language:TH>112112 mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>ตราบใดที่เราปฏิบัติกับสถาบันกษัตริย์แบบเดียวกับที่เราปฏิบัติกับนักการเมืองไม่ได้ การวิจารณ์มันก็ไม่มีความหมาย เพราะก็จะทำให้ชีวิตทางการเมืองของสังคมมันไม่มีความหมาย เพราะถ้าหากการวิจารณ์ไม่ได้ใช้หลักการและบรรทัดฐานเดียวกัน ก็เหมือนกับเป็นการด่ากันในเรื่องส่วนตัว ดังนั้น สรุปได้ง่ายๆ ว่า ในบริบทของประเทศไทย ถ้าคุณไม่ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้ใช้บรรทัดฐานเดียวกับที่ใช้กับคนทั่วไปได้ มิเช่นนั้น คุณก็ไม่มีประชาธิปไตย mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>เมื่อมีการเสนอให้ทำอะไรกับมาตรา mso-bidi-language:TH>ตอนแรกตนเข้าใจสิ่งที่นิติราษฎร์เสนอให้คงกฎหมายเรื่องหมิ่นประมาทประมุขไว้ เพราะเข้าใจว่าสังคมไทยอาจจะยังไม่พร้อม แต่จริงๆ แล้ว การที่นิติราษฎร์เสนอเช่นนี้ เพราะเข้าใจข้อหนึ่งและสองคนละแบบ คือ เสนอว่า ต่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว กฎหมายคุ้มครองประมุขจากการหมิ่นประมาท ก็ยังคงต้องมีอยู่เพื่อคุ้มครองประมุขซึ่งมีสถานะพิเศษ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า จริงๆ แล้ว ในหลักการประชาธิปไตย กฎหมายนี้ไม่ควรมีอยู่ คือให้คุ้มครองด้านอื่นได้ แต่ไม่ควรห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ และต้องถามว่ามีความจำเป็นหรือ เพราะกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาก็มีอยู่แล้ว mso-bidi-language:TH>อย่างในยุโรป ที่ยังมีกฎหมายห้ามหมิ่นประมาทประมุขอยู่ ก็เพราะมรดกทางการต่อสู้ทางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน อย่างในอังกฤษ ก็ไม่มีกฎหมายหมิ่นฯ แล้ว แต่มีกฎหมาย mso-bidi-language:TH>seditious libel2009 mso-bidi-language:TH>ไทยเอง ก็น่าจะเอาแบบอย่างของประเทศที่ไม่มีกฎหมายนั้นใช้แล้ว โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ไทยน่าจะศึกษาและมีความคล้ายคลึงกับไทยมากที่สุด โดยในบรรดารัฐธรรมนูญที่กษัตริย์เป็นประมุขทั้งหมด ญี่ปุ่นระบุไว้ชัดที่สุดว่ากษัตริย์ต้องมาจากการเสนอและเห็นชอบโดยรัฐมนตรีเท่านั้น และไม่สามารถกระทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ การมีจักรพรรดิของญี่ปุ่นถูกยกเลิกไปโดยสหรัฐอเมริกา หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งได้ยกเลิกการใช้กฎหมายหมิ่นไปด้วยเช่นเดียวกัน คงไว้ซึ่งเพียงกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา mso-bidi-language:TH>ถ้าเราจะต้องสู้ทางอุดมการณ์เพื่อเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปเรื่องสถาบันกษัตริย์ มองว่าต้องทำแบบญี่ปุ่น คือต้องเสนอให้ยกเลิกทั้งหมด ทั้งมาตราแปดและมาตรา mso-bidi-language:TH>ถ้าเช่นนั้น ในปัจจุบันเราจะเสนอได้แค่ไหน นักวิชาการต้องถามตัวเองว่าอะไรคืออุดมคติของไทยเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และถ้าสามารถเสนอได้ ก็เสนอไป ตั้งธงเอาไว้ อย่าง mso-bidi-language:TH>ถ้าเสนอได้แล้วไม่ติดคุก ต้องเสนอ และต้องทำงานความคิดต่อสู้กันไป ก็ต้องมาดูกันว่าเราต้องการอะไร ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศที่มันขึ้นต่อสถาบัน ให้เป็นประเทศที่ปกติธรรมดาของศตวรรษที่ mso-bidi-language:TH>ต่อคำถามเรื่องแผนสำรองในการรณรงค์เพื่อแก้ไขม. mso-bidi-language:TH>ข้อเสนอก็คือ ในการต่อสู้ทางอุดมการณ์ จะต้องเป็นบรรทัดฐานที่วางไว้ว่าต้องสู้แล้วสำเร็จ ต้องเสนอยันว่ายังไงก็ต้องเลิก เพราะมันใช้เวลาแน่นอน อย่างคราวนี้ เป็นครั่งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่สามารถอภิปรายเรื่องนี้ได้จริงจังเมื่อเทียบกับเมือเทียบกับช่วงทศวรรษ mso-bidi-language:TH>ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดชนชั้นกลางของไทยจึงยังต้องการรัฐที่มีสถานะของอำนาจสถาบันกษัตริย์แบบนี้ ไม่คัดง้างกับสถาบัน รวมถึงทักษิณด้วย แต่ตอบตรงๆ ก็เพราะว่า เขาอยากจะรักษาโครงสร้างแบบนี้ให้อยู่ เพราะน่าจะได้ประโยชน์ในอนาคต ถึงแม้ทักษิณเองก็มีคุณูปการทางประวัติศาสตร์ที่เปิดประเด็นวิจารณ์เปรม เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่เปรมทำมาตลอดไม่เคยมีใครหยิบยกมาพูด แต่หลังจากนั้น ก็กลับไปจับมือกัน ในทางปัญหาใหญ่ ทำไมในสังคมไทย นักการเมืองไทยจึงเป็นเช่นนี้ เพราะอย่างประเทศอื่นรัฐสภาก็เป็นฝ่ายที่คัดง้างกับสถาบันmso-bidi-language:TH>สุดท้ายนี้ ฝากอย่างซีเรียส สังคมไทยต้องการองค์กรถาวรที่ทำงานเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ อย่าหวังแต่นิติราษฎร์ หรือตนเอง ทั้งหมดนี้ มันเกี่ยวพันกับการพูดทางการเมืองในอนาคต เราจำเป็นจะต้องแก้ประเด็นนี้ให้ตก อาจจะเปลี่ยนจาก ครก. | สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อภิปรายในงาน แขวนเสรีภาพ เสนอการแก้ไขเฉพาะ ม. 112 อย่างเดียวไม่พอ เสนอตั้ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เน้นรณรงค์ปฏิรูปสถาบันรอบด้าน | การเมือง,สังคม | กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,กฎหมายอาญามาตรา 112,กษัตริย์นิยม,การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์,คณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา 112,คณะนักเขียนแสงสำนึก,ครก. 112,ประชาธิปไตย,ประวัติศาสตร์,มัลติมีเดีย,รัฏฐาธิปัตย์,สถาบันกษัตริย์,สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล,เสวนา,แขวนเสรีภาพ | https://prachatai.com/journal/2012/03/39716 |
เปาวลี ดูใจลูกชาย ซูโม่กิ๊ก รัก 4 ปีแฮปปี้-แฟนคลับให้กำลังใจ | ข่าวคราวความรักเงียบเชียบมาตลอด แต่ล่าสุดก็มีข่าวเซอร์ไพรส์วงการเพลงลูกทุ่งว่านักร้องสาวค่ายแกรมมี่โกลด์ เปา เปาวลี พรพิมล คบหาดูใจ เอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ ลูกชายพิธีกรตลกชื่อดัง ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ หรือ ป๋ากิ๊ก พิธีกรรายการ วันวานยังหวานอยู่ ทางช่อง 7 ได้เจอเปาวลีมาร่วมงานเปิดตัว การ์ด ยูเอสบี สมเด็จเจ้าฟ้าไอที ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เลยสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว,ซึ่ง เปาวลี เผยถึงเรื่องนี้ว่า จริงๆ ก็ไม่อยากเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ อยากให้เป็นข่าวเรื่องงานมากกว่า เพราะว่าในเมื่อทุกคนถามเราก็ยินดีตอบค่ะ ถามว่าคบกันนานรึยัง คบกันมาเรื่อยๆ 4 ปีแล้วค่ะ เงียบมากเลย ปิดข่าวรึเปล่า? ที่จริงไม่ได้ปิดเลยนะคะ เราก็คบกันธรรมดา ก็พูดคุยกันปกติทั่วไป แต่ไม่ได้หวือหวา หรือบอกให้ใครฟัง ถูกใจเค้าตรงไหน? เค้าเป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไป ติดดินง่ายๆ อะไรก็ได้ เป็นคนรักครอบครัว รู้จักกันได้ยังไง? เมื่อ 4 ปีก่อน เราก็ไปถ่ายรายการหนึ่งแล้วได้เจอเค้าด้วยความบังเอิญและมีผู้ใหญ่แนะนำ เราก็คุยกันปกติค่ะ (หัวเราะ) เค้าเข้ามาจีบรึเปล่า? ไม่ค่ะ ผู้ใหญ่แนะนำ แล้วก็มีโอกาสคุยกันค่ะ สมัยนั้นยังเป็นบีบีอยู่เลย ผู้ใหญ่ไฟเขียว? ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายก็รับรู้ค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ก็อยู่ในสายตาทั้งคู่ค่ะ 4 ปีมีคุยเรื่องอนาคตมั้ย? ยังไม่กล้าเลยค่ะ (หัวเราะ) ที่เราคบกันเหมือนคนทั่วไป ยังไม่กล้าวางอนาคต เพิ่งจะ 23 ปีเองด้วย และเราก็มีงานที่ดีในตอนนี้ และทำงานเต็มที่ทั้ง 2 ฝ่าย,เค้าเข้าใจมั้ย เพราะเราก็เหมือนไม่มีเวลาให้? เค้าก็เข้าใจเพราะเค้าเองก็ทำงานเบื้องหลัง เค้างานเยอะกว่าเราอีกก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ก็มีให้กำลังใจกันทางโทรศัพท์ พ่อเค้าแซวเราบ้างมั้ย? รู้กันหมดแล้วใช่มั้ย (หัวเราะ) เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เค้าก็คอยให้กำลังใจ ตอนแรกที่กานต์เรียนอยู่ต่างประเทศ เราก็ได้แต่คุยกัน แต่พอมีโอกาสได้กลับมาเมืองไทยก็มีกินข้าวด้วยกันบ้าง นานๆ ที ก็ไปกับครอบครัวเค้าบ้าง เรียกแฟนได้รึยัง? อะไรก็ได้ค่ะ ครอบคลุมทุกอย่าง แฟนคลับเราโอเคมั้ย มีหวงเรารึเปล่า? โชคดีที่พี่ๆ แฟนคลับน่ารักทุกคนค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนสนิทและรู้จักกันทุกคนอยู่แล้ว ก็มีอะไร เค้าก็คอยเป็นกำลังใจมากกว่า เค้าก็รู้เรื่องนี้และไม่ได้ว่าอะไร เวลาเราทำอะไรเค้าก็รู้ว่าเรามีกำลังใจหลายๆ ทาง. | เปาวลีรับดูใจเอิร์ธ กานต์ ลูกชายซูโม่กิ๊กมานาน 4 ปีแล้ว ย้ำไม่ได้ปิดบังเรื่องความรัก เผยฝ่ายชายเข้าใจการทำงานเพราะอีกฝ่ายทำงานเบื้องหลัง ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเพราะงานเยอะ แฟนคลับเข้าใจไร้ปัญหา | null | เปา เปาวลี,เอิร์ธ กานต์,เปา เอิร์ธ,ความรัก,แฟน,ดูใจ,เปาวลี พรพิมล,กานต์ กิจเจริญ,เอิร์ธ ลูกป๋ากิ๊ก,เอิร์ธ ลูกซูโม่กิ๊ก,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/533752 |
อดีต ผอ.กรมการคลังสินค้า ตั้งข้อสังเกตุเหตุไฟไหม้โรงสี อาจเพื่อทำลายหลักฐานทุจริตจำนำข้าว | นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ระบุสาเหตุเพลิงไหม้ โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวหลายครั้ง เมื่อเดือน กรกฎาคมปี 2555 ถึงมีนาคม 2556 ในหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือและอีสาน อาจมาจาก 2 กรณี ทั้งอากาศร้อนจัด หรือเผาเพื่ออำพราง ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วจากการตรวจสอบไปยังโรงสีที่ถูกไฟไหม้บางแห่ง เช่น โรงสีข้าวเจริญพาณิชย์ จังหวัดพิษณุโลกที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งไม่พบความเสียหายของข้าวเปลือก ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ เนื่องจากเป็นการไหม้พื้นที่เก็บแกลบด้านหลังโรงสี สาเหตุจากอากาศร้อนและไฟฟ้าลัดวงจร เช่นเดียวกับโรงสีเพชรธัญญะกิจ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ระบุว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรขณะที่กรมการค้าภายใน ระบุว่า จากการตรวจสอบโรงสีที่เพลิงไหม้ พบว่าเกิดจากสภาพอากาศร้อนจัดแต่ไม่ส่งผลต่อข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำ ซึ่งหากเกิดไฟไหม้ข้าวในโครงการ โรงสีต้องรับผิดชอบ พร้อมกำชับให้โรงสีเร่งส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาไฟไหม้ และเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสต็อกข้าว เพื่อป้องกันปัญหาสต็อกลม | ปัญหาไฟไหม้โรงสีหลายแห่ง ในเวลาใกล้เคียงกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงสาเหตุเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งอดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อน และการเผาเพื่อทำลายหลักฐานการทุจริตในโครงการรับนำข้าว | เศรษฐกิจ | กรมการคลังสินค้า,จำนำข้าว,ทุจริต,โรงสี,ไฟไหม้ | https://news.thaipbs.or.th/content/161899 |
วิษณุ เผย ถกร่วม คสช.-ครม. เคาะเปิดประตูรองรับ ถ้าทำประชามติ | เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 พ.ค. จะมีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ว่า จะเปิดทางให้มีการลงประชามติหรือไม่ หากที่ประชุมเห็นชอบจะไปดำเนินการว่า จะแก้ไขอะไรบ้าง เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาภายใน 15 วัน ส่วนหลังจากนั้นจะมีการทำประชามติหรือไม่ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวเปิดไว้ให้ทำแล้ว ตัดสินใจได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากที่ประชุมไม่ให้ความเห็นชอบ บอกว่า ประตูปิดล็อกดีอยู่แล้ว ถือว่าจบ ไม่ต้องพูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก,อย่างไรก็ตาม กรณีที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ตนจะขอหลักการว่า การทำประชามติจะต้องทำอย่างไร ยกตัวอย่าง จะทำประชามติก่อนหรือหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นหลังประกาศใช้ ไม่รู้จะทำไปทำไม ทำก่อนดีกว่า จะได้ตอบสังคมให้ชัด และจะให้เวลาทำประชามติเท่าไร โดยน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน รวมทั้งต้องคิดหากทำแล้วไม่ผ่านจะทำอย่างไรต่อไป จะมีการเสนอทางเลือก 3-4 ทาง เพื่อที่เขียนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม นอกจากนี้ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจมีการแก้ไขในส่วนของระยะเวลาการแปรญัตติของ กมธ.ยกร่างฯ ที่อาจขยายให้ จากเดิมกำหนดไว้ 60 วัน เป็นภายในไม่เกิน 90 วัน,รองนายกฯ กล่าวว่า ต่อจากนั้นในการประชุม ครม.ตนจะรายงานถึงข้อเสนอและความเห็นจากกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ องค์กรอิสระ นักวิชาการ และประชาชน โดยใช้วิธีการฉายภาพให้เห็น สรุปว่า มีกี่ประเด็นที่จะส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ เพื่อขอความเห็นชอบจาก ครม. จากนั้นจะทำเอกสารส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ ทั้งนี้ กรอบที่ ครม.จะเสนอไปมีเยอะมาก แบ่งเป็นประเภท คือ 1. การแก้ไขถ้อยคำที่ไม่มีความชัดเจนและเกิดความไม่เข้าใจ 2. ประเภทที่ไม่ควรบัญญัติไว้ แต่ควรไปบัญญัติไว้ที่อื่น หากอยู่ในรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ หรือบางเรื่องไม่ควรจะอยู่ในหมวดนี้มาตรานี้ 3. สิ่งที่ควรจะเขียนแต่กลับไม่เขียน ตรงนี้เราจะบอก และ 4. หลักการสำคัญที่ควรทบทวนตัดออก บางเรื่องเป็นข่าวไปแล้ว ส่วนที่จะมีการตัดมาตราให้เหลือ 200 กว่ามาตรานั้น คิดตรงกัน ส่วนหลักใหญ่ๆ ที่จะต้องตัดยังไม่ขอบอก,เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะที่ให้มีการแก้ไขเรื่องมาตรา 181-182 และกรณีนายกฯ คนนอก นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องที่มานายกฯ เห็นด้วยกับสิ่งที่ กมธ.ยกร่างฯ เขียน แต่อยากให้ว่า เป็นข้อยกเว้นจริงๆ ไม่ใช่ไปเลือกนายกฯ คนนอก ส่วนมาตรา 181-182 หากไม่มีใครเสนอให้ตัดตนจะเสนอให้ตัดอยู่แล้ว เพราะไม่เห็นประโยชน์จาก 2 มาตรานี้ เป็นแค่การชิงไหวชิงพริบกันเท่านั้น ส่วนประเด็นคณะกรรมการคัดสรรหาผู้สมัคร ส.ว. มองว่าเป็นความหวังดี แต่จะเกิดคนแพ้ในรอบแรกที่ถูกตัดออกไป คนที่ถูกคัดออกคงน้อยใจ จึงไม่ควรจะมีคณะกรรมการชุดนี้ เชื่อว่าคนที่จะสมัครแต่ละสมัครมีไม่เกิน 10 คนอยู่แล้ว/,นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทุจริตในแวดวงข้าราชการ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 โยกย้ายข้าราชการที่พัวพันการทุจริต ว่า สิ่งสำคัญต้องเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงต้องให้ความเป็นธรรม ระวังการกลั่นแกล้ง อย่างเช่นสมัยก่อน ที่มีการปราบปรามยาเสพติด สุดท้ายมีเรื่องฆ่าตัดตอน เจ้าหน้าที่ไม่ชอบใครแล้วเอายาไปยัด วันนี้จึงต้องใช้หลักฐานที่องค์กรต่างๆ มีอยู่ ที่ทำวันนี้มี 2 ขั้นตอน คือ ย้ายออกจากตำแหน่งแล้วไปช่วยราชการ แต่เงินเดือน สิทธิประโยชน์ ตำแหน่งยังเหมือนเดิม เป็นการย้ายออกเพื่อให้ผู้รักษาการในตำแหน่งนั้น สามารถส่งพยานหลักฐานเข้ามาได้,และ 2. หากตรวจสอบแล้วทำผิดจริง จะย้ายแล้วคืนตำแหน่งเพื่อตั้งคนอื่นทำหน้าที่แทน ในอนาคตเราคิดว่า อำนาจแบบนี้เราต้องให้ไว้แก้รัฐบาลใหม่ เพื่อคลายปัญหาบางอย่างได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 แต่จะมีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอีก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชุด เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างข้าราชการโดยรวม แต่ถ้าไม่จัดการระบบราชการนั้นแหละจะสั่นคลอน สุดท้ายจะอายเขาตายชัก เพราะคดีขาดอายุความหมด อย่างไรก็ตาม บรรดาคนที่มีรายชื่อนั้น น้อยรายจะเป็นความผิดเฉพาะตัว แต่ทำกันเป็นกลุ่ม 10-20 คน บางพื้นที่โดนไปหมด เรื่องเดียวกันทั้งนั้น แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีแค่ข้าราชการอย่างเดียว แต่ยังมีทหารและตำรวจด้วย นายวิษณุ กล่าว | วิษณุ ระบุ ประชุมร่วม ครม.-คสช.19 พ.ค. เคาะแก้ รธน.ชั่วคราว เปิดประตูรองรับ ถ้าทำประชามติ เผย ครม.จ้องหั่น ร่าง รธน.เพียบ รวมถึง ม.181-182 ส่วนนายกฯ คนนอกต้องเขียนข้อยกเว้นให้ชัด เล็ง สร้างอำนาจให้รบ.ใหม่จัดการขรก.เอี่ยวโกง | null | 'อภิปรายร่าง รธน.',ร่าง รธน.,ร่างรัฐธรรมนูญ,สภาปฏิรูปแห่งชาติ,สปช.,กมธ.ยกร่าง,รัฐธรรมนูญ,อภิปราย,สาระสำคัญ,วิษณุ,ถกร่วม,คสช.,ครม.,เคาะ,เปิดประตู,รองรับ,ประชามติ,หั่นร่างรธน.,ม.181-182,นายกฯคนนอก,วิษณุ เครืองาม,รองนายกรัฐมนตรี,รัฐธรรมนูญชั่วคราว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/499578 |
ทนายดังพัทลุง อ้าง แย่งปืน กระสุนลั่นเจาะหัวแฟนสาวดับ | ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ชุติมณฑน์ สิงหะพล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.1 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ถูกกระสุนปริศนาเข้าที่บริเวณกกหูขวา กระสุนทะลุบนศีรษะจนเสียชีวิต ขณะ นายวีรชาต นุ้ยขาว อายุ 38 ปี ทนายความชื่อดังคนหนึ่งของ จ.พัทลุง อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 3 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง แฟนหนุ่มได้นำส่ง รพ.พัทลุง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ,โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เขม่าดินปืนทั้งผู้ตาย และทนายหนุ่ม เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น,ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ต.อ.ภวัต ประชาญสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง เผยว่า นายวีรชาต พร้อมเพื่อนทนาย ได้เดินทางมาให้ปากคำต่อ พ.ต.อ.เพ็ญศักดิ์ แก้วพา พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง และ พ.ต.ต.วิจิตร เกื้อรุ่ง พงส.สภ.เมืองพัทลุง โดยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับแฟนสาวในรถเก๋งคันดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ต่อมาผู้ตายได้หยิบปืนของตนที่เก็บไว้ในช่องเก็บของระหว่างเบาะนั่ง พร้อมจ่อขมับตนเองเพื่อฆ่าตัวตาย จึงเข้าแย่งปืน จนปืนลั่นขึ้น จากนั้นจึงได้พาแฟนสาวส่ง รพ.พัทลุง และเดินทางเข้าพบตำรวจในคืนเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายวีรชาต ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุผลอันควร ซึ่งทางด้าน นายวีรชาต ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา,พ.ต.อ.ภวัต กล่าวอีกว่า ตอนสายวันเดียวกัน ทางตำรวจก็ได้นำศพของ น.ส.ชุติมณฑน์ ไปผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (รพ.มอ.หาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามความประสงค์ของมารดาผู้ตายและคณะญาติๆ แล้ว ทั้งนี้ เพื่อตรวจพิสูจน์หาร่องรอยวิถีกระสุนในศพผู้ตาย ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกันนั้นก็ได้รายงานให้ พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จว.พัทลุง และ พ.ต.อ.สมเกียรติ ฤทธิ์เลื่อน รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าวได้รับทราบแล้ว. | ตร.พัทลุง ส่งศพสาว แฟนทนายหนุ่ม ถูกยิงที่ศีรษะ ไปผ่าพิสูจน์ ที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ ตามความประสงค์ของญาติ ด้านทนายหนุ่มรับ มีปากเสียงกันในรถ ก่อนแฟนสาวจะหยิบปืนของตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตาย จึงได้เข้าแย่ง จนปืนลั่น | ข่าว,ทั่วไทย | วีรชาต นุ้ยขาว,ชุติมณฑน์ สิงหะพล,ยิงแฟนสาว,ภวัต ประชาญสิทธิ์,ผกก.สภ.เมืองพัทลุง,รับมีปากเสียง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ทนายความ,พัทลุง,แย่งปืน,ปืนลั่น,กระสุนเจาะหัว,ข่าวภูมิภาค,ผ่าพิสูจน์,แฟนสาวปืนจ่อขมับ | https://www.thairath.co.th/news/local/522059 |
ไฟไหม้โรงงานปั่นฝ้ายย่านพระสมุทรเจดีย์ กลางดึก วอดเสียหายทั้งหมด (คลิป) | เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 60 ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง รอง สว.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตฝ้าย บริษัท อู่ทรัพย์ คอตตอล จำกัด เลขที่ 419 ม.6 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู รถดับเพลิง เทศบาลแหลมฟ้าผ่า และ อบต.ในคลองบางปลากด จำนวน 4-5 คัน รุดดับเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียวบนเนื้อที่กว่า 300 ตร.ว. พบเพลิงกำลังลุกไหมใยฝ้ายจำนวนมากที่เป็นวัตถุดิบ ต้นเพลิงเกิดจากด้านหน้าโรงงานที่เป็นทางเข้าของกระแสไฟฟ้าจากภายนอก เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนติดเครื่องปั่นฝ้ายเพลิงและลามไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 1 ชม. เพลิงจึงสงบ แต่ยังมีการคุขึ้นมาเป็นช่วงๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องเฝ้าดับจนกว่าเพลิงจะดับสนิท จากการตรวจสอบพบว่าฝ้ายที่เป็นวัตถุดิบและที่ผลิตออกมาเป็นเส้นด้ายและเครื่องจักรประมาณ 6 เครื่อง เสียหายทั้งหมด ส่วนตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหาย,จากการสอบถาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ในคลองบางปลากด ซึ่งมีบ้านปลูกติดกับโรงงาน เล่าว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ผ่านมา ยังมีคนงานทำงานอยู่ประมาณ 20 คน จากนั้นไม่นานก็เลิกงานกลับบ้านไปทั้งหมดโดยปิดประตูโรงงานล็อกไว้ กระทั่ง 01.30 น. ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง และไฟฟ้าดับ เมื่อออกมามองไปทางโรงงานเห็นมีไฟลุกไหม้สายไฟฟ้าที่เดินเข้าไปภายในโรงงานและลุกลามเข้าไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง,ร.ต.อ.อิสระ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ และจะได้ติดตามหาเจ้าของโรงงานมาสอบสวนเนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในโรงงาน ส่วนค่าเสียหายต้องรอเจ้าของโรงงานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง. | โรงงานปั่นฝ้ายย่านพระสมุทรเจดีย์ ไฟไหม้ช่วงกลางดึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเผย ได้ยินเสียงระเบิดก่อนเห็นเปลวเพลิง รีบแจ้ง จนท.ดับเพลิง ระดมฉีดน้ำกว่า 1 ชั่วโมง | ข่าว,อาชญากรรม | ไฟไหม้,ไฟไหม้โรงงาน,โรงงานปั่นฝ้าย,ไฟไหม้โรงงานฝ้าย,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/982323 |
แอตแลนตา แรงเกินต้าน เปิดบ้านเฉือน ฟิลาเดลเฟีย 91-85 | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 1 ก.พ. ว่า การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2014-15 ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) แอตแลนตา ฮอว์กส์ ทีมแกร่งจากสายอีสต์เทิร์น เซาธ์อีสต์ เปิดบ้านที่สนามฟิลิปส์ อารีนา รับการมาเยือนของฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส อันดับ 4 จากสายอีสต์เทิร์น แอนแลนติก ,เริ่มเกมในควอเตอร์แรก เจ้าบ้านที่คุมเกมไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ออกนำไปก่อน 22-10 ส่วนควอเตอร์ที่สองยังคงเป็นแอตแลนตา ที่ยังคงเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องทิ้งห่างเป็น 49-34,จากนั้นในควอเตอร์ที่สาม แบรตต์ บราวน์ โค้ชของทีมเยือนเกมมาดี ทำให้ฟิลาเดลเฟียทำเพิ่ม 32 แต้มไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 71-66 และในควอเตอร์ที่สี่ ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่สุดท้ายเป็นแอตแลนตา ฮอว์กส์ ที่เปิดบ้านเฉือน ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส อย่างสนุก 91-85 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน และเป็นนัดที่ 40 ในฤดูกาลปกติ ขณะที่ทีมเยือน แพ้เป็นนัดที่สามจากสิบนัดหลังสุด จมอยู่ในอันดับรองบ๊วยสายตะวันออก,สำหรับผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของทั้งสองทีม แอตแลนตา ฮอว์กส์ ได้แก่ อัล ฮอร์ฟอร์ด ทำไป 23 คะแนน 11 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ ส่วนฟิลาเดลเฟีย ตกเป็นของ ไมเคิล คาร์เตอร์-วิลเลียมส์ ทำไป 13 คะแนน 6 รีบาวด์ กับอีก 8 แอสซิสต์,ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ชนะ ออร์แลนโด เมจิก 108-93,โตรอนโต แร็ปเตอร์ส ชนะ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ 120-116,ซาคราเมนโต คิงส์ ชนะ อินเดียนา เพเซอร์ส 99-94,ฮุสตัน ร็อกเกตส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ 101-114,คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ชนะ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 106-90,โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ แพ้ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ 74-85,ปอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส แพ้ มิลวอกี บักส์ 88-95,ชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ ชนะ เดนเวอร์ นักเกตส์ 104-86,แอลเอ คลิปเปอร์ส ชนะ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 105-85,โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส ชนะ ฟีนิกส์ ซันส์ 106-87,(ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน) | แอตเเลนตา ฮอว์กส์ ทีมจ่าฝูงสายตะวันออก ทำสถิติสุดสวยหรูด้วยการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมท้ายตารางอย่างฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส ไปอย่างสนุก 91-58 เก็บชัยเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ | null | แอตเเลนตา ฮอว์กส์,เซเวนตี้ซิกเซอร์ส,บาสเกตบอล,บาสเกตบอลเอ็นบีเอ,เอ็นบีเอ,อัล ฮอร์ฟอร์ด,ไมเคิล คาร์เตอร์-วิลเลียมส์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/478418 |
รอง ผบช.น. พอใจโครงการบ้านสีขาว สน.หัวหมาก ชาวบ้านร่วมมือแจ้งอาชญากรรม | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.สุทัศน์ ชัยมงคล รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก นายพรศักดิ์ พิทักษ์พูลสิน ประธาน กต.ตร.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ทหาร ร.12 พัน.2 รอ. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกะปิ และฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามความคืบหน้าโครงการ บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด ของ สน.หัวหมาก บริเวณชุมชนริมคลองหัวหมากน้อย ซอยรามคำแหง 60 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ อีกทั้ง มีการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้พักอาศัยในชุมชน ,พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ทหาร และผู้นำชุมชนได้ร่วมมือกันป้องกันยาเสพติดในชุมชนภายในโครงการ บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนการเอกซเรย์ชุมชนในพื้นที่ สน.หัวหมาก เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ผลการดำเนินการสำรวจในเดือนมีนาคม อยู่ในขั้นที่น่าพอใจ โดยมีผลสำเร็จประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ และโครงการดังกล่าวจะมีไปจนถึงเดือนกันยายน,อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานงานกันมาตลอดระยะเวลาโครงการ โดยให้ชาวบ้านช่วยกันสอดส่องดูแลในเรื่องของการก่ออาชญากรรมและยาเสพติด,ด้านนายพรศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคประชาชน ในการร่วมมือกันปราบปรามการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ และทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้พักอาศัยในชุมชนจำนวน 24 คน เป็นชาย 15 คน เป็นหญิง 9 คน ผลการตรวจเบื้องต้น พบสารเสพติดในร่างกายเป็นชาย 1 คน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องนำตัวไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งตัวเข้ารับการบำบัดยาเสพติดต่อไป. | รอง ผบช.น. ตรวจโครงการบ้านสีขาว สน.หัวหมาก พบสารเสพติดในร่างกายเป็นชาย 1 คน นำตัวสอบละเอียดก่อนส่งบำบัด ชี้ ผลงานโดยรวมน่าพอใจ ชาวบ้านช่วยสอดส่อง แจ้งเหตุอาชญากรรม-ยาเสพติด | null | โครงการบ้านสีขาว,สน.หัวหมาก,สารเสพติด,บำบัด,นครบาล,พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์,บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด,อาชญากรรม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/589500 |
วิบูลย์ เข็มเฉลิม-ผู้บุกเบิกวนเกษตรแห่งฉะเชิงเทราเสียชีวิต | มาปลูกพืชผลและไม้ยืนต้นสารพัดในที่ดิน 10 ไร่ ที่เหลืออยู่เรียกว่า วนเกษตรเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเสียชีวิตของ ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม ผู้บุกเบิกแนวคิดทำสวนแบบวนเกษตร แห่งบ้านหัวหิน ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา รวมอายุ 80 ปีในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์เครือข่ายอโศก ผู้ใหญ่วิบูลย์เกิดที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี 2479 ในครอบครัวชาวนา ภรรยาชื่อสมบูรณ์ มีบุตร 3 คนผู้ใหญ่วิบูลย์เข้ามาเป็นแรงงานเด็กในเมือง และเรียนหนังสือตามมีตามเกิด และเรียนจบชั้น ม.6 ในปี พ.ศ. 2504 - 2524 พยายามทำนาเพื่อการพาณิชย์จนหนี้สินล้นพ้นตัว จากที่ดินที่สะสมมา 200-300 ไร่ ต้องนำไปขายใช้หนี้ จนเหลือที่ดิน 10 ไร่หลังจากนั้นผู้ใหญ่วิบูลย์เริ่มต้นชีวิตใหม่จากที่ดินที่เหลืออยู่ 10 ไร่ โดยเปลี่ยนมาทำเกษตรแบบพึ่งตนเองบนที่ดินที่เหลืออยู่ และไม่สร้างภาระให้กลายเป็นหนี้สินขึ้นมาอีก โดยปลูกไม้สารพัดในที่ดิน 10 ไร่ จนกลายเป็นป่าย่อมๆ ซึ่งสามารถให้ผลผลิตหลากหลายชนิด โดยผู้ใหญ่วิบูลย์เรียกลักษณะการใช้ที่ดินนี้ว่า วนเกษตร โดยในสวนของผู้ใหญ่วิบูลย์มีทั้งป่า ไม้ยืนต้น ไม้ผล แปลงผักรวมอยู่ในบริเวณบ้าน หรือจะเป็นไม้ยืนต้นปลูกรอบคันนา หรือจะกันพื้นที่พืชไร่ส่วนหนึ่งเป็นป่าเพื่อเริ่มลองวนเกษตร ซึ่งวนเกษตรสามารถยืนหยุ่นได้ไม่มีลักษณะตายตัว แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ผลขนาดกลาง พืชผักสมุนไพร ที่หลากหลายชนิด และสามารถตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้ โดยปลูกคละเติบโตอยู่รวมกันในพื้นที่เผื่อวันหน้า เมื่อเราทำอะไรได้น้อยลง วันที่เราแก่ ทำงานไม่ไหว เราจะอยู่ได้ พอคิดอย่างนี้ มันก็ไปคิด เกี่ยวโยง กับต้นไม้ทั้งหมด ตั้งแต่ไม้ผล ไม้พืชชั้นล่าง ที่มีใบมีดอกกิน ไม้ต้นโต ที่มันโตขึ้น ระยะหนึ่ง ก็จะกลายเป็น ไม้ขนาดใหญ่ ที่เรียกไม้ซุง ซึ่งเรารู้ว่าอีก 20 ปี จะโตแค่ไหน เมื่อถึงเวลานั้น เราจะขายได้ สักกี่บาท เราคิดจากสิ่งที่ควรเป็น ถ้าตอนนั้น เรามีอายุ 70 ปี และทำไม่ไหว เราควรมีสักกี่ต้น ชีวิตจึงจะ ไม่เดือดร้อน ถ้าเราปลูกต้นไม้ไว้ในครอบครองสัก 300 ต้น โดยประเมิน จากต้นละ หมื่นบาท เราก็มีเงินถึง 3 ล้านบาท วันนั้นถ้าเราเกิดความจำเป็น เงินจำนวนนี้เป็นหลักประกันได้แน่ ถ้าลูก ไม่เลี้ยง เราก็เลี้ยง ตัวเอง จะจ้างใครมาป้อนข้าวป้อนน้ำก็ไม่ลำบากเกินไป จ้างผู้จัดการสักคนก็พอได้อยู่ หรือไม่ก็นำเงิน ฝากธนาคาร กินดอกเบี้ยแต่ละเดือน ก็ยังไม่เดือดร้อน จึงคิดว่า เราไม่ต้องไปกังวล กับบั้นปลายชีวิต ถ้ามีการสะสม ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งก็เห็นว่ามันจริง ทำไประยะหนึ่ง เริ่มเห็นสภาพป่ารกขึ้น มีต้นไม้ หนาตาขึ้น มีความหลากหลายของพืชพันธุ์มากขึ้น เรารู้ประโยชน์ของมันเกือบทุกอย่าง ถ้าป่าไม่เป็นธรรมชาติ อย่างที่เรา เข้าใจ แต่เป็นป่าเกษตร มันก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ผมจึงเรียกว่าวนเกษตร และนี่คือ ที่มาของชื่อ วนเกษตร จากปี 2526 เป็นต้นมา ผู้ใหญ่วิบูลย์ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งในนอกจากนี้ผู้ใหญ่วิบูลย์ยังเป็นนักสะสมพันธุ์กล้าไม้ป่าเพื่อแจกจ่ายให้ผู้คนที่เริ่มสนใจวนเกษตรได้ไปปลูก รวมทั้งเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องวนเกษตรด้วย โดยสวนวนเกษตรของผู้ใหญ่วิบูลย์ เป็นสถานที่สำหรับฝึกอบรม มีชาวบ้านและเครือข่ายในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดรอบๆ บ้านของเขามาฝึกอบรม โดยผู้ใหญ่วิบูลย์เรียกว่า เวทีเครือข่ายรอบป่าตะวันออก โดยทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ผู้ใหญ่วิบูลย์ เคยผลักดันเรื่องวนเกษตรในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และในรัฐสภา ในการกำหนดกรอบนโยบายหลักของประเทศในปี 2549 สามารถผลักดันเข้าสู่นโยบายของรัฐบาลได้คือนโยบายปลูกต้นไม้ใช้หนี้ นอกจากนี้เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้รับรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงปี 2552 รายงานกำหนดการบำเพ็ญการกุศลว่า ในวันที่ 14 มิ.ย. 2559 เวลา 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพผู้ใหญ่วิบูลย์ ณ ศูนย์มูลนิธิวนเกษตรเพื่อสังคม ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีกำหนดการบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมศพรวมทั้งหมด 9 วัน โดยเจ้าภาพขอเชิญญาติมิตรและผู้ที่คิดถึงกันร่วมบำเพ็ญกุศล สอบถามเส้นทางได้จากคุณครรชิต เข็มเฉลิม โทรศัพท์ ศูนย์แปดเก้า-เก้าสามหก-ห้าศูนย์สองศูนย์ | ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม เสียชีวิตแล้วในวัย 80 ปี โดยเขาผู้บุกเบิกวนเกษตรที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เปลี่ยนวิธีทำกินจากเกษตรเชิงพาณิชย์ที่ทำให้เกิดวงจรหนี้สิน-ที่ดินหลุดมือ | สิ่งแวดล้อม,สังคม | obituary,ฉะเชิงเทรา,ชาวนา,ทรัพยากรธรรมชาติ,ที่ดิน,วนเกษตร,วิบูลย์ เข็มเฉลิม,เกษตร,เกษตรพึ่งตนเอง | https://prachatai.com/journal/2016/06/66320 |
แอรินยินดีนาฑี มีรักใหม่ ยันจบกันด้วยดี ปัดถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ประชดรัก อ้างถูกใจคอนเซปต์ (คลิป) | แอริน ยุกตะทัต, หลังเลิกรากับแฟนหนุ่ม, นาฑี โอสถานุเคราะห์, มาพักใหญ่ ล่าสุดเจอ ,แอริน, มาร่วมงาน, WILD NIGHT PRESENTS AUSTRALIAS THUNDERS FROM DOWN UNDER LIVE IN BANGKOK 2017, ที่สตูดิโอมูนสตาร์ 8 ถ.เหม่งจ๋าย,เลยคว้าตัวมาถาม เรื่องหัวใจว่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?, ตอนนี้ก็โสดค่ะ มันเป็นความตกลงระหว่างเราทั้งสองคนมาสักพักนึงแล้ว ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน,ก่อนหน้านี้เราไม่ให้สัมภาษณ์คนก็เลยเข้าใจว่าต้องการหนีสื่อ?, ไม่ได้หนี ไม่ได้เจอสื่อ ไม่ได้ออกไป ไหนเลย ถ่ายละครทุกวันเลย อย่างที่บอก ว่าเราจบกันด้วยดี,เฮิร์ตขนาดไหน?, ก็เฮิร์ตอยู่แล้ว เพราะเราก็รักกันทั้งสองฝ่าย,เหมือนเป็นปัญหาที่สะสมมานาน?, เอาเป็นว่าด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน รู้สึกว่าคบกันเป็นเพื่อนแล้วคบได้นานกว่า เป็นแฟนกันถ้าไม่เวิร์กเดี๋ยวจะแตกหักกันไปเปล่าๆ สู้เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า,แต่ละฝ่ายไม่พยายามปรับตัวเข้าหากันรึเปล่า?, ทุกคนก็ต้องปรับ อย่างที่บอกเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน พอเลิกกันแล้วก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังคุยกันอยู่เรื่อยๆ,เหมือนเราก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้เยอะเหมือนกัน?, ทุกๆความสัมพันธ์แอก็คาดหวังหมดค่ะ,มีเรื่องรักสามเส้าเข้ามาเกี่ยวข้องมั้ย?, ไม่มีค่ะ เป็นเรื่องของเราสองคน,พร้อมจะมีรักครั้งใหม่รึยัง?, อีกนานค่ะ ตอนนี้ขอโสดแบบสวยๆไปก่อน ความจริงก็มีคนเข้ามาคุยเหมือนกัน คือเราก็ไม่ได้ปิด ถ้าเจอใคร ตอนนี้ก็ต้องดูดีๆ เพราะเริ่มมีอายุมากขึ้นแล้ว เราก็ไม่อยากเสียใจแล้ว เอาเป็นว่าไม่ใช่ช่วงนี้แล้วกันค่ะ ขอดูนานๆให้ชัวร์ก่อน,นาฑีก็มีข่าวกับไฮโซสาวคนใหม่แล้ว?, อันนี้ให้ฝ่ายเค้าเป็นคนพูดดีกว่า,ทำตัวลำบากมั้ยเวลาไปเจอเค้า?, ไม่ค่ะ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย, ,รู้สึกว่าเค้าเปิดตัวคบคนใหม่เร็วไปมั้ย?, เป็นสิทธิ์ของเค้าค่ะ เราก็อยากให้ทุกคนแฮปปี้ แอก็ยังมีความรักให้เค้าตลอด ถ้าเค้ามีความสุขกับใคร แอก็ยังเป็นเพื่อนเค้า และอยากเห็นเค้ามีความสุขเสมอ,ช่วงที่โสดก็ถ่ายเซ็กซี่ประชดรักรึเปล่า?, ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้ประชดใคร รู้สึกว่านานๆทีจะได้ถ่าย เราก็ไม่ได้เด็กแล้ว อยากจะถ่ายเก็บไว้ เป็นคอนเซปต์ที่เราอยากถ่าย พอตกลงกันเรียบร้อยก็ถ่ายเลย ถามว่าจะมีอีกมั้ย ก็คงนานๆทีดีกว่า เดี๋ยวถ่ายบ่อยคนด่า (ยิ้ม). | ยิ่งโสดยิ่งสวยเซ็กซี่สุดๆ สำหรับนางร้ายสาวสุดแซ่บ แอริน ยุกตะทัต หลังเลิกรากับแฟนหนุ่ม นาฑี โอสถานุเคราะห์ มาพักใหญ่ คว้าตัวมาถาม เรื่องหัวใจว่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แอริน ยุกตะทัต,นาฑี โอสถานุเคราะห์,ถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่,ถ่ายแบบเซ็กซี่,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1058924 |
ครอบครัวชิดชอบอาลัย ปู่ชัย นายกฯ เตรียมเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ | วันที่ 1 ก.พ. 2563 ที่บ้านชิดชอบ เลขที่ 30/1 หมู่ 15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายชัย ชิดชอบ หรือ ปู่ชัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ บิดาของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมลงอย่างสงบด้วยวัย 91 ปี 9 เดือน ที่บ้านพักภายในบริเวณโรงโม่หินศิลาชัย เมื่อเวลา 08.01 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการสวดพระอภิธรรมในเวลา 19.00 น. ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 2563 มีนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปร่วมเคารพศพเป็นจำนวนมากขณะที่กำหนดการวันนี้ จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายชัย ชิดชอบ ในเวลา 16.00 น. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานทอดผ้าไตรพระราชทาน ส่วนพิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยพระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค 11 พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล เวลา 11.00 น. พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล จากนั้นเคลื่อนร่าง นายชัย ชิดชอบ จากศาลาพิธีธรรม สู่บริเวณเมรุชั่วคราว ตั้งริ้วขบวนแห่เวียนเมรุ 3 รอบ ในเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ทำพิธีเชิญโกศลองใน ตั้งบนจิตกาธาน อัญเชิญกล่องเพลิง จากบ้านชิดชอบ สู่บริเวณเมรุชั่วคราวเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี จะเดินทางถึงบริเวณสถานที่จัดงาน เวลา 15.30 น. อ่านหมายรับสั่ง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อาลัยพ่อ จากนั้นเวลา 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ ประธานในพิธีทอดผ้าไตรบังสุกุลพระราชทาน 5 ไตร พระสงฆ์ 5 รูป พิจารณาผ้าบังสุกุล ประธานวางดอกไม้จันทน์บนจิตกาธาน ปี่ไฉน กลองชนะ ประโคม ประธานลงจากเมรุ พระสงฆ์ ประชาชนทั่วไปวางดอกไม้จันทน์ เจ้าหน้าที่ถอนโกศลองในกลับ เป็นอันเสร็จพิธีหลวง และจะมีการประชุมเพลิงในเวลา 18.00 น.อย่างไรก็ตาม ครอบครัวชิดชอบ ได้จัดทำหนังสือที่ระลึกพิธีพระราชทานเพลิงศพปู่ชัย ภายในประกอบด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประวัติของ นายชัย ชิดชอบ และสถานที่สำคัญของ จ.บุรีรัมย์ แจกให้กับผู้เข้าร่วมงานเพื่อเป็นที่ระลึก มีนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปร่วมเคารพศพ เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีการจัดตั้งเต็นท์ร่วมทำบุญสามารถบริจาคให้แก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น หรือสามารถบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ เลขที่บัญชี 308-0-70047-3 ชื่อบัญชี เงินบริจาคของโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ล่าสุดยอดบริจาคทะลุกว่า 20 ล้านบาท. | นายกรัฐมนตรี นำ ครม. ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ชัย ชิดชอบ พบนักการเมือง ข้าราชการ ประชาชนร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ขณะยอดเงินบริจาคร่วมทำบุญให้ รพ.บุรีรัมย์ ทะลุ 20 ล้าน | ข่าว,การเมือง | ชัย ชิดชอบ,ปู่ชัย,พระราชทานเพลิงศพ ชัย ชิดชอบ,พระราชทานเพลิงศพ ปู่ชัย,เนวิน ชิดชอบ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บุรีรัมย์ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1761653 |
ซ้อนแผนจับ ส.ต.ท. ร่วมพวกควงM16 บุกอุ้มหนุ่มจากบ้าน พาขังทวงหนี้8หมื่น | วานนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราข เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 14 ส.ค. ตนได้รับแจ้งจาก นางสาวกาญจนา ฐานะกาญจน์ อายุ 25 ปี ว่า เมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่ตัวเอง และนายณรงค์ชัย หรือ เด่น หนูเพชร 28 ปี และลูกชายกำลังนอนหลับในบ้านพักเลขที่ 117 หมู่ 12 ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน มีอาวุธปืนครบมือ ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาเคาะประตูเรียกให้เปิดประตู พร้อมขู่ว่า หากไม่เปิดจะยิงถล่มให้ตายทั้งหมด,ด้วยความกลัว นางสาวกาญจนา จึงเปิดประตู ก่อนชายฉกรรจ์ 3 คน ถืออาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. และอาวุธปืนเอ็ม 16 เดินตรงเข้ามาในบ้าน โดย 1 ใน 3 จำได้ว่าคือ ส.ต.ท.จุติพงษ์ หรือ ตั๊บ ยับ เป็นตำรวจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ได้เข้ามาทวงเงิน ที่นายณรงค์ชัย สามี ค้างอยู่ แต่ไม่ทราบจำนวน เมื่อนายณรงค์ชัย สามีตนตอบว่าไม่มี ส.ต.ท.จุติพงษ์ และพวก จึงใช้อาวุธปืนบังคับพา นายณรงค์ชัย ออกจากบ้าน ขึ้นรถกระบะเพื่อไปเอาเงินที่พ่อแม่นายณรงค์ชัย ที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แล้วหายตัวไป,นางสาวกาญจนา จึงเข้าแจ้ง พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช วางแผนช่วยเหลือ นายณรงค์ชัย อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์ของ นายณรงค์ชัย โทรศัพท์กลับมาหา น.ส.กาญจนา บอกว่า ให้เตรียมเงิน 8 หมื่นบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวด้วย,จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนให้ นส.กาญจนา ต่อรองเหลือ 2 หมื่นบาท และให้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของธนาคาร ธกส.ชื่อบัญชี น.ส.วรญา พันธ์จันทร์
,ต่อมาเวลา 18.00 น. วันที่ 14 ส.ค. ขณะที่ตำรวจนครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมพร ภูมิภัทร และพ.ต.ต.สวัสดิ์ นิยมเดชา สว.กก.สส.ฯ สืบทราบว่า ส.ต.ท.จุติพงษ์ และพวก ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว ไปหลบซ่อนตัวที่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 4 ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังตำรวจ นปพ.นครศรีธรรมราช เดินทางไปตรวจค้น,พบ ส.ต.ท.จุติพงษ์ พร้อมรถยนต์กระบะของกลาง, อาวุธปืนเอ็ม 16, กระสุนเอ็ม 16 จำนวน 76 นัด, อาวุธปืน 9 มม. พร้อมกระสุน 9 มม. จำนวน 10 นัด, ซองบรรจุกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 ซอง, เสื้อเกราะ 1 ตัว
จึงคุมตัว ส.ต.ท.จุติพงษ์ มาสอบสวน,เบื้องต้น ส.ต.ท.จุติพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือนายชาคริต หรือบ่าว แซ่ดาน และนายสิทธิชัย หรือกั๊ก บุญอมร บุกเข้าอุ้มตัวนายณรงค์ชัย จากบ้านพัก อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช จริง โดยนายชาคริตและบ่าว นำตัวนายณรงค์ชัย ไปกักขังที่ บ้านเลขที่ 57/2 หมู่ 1 ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ทางตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปช่วยเหลือ นายณรงค์ชัยที่บ้านดังกล่าวมาได้อย่างปลอดภัย,ส่วนนายชาคริตและนายสิทธิชัย ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปได้เสียก่อน
ทางตำรวจจึงคุมตัว ส.ต.ท.จุติพงษ์ หรือตั๊บ ยับ พร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,โดย ส.ต.ท.จุติพงษ์ รับสารภาพว่า ต้องการทวงหนี้เท่านั้น เมื่อทวงหนี้ไม่ได้จึงวางแผนอุ้มนายณรงค์ชัย เพื่อทวงหนี้จากญาติ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ที่ยังหลบหนี ทางตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยล่าสุดทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับทั้ง 2 คน ต่อไป. | ตำรวจ กก.สส.เมืองคอน วางแผนจับ ส.ต.ท. ร่วมกับพวกอีก 2 คน ใช้ปืนเอ็ม 16 และ 9 มม. บุกอุ้มหนุ่มวัย 28 จากบ้านพักที่เมืองคอนกลางดึก พาขัง ทวงหนี้ 8 หมื่นบาท | ข่าว,อาชญากรรม | จับตำรวจ,อุ้มเหยื่อ,ทวงหนี้,ส.ต.ท.,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1355577 |
ศูนย์ทนายสิทธิ เปิดรายงาน กตัญญูคลับเมื่อกองทัพรุกคืบสู่พื้นที่ชมรมนักศึกษาในมหาลัย | พร้อมคำถามสำคัญการสร้างมวลชน-นำอุดมการณ์แบบของกองทัพเข้าไปในพื้นที่มหาวิทยาลัย สมควรในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดรายงาน โครงการ กตัญญูคลับ ในฐานะการจัดตั้งมวลชนที่เน้นไปที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาโดยตรง ผ่านเจ้าหน้าที่ทหารในแต่ละพื้นที่กำลังดำเนินการในการจัดตั้งกลุ่มชมรมในมหาวิทยาลัยขึ้น ภายใต้งบประมาณของงานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพบก ซึ่งรายงานของศูนย์ทนายฯ เป็นการประมวลจากรายงานข่าวที่ปรากฏออกมา เพื่อชี้ให้เห็นปฏิบัติการรุกคืบของกองทัพที่กำลังดำเนินอยู่ในพื้นที่ของสถาบันอุดมศึกษาศูนย์ทนายฯ ชี้ให้เห็นว่า โครงการกตัญญูคลับ นี้ เริ่มปรากฏเป็นข่าวตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา และมีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการป้องกันการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้กรมกิจการพลเรือนทหารบก งบประมาณการดำเนินโครงการจึงมาจากกองทัพบกเป็นหลัก ให้มีการจัดตั้ง ชมรมกตัญญูคลับ ขึ้นในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในพื้นที่ของมณฑลทหารบกนั้นๆ และยังสร้างให้เกิด เครือข่ายกตัญญูคลับ ที่เชื่อมโยงนักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าด้วยกัน มีเป้าหมายจำนวน 35 สถานศึกษาอุดมศึกษาทั่วประเทศ และบางมหาวิทยาลัยมีการรายงานถึงการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่เป็นทางการระหว่างมณฑลทหารบกกับมหาวิทยาลัยด้วยการเปิดตัวชมรมในแต่ละมหาวิทยาลัย ทางเจ้าหน้าที่ทหาร นำโดยผู้บัญชาการหรือรองผู้บัญชาการของมณฑลทหารบกในพื้นที่ จะเป็นผู้เดินทางมาเป็นประธาน พร้อมกับผู้บริหารของสถาบันการศึกษานั้นๆ ถึงในมหาวิทยาลัย และมีการจัดการอบรมเรื่องความกตัญญูต่อสถาบันทั้งสี่ดังกล่าว รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ด้านจิตอาสา 904 วปร. ให้กับกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่เข้าฟัง โดยวิทยากรอาจเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ทหารเอง หรือนักพูด/วิทยากรอบรมในเครือข่ายของกองทัพ จากรายงานข่าวของกิจกรรมในแต่ละมหาวิทยาลัย มีนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมการเปิดตัวดังกล่าวราว 100-200 คน โดยมีการแจกจ่ายเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์ของชมรมนอกจากการจัดเปิดตัวชมรมแล้ว มณฑลทหารบกและชมรมกตัญญูคลับในมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังมีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยชมรมของบางมหาวิทยาลัยระบุว่าจะจัดให้มีกิจกรรมทุกๆ เดือน เดือนละ 1-2 ครั้ง โดยลักษณะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างนิสิตนักศึกษากับเจ้าหน้าที่ทหาร มีการระบุวัตถุประสงค์ของการดำเนินการลักษณะนี้ ว่า นอกจากจะเป็นการปลูกฝังเรื่องของความกตัญญูแล้ว ยังทำให้สมาชิกชมรมมีความสมัครสมานสามัคคี รวมถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทหารกับเยาวชนในส่วนท้ายของรายงาน ศูนย์ทนายฯ ชี้ว่า กระบวนการดังกล่าว เป็นการดำเนินการของกองทัพในการพยายามจัดตั้งกลุ่มนิสิตนักศึกษา รวมทั้งความพยายามปลูกฝังความคิดหรืออุดมการณ์แบบของกองทัพ ต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่อย่างมหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบ ซึ่งการดำเนินการจัดตั้งมวลชนฝ่ายพลเรือนของกองทัพนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นมรดกสำคัญที่ดำเนินต่อเนื่องมาจากการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่ในยุคสงครามเย็น โดยนอกจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่มีบทบาทในการจัดตั้งมวลชนของตนเอง ให้กลายมาเป็นกลไกที่ทำงานให้กับรัฐแล้ว ภายในกองทัพบกเอง งานด้านกิจการพลเรือนก็ค่อยๆ ถูกสถาปนาอย่างเป็นระบบนับแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมาเช่นกันการดำเนินในลักษณะโครงการกตัญญูคลับนี้ได้ชี้ให้เห็นความพยายามจัดตั้งกลุ่มมวลชน ในลักษณะเป็นกลุ่มชมรมภายในมหาวิทยาลัย แต่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานของทหารเอง และมีการผลักดันให้มีการร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ กับทางทหารและเจ้าหน้าที่รัฐคำถามสำคัญคือการดำเนินการในลักษณะการสร้างมวลชนของตนเอง และการนำเอาอุดมการณ์แบบของกองทัพเข้าไปในพื้นที่ที่อย่างมหาวิทยาลัย สมควรเป็นบทบาทของกองทัพในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ และในทางกลับกัน พื้นที่อย่างมหาวิทยาลัย ซึ่งมีคุณค่าสำคัญเรื่องเสรีภาพทางความคิด และความมีอิสระในการเรียนรู้ สมควรให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดำเนินโครงการในลักษณะนี้หรือไม่ ศูนย์ทนายฯ ระบุไว้ท้ายรายงาน | ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดรายงานส่องโครงการ กตัญญูคลับ ชี้ให้เห็นรุกคืบสู่พื้นที่ชมรมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของกองทัพ | การเมือง,การศึกษา,ความมั่นคง | โครงการกตัญญูคลับ,กตัญญูคลับ,ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน,ทหาร,นักศึกษา | https://prachatai.com/journal/2019/10/84906 |
จบสกอร์ไม่คม หมดครึ่งแรก ยูเครน เจ๊า โปแลนด์ 0-0 | วันที่ 21 มิ.ย. การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 กลุ่มซี นัดสุดท้าย ที่สนามสต๊าด เวโลโดรม คู่ระหว่างยูเครน พบ โปแลนด์ ,เปิดฉากครึ่งแรกมา 2 นาที 2 โปแลนด์ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนซัดเน้นๆ แต่ อังเดร ปยาตอฟ นายด่านยูเครน เซฟออกหลังไปได้,ถัดมานาทีเดียว โปแลนด์ ได้ลุ้นอีกครั้ง อาร์คาอิอุสซ์ มิลิค เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยิงจ่อๆข้ามคานเฉยเลย,จากนั้น นาทีที่ 9 เป็นโอกาสของยูเครน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษ โรมัน โซซูเลีย ยิงติดเซฟ ฟาเบียนสกี บอลมาเข้าทาง อังเดร ยาร์โมเลนโก ยิงซ้ำอีกที คราวนี้ ฟาเบียนสกี รับกระฉอกแต่ก็ตามคว้าไว้ได้,นาทีที่ 17 ยูเครน ได้ลุ้นอีกครั้ง รุสลัน โซตัน จ่ายบอลขึ้นมาทางขวาให้ อังเดร ยาโมเลนโก พาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนปั่นด้วยซ้าย บอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย,และในนาทีที่ 21 โปแลนด์ ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลหลุดเสาซ้ายมือออกไปหวุดหวิด,จากนั้น นาทีที่ 29 ยูเครน เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ เยฟเฮน โคน็อปปลียันกา ลากบอลตัดจากด้านวซ้ายมาหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวา บอลพุ่งหลุดเสาแรกออกไป,ช่วงที่เหลือของครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ยังจบสกอร์กันไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรก ยูเครน ยังเสมอ โปแลนด์ 0-0,รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม,ยูเครน:อังเดร ปยาตอฟ, เยฟเกน คาเชริดี,อเล็กซานเดอร์ คูเชอร์, สเตปาเนนโก, บุตโค, รุสลัน โรตัน,เฟเดตสกี, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก,อังเดร ยาร์โมเลนโก,เยฟเฮน โคน็อปลีอันกา,โรมัน โซซูเลีย,รายชื่อ 11 ตัวจริง โปแลนด์:ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี,อาเทอร์ เยเดอร์เซจ์ซิค,มิชาล พาซดัน,เตียโก ซิโอเนค,คามิล กลิค,ย็อดโลเวียซ,เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค,ปีเตอร์ ซีลินสกี,บาร์ตอสซ์ คาปุสท์กา,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี,อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค | จบครึ่งแรก ยูเครน กับ โปแลนด์ เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่จบสกอร์กันไม่คม ทำให้ยังไม่มีประตูเกิด ยังเสมอกันอยู่ 0-0 ในศึกยูโร 2016 นัดสุดท้าย กลุ่มซี | null | ยูโร 2016,ยูเครน,โปแลนด์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/643849 |
โจ๋ซิ่งนรกเหยียบแข่งกับกระบะ หลุดโค้งชนเสาไฟกระเด็นตายคาที่ | เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 9 มี.ค.62 ร.ต.อ.นาวิน บุญคุ้มครอง รอง สว.สอบสวน สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ม.8 ต.แพรกศรีราชา ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี กม. 144 - 145 ขาขึ้น รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญจังหวัดชัยนาท และประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสรรคบุรีชัณสูตรพลิกศพ,ที่เกิดเหตุพบศพนายวศุตม์พงค์ วงศธนัทฉัตร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.11 ต.วังตะเคียน อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท สักเต็มแขนซ้าย สวมเสื้อยืดคอกลมสีม่วง ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน นอนอยู่ริมถนน สภาพศพกระดูกแหกทั้งร่างเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ห่างกัน 15 เมตร พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ซูซูกิ สวิฟ สีขาว ทะเบียน 4กผ3831 กรุงเทพฯ ถูกอัดติดกับเสาไฟฟ้าหลังชนเข้าอย่างแรง สภาพล้อแตก ด้านหน้าพังยับ ด้านขวาที่ชนเสาไฟฟ้าพังไปทับแถบ แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม เจ้าหน้าที่จึงนำศพฝากไว้ที่ รพ.สรรคบุรี เพื่อรอญาติมารับกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป,จากการสอบสวนพบภาพจากกล้องหน้ารถกระบะที่ขับมาในทางเดียวกันก่อนเกิดเหตุ เห็นว่ารถคันเกิดเหตุขับด้วยความเร็ว แข่งไปกับรถกระบะอีก 2 คัน ไล่บี้กันไปมา ผลัดกันแซงขวาทีซ้ายที พอเข้าสู่ทางเข้าโค้งบริเวณหน้าวัดสระไม้แดง เนื่องจากขับรถด้วยความเร็วสูงทำให้รถเสียหลักหมุนตัวแล้วชนเข้ากับเสาไฟฟ้าส่องสว่างอย่างเต็มแรง ส่งผลให้ร่างคนขับรถกระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ จะตรวจสอบกล้องวงจรปิด พื้นที่ดังกล่าว ตามจุดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาร่องรอย ทะเบียนรถที่ขับแข่งกันมา เพื่อสอบปากคำหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | โจ๋ตีนผีซิ่งนรกเหยียบแข่งกับกระบะ ช่วงเข้าโค้งเกิดพลาดเสียหลักรถหมุนแล้วชนเข้ากับเสาไฟฟ้าจนตัวเองกระเด็นออกจากตัวรถตายสยอง บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี | ข่าว,ทั่วไทย | ชนเสาไฟ,โจ๋ซิ่งนรก,หลุดโค้ง,แข่งกับกระบะ,ชัยนาท,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1514806 |
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ยันช่วยครอบครัวเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า รถตกเหวตาย | นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางไปโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ประสบอุบัติเหตุรถตกเหว ระหว่างเดินทางไปช่วยดับไฟในพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ไฟป่าเสียชีวิต 2 นาย และ บาดเจ็บสาหัส 5 นาย โดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ยืนยันจะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มทีด้านชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ในพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ อำเภอขุมยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องพิงไฟคลายความหนาวเย็น หลังต้องอาศัยอยู่ภายในเต้นท์ และ เพิงพัก เนื่องจากบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายรวมกว่า 400 หลังเมื่อสองวันก่อน ทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 2300 คน โดยทั้งหมดยังต้องรับแจกอาหาร และ น้ำดื่มจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบ้าน และทรัพย์สินเสียหายเกือบทั้งหมด | ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติยืนยันช่วยเหลือครอบครัว เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตกเหวระหว่างเดินทางไปช่วยดับไฟ ในพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะที่ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ภายในพื้นที่พักพิงฯ มีความเป็นอยู่ยากลำบาก และ ต้องผจญกับอากาศที่หนาวเย็น | ภูมิภาค | ครอบครัว,จังหวัดแม่ฮ่องสอน,ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ,รถตกเหว,เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า | https://news.thaipbs.or.th/content/156640 |
ไอ้แป๊ก มือปาดคอหนุ่มกู้ภัย อ้างถูกตบหน้าก่อน จึงบันดาลโทสะเชือด | ได้ 8 มิ.ย.นี้ ขณะที่ผู้ต้องหาเปิดปากเหตุลงมือ เพราะถูกตบหน้าก่อน,เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่าปาดคอหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว บริเวณด้านหน้าผับชื่อดังในพื้นที่ตลาดวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ภายหลังตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสามารถ ทะสูงเนิน หรือ แป๊ก อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อบ่ายวานนี้ (6 มิ.ย.) แต่ยังไม่สามารถนำผู้ต้องหามาลงบันทึกจับกุมและแถลงข่าวที่ สภ.วังน้ำเย็น ท้องที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากมีญาติของผู้เสียชีวิตและเพื่อนหน่วยกู้ภัยฯจำนวนมาก มารอดูหน้าผู้ต้องหา เกรงว่าจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น อีกทั้งตำรวจยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาหลักฐานอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ชุดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุด้วย จึงยังไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาที่สถานีตำรวจ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทีมสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ห่างจากท้องที่เกิดเหตุประมาณ 20 กม.เป็นการชั่วคราวก่อน กระทั่งช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ตำรวจได้รับตัวผู้ต้องหาเพื่อลงบันทึกจับกุม ก่อนจะคุมตัวไปตรวจค้นหาหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุเพิ่มเติม โดย พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ เนื่องจากผู้ต้องหาแจ้งความประสงค์ไม่ขอทำแผน จึงจะยังไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจนกว่าจะได้หลักฐานครบถ้วน,ร.ต.อ.ยศ ชาสมบัติ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.วังน้ำเย็น ได้รับลงบันทึกจับกุม นายสามารถ เพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ไม่เกิน 48 ชม. และได้เดินทางลงพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้ต้องหา ที่ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เพื่อสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ก่อนจะนำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี และหลักฐานอื่นๆ ให้ครบถ้วน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถนำผู้ต้องหาส่งศาลฝากขังได้ในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้,ต่อมา เวลา 12.00 น.นางธำรงลักษณ์ คงเสือ อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายบริบูรณ์ ปัทมะชัยวัฒน์ และน้องสาวของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อขอรับเอกสารการตาย และเปิดเผยว่า คนตายเป็นผู้รับเคราะห์แทนเพื่อน ซึ่งมือกลองของร้าน ยอมรับกับตนเองว่า เป็นคนตบหน้าผู้ต้องหาเอง จนเป็นเหตุให้มีการฆ่าปาดคอดังกล่าว เนื่องจากวันที่มีการนำศพคนตายเข้าสู่เมรุเผาศพ น้องซึ่งเป็นนักดนตรีของผับดังกล่าว ได้มาขอขมาและรับสารภาพกับตนว่า เป็นคนลงมือตบหน้าผู้ต้องหาเอง แต่คนตายต้องมารับเคราะห์แทน และอยากให้ไปขอขมาศพแฟนตนซะ จะได้ไม่เข้าใจผิดเป็นเวรเป็นกรรมกันตลอดไป,สอดคล้องกับคำให้การของ ผู้ต้องหา ที่ให้การภายหลังถูกจับกุมว่า มูลเหตุของการฆ่าปาดคอครั้งนี้ เกิดจากบันดาลโทสะ ทะเลาะวิวาทกันซึ่งหน้า หลังถูกกลุ่มคนตายตบหน้า ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ลวนลามผู้หญิงในร้าน ซึ่งเมื่อร้านเลิกทางคนตายพร้อมพวกพยายามที่จะออกมาตามหาคนที่พูดว่า จะเอาปืนไปยิงการ์ดที่ตบหน้า หนุ่มที่ลวนลามสาวในร้านให้ได้ ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง และชายกลุ่มนั้นซึ่งมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์รวมอยู่ด้วย ได้ขับรถกลับบ้านไปแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้ตายซึ่งอ้างว่าเป็นการ์ดของผับ พยายามจะปิดประตูบริเวณที่จอดรถไว้ไม่ให้ใครออกไป เพื่อจะหากลุ่มคนที่พูดว่าจะเอาปืนไปยิงการ์ดให้ได้ กระทั่งมีการโต้เถียงกันและถูกตบหน้า จึงลงมือก่อเหตุฆ่าปาดคอแบบซึ่งหน้าทันที ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่า ถูกคนตายตบหน้าจึงก่อเหตุดังกล่าวก่อนจะหลบหนี,ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจทำ จนถึงให้เขาตายหรอก ก็คือความโมโหของผม ผมก็เมาออกมาด้วย และผมรับไม่ได้ ที่มีความรุนแรงต่อหน้าผม ผมก็เลยทำอย่างนั้นลงไป ก็เสียใจแต่มันกลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็อยากขอโทษทั้งญาติของผู้ที่เสียชีวิต แม้เขาจะไม่อโหสิกรรมให้ผม ก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งผลกรรมที่ผมทำ มันก็มากอยู่แล้ว ผู้ต้องหา กล่าว, จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | คุมตัว ไอ้แป๊ก ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอหนุ่มกู้ภัยฯ ฝากขัง สภ.เขาฉกรรจ์ ก่อนลงบันทึกจับกุม พร้อมคุมตัวชี้จุดทิ้งหลักฐานก่อเหตุ โดยไม่มีการทำแผน หวั่นรุมประชาทัณฑ์ คาดสามารถนำตัวฝากขังต่อศาล | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าหนุ่มกู้ภัย,ปาดคอหนุ่มกู้ภัย,ไอ้แป๊ก,ฆ่ากันตาย,ปาดคอ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1586795 |
สลด สาวใหญ่ดวงกุด ถูกรถตักเศษแก้ว ถอยทับร่างดับคาโรงงาน | เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ 23 พ.ย.61 ร.ต.อ.ชัยมงคล เหมือนสนธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไชโย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตักล้อยางทับคนงานจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณภายในโรงงานทวีทรัพย์ จิวแจ๊ะเฮง จำกัด เลขที่ 86 หมู่ที่ 4 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลไชโย และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัย จ.อ่างทอง,ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานรับซื้อเศษแก้ว เศษเหล็ก และกระดาษ ที่บริเวณกองเศษแก้วพบรถตักล้อยางสีเหลืองขนาดใหญ่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ และที่บริเวณด้านข้างของรถตักด้านซ้าย พบศพผู้เสียชีวิตสวมกางเกงวอร์มสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมสีส้ม และสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสายสก๊อตทับ นอนเสียชีวิตคาที่ สภาพศพมีบาดแผลที่บริเวณหน้าผากเป็นรอยยาว และช่วงขาถูกล้อยางทับเห็นเป็นบาดแผลยุบชัดเจน ทราบชื่อต่อมาคือนางวิไลลักษณ์ ดวงแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/3 หมู่ที่ 6 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง,จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมพร เหมือนเพชร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 หมู่ที่ 2 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถตักล้อยาง ให้การว่า ขณะที่ตนขับรถตักล้อยางดันเศษแก้วที่แตก เข้าไปรวมกันภายในกองใหญ่ โดยผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนงานคัดแยกเศษแก้ว เดินมาทางด้านหลังรถตอนไหนนั้น ตนมองไม่เห็น และได้ดันกองเศษแก้วแล้วถอยหลังรถไปทับตอนไหนก็ไม่รู้ จนได้ยินมีเสียตะโกนว่า ทับคนจึงจอดรถลงไปตรวจดู พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ พบว่าเสียชีวิตแล้ว ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมรวบรวมข้อมูลเตรียมแจ้งข้อหา นายสมพร คนขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้มอบให้ญาติ นำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป | เกิดเหตุรถตักล้อยาง ทับร่างสาวใหญ่วัย 54 ปีดับคาที่ ขณะทำงานตักเศษแก้วอยู่ภายในโรงงาน ด้านคนขับวัย 40 ปี เผยมองไม่เห็นขณะถอยหลังทำให้เกิดอุบัติเหตุสลด | ข่าว,ทั่วไทย | รถทับ,รถตักทับตาย,สาวโรงงานโดนรถทับ,รถทับสาวใหญ่,สาวใหญ่โดนรถทับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1428491 |
แนวโน้ม ราคาทอง ปี 63 ไตรมาสแรกส่อลงแรงก่อนทะยานขึ้นอาจเห็นบาทละ 23750 | ส่องแนวโน้ม ราคาทองคำ ในปี 63 ไตรมาสแรกอาจพักฐาน ก่อนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี คาดอาจได้เห็นราคาทองเคลื่อนไหว 20500 - 23750 บาท ต่อบาททอง หรืออยู่ในกรอบ 1430-1600 ดอลลาร์สหรัฐฯนางสาวทิพย์รัตน์ นันทปรีดาวัฒน์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์ทิสโก้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ภาพรวมในปี 2562 พบว่าราคาทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมาก โดยหากนับตั้งแต่สิ้นปี 2561 จนถึงวันที่ 17 ธ.ค. 2562 ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 15% เพราะได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเรื่องสงครามการค้า ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอลงทั่วโลกสำหรับในปี 2563 เราประเมินว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1430 ถึง 1600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20500 - 23750 บาทต่อบาททอง โดยราคาทองคำจะทำจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1/2563 ก่อนจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี 2563 โดยเรามองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มี 4 ประการ ดังนี้1. ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่จะยังคงมีอยู่ โดย TISCO ESU มองว่า การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ หรือ Phase One จะส่งผลดีต่อตลาดเพียงชั่วคราว เนื่องจากการเจรจาในระยะถัดไปเป็นประเด็นอ่อนไหว เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนความรู้ทางเทคโนโลยีของจีน ซึ่งจะสำเร็จได้ยาก2. ตลาดจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากนโยบายของผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (Democrat) ซึ่งผู้ท้าชิงจากเดโมแครต ส่วนใหญ่มีนโยบายที่กดดันตลาดหุ้น เช่น การเพิ่มภาษีนิติบุคคล เพิ่มภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีรายได้สูงพร้อมทั้งเพิ่มภาษีจากรายได้จากการลงทุน (Capital gain tax)โดยตั้งแต่เดือน มี.ค. จะเริ่มเห็นแล้วว่าใครจะมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปแข่งกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 3 พ.ย. 25633. TISCO ESU มองว่าความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) อาจกลับมา ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ยังอ่อนแอ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยุโรป ญี่ปุ่น ISM ของสหรัฐฯ ล่าสุดยังคงหดตัว ในระยะข้างหน้า เรามองว่าเศรษฐกิจน่าจะยังชะลอตัวอยู่ ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง4. ธนาคารกลางสำคัญๆ ทั้งธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ได้กลับมาระดมซื้อสินทรัพย์ จนยอดสุทธิการเข้าซื้อสินทรัพย์กลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561โดยในปีที่ผ่านมายอดสุทธิการเข้าซื้อสินทรัพย์ (Net Monthly Changes in Central Banks Balance Sheets) ของ 3 ธนาคารกลางได้เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากทองคำ (%YoY Returns of Gold) ในปี 2563 การเข้าซื้อเฉลี่ย 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนของธนาคารกลาง ไปจนถึงกลางปีเป็นอย่างน้อย น่าจะหนุนให้ราคาทองคำไม่ลดลงมากไปกว่านี้นักในช่วงที่ราคาทองคำกำลังพักฐานในขณะนี้ เราจึงแนะนำให้ผู้ที่สนใจซื้อสะสมทองคำในกรอบราคา 1450-1480 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือ 20750 ถึง 21180 บาทไทยต่อบาททอง | ส่องแนวโน้ม ราคาทองคำ ในปี 63 ไตรมาสแรกอาจพักฐาน ก่อนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี คาดอาจได้เห็นราคาทองเคลื่อนไหว 20500 - 23750 บาท ต่อบาททอง หรืออยู่ในกรอบ 1430-1600 ดอลลาร์สหรัฐฯ | ข่าว,ทองคำ | ราคาทองคำ,แนวโน้มราคาทองคำ,แนวโน้มราคาทองคำในปี 2563,ราคาทอง,ทิสโก้,ราคาทองปี 63,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/gold/1738585 |
จับ 45 โรฮิงญาลักลอบหนีเข้าไทย | กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา สนธิกำลังเข้าจับกุมชาวโรฮิงญาที่พยายามลักลอบหลบหนีเข้าประเทศโดยเรือประมงขนาดเล็กทางเกาะปลิง หลังได้รับแจ้งจากเรือประมงในพื้นที่ว่า มีเรือต้องสงสัยบรรทุกชายฉกรรจ์เข้ามาในพื้นที่จำนวนมากการตรวจสอบพบบนเรือมีชาวโรฮิงญา 45 คน และหลบหนีไปได้ 5 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว ส่วนผู้ที่ถูกควบคุม เจ้าหน้าที่ได้นำไปดูแลก่อนผลักดันออกนอกประเทศข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาระบุว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญาลักลอบเข้ามาในไทยจำนวนมาก โดยพบหมายเลขโทรศัพท์ของคนไทยและเจ้าหน้าที่รัฐที่คาดว่ามีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ขณะที่บางส่วนยังพบว่ามีการใช้วิธีลักลอบนั่งมากับเรือหางยาว เมื่อถึงจุดหมายก็จะเจาะเรือให้รั่ว เพื่อใช้เป็นข้ออ้างหากถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับว่าเรือรั่วทำให้ต้องหนีขึ้นฝั่ง | เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จับชาวโรฮิงญาเกือบ 50 คน หลังพบลักลอบเข้าไทยทางเรือประมงบริเวณเกาะปลิง โดยที่ผ่านมาพบข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับการหลบหนีเข้าประเทศ | ภูมิภาค | พังงา,โรฮิงญา | https://news.thaipbs.or.th/content/64894 |
วิ่งเต้นบิ๊กตร.เบรกค้นขยะพิษนำเข้า | กระทรวงอุต ตั้งกรรมการวางกฎเหล็ก ลุยตรวจเข้ม,ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เซ็นตั้งคณะกรรมการปรับปรุงระบบจัดการกากอุตสาหกรรม วางแนวทางตรวจสอบปัญหาลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าประเทศ สั่งเปิดตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าตรวจสอบทุกตู้ พร้อมสั่งติดจีพีเอสรถบรรทุกทั้งหมดเพื่อดูว่าออกนอกเส้นทางหรือไม่ เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว 117 โรงงาน พบความผิด 34 โรงงาน พร้อมเสนอแก้กฎหมายให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขยะที่ชุดทำงานกระทรวงอุตสาหกรรมและตำรวจเริ่มอึดอัด เพราะมีโรงงานกำจัดขยะเส้นใหญ่ วิ่งเต้นให้บิ๊กตำรวจช่วยไม่ให้โดนสั่งปิด,กรณีการปราบปรามการลักลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศมากำจัดในไทยด้วยการสำแดงเท็จ จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความคืบหน้าจากกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มีหนังสือเวียนสั่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ 163/2561 ระบุว่า เนื่องจากสถานประกอบการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัยของประชาชน จึงสมควรให้กำหนดมาตรการแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรมดังกล่าว ใช้อำนาจตาม ม.21 และ ม.38 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 7 พ.ศ.2550 แต่งตั้งให้รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นรองประธานกรรมการ และนายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นกรรมการ รวมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกระทรวงอุตสาหกรรม 15 คน จากนั้นเรียกประชุมคณะกรรมการปรับปรุงระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อหารือวางแนวทางกำหนดการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ,นายสุรพลกล่าวว่า การประชุมเน้นให้ทำงานระหว่าง สนง.อุตสาหกรรมจังหวัด กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมของโรงงานลำดับที่ 105 หรือขยะไม่อันตราย และลำดับ 106 หรือขยะอันตราย ให้มีการศึกษาวิเคราะห์และปรับปรุงบริหารจัดการฐานข้อมูลกากอุตสาหกรรม จัดทำข้อมูล Mass Balance ของกากอุตสาหกรรม และต้องทำแผนจัดการตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของเสียอันตรายและการกำจัด และ พ.ร.บ.การส่งออกนำเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจะส่งเจ้าหน้าที่กรมโรงอุตสาหกรรมร่วมกับกรมศุลกากรควบคุมเข้มตรวจทุกตู้คอนเทนเนอร์ ที่ขออนุญาตนำขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติก ติดจีพีเอสรถบรรทุกขนขยะทุกคันให้เดินทางเข้าโรงงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ป้องกันการนำขยะขายต่อให้โรงงานอื่น เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของบริษัทที่ได้รับอนุญาตนำเข้าขยะเหล่านี้จะรับจ้างทำลายขยะจากต่างประเทศ แต่กลับนำเข้ามาประเทศไทยขายต่อให้กับโรงงานรีไซเคิล ถือว่าเป็นการสำแดงเท็จผิดกฎหมาย,กระทรวงอุตสาหกรรมสนธิกำลังร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวาดล้างการลักลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์สำแดงเท็จเข้าคัดแยกรีไซเคิลในประเทศไทย และยังลุยตรวจค้นโรงงานกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการลงโทษสูงสุด พักใช้ใบอนุญาต 1 ปี สั่งการตาม ม.52 วรรค 1 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 ผู้ประกอบการ 5 ราย ประกอบด้วยบริษัทไวโรกรีน (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทโอ จี ไอ จำกัด บริษัทเจ พี เอส เมทัลกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหย่งถังไทย จำกัด และบริษัทเอส เอส อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นอกจากนี้ ยังตรวจโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ผลการตรวจ 117 โรงงาน จาก 148 โรงงาน พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม 29 แห่งในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี และทำความผิด พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 5 แห่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว,นายสุรพลเผยด้วยว่า ตอนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังมีแผนดำเนินการแก้ไขกฎหมายการอนุญาตและการกำกับการนำเข้าของเสียเคมีวัตถุ อันตรายให้รัดกุมยิ่งขึ้น ใช้ระบบจีพีเอสและระบบแจ้งขนส่งทางอิเล็กทรอนิกส์กำกับดูแลตั้งแต่ท่าเรือจนถึงโรงงานผู้นำเข้า พร้อมกำหนดขั้นตอนการนำเข้า การผลิต การส่งออก และการจัดการกากของเสียที่เกิดขึ้น มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบอย่างเข้มงวด และเสนอคณะอนุกรรมการอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมเคลื่อนย้ายข้ามแดนของเสียอันตรายและการกำจัด เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดเป็นนโยบายห้ามนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์และอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นวัตถุอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล เช่นเดียวกับกรณีแบตเตอรี่ ตะกั่ว และกรด,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แหล่งข่าวระดับสูงในชุดปฏิบัติการกวาดล้างการลักลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์สำแดงเท็จเข้ามาคัดแยกรีไซเคิลในประเทศไทย ที่มี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ พบว่า ตอนนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกำลังจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการลักลอบนำขยะอันตรายเข้าประเทศ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะการสำแดงเอกสารเท็จเป็นการเลี่ยงภาษีตามกฎหมาย จึงต้องตรวจสอบว่ามีการฟอกเงินหรือไม่ รวมถึงจะมีการตรวจสอบข้าราชการว่ามีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะมีข้าราชการระดับสูงรวมถึงนักการเมืองกำลัง วิ่งเต้นไม่ให้เข้าตรวจค้นบริษัทนำเข้าขยะอันตรายแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นมีการวิ่งเต้นไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบคดีด้วย | ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เซ็นตั้งคณะกรรมการปรับปรุงระบบจัดการกากอุตสาหกรรม วางแนวทางตรวจสอบปัญหาลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าประเทศ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า 1,ขยะอิเล็กทรอนิกส์,วิระชัย ทรงเมตตา,ลักลอบนำขยะอันตรายเข้าประเทศ,กระทรวงอุตสาหกรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1311487 |
ซูเปอร์โพลชี้คน 70.5% อยากให้ ยุบสภา 17.8% อยากให้ ปรับ ครม. | ทำงานต่อไปคือคำตอบ13 มิ.ย. 2563 ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คนดีการเมือง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียล ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1790 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9 – 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาทั้งนี้ผลการสำรวจพบว่าเมื่อถามถึงลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีไว้ใกล้ตัว พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 ระบุ ซื่อสัตย์ สุจริต ตามศาสตร์พระราชา ไม่ถอนทุนคืน ไม่มีประวัติด่างพร้อย รองลงมาคือ ร้อยละ 10.9 ระบุ ทำเพื่อประชาชนในเฉพาะฐานเสียงของตนเอง ร้อยละ 10.4 ระบุ เป็นคนเก่ง การศึกษาดี มีผลงานสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ และร้อยละ 3.2 ระบุ อื่น ๆ เช่น ร่ำรวย มีบารมี เป็นต้น ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง กลุ่มคนที่จะกระโดดหนีห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นกลุ่มแรกถ้าเกิดปัญหาวิกฤตขึ้นในบ้านเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.0 ระบุเป็นกลุ่ม ส.ส. ที่ปากบอกว่า รักบิ๊กตู่ หนุนบิ๊กตู่ ตอนนี้ที่บิ๊กตู่ กำลังมีอำนาจ รองลงมาคือ ร้อยละ 21.6 ระบุ เป็น กลุ่ม ส.ส. ที่กำลังแย่งชามข้าว แย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันตอนนี้ และร้อยละ 17.4 ระบุ เป็นกลุ่มข้าราชการและประชาชนทั่วไปที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.7 ระบุ การแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีเป็น น้ำผึ้งหยดเดียวทำรัฐบาลแตกแยก บ้านเมืองวุ่นวาย บนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 21.3 ระบุไม่เป็น อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.5 ระบุ การยุบสภา คืนอำนาจประชาชน เลือกตั้งใหม่คือคำตอบ ในขณะที่ร้อยละ 17.8 ระบุ ปรับคณะรัฐมนตรี คือคำตอบ และร้อยละ 11.7 ระบุ อื่น ๆ เช่น ทำงานต่อไปคือคำตอบดร.นพดล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ชัดว่า ลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการที่มากที่สุดคือ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่ลักษณะของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการน้อยที่สุดคือ รัฐมนตรีที่มีบารมี จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าในคณะรัฐมนตรีไม่ควรมีคนมากบารมีมากกว่า นายกรัฐมนตรีตามคำโบราณที่ว่าเสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ การแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันของ ส.ส.ในพรรคการเมืองตอนนี้กำลังกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่ทำให้รัฐบาลแกว่งตัวสั่นคลอนบ้านเมืองวุ่นวายบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน และผลจากการประเมินขั้นสุทธิ พบว่าการยุบสภาช่วงนี้จะเหมาะมากต่อจังหวะลงจากหลังเสือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา หรือ อาจทำให้ปัญหาวุ่นวายใน บ้านเมืองช่วงปลายปีนี้ไม่เกิด แต่ถ้าจะยื้อกันต่อไปก็คอยรอดูกันต่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้พร้อมระบุว่ารัฐบาลต้องไม่ทำอะไรฝืนกระแสอารมณ์ของสาธารณชน เพิ่มเติมขึ้นมาอีกนับจากเวลานี้เป็นต้นไป รัฐบาลต้องนิ่ง ๆ ก้มหน้าก้มตาทำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนความทุกข์ยากของประชาชนต่อไป ขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่าเป็นต้นตอของความวุ่นวายเสียเอง | ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล 1790 ตัวอย่าง ประเด็นการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันของ ส.ส. พบ 70.5% ระบุการยุบสภาคืนอำนาจประชาชนเลือกตั้งใหม่คือคำตอบ 17.8% ระบุปรับคณะรัฐมนตรีคือคำตอบ 11.7% ระบุอื่น ๆ เช่น | การเมือง,สังคม,คุณภาพชีวิต | ซูเปอร์โพล,โพล | https://prachatai.com/journal/2020/06/88128 |
สุรพศ ชี้ปฎิรูปสงฆ์ต้องออกมาจากอำนาจรัฐ หนุนตรวจสอบแต่ต้องอยู่ในระบอบประชาธิปไตย | ที่ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดปฎิรูปคณะสงฆ์ของพุทธะอิสระและกลุ่มปฎิรูปกิจการศาสนาของนายไพบูลย์ นิติตะวัน นั้นนายสุรพศ มองว่า เป็นข้ออ้างที่จะกำจัดพระธัมมะชโย วัดธรรมกาย และเชื่อว่ารัฐบาล คสช.คงไม่เอาด้วย แต่จะให้พุทธะอิสระเดินเกมทางการเมืองมากกว่า ซึ่งการปฎิรูปคณะสงฆ์นั้นควรจะทำเมื่อสังคมอยู่ในบรรยากาศประชาธิปไตย หากปฎิรูปตอนนี้ตามแนวคิดของพุทธะอิสระก็ยิ่งจะทำให้คณะสงฆ์เป็นเผด็จการมากขึ้น ตนยืนยันว่าการปฎิรูปคณะสงฆ์ต้องให้คณะสงฆ์ออกมาจากอำนาจรัฐ ไม่ควรเป็นเครื่องมือของรัฐอีกต่อไป ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าคณะสงฆไทยอย่างสำคัญและจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตยของไทย แต่ต้องอาศัยเวลาต่อกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมเอาผิด สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง กรณีถือครองรถหรูที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มวัดป่าบ้านตาด และพุทธะอิสระที่จะไม่ให้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น นายสุรพศ เห็นว่า การตรวจสอบพระเถระชั้นผู้ใหญ่สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย องค์กรของรัฐต้องตั้งอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมาตรฐาน แต่กรณีนี้เป็นความพยายามกลั่นแกล้งกล่าวหาทางการเมือง หากจะกล่าวหาสมเด็จพระสังฆราชที่ผ่าน ๆ มาว่าผิดพระธรรมวินัยก็สามารถทำได้ แต่คำว่า ผิดพระธรรมวินัย ที่พุทธะอิสระนำมาอ้างนั้นเป็นมาตรฐานของพุทธะอิสระที่มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งมากกว่า อย่างไรก็ตามด้วยอิทธิพลของพุทธะอิสระในตอนนี้ อาจจะดำเนินการกับ สมเด็จช่วงจนถึงขั้นปาราชิก จนไม่สามารถเป็นสมเด็จพระสังฆราชก็สามารถทำได้ แต่จะทำให้กลุ่มพระในคณะสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างแน่นอนสำหรับข้อวิพากษ์วิจารณ์และกล่าวหาว่าวัดพระธรรมกายเป็นภัยต่อคณะสงฆ์และความมั่นคง และหากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช จะทำให้ บทบาทของวัดพระธรรมกายจะเข้ามามีอิทธิพลในคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคมหรือไม่นั้น นายสุรพศ มองว่า ขึ้นอยู่กับสังคมและกลไกรัฐ ที่จะควบคุมตรวจสอบ แต่หากแยกศาสนาออกจากรัฐ ก็ไม่มีปัญหาเป็นอิสระจากรัฐ จะเผยแผ่ศาสนา หรือจะสร้างกิจกรรมดึงดูดคนเข้าวัดอย่างไรก็ได้หากไม่ทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามการกล่าวหาว่า วัดพระธรรมกายกำลังเป็นภัยต่อคณะสงฆ์หรือความมั่นคงของชาติเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์สำหรับวัดพระธรรมกาย | เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา Thaisvoicemedia ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านศาสนาและปรัชญา | การเมือง,วัฒนธรรม | Thaisvoicemedia,ธรรมกาย,ปฎิรูปคณะสงฆ์,ประชาธิปไตย,พุทธะอิสระ,ศาสนา,สุรพศ ทวีศักดิ์ | https://prachatai.com/journal/2016/02/64212 |
อโดรวิช บอดโทษ ค้างคาวไฟ เปิดรังพ่าย ช้างศึกยุทธหัตถี 2-3 | การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 ประจำวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค.60 คู่ที่น่าสนใจเป็นการเจอกันระหว่าง ค้างคาวไฟ สุโขทัย เอฟซี เปิดสนามทะเลหลวง ต้อนรับการมาเยือนของ ช้างศึกยุทธหัตถี สุพรณบุรี เอฟซี,เริ่มเกม ได้แค่ 4 นาทีทีมเยือนเกือบได้เฮ เมื่อ กิเยร์เม เดลลาตอเร ลากเข้ามาเปิดจากทางซ้าย กองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ไม่ขาด บอลเข้าทาง ชาริล ชัปปุยส์ ได้ยิง แต่ สุชิน เย็นอารมณ์ ยังเซฟเอาไว้ได้,นาทีที่ 16 เจ้าบ้านได้ลุ้นบ้าง เมื่อ ปรัชญ์ สมัครราษฎร์ รับบอลจาก พิชิตย์ ใจบุญ ทางขวา ก่อนบรรจงเปิดให้ จอห์น บาจโจ้ ได้ยิง แต่บอลเบาไป สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยังพุ่งไปคว้าไว้ได้,เกมบุกของทีมเยือนยังทำได้ดี นาทีที่ 25 อนาวิน จูจีน เปิดจากทางขวา กิเยร์เม เดลลาตอเร ได้ขึ้นโหม่งเต็มๆ สุชิน เย็นอารมณ์ โชว์ ซุปเปอร์เซฟบินปัดออกหลังไป,นาทีที่ 34 จังหวะสวนกลับของทีมเยือน ประสิทธิ จันทุม โยนยาวจากแดนหลังให้ กิเยร์เม เดลลาตอเร ควบขึ้นไปกระดกข้ามหัว สุชิน เย็นอารมณ์ นายทวารเจ้าถิ่น ที่ขยับออกมาจากปากประตูมากไป ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0,ถัดมาแค่นาทีเดียว สุโขทัย ได้ลูกจุดโทษ เมื่อ ณัฐพงษ์ สมณะ ไปดึง แอดเมียร์ อโดรวิช ล้มลงในเขตโทษ แล้วเป็น อโดรวิช ลุกขึ้นมายิงเอง แต่ สินทวีชัย โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดเอาไว้ได้จบครึ่งแรก สุโขทัย ตามหลัง สุพรรณบุรี 0-1,เริ่มครึ่งหลัง เจ้าถิ่นครองเกมบุกทันที นาทีที่ 47 จอห์น บาจโจ้ ได้ลากฝ่ากองหลังทีมเยือน แล้วหยอดเข้ากลาง สินทวีชัย พยายามพุ่งปัด แต่บอลไปเข้าทาง อโดรวิช ได้ซัดเหน่งๆ ตุงตาข่ายให้ สุโขทัย ตีเสมอ 1-1,จากนั้นแฟนๆทีมเยือนได้เฮ นาทีที่ 57 ชาริล ชัปปุยส์ เปิดฟรีคิกจากทางขวา บอลไปเข้าทาง มาร์เซโล ซาเวียร์ กระโดดตอกส้น เข้าไปอย่างสวยงาม สุพรรณบุรีขึ้นนำ อีกครั้ง 2-1,ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 66 จอห์น บาจโจ้ พลิกหลบสองตัว แล้วเปิดให้ อโดรวิช ได้พักอกหน้าประตูแล้วยิง แต่บอลหลุดหลังออกไป,นาทีที่ 67 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นบ้าง เมื่อ จอห์น บาจโจ้ ข้ามหลอก ให้ อโดรวิช เปิดต่อให้ ดิยุฟ บิรัม โหม่งชงเข้ากลาง แล้วเป็น จอห์น บาจโจ้ วิ่งมาจิ้มบอลสวนตัว สินทวีชัย เข้าไป เจ้าบ้านตีเสมอ เป็น 2-2,ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นพยายามบุกเอาประตูเพิ่ม แต่กลับเป็นทีมเยือนที่ขึ้นนำ นาทีที่ 87 ชาริล ชัปปุยส์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามา และเป็น มาร์เซโล ซาเวียร์ ฉีกหนีตัวประกบ วิ่งมาโหม่งเต็มๆเข้าไปทางเสาแรก สุพรรณบุรี ขึ้นนำ 3-2,จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ สุโขทัย เอฟซี พ่ายคาบ้าน ให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี 2-3,รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม,สุโขทัย เอฟซี, : สุชิน เย็นอารมณ์ (GK), ปรัชญ์ สมัครราษฎร์, ฮิโรมิชิ คาตาโนะ, ยุทธพงษ์ ศรีละคร (C) (พนธกร โทสันเทียะ น.79) , ชมพู แสงโพธิ , พิชิตย์ ใจบุญ, ณัฐวุฒิ คำรินทร์, จอห์น บาจโจ้, คัพฟ้า บุญมาตุ่น (กฤษณ เกษมกุลวิไล น.63) , ดิยุฟ บิรัม, แอดเมียร์ อโดรวิช (เลอสันต์ เทียมราช น.72),สุพรรณบุรี เอฟซี, : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK) (C) , อนาวิน จูจีน , วสันต์ ฮมแสน , มาร์เซโล ซาเวียร์, ณัฐพงษ์ สมณะ (นพพล ปิตะฝาย น.41) , กิลสัน ซานโตส, ชาริล ชัปปุยส์ (ชนานันท์ ป้อมบุบผา น.88), ประสิทธิ จันทุม , อดุล หละโสะ, นิโคลัส เลอันโดร (ณภัทร ธำรงศุภกร น.74) , กิเยร์เม เดลลาตอเร | สุโขทัย เอฟซี ยังคงหาฟอร์มเก่งไม่เจอหลังพ่าย สุพรรณบุรี เอฟซี ไปอย่างน่าเสียดาย 2-3 แอดเมียร์ อโดรวิช แข้งคนเก่งของเจ้าถิ่นซัดจุดโทษติดเซฟนายด่านทีมเยือน | ข่าว | ผลบอล,โตโยต้า ไทยลีก 2017,ไทยลีก,สุโขทัย เอฟซี,สุพรรณบุรี เอฟซี | https://www.thairath.co.th/news/882436 |
หิวโซ ช้างป่าบึงกาฬ บุกพังเรือนรับรองพื้นที่โครงการฯ เสียหายยับ | เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 6 มิ.ย. 60 ขณะที่นายสมบูรณ์ สิงห์ถิน ผู้ช่วยหัวหน้าโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กำลังให้คำแนะเรื่องการปลูกต้นไม้แก่ชาวบ้านที่มาขอพันธุ์กล้าไม้แจกฟรี ก็มีเจ้าหน้าที่หญิงสองคนคือ นางไพรมณี สิงห์ถิน และนางจีรารัตน์ ไชยสุระ วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งว่ามีช้างป่ามาทำลายเรือนรับรองในพื้นที่โครงการฯ และต้นไม้บริเวณรอบๆ เสียหายยับเยิน,จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชา นายประเสิรฐ ทองกุล หัวหน้าโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บ้านภูสวาท ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ทราบ แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นบริเวณเนินเขาสูงลึกเข้าไปในป่าราวๆ 300 เมตร เหนือสำนักงานฯ ขึ้นไป พบเศษกิ่งไม้ ใบไม้สดๆ เกลื่อนไปทั่วบริเวณ ส่วนเรือนรับรองแบบชั้นเดียวปูนกึ่งไม้ 1 ใน 4 หลังถูกช้างป่าใช้งวงทุบกระจกหน้าต่างแตกหลายบาน ห้องน้ำที่ติดกับเรือนรับรองพังเสียหาย หลังคากระเบื้องแตกกระจาย สายไฟฟ้าขาด,ส่วนต้นจันผารอบเรือนรอง ถูกช้างหักกินเป็นอาหารเสียหายทั้งหมด และยังพบขี้ช้างลักษณะสดใหม่อยู่ทั่วบริเวณ ห่างออกไปราว 50 เมตร ข้างถนนตรงไปยังป่า ซึ่งเป็นที่น้ำขัง ก็พบร่องรอยช้างลงเล่นน้ำ มีรอยเท้าช้างและขี้ช้างเต็มไปหมด นายสมบูรณ์ เผยว่าว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็มีช้างราว 7 ตัว เคยลงมาทำความเสียหายให้กับพื้นที่โครงการฯ หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกจนมาถึงวันนี้,โดยปกติ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จะมีการลาดตระเวนและแจ้งความเคลื่อนไหวของฝูงช้างให้ทราบเมื่อเข้าใกล้พื้นที่โครงการฯ ครั้งนี้ช้างน่าจะลงมาตั้งแต่ช่วงกลางคืน และทำความเสียหาย อย่างไรก็ตามทางโครงการฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก หากพบว่ามีช้างเข้ามาใกล้ในพื้นที่ก็จะไม่ให้ใครเข้ามาพักที่เรือนรับรองแห่งนี้ สำหรับเรือนรับรองที่เสียหายก็จะต้องมีการซ่อมแซม และยังต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราดูความเคลื่อนไหวของช้างจนกว่าจะมั่นใจว่าช้างได้กลับเข้าไปในป่าลึกแล้ว,ส่วนสาเหตุที่ช้างลงมาจนถึงพื้นที่โครงการฯนั้น อาจเป็นเพราะว่าอาหารขาดแคลน หรือช้างหาแหล่งน้ำ หรือเป็นเส้นทางที่ช้างเคยมาก็เป็นได้ ทางโครงการฯ จะแจ้งเตือนห้ามประชาชนเข้ามาบริเวณพื้นที่ จนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยจากช้างป่าและจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในภายหลัง. | ฝูงช้างป่าหิวโซ บุกทำลายเรือนรับรอง พื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จ.บึงกาฬ พบต้นจันผาถูกกินเสียหายทั้งหมด คาด ช้างอาจขาดแคลนแหล่งน้ำและอาหาร | ข่าว,ทั่วไทย | ฝูงช้างป่า,ช้างป่า,ช้างบุกกินต้นจันผา,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว,บึงกาฬ | https://www.thairath.co.th/news/local/964007 |
จ่าทหารขับรถกลับจากดูสวน เสียหลักอัดต้นไม้ที่กำแพงเพชร เมียดับ | เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 59 ร.ต.อ.ภาวิต ปรีนคร พงส.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร รับแจ้งมีรถยนต์ชนต้นไม้ บนถนนสายสลกบาตร์-บ่อถ้ำ หมู่ 18 ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี เดินทางไปตรวจสอบพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน ฎท6370 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง,จากการตรวจสอบ พบสภาพรถด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ภายในพบคนขับทราบชื่อ จ.ส.อ.เสถียร ใจใส อายุ 51 ปี ส่วนผู้ที่นั่งมาด้วยเสียชีวิต มีบาดแผลที่ศีรษะเปิด ทราบชื่อ นางพิมพา ใจใส อายุ 49 ปี ภรรยา ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 114/6 ถ.อู่ทองมะขามเฒ่า ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ทั้งคู่ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายใน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างงัดออกมานำตัวส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี พบว่า จ.ส.อ.เสถียร ขาหักทั้ง 2 ข้าง อาการสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า จ.ส.อ.เสถียร พาภรรยามาดูสวนที่ ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี ขากลับเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนต้นไม้ใหญ่ เป็นเหตุให้รถพังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว. | จ่าทหารบกวัย 51 ปี พาภรรยากลับจากดูสวน ระหว่างทางรถเสียหลักชนต้นไม้ริมถนนสายสลกบาตร์-บ่อถ้ำ จ.กำแพงเพชร รถพังยับ ร่างอัดก๊อบปี้ทั้งคู่ พบภรรยาเสียชีวิต ส่วนเจ้าตัวขาหัก 2 ข้าง อาการสาหัส | ข่าว,ทั่วไทย | รถชน,รถชนต้นไม้,รถเสียหลัก,รถชนต้นไม้ตาย,ภาวิต ปรีนคร,อุบัติเหตุ,กำแพงเพชร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/news/local/583402 |
ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ จ.ศรีสะเกษ ตรวจยึดยาบ้า 30000 เม็ดถูกวางไว้ริมทาง | วันนี้ (28 มิ.ย.2560) ฝ่ายปกครองและตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้า 30000 เม็ด ถูกมัดเป็นห่อ ห่อละ 2000 เม็ด ได้จากบริเวณข้างทางถนนสายศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย ซึ่งอยู่ห่างจากสี่แยกบ้านส้มป่อย ก่อนเข้าตัวอำเภอ ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังชาวบ้านแจ้งว่ามีรถยนต์มาจอดบริเวณดังกล่าว เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งตอนเช้าพบว่ามีถุงพลาสติกถูกวางทิ้งไว้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนายสุรชาติ แก้วศิลา นายอำเภออุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า เจ้าของบ้านได้แจ้งให้ตรวจสอบ เพราะพบถุงพลาสติกต้องสงสัย เมื่อตรวจสอบภายในถึงพบยาบ้าชนิดสีส้ม ถูกมัดเป็นห่อๆ ละ 15 มัด รวมจำนวน 30000 เม็ด เบื้องต้น คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้นำมาวางไว้ เพื่อให้เครือข่ายในพื้นที่มารับไปจำหน่าย แต่มีชาวบ้านมาพบเห็นก่อน จึงสามารถยึดกลางไว้ได้ทั้งหมดขณะเดียวกัน ตำรวจได้ประสานขอภาพวงจรปิดจากร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอาจจะบันทึกเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่นำยาบ้ามาวางไว้ เพื่อติดตามจับกุมต่อไป | ฝ่ายปกครองและตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตรวจยึดยาบ้า 30000 เม็ด หลังขบวนการค้ายาเสพติดนำมาวางไว้บริเวณถนนสายศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย แต่ชาวบ้านพบเห็นพฤติกรรม จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ยาเสพติด,ยาบ้า,ฝ่ายปกครอง,ตำรวจ,ศรีสะเกษ,อุทุมพรพิสัย | https://news.thaipbs.or.th/content/263894 |
รวบแก๊งสกิมเมอร์ชาวยูเครน ใช้บัตรปลอม ตระเวนกดเงินจากเอทีเอ็ม | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รองผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. แถลงข่าว พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ร่มเกล้า ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว จับกุมนายอเล็กซานเดอร์ ลูเปี๊ยก อายุ 27 ปี และนายวิตาลี่ สวีเชฟสะกี้ อายุ 19 ปี ชาวยูเครน ข้อหาร่วมกันและมีไว้ใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมโดยมิชอบโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 39 ใบ ,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สน.ร่มเกล้า ได้รับแจ้งและประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคารหลายแห่งว่า มีชายชาวต่างชาติผิวขาวได้ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมตระเวนกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็มตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และบริษัทต่างๆ ย่านร่มเกล้า ลาดกระบัง และ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จากการตรวจพบว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 3-6 มิ.ย. กดเงินรวมทั้งสิ้น 22 ครั้ง ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่ออยู่ที่ต่างจังหวัด อาทิ ลำปาง อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ชลบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เป็นต้น มูลค่าความเสียหาย 3-4 แสนบาท กระทั่งติดตามจับกุมทั้งคู่ได้ตอนค่ำ วันที่ 6 มิ.ย. ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปากซอยกิ่งแก้ว 54 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ควบคุมตัวไปตรวจค้นห้องพัก ภายในหมู่บ้านพาร์ควิวซิตี้ ซอยกิ่งแก้ว 58 พบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมจำนวน 39 ใบ เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มผู้ต้องหาตั้งเครื่องสกิมเมอร์ติดไว้ใน จ.ลำปาง ,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 4 คน เดินทางมาจากยูเครนเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. หลบหนีไปได้ 2 คน เป็นพวกแก๊งสกิมเมอร์ วิธีการจะนำกล้องตัวเล็กๆ ไปติดที่เพดานบริเวณตู้เอทีเอ็ม และติดตัวดูดข้อมูลที่บริเวณที่สอดบัตรเอทีเอ็ม เพื่อดึงข้อมูลและดูรหัสบัตรของเหยื่อ แก๊งคนร้ายทิ้งเวลาไว้นาน 3 เดือน เป็นการป้องกันการบันทึกภาพจากภาพวงจรปิด จากนั้นก็นำไปอุปกรณ์ดังกล่าวไปถอดรหัสทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นมา ก่อนให้พวกหน้าม้าใช้ไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ฉะนั้นตอนกดเงินอยากเตือนประชาชนว่า ควรเอามือปิดบังเอาไว้เพื่อป้องกันการขโมยรหัสบัตร,จากการสอบสวนทั้งคู่ ให้การรับสารภาพว่า มีเพื่อนที่ยูเครนชวนมาเที่ยวที่ประเทศไทยบอกว่า มีงานให้ทำและได้เที่ยวด้วย พอมาถึงไทยก็มีคนคุยผ่านแอพพลิชั่นไวเบอร์ ให้นำบัตรไปกดเงินตามสถานที่ที่ต่างๆ หลังจากกดเงินแล้วจะมีผู้มารับเงินไป พอกลับยูเครนแล้วนายวิตาลี่ ได้รับเงินส่วนแบ่ง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นายอเล็กซานเดอร์ ยังไม่ได้ตกลงเงินส่วนแบ่ง นายอเล็กซานเดอร์ กดเงินไปแล้ว 46,000 บาท ส่วนนายวิตาลี่ กดเงินทั้งหมด 4 ครั้ง จำยอดเงินไม่ได้ นำตัวทั้งคู่ส่ง สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | รวบแก๊งสกิมเมอร์ชาวยูเครน ตระเวนใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินผู้ตกเป็นเหยื่อเบื้องต้น 22 ราย ล้วนอยู่ต่างจังหวัด สืบสวนสน.ร่มเกล้า แกะรอยตามจับได้ที่ จ.สมุทรปราการ คาดติดเครื่องและกล้องขโมยข้อมูลไว้ใน จ.ลำปาง | null | แก๊งสกิมเมอร์,ชาวยูเครน,แก๊งสกิมเมอร์ชาวยูเครน,โจรกรรม,ปลอมบัตรเอทีเอ็ม,จับต่างชาติปลอมบัตรเอทีเอ็ม,บัตรปลอม,ตู้เอทีเอ็ม,บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม,เครื่องสกิมเมอร์,อาชญากรรม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/634759 |
ทุบหัว-รัดคอ ล่าฆาตกรเหี้ยม ฆ่าสาวบุรีรัมย์ หมกศพร่องน้ำสวนปาล์มพังงา | ดำเนินคดีเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ศุภชัย เกื้อเส้ง สว.สอบสวน สภ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆ่าหมกร่องน้ำ ภายในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 4 บ้านพรุใหญ่ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณ โสภาการ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ตะกั่วทุ่ง นพ.มนตรี ธนกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลพังงา ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต สภาพนอนคว่ำหน้า อยู่ในร่องน้ำกลางสวนปาล์มน้ำมัน ของอดีตผู้ใหญ่บ้าน ห่างจากถนนประมาณ 2 กม. จึงได้นำขึ้นมาตรวจสอบพบว่า เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 30 กว่าปี อยู่ในสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สวมเสื้อคอปกสีดำแถบส้ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ คาดกระเป๋าสะพายข้างสีดำ ตรวจสอบภายในตัวพบบัตรประจำตัวประชนและพวงกุญแจอยู่ในกระเป๋า จากการชันสูตรพลิกศพ พบเส้นผมผู้ตายเริ่มหลุดล่วงออกจากศีรษะ มีบาดแผลเป็นรูตรงกกหูด้านขวา ขนาดเท่ากำปั้น มีผ้าขนหนูสีฟ้ารัดอยู่ที่คอ ลิ้นจุกปาก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน โดยสอบถามถึงรูปพรรณผู้ตาย ชาวบ้านยืนยันว่าเป็นคนจังหวัดอื่น แต่มาอาศัยหากินอยู่ในพื้นที่หลายปีแล้ว ตรวจสอบบัตรประชาชนผู้ตายทราบชื่อคือ น.ส.เหลือง พระชะนะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 2 ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้างหาปูเปรี้ยวขายเบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่าถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบที่ศีรษะ จนกะโหลกแตกร้าว และใช้ผ้ารัดคอจนขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต และนำร่างมาทิ้งหมกร่องน้ำในสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว ตำรวจได้ส่งตรวจหา DNA จากฟันของผู้ตาย เพื่อหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | พบศพหญิงสาว ถูกฆ่าทุบหัว-รัดคอ หมกร่องน้ำสวนปาล์ม ที่ จ.พังงา สภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นเน่า คาดตายมาแล้วไม่ต่ำ 4-5 วัน พบบัตรประชาชนเป็นคนบุรีรัมย์ ตำรวจเร่งเก็บหลักฐาน ล่าตัวคนร้าย | ข่าว,อาชญากรรม | พบศพ,พบศพหญิงสาว,ฆ่าหมกสวนปาล์ม,ฆ่าหมกศพ,ฆาตกรเหี้ยม,ฆ่าคนตาย,พังงา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1906416 |
ชง คุรุสภา รับบัณฑิตวิศวะ-วิทย์เป็นครู | ตำแหน่งครูผู้ช่วยได้เช่นเดียวกับผู้ที่จบศึกษาศาสตร์และครุศาสตร์ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนครูผู้สอนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากนักวิชาการว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะให้ผู้ที่จบสาขาอื่น เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หลักสูตร 4 ปี มาสอบบรรจุเป็นครูได้ เพราะถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิดกว้าง ผู้ที่จบจากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ก็ต้องเข้าใจ ยิ่งในโลกยุคใหม่เราก็อยากได้คนที่เข้าใจและรู้เรื่องเฉพาะนั้นๆมาสอนเด็กโดยเพิ่มเติมความรู้ด้านการเป็นครูให้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาเป็นครูทุกคนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งตนจะไปดูวิธีการออกใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพฯ ส่วนที่มีข้อท้วงติงว่า หากเปิดให้ผู้ที่เรียนในสาขาอื่นมาสอบบรรจุเป็นครูได้ จะทำให้นักเรียนเลือกเรียนในคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์น้อยลง เพราะใช้เวลาเรียนนานถึง 5 ปี และต่อเรียนจบอะไรมาก็เป็นครูได้นั้น ตนว่าไม่เป็นไร และถึงอย่างไรผู้ที่ไม่ได้เรียนครูมาก็ต้องผ่านการอบรมวิชาชีพครูอยู่ดี ซึ่งต้องใช้เวลาอบรมตามข้อกำหนดเหมือนกัน ขณะที่ผู้จบสายครูก็ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูอยู่แล้ว,ด้าน ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่เป็นการให้อภิสิทธิ์กับบัณฑิตที่จบสายวิศวกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแต่อย่างใด เนื่องจากทุกคนต้องผ่านกระบวนการสอบ เหมือนบัณฑิตที่จบสายครูโดยตรงทุกขั้นตอน และหากจะพูดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบต้องบอกว่า บัณฑิตสาขาวิชาอื่นๆจะเสียเปรียบบัณฑิตที่จบสายครู ในการสอบภาค ข วิชาชีพครูด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เรียนวิชาครูมาก่อน ดังนั้น คงต้องย้อนถามกลับไปว่า แล้วมหาวิทยาลัยกล้าเปิดวิชาครูให้คนกลุ่มนี้มาเรียน ด้วยหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่าแนวคิดนี้ถือว่ายุติธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ อยากให้มองถึงความจำเป็นของประเทศด้วย เพราะขณะนี้จากการสำรวจพบว่าโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขาดแคลนครูคณิตศาสตร์กว่า 5,000 อัตรา และวิทยาศาสตร์กว่า 2,000 อัตรา จึงมีแนวคิดนี้เพื่อแก้ปัญหา ทั้งนี้ ตนจะนำเรื่องนี้หารือที่ประชุมคุรุสภาอีกครั้ง. | พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวคิดที่จะให้ผู้จบปริญญาตรีสายวิศวกรรมศาสตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา | null | ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ,รมว.ศึกษาธิการ,คุรุสภา,ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์,สอบแข่งขัน,บรรจุเข้ารับราชการครู,บุคลากรทางการศึกษา,วิชาชีพครู,ข่าว,ข่าวการศึกษา,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/592506 |
รัฐภูมิ บอกเล่าความปรารถนาที่ซ่อนเร้นผ่านนิทรรศการซ่อนอยาก | ภาพมงกุฎดอกบัวที่หลุดร่วงจากหัวกะโหลก สื่อการเสื่อมสลายของอำนาจลาภยศ และสังขารของผู้ครอบครอง แฝงแง่คิด ไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่ไม่จีรัง 1 ใน 7 ผลงานศิลปะ ในนิทรรศการ ซ่อนอยาก ที่ รัฐภูมิ ผิวพันธมิตร ใช้สัญลักษณ์เรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยมิติของรูปทรง บอกเล่าความปรารถนาที่ซ่อนเร้นในใจมนุษย์ที่อาจทำลายตัวเอง และผู้อื่นได้รัฐภูมิ ผิวพันธมิตร ศิลปิน กล่าวว่า เป็นมุมมองว่าเรากำลังมองสังคมที่เป็นอยู่อย่างไร ตั้งใจสื่อเรื่องความทะยานอยากของมนุษย์ภาพสีขาวของวัตถุที่เห็นคือสีของผืนผ้าใบที่ใช้พู่กันขยี้สีน้ำมันสร้างมิติของแสงเงาเพิ่มเข้าไปทีละนิดจนออกมาเป็นภาพที่ต้องการ ด้วยเทคนิคนี้ช่วยทำให้ภาพวาดไม่มีรอยแปรงดูคล้ายภาพถ่าย เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ รัฐภูมิ ผิวพันธมิตร ที่ฝึกฝนมาตลอด 4 ปี ศิลปินนักวาดยังทำหน้าที่ครูถ่ายทอดศิลปะในระดับมหาวิทยาลัยและประถมศึกษา โดยได้แรงบันดาลใจจาก สังคม ทองมี ผู้ต่อสู้เพื่อการเรียนการสอนวิชาศิลปะ และยังเป็นครูคนแรกของเขาที่สอนให้รู้จักและรักงานศิลปะรัฐภูมิ กล่าวว่า อาจารย์สังคมพยายามให้เราถ่ายทอด และปลูกฝังในแง่ของการทำงาน และวิธีคิด ไม่ใช่การแนะนำเรื่องของเทคนิควิธีการมากนัก แต่ปล่อยให้การทำงานเป็นเรื่องของเด็ก เราพูดในเรื่องของความคิด เรื่องของแรงบันดาลใจให้กับเขา ปล่อยให้เขามีอิสระในการทำงาน เราเพียงแต่ปลูกฝังให้เขาได้ชอบ และมีความสุขกับการทำงานแค่นั้นเอง ภาพเป็ดที่เหนื่อยล้าเพราะอยากบินได้เหมือนนก เปรียบถึงผู้ที่ทะยานอยาก เกินพอดีจนสูญเสียความเป็นตัวเอง อีกหนึ่งผลงานที่แม้ศิลปินจะให้ความหมายไว้แล้ว แต่ยังหวังให้ผู้ชมตีความต่างกันไปตามประสบการณ์ของตัวเอง นิทรรศการศิลปะ ซ่อนอยาก จัดแสดงที่ นัมเบอร์วัน แกลอรี่ อาคารสีลมแกลอเรีย ซอยสีลม 19 จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ | สังคมบริโภคนิยมสร้างความรู้สึกอยากได้อยากมีให้เกิดขึ้นในใจคน เป็นแนวคิดที่ รัฐภูมิ ผิวพันธมิตร ใช้สร้างผลงานทั้ง 7 ชิ้นด้วยเทคนิคเฉพาะตัว เพื่อบอกเล่าความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอยู่โดยไม่รู้ตัวจนทำให้มนุษย์สูญเสียความเป็นตัวเอง ในนิทรรศการ ซ่อนอยาก | ศิลปะ-บันเทิง | ความปรารถนา,ซ่อนอยาก,ซ่อนเร้น,นิทรรศการ,บริโภคนิยม,ผลงาน,รัฐภูมิ | https://news.thaipbs.or.th/content/129482 |
น.1 นำ สืบ บก.น.5 ทองหล่อ ทลายโกดังปลูกกัญชาข้ามชาติ ขายผ่านออนไลน์ | ผบช.น. นำ สืบ บก.น.5 สืบ สน.ทองหล่อ ทลายโกดังปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศขนาดใหญ่ เพื่อส่งขายผ่านออนไลน์ข้ามชาติ ย่านประเวศ พบของกลางมากกว่า 1 พันต้น มูลค่าหลายล้านบาท โดยผู้ต้องหาสัญชาติจีน ฮ่องกง รวม 4 คนได้ตัดไฟในโกดังก่อนหลบหนีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้าตรวจยึดโกดังปลูกกัญชา ภายในซอยอ่อนนุช 82 ซึ่งมี นายวู ดิง บิน สัญชาติจีน เป็นเจ้าของ สามารถยึดต้นกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศมากกว่า 1 พันต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มาขอเช่าโกดังแห่งนี้นานประมาณ 8 เดือน ในราคาเดือนละ 45000 บาท โดยปลูกกัญชาเพื่อส่งขายผ่านออนไลน์ ในราคากิโลกรัมละ 250000-700000 บาท สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ตำรวจพบหลักฐานหลายส่วน อาทิ ภาพการเข้า-ออกโกดังพร้อมกระเป๋าใหญ่ และค่าไฟแพงผิดปกติ ถึงเดือนละ 70000 บาททั้งนี้ ผลจากการตรวจค้นโกดัง ตำรวจพบกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นลูกน้องนายวู ดิง บิน สัญชาติจีน 1 คน และฮ่องกง 3 คนได้ทำการตัดไฟภายในโกดังดังกล่าว ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดตามผู้ต้องหาอีก 4 คนที่หลบหนีไปมาดำเนินคดีอย่างไรก็ตาม การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจสืบสวน สน.ทองหล่อ มีการเข้าจับกุม นายโฮ ยิน มา อายุ 36 ปี เครือข่ายค้ากัญชาข้ามชาติ ผู้ต้องหาที่มาขอเช่าพักและดัดแปลงอาคารพาณิชย์ ภายในซอยรามคำแหง 27 เป็นสถานที่เพาะปลูกต้นกัญชา เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม โดยผู้ต้องหาให้การซัดทอด นายวู ดิง บิน เป็นผู้ร่วมขบวนการก่อนปฏิบัติการตรวจค้นโกดังวันนี้. | ผบช.น. นำ สืบ บก.น.5 ทลายโกดังปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศขนาดใหญ่ เพื่อส่งขายผ่านออนไลน์ข้ามชาติ ย่านประเวศ พบของกลางมากกว่า 1 พันต้น มูลค่าหลายล้านบาท โดยผู้ต้องหาสัญชาติจีน ฮ่องกง รวม 4 | ข่าว,อาชญากรรม | ทลายโกดังกัญชา,กัญชาข้ามชาติ,จับกัญชา 1 พันตัน,กัญชาขายออนไลน์,ผบช.น.1.,สืบ บก.น.5,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1859364 |
นายกฯ ขออย่าตื่นตระหนกเหตุระเบิด ยัน รบ. ดูแลประเทศเต็มที่ | ,วันที่ 12 สิงหาคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พร้อมกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล รวมถึงปลูกต้นราชพฤกษ์ และเยี่ยมชมสวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 1,พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอพูดนอกเหนือจากงานพิธี แต่พยายามในการสร้างความเข้าใจข้าราชการและประชาชนทุกคน เพราะสิ่งที่เรามาร่วมกันทำวันนี้อยู่ในความทรงจำของทุกคน ซึ่งรัฐบาลจะเดินตามพระราชเสาวนีย์ ในการขับเคลื่อนบริหารราชการแผ่นดิน และวันนี้ถึงเวลาที่ทุกคนทำเพื่อถวายให้พระองค์ท่านให้ทรงสบายพระราชหฤทัย ให้สมกับที่พระองค์ท่านได้ทำเพื่อคนไทย,พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนไทยทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คนไทยที่ไม่มีจิตใจเป็นคนไทยและสร้างปัญหามาตลอด และวันนี้ก็ยังสร้างปัญหาให้ต้องแก้ไขให้รับผลกรรมจากการทำความชั่ว พร้อมยืนยันเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รัฐบาลทำเต็มที่ในการดูแลให้ประเทศมั่นคง และขออย่าตื่นตระหนก เราต้องรวมพลังทำทุกอย่างให้เกิดความเข้มแข็ง เหมือนที่เรามาร่วมกันทำกิจกรรมวันนี้เพื่อลูกหลาน ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนรวมพลัง จากนี้ไปบ้านเมืองต้องอาศัยพวกเราทุกคนปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่มีใครทำได้นอกจากเราช่วยกัน. | นายกฯ ระบุคนไทยที่ไม่มีจิตใจเป็นคนไทย กำลังสร้างปัญหาให้คนไทยรับกรรม ยันเหตุระเบิด รัฐบาลทำเต็มที่ให้ประเทศมั่นคง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก | null | ระเบิดป่วนเมือง,ระเบิด2559,ระเบิด หัวหิน,ระเบิด ตรัง,ระเบิด ภูเก็ต,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์,วางระเบิด,หน่วยอีโอดี,EOD | https://www.thairath.co.th/content/688586 |
กลัวองค์กรอิสระไม่อิสระ | แม้จะมีกรรมการหลายคนขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญใหม่ แต่บางองค์กรถูกรีเซ็ต โละพ้นตำแหน่งทั้งคณะต้องสรรหาใหม่ โดยไม่มีคำชี้แจงว่าทำไมจึงสองมาตรฐาน,ในเวทีเสวนาที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ให้องค์กรอิสระทุกองค์กรอยู่ต่อไปจนครบวาระ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้ออกกฎหมายชี้ขาดว่าจะให้ใครอยู่จะให้ใครไป,ผลก็คือการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน การเลือกปฏิบัติให้ ป.ป.ช., ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้กรรมการบางองค์กรจะมีปัญหาคุณสมบัติ แต่ขณะเดียวกัน สนช. กลับโละคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อเริ่มกระบวนการสรรหา และแต่งตั้ง กันใหม่,ดร.บรรเจิดมองว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นการเมืองที่ฝ่ายการเมืองโจมตีในภายหลัง จึงควรมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้ชัดเจน แม้แต่นายสมชาย แสวงการ สนช. ผู้ร่วมวงเสวนาด้วย ก็ยอมรับว่าตามหลักการ ควรให้องค์กรอิสระอยู่ทั้งหมดยกเว้น กสม. ซึ่งต้องสรรหาใหม่ตามหลักสากล เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ,รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นฉบับแรกที่ให้ สนช.มีอำนาจชี้ขาดเรื่ององค์กรอิสระเพราะ สนช.ต้องทำหน้าที่แทนวุฒิสภามาตั้งแต่รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ต่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ที่ให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบขั้นสุดท้ายในการแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆ ส.ว.จากรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ มีทั้งมาจากเลือกตั้งล้วนๆ บางส่วนมาจากสรรหา,ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหา มีความเป็นอิสระมากกว่า สนช. จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญ คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ มีอำนาจตรวจสอบการใช้อำนาจทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติส่วน สนช. เป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สาย มาจากการแต่งตั้ง หรือมีต้นกำเนิดจาก คสช. จึงขาดความเป็นอิสระ แต่กลายเป็นผู้มีอำนาจในการชี้ชะตาองค์กรอิสระ,แม้ สนช.จะสิ้นสภาพไปหลังการเลือกตั้ง และมีวุฒิสภามารับหน้าที่แทน แต่เป็น ส.ว.ชุดแรกที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. และจะต้องเป็นองค์กรที่ให้ความเห็นชอบ ในการแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆ เรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งก็คือ ถ้า ส.ว.ถูกแทรกแซงได้ องค์กรอิสระต่างๆก็อาจถูกการเมืองแทรกแซงได้ เท่ากับทำลายระบบตรวจสอบและทำลายประชาธิปไตย. | ถึงแม้เรื่องจะยุติไปนานแล้ว แต่ยังมีเสียงวิจารณ์อย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับองค์กรอิสระในยุค คสช. บางองค์กรถูกอุ้มให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระ | null | องค์กรอิสระ,คสช.,บทบรรณาธิการ,สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย,ศาลรัฐธรรมนูญ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/newspaper/page1/1306557 |
บิ๊กโจ๊ก แถลง ปิดล้อมตรวจค้นต่างด้าวผิด ก.ม. จับผู้ต้องหาได้ 123 คน | เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 23 มี.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, หน่วยอรินทราช 26, หน่วยรบสยบไพรี, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสน.พญาไท บูรณาการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 108 จุด ทั่วประเทศ ตามยุทธการ x-ray outlaw foreigner ครั้งที่ 5 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 123 ราย,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า ยุทธการดังกล่าวเป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในการกวาดล้างตรวจค้นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ ที่อาจแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศ เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมบัตรเครดิต, กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน, กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต, กลุ่ทคนหลอกลวงนำเพชรปลอมมาจำหน่าย และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า โดยผลการกวาดล้าง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดทั่วประเทศ จำนวน 123 คน แบ่งเป็น ฐานความผิดข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต จำนวน 17 ราย สัญชาติอินเดีย 9 ราย กัมพูชา 2 ราย ปากีสถาน 2 ราย จีน 1 ราย เมียนมา 1 ราย เคนยา 1 ราย และอียิป 1 ราย จากการตรวจสอบ พบว่าในนี้มี 5 ราย ที่อยู่ในประเทศมากกว่า 2 ปี คือ นางยู กวง อายุ 38 ปี ชาวจีน อยู่ จ.เชียงราย อยู่เกิน 12 ปี, นายโกมาล ดีพ อายุ 24 ปี ชาวอินเดีย อยู่ จ.ชลบุรี อยู่เกิน 3 ปี, นายอามานดีพ ซิงส์ อายุ 27 ปี ชาวอินเดีย อยู่ จ.ชลบุรี อยู่เกิน 2 ปี, นายวิเรนดรา วาเดฟ ชาวอินเดีย อายุ 35 ปี อยู่ จ.กรุงเทพฯ อยู่เกิน 2 ปี และนายฮาน โซพี ชาวกัมพูชา อยู่ จ.สระแก้ว อยู่เกิน 2 ปี,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า และจับกุมข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 91 ราย สัญชาติเมียนมา 62 ราย, ลาว 14 ราย, กัมพูชา 4 ราย, เวียดนาม 3 ราย, อินเดีย 3 ราย ปากีสถาน 3 ราย, เบลเยียม 1 ราย, และออสเตรเลีย 1 ราย และจับกุมข้อหาอื่นๆ อีก 15 ราย สัญชาติเวียดนาม 5 ราย, เมียนมา 3 ราย อินเดีย 2 ราย, อังกฤษ 2 ราย, ไทย 2 ราย, และฝรังเศส 1 ราย จากการตรวจสอบครั้งนี้ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 108 เป้าหมาย แบ่งเป็นสถานศึกษา 49 เป้าหมาย และบ้านพัก 59 เป้าหมาย,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ในส่วนของสถานศึกษาที่ชาวต่างชาติเข้ามายื่นขอวีซ่าอยู่ต่อประเภท non-ed ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่จะแฝงตัวมาก่ออาชญากรรม ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีแนวทางปฏิบัติร่วมกับสถานศึกษา ให้ขาดเรียนได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจตารางเรียน หากพบว่า ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุจำเป็น และไม่มีการบอกลากับทางโรงเรียน จะดำเนินการยกเลิกวีซ่าให้พ้นจากสภาพการเป็นนักเรียน ซึ่งในเดือน มี.ค.ปีนี้ มีการยกเลิกไปแล้วจำนวน 4 ราย และหากพบว่า โรงเรียนใดมีการปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบชาวต่างชาติจะถือว่า มีความผิดข้อหาให้ที่พักพิงต่อบุคคลต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย,รวมยุทธการทั้ง 5 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 2,346 เป้าหมาย และ จับกุมผู้กระทำผิดได้ 490 คน. | ตร.ท่องเที่ยว แถลง มาตรการบูรณาการ ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายต่างด้าวอยู่ในไทยผิดกฎหมาย จำนวน 108 จุด ทั่วประเทศ ครั้งที่ 5 จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 123 ราย | ข่าว,ทั่วไทย | บิ๊กโจ๊ก,ต่างด้าว,ปิดล้อมตรวจค้น,จับผู้ต้องหา 123 ราย,สุรเชษฐ์ หักพาล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1236314 |
ตชด.ไทย ร่วมมือ ตร.มาเลย์ จับคนร้าย หนีคดีลักทรัพย์10 ล. กบดาน อ.เบตง | เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่บริเวณด่านพรมแดนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา พ.ต.ท.สุเทพ ชูแก้ว ผบ.ร้อย.ตชด.445 ได้นำตัวนายABD KADER JALAINI BIN MOHAMED ALL อายุ 33 ปี ชาวมาเลเซีย ส่งให้กับ พ.ต.ท.YUSRI BIN MAHMOD หัวหน้าหน่วยสืบสวนชายแดนมาเลเซีย หลังจากที่ ร.ต.ท.วสุพล คชวงค์ รอง ผบ.ร้อย.ตชด.445 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการงานข่าว ตชด.445 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลไทย ประจำรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษประเทศมาเลเซีย จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำ ถนนแกรนด์วิลล่า ซอย11 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา,พ.ต.ท.สุเทพ ชูแก้ว ผบ.ร้อย.ตชด.445 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้รับการประสานจากตำรวจหน่วยสืบสวนชายแดนมาเลเซีย ว่า นายABD KADER JALAINI BIN MOHAMED ALL ได้หนีหมายจับของศาลประเทศมาเลเซีย ในข้อหาลักทรัพย์ไมโครชิปคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท มาหลบซ่อนตัวในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.วสุพล คชวงค์ รอง ผบ.ร้อย.ตชด.445 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการงานข่าว ร่วมกับ ตำรวจสันติบาลไทย ประจำรัฐเคด้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษประเทศมาเลเซีย ออกสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวและส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย นำตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ต่อไป | เบตง ตชด.445 ร่วม ตร.มาเลเซีย จับตัวชาวมาเลเซีย หนีคดีลักทรัพย์มูลค่ากว่า10 ล้านบาท มาซ่อนตัวที่ อ.เบตง ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี | null | เบตง,มาเลยเซีย,ตชด.ไทย,ร่วมมือ,ตำรวจมาเลยเซีย,จับกุม,หนีคดี,ลักทรัพย์,มูลค่า10ล้านบาท,กบดาน,ยะลา,ด่านพรมแดนอำเภอเบตง,สุเทพ ชูแก้ว,ผบ.ร้อย.ตชด.445,ตชด.445,หมายจับ,ไมโครชิปคอมพิวเตอร์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/550117 |
สุดดีใจ เจ้าของปล่อยโฮ หลังพบบิ๊กบู สุนัขตกรถ หายไป 7 เดือน | กรณี นายธงชัย ใจสบาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งสื่อมวลชนว่ามีสุนัขตัวหนึ่งตกจากรถระหว่างทางริมถนน 401 ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ที่บริเวณเขาหัวช้าง ซึ่งอาศัยอยู่ริมทางกว่า 7 เดือนแล้ว ชาวบ้านสงสารทำที่พักให้สุนัขริมทาง ตอนเช้าจะไปอยู่กลางถนนและตอนเย็นจะอยู่ริมถนนทุกวันเพื่อรอเจ้าของมารับ พบสุนัขพันธุ์ผสม เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี สีน้ำตาลดำ อารมณ์ดี เมื่อเห็นคนมาเจ้าสุนัขก็วิ่งออกมาจากที่พักริมถนน ซึ่งชาวบ้านได้ทำไว้ให้กันฝน โดยใช้ถุงพลาสติกขนาดกว้าง 2 เมตรยาว 4 เมตร เพื่อใช้กันฝน และมีโซฟาเก่าๆ อีก 1 ตัว เพื่อใช้สำหรับให้สุนัขนอน และอาศัยผลปาล์มที่รถบรรทุกทำหล่นบนถนนประทังชีวิตอย่างน่าสงสารตามข่าวนั้น,เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 59 หลังสื่อมวลชนได้เสนอข่าวสุนัขพลัดตกจากรถตัวดังกล่าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หมาหลง ออกไปตามสื่อต่างๆ แล้ว ปรากฏว่าเมื่อเวลา 14.00 น. ได้มีนายถาวร สังข์บัว อายุ 50 ปีอาชีพเจ้าของสวนปาล์ม อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 15 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเมียและลูกๆ รวมจำนวน 5 คน ได้เดินทางมาพบกับนายธงชัย ใจสบาย ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ควนทอง เพื่อติดต่อขอรับสุนัขตัวดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว ชื่อ บิ๊กบู โดยเมื่อประมาณเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ตนได้ขับรถกระบะมาสด้าตอนครึ่ง สีดำทะเบียน บษ 2152 สุราษฎร์ธานี จาก อ.ท่าชนะ มาเยี่ยมพ่อที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยตนได้ขับรถมาตามถนนสายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช มีลูกเมียนั่งมาในรถด้วย และใช้เชือกผูกมัดสุนัขตัวดังกล่าวไว้หลังรถ ซึ่งขณะนั้นเป็นลูกสุนัขอายเพียง 9 เดือนเท่านั้น ปรากฏว่า พอขับรถมาถึงปั๊มน้ำมัน อ.สิชล ก็ไม่พบลูกสุนัขตัวดังกล่าวหรือ บิ๊กบู เหลือเพียงแต่เชือกเท่านั้น สงสัยว่าจะตกจากรถ จึงขับรถวนไปหาหลายรอบก็ไม่เจอเข้าใจว่า เสียชีวิตแล้ว จึงขับรถต่อไปยัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และจู่ๆ วันนี้ น.ส.สุนิสา ลูกสาววัย 22 ปี ก็มาบอกกับตนว่า เห็นข่าว มีชาวบ้านเจอสุนัข หรือ บิ๊กบู แล้วที่ริมถนนบริเวณสามแยกคลองเหลง หมู่ 10 ต.ควนทอง ตนจึงเดินทางมาติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอรับสุนัขของตนกลับไปดูแลต่อไป,ปรากฏว่า เมื่อ นายถาวร และลูกเมีย เดินทางไปเจอเจ้า บิ๊กบู ถึงกับดีใจน้ำตาไหล แต่เจ้าบิ๊กบู ยังมีท่าทางจำไม่ค่อยได้ และยังไม่แน่ใจว่า ใช่เจ้าของหรือไม่ แต่พอนายถาวร และลูกๆ เข้ากอดลูบคลำและเอาผลปาล์มไปให้เจ้าบิ๊กบูกิน เพราะเจ้าของรู้ดีว่า บิ๊กบู ชอบกินผลปาล์มเนื่องจากอาศัยอยู่ในสวนปาล์ม และชอบกินผลปาล์มมาตั้งแต่เกิด เจ้าบิ๊กบูถึงกับแสดงอาการดีใจที่ได้เจอเจ้าของ หลังจากที่ได้พลัดพรากจากกันนานถึง 7 เดือน และนั่งเฝ้ารอเจ้าของริมถนนมารับกลับบ้านจนสำเร็จดังกล่าว ท่ามกลางความดีใจของชาวบ้านละแวกนั้น ที่คอยดูและให้อาหารเจ้า บิ๊กบู นาน 7 เดือน ก่อนเจ้าของจะพาสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นรถกระบะกลับบ้านเกิดที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นทั้งคนและสุนัข | ครอบครัวหนุ่มสุราษฎร์ฯ เข้าพบผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เมืองคอน แสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้า บิ๊กบู สุนัขตกรถ เพศผู้ อารมณ์ดี เผยวินาทีแรกที่เจอหน้ากลับเฉย แต่พอถูกลูบคลำและเอาผลปาล์มให้กินกลับแสดงความดีใจ | null | สุนัขตกรถ,น้องหมาตกรถ,บิ๊กบู,สุนัขพลัดหลง,หมานั่งรอเจ้าของ,ที่พักสุนัขริมทาง,สุนัขพันธุ์ผสม,หมาตกรถกระบะ,สุนัขกินผลปาล์ม,เจ้าบิ๊กบู,หมาหลง,ขอรับสุนัขคืน,อ.ขนอม,นครศรีธรรมราช,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/564487 |
รอง ผอ.องค์การอนามัยโลกย้ำไทยเป็น 1 ในประเทศที่หลักประกันสุขภาพดีสุดในโลก | เผยหากไม่มีบัตรทอง 30 บาทคงตายไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา แพทย์หญิงซอมญ่า สะวามินาทาน (Dr.Soumya Swaminathan) รองผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ลงพื้นที่ ณ โรงพยาบาลน้ำพอง และเทศบาลตำบลสะอาด อ.น้ำพอง เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนการสร้างหลักประกันสุขภาพ และการจัดการระบบสาธารณสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ชนบท โดยมี นพ.วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพองและคณะ พร้อมด้วย นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 7 ขอนแก่น และคณะให้การต้อนรับพญ.ซอมญ่า และคณะได้เดินทางไป ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ เพ็ญศิลป์ พิมพิสาร อายุ 69 ปี ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง (CAPD) มาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์เพ็ญศิลป์ กล่าวว่า เมื่อแรกทราบว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังและได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลน้ำพองไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่นนั้น มีความกังวลใจอย่างมาก เพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินค่าฟอกไต แต่เมื่อได้ทราบว่าตนใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมีสิทธิได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการล้างไตผ่านทางช่องท้อง ตนก็มีความหวังในการรักษา แพทย์ พยาบาล ทั้งที่โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลน้ำพอง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะอาด อสม.ซึ่งอยู่ใกล้บ้านก็ดูแลอย่างดี ทำให้ตนอยู่มาได้จนทุกวันนี้เพ็ญศิลป์ กล่าวว่า หากไม่มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ตนคงต้องตายไปนานแล้ว เพราะไม่มีเงินจะไปฟอกเลือดที่ต้องจ่ายครั้งละประมาณ 1500 – 2000 บาท และต้องฟอกเลือดเดือนละหลายครั้ง แต่พอใช้สิทธิบัตรทองเพื่อล้างไตทางช่องท้องก็ไม่ต้องเสียเงินมาก เพราะได้จ่ายเพิ่มเฉพาะค่าอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องการเพิ่มเป็นพิเศษเท่านั้น ส่วนน้ำยาล้างไตก็ส่งตรงมาถึงบ้าน ตั้งแต่ตนล้างไตด้วยวิธีนี้มา 6 ปี เคยติดเชื้อเพียงครั้งเดียว เพราะวันนั้นรีบไปธุระไม่ได้รอให้จบกระบวนการล้างไตตามที่เคยทำมาเป็นปกติจึงทำให้ติดเชื้อ แต่ก็ได้รับการดูแลรักษาทันท่วงที หลังจากนั้นมาก็ดำเนินตามวิธีการล้างไตทางช่องท้องที่ได้รับการอบรมจากโรงพยาบาลขอนแก่นอย่างเคร่งครัด ก็ไม่มีปัญหาด้านการติดเชื้ออีกเลยเพ็ญศิลป์ กล่าวต่อว่า ภายหลังการรักษาโรคด้วยด้วยการล้างไตทางช่องท้องทำให้ตนมีชีวิตมาจนทุกวันนี้ จากที่อ่อนแรง ไม่ค่อยรู้สึกตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงกว่า 2 เดือน ภายหลังได้รับรักษาด้วยการล้างไตทางช่องท้อง มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นปกติกว่า 6 ปี ร่วมกับลูกหลานและคนในชุมชน เช่น ไปวัดทำบุญ เดินออกกำลังกายรอบชุมชนพญ.ซอมญ่า กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ศึกษาดูงานการจัดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นว่า องค์การอนามัยโลกได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ประชากรทั่วโลก เข้าถึงหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้าภายใน 5 ปี โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศตัวอย่างที่ดีมากในการจัดการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะมีการบริหารจัดการงบประมาณที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่ได้มีแค่การรักษาพยาบาล แต่ครอบคลุมไปถึงการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมถภาพทางการแพทย์ จนสามารถเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆ ได้พญ.ซอมญ่า กล่าวว่า จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ตนได้เห็นการทำงานของหน่วยบริการสาธารณสุขหลายระดับ และยังได้เห็นถึงความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ กระทรวงสาธารณสุข สปสช. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนถึงภาคประชาชน ชุมชน ที่เป็นอาสาสมัคร และผู้ดูแลสุขภาพในชุมชน (Care giver) ที่มีกระบวนการทำงานที่หลากหลายเหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ ทำให้คนไทยได้รับบริการสาธาณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ในเมือง หรือชนบท ซึ่งตนจะได้นำสิ่งที่ได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ไปนำเสนอให้ประเทศอื่นๆ ที่ต้องการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพต่อไปพญ.ซอมญ่า กล่าวว่า แม้ว่าระบบบริการสาธารณสุขจะพัฒนาไปจนทำให้โรคติดต่อที่เป็นปัญหาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เช่น การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคติดต่ออื่นๆ ลดลง แต่ทั่วโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางด้านสาธารณสุขใหม่ ๆ คือ 1.การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ 2.ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคเกลือและน้ำตาลมากเกินไป ซึ่งจะต้องแก้ไขด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือที่ดีจากปัจเจกบุคคล ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บุคลากรทางสาธารณสุขซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 3.การลดอุบัติเหตุทางถนน 4.การป้องกันการติดเชื้อวัณโรค ซึ่งไทยมีระบบการรักษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน แต่ยังพบว่าผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มมากขึ้นทุกปีพญ.ซอมญ่า กล่าวต่อว่า การได้มาลงพื้นที่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการทำงานจริงของหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นข้อมูลในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนในด้านนโยบายโรคไม่ติดต่อกับผู้บริหารระดับสูงจากทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อต่อไป ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกพร้อมจะร่วมมือและสนับสนุนประเทศไทยเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการดำเนินงานในประเทศไทย และสามารถจัดทำรายงานการดำเนินงาน และรวบรวมองค์ความรู้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย เพื่อให้ประเทศอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้เข้ามาศึกษางานหลักประกันสุขภาพในประเทศไทยด้วยตนเองจะได้ศึกษาจากเอกสารรายงานที่ทำขึ้นนี้ และนำไปการพัฒนาสุขภาพโลกต่อไป | รองผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก ย้ำไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบหลักประกันสุขภาพที่ดีที่สุดในโลก ด้านผู้ป่วยโรคไตเชื่อมั่นวิธีการล้างไตผ่านทางหน้าช่องท้อง โดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาททำให้มีชีวิตรอด | คุณภาพชีวิต | ซอมญ่า สะวามินาทาน,สปสช.,องค์การอนามัยโลก,บัตรทอง,ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ,WHO,โรคไตวายเรื้อรัง | https://prachatai.com/journal/2018/08/78473 |
กุนซืออิรักประกาศลาทีม เล็งโค้ชต่างชาติเสียบแทน | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 17 มิ.ย. ว่า อัคราม ซัลมาน กุนซือทีมชาติอิรัก ประกาศลาออกจากทีมเป็นที่เรียบร้อย โดยทางสหพันธ์ฟุตบอลอิรัก ตั้งเป้าหมายเฟ้นหาโค้ชชาวต่างชาติเข้ามารับงานแทน,เฮดโค้ชวัย 69 ปี เข้ามารับงานกับทีมชาติอิรัก เป็นหนที่ 2 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 และเพิ่งพาทีมพ่ายให้กับทีมญี่ปุ่น 0-4 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มเอฟ อิรัก อยู่ในกลุ่มเดียวกับ ไทย, เวียดนาม และ ไต้หวัน ซึ่งมีโปรแกรมเปิดรายการพบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 3 กันยายนนี้,อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทาง ฟาเลห์ มุสซา สมาชิกสหพันธ์ฯ ได้เป็นตัวแทนออกมายืนยันว่า ซัลมานได้ลาออกจากการคุมทีมแล้ว โดยกล่าวว่า อัคราม ซัลมาน โค้ชทีมชาติได้ลาออกจากการทำหน้าที่คุมทีมทำศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ในรอบคัดเลือกแล้ว โดยทางสหพันธ์ได้พูดถึงเรื่องการลาออกในระหว่างการประชุมวันนี้ และตัดสินใจยอมรับในการลาออกของโค้ช,นอกจากนี้ทางสหพันธ์ได้ตัดสินใจให้ นิชาร์ อัชราฟ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม และ อิมาด ฮาเซ็ม กรรมการเทคนิคอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อช่วยพิจารณาเลือกโค้ชชาวต่างชาติเข้ามารับหน้าที่นี้,ทั้งนี้ สหพันธ์ฟุตบอลอิรัก ได้แต่งตั้ง ยะยาห์ อัลวาน เฮดโค้ชของทีมชาติชุด ยู 23 ขึ้นมารักษาการแทนสำหรับเกมอุ่นเครื่องที่จะดวลกับทีมซีเรีย วันที่ 27 มิถุนายนนี้ | อัคราม ซัลมาน กุนซือทีมชาติอิรัก ประกาศลาออกจากทีม พร้อมตั้งโค้ชชุด ยู 23 คุมขัดตาทัพ โดยทางสหพันธ์ฟุตบอลอิรัก ตั้งเป้าเฟ้นหาโค้ชต่างชาติคุมทีมแทน… | null | อัคราม ซัลมาน,อิรัก,สหพันธ์ฟุตบอลอิรัก,ยะยาห์ อัลวาน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ฟุตบอลโลก 2018 | https://www.thairath.co.th/content/505712 |
ร่วมซ้อมปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad คึก | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 กำหนดจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 11 ธ.ค.นี้ว่า จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้มาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 2-10 พ.ย. มีจำนวน 2,485 คน เป็นชาย 1,539 คน หญิง 945 คน ชาวต่างชาติ 1 คน ผู้ร่วมปั่นอายุสูงสุด 73 ปี กำหนดเส้นทางปั่น 17 กม. จากนั้น ผวจ.แม่ฮ่องสอน พร้อมส่วนราชการและประชาชนกว่า 400 คน ได้ร่วมกันซ้อมปั่นจักรยานตามเส้นทางที่กำหนด โดยออกจากจุดสตาร์ตบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่าท่ามกลางฝนตกลงมาโปรยปรายแต่ทุกคนร่วมซ้อมปั่นจนครบตามกำหนดเส้นทาง,จ.อุตรดิตถ์ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.อุตรดิตถ์ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน กว่า 50 คน ร่วมซ้อมปั่นจักรยาน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ตามเส้นทางที่กำหนด จำนวน 29 กม. ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ ซุ้มประตูเมืองลับแล อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ วัดเสาหิน วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง ซึ่งมีหอคำแก้ว อนุสรณ์สถานการเสด็จเยี่ยมราษฎรของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง วัดคลองโพธิ์พระอารามหลวง วัดท่าถนน วัดธรรมาธิปไตย และอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก นายสุรศักดิ์กล่าวว่า ขอให้ประชาชนชาว จ.อุตรดิตถ์ เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ให้มากที่สุดเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ และส่งเสริมสุขภาพ จึงขอเชิญชวนมาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ในวันที่ 11 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ. | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ห้องโถงศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ. แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการเตรียมพร้อมจัดกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ | ข่าว,ทั่วไทย | Bike for Dad,ปั่นเพื่อพ่อ,ซ้อมปั่นจักรยาน,พิพัฒน์ เอกภาพันธ์,แม่ฮ่องสอน,สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ,อุตรดิตถ์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/news/local/539109 |
เมย์ ใจอ่อนมั้ย? เปิดใจ สารวัตรโจ้ ทุ่มซื้อบิลบอร์ดทางด่วนแฮปปี้เบิร์ธเดย์ | ยอมใจ สารวัตรโจ้ พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล จริงๆ เพราะหลังจากวันนี้มีเรื่องฮือฮากับบิลบอร์ดโฆษณาริมทางด่วนมีป้ายบิ๊กบึ้มบอก แฮปปี้เบิร์ธเดย์นางร้ายหน้าสวย เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร ที่เกิดวันนี้ (22 พ.ค.) งานนี้ฮือฮาหาตัวคนทำอยู่นานสุดท้ายก็เฉลยว่าเป็นผลงานของ สารวัตรโจ้ ที่ทำเพื่อ เมย์ เรื่องนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ต่อสายด่วนไปถามจากปาก สารวัตรโจ้,บิลบอร์ดของสารวัตรโจ้ใช่มั้ยคะ ใช่ครับแถวทางก่อนลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ป๋ามากจริงๆ อันนี้ ลงทุนไปเยอะมั้ยเอ่ย ไม่หรอกครับ ผมลงแค่จุดเดียว คิดอย่างไรถึงทำ ก็อยากทำอะไรดีๆ ให้เขา ก็ตามที่เขียนในอินสตาแกรมมันเป็นความรู้สึกของผมที่มาจากใจจริงๆ ,มีฟีดแบ็กจากเมย์มาหรือยังค่ะ อันนี้ผมขอเงียบไว้ดีกว่าครับ ให้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่เมย์เขาก็เห็นแล้ว ความสัมพันธ์ตอนนี้คืบหน้าขึ้นมั้ยจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า อันนี้ก็ขอเงียบดีกว่า ถ้าเกิดมีอะไรคืบหน้าไปในทางที่ดี แล้วเดี๋ยวผมจะค่อยว่ากันทีเดียว ตอนนี้งานค่อนข้างยุ่ง ผมเองทำเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ยี่ห้อ juicenest เป็นน้ำองุ่นขาวผสมรังนก นี่ก็เพิ่งกลับจากรับรางวัลที่จีนมาครับในงานฟู้ดแอนด์เบเวอร์เรจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเป็นโปรดักซ์ไทยตัวเดียวที่ได้รางวัลนี้มา ส่วนทุกอย่างที่ทำเพื่อเมย์ ก็ตามความรู้สึกที่แจ้งในอินสตาแกรมเลยครับ,โดยในอินสตาแกรมของสารวัตรโจ้ @joe_thitisan โพสต์ข้อความว่า เมย์ครับ ทุกๆ คนครับ โจ้นะครับ ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษ คุณพ่อคุณแม่เมย์ ครอบครัวเมย์ ขอโทษเพื่อนๆ เมย์ และประชาชนทุกๆ คนที่รักเมย์ด้วยครับ สำหรับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมขอยอมรับว่าทั้งหมดเป็นความผิดของผมคนเดียวครับ ที่บางครั้งผมน้อยใจ เสียใจ พูดอะไร ทำอะไรเกินไป ในบางครั้งเพราะผมรักเมย์เค้ามากจริงๆ ครับ วันนี้ผมเสียใจ และผมเสียใจที่เสียคนที่ผมรักที่สุดไป วันนี้เป็นวันเกิดเมย์ โจ้ขอให้เมย์มีความสุขมากๆ นะครับ ขอให้เมย์สมหวังในทุกๆ เรื่องครับ โจ้ยังรักเมย์นะ และจะอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้เมย์ตลอดไปนะครับ HAPPY BIRTHDAY ครับ,ทั้งนี้ สารวัตรโจ้ คนนี้เคยสร้างเซอร์ไพรส์ให้ เมย์ พิชญ์นาฏ โดยจัดงานขอแต่งงานสุดหวาน ที่มีเพื่อนๆ ของฝ่ายหญิงมาร่วมยินดีมากมายรวมถึงซุปเปอร์สตาร์สาว อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ รุ่นพี่คนสนิทของเมย์ แต่ที่สุด เมย์ ก็ออกตัวว่ายังไม่พร้อม ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีเรื่องราวต่างๆ ตามมาอีกมากมายจนเป็นข่าวเกรียวกราว ถึงขั้น เมย์ ตัดสินใจขายนาฬิกาหรูหลักล้านที่ฝ่ายชายซื้อให้ และล่าสุดกับประเด็นร้อน เมย์ เผยในอินสตาแกรมว่า สารวัตรโจ้ ส่งคนตาม. | ยอมใจ สารวัตรโจ้ พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล จริงๆ เพราะหลังจากวันนี้มีเรื่องฮือฮากับบิลบอร์ดโฆษณาริมทางด่วนมีป้ายบิ๊กบึ้มบอก แฮปปี้เบิร์ธเดย์นางร้ายหน้าสวย เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร | null | เมย์ สารวัตรโจ้,เมย์,เมย์ พิชญ์นาฏ,พิชญ์นาฏ สาขากร,สารวัตรโจ้,พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล,สารวัตรโจ้ พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล,ธิติสรรค์ อุทธนพล,บิลบอร์ดทางด่วน,บิลบอร์ดทางด่วนวันเกิดเมย์,วันเกิดเมย์พิชญ์นาฏ,ป้ายทางด่วน,ทางด่วนอนุเสาวรีย์,สารวัตรโจ้เซอร์ไพรส์เมย์,สารวัตรโจ้วันเกิดเมย์,แฮปปี้เบิร์ทเดย์เมย์,ข่าว,ข่าวไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/500493 |
ปล้นรถ ปล้นปืน เผย 8 ศพกระบี่ เป็นไปได้ทีมฆ่าถูกสั่งตรงจากชายแดนใต้ | วันที่ 12 ก.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ เสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย นอกจากประเด็นเรื่องอาวุธปืนที่คนร้ายนำปืนขนาด .38 ของเจ้าของบ้าน ยิงคนทั้ง 11 คน และภาพสเกตช์ของผู้ต้องสงสัย เป็นคนร้าย 1 รายแล้ว ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงรถยนต์ที่คนร้ายปล้นเอาไปพร้อมอาวุธปืนบางส่วนของผู้ใหญ่บ้านหลบหนีไปด้วย และมีการทำลายกล้องวงจรปิด กับฮาร์ดดิสก์บันทึกข้อมูล ,นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยอมรับว่าพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่ปล้นรถยนต์ และอาวุธปืนบางส่วนของผู้ใหญ่บ้านไปหลังก่อเหตุนั้น คล้ายกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจะเป็นการว่าจ้างคนร้ายจากพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ขึ้นมาก่อเหตุหรือไม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง,สำหรับพยาน 3 ปากที่รอดชีวิตจากที่เกิดเหตุ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปคุ้มครองดูแลความปลอดภัย เนื่องจากเป็นพยานปากสำคัญที่อยู่ใกล้ชิดในเหตุการณ์,ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 วันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะลงพื้นที่ไปเร่งรัดคดี และมั่นใจว่าจะได้ตัวคนที่ก่อเหตุ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกำชับว่า จะต้องจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด,เบื้องต้น การตั้งธงในการสืบสวนสอบสวน 4 ประเด็น ประกอบด้วยปมขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่น ระดับ นายก อบต.แห่งหนึ่ง ประเด็นพิพาทก่อสร้างโรงโม่หิน ประเด็นความขัดแย้งเรื่องการบุกรุกที่ดิน ที่ทาง นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน เป็นโจทย์ยื่นฟ้องไล่ที่ชาวบ้าน จำนวน 8 ราย และปมความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด. | จักรทิพย์ ยอมรับ พฤติกรรมคนร้ายฆ่ายกครัว 8 ศพที่กระบี่ คล้ายการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบชายแดนใต้ พบมีการปล้นรถและอาวุธปืนของผู้เสียชีวิต เผยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เตรียมลงพื้นที่เร่งรัดคดีอีกครั้ง | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่า8ศพ,ฆ่ายกครัว,ฆ่าล้างครัว,ฆ่าล้างครัวผู้ใหญ่บ้าน,กระบี่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1002137 |
ญาติรับศพ ชรบ.ลำพะยา ประกอบพิธีทางศาสนา | วันนี้ (7 พ.ย.2562) ที่วัดลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุยิงถล่มจุดตรวจชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บ 5 คน ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติเดินทางไปรอรับร่างผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง จ.ยะลา เพื่อนำมาจัดพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลต่าง ๆ โดยวัดลำพะยาจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลรวม 9 ศพ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ขณะนี้แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด 2 คน เนื่องจากถูกยิงเข้าอวัยวะสำคัญด้านนายคำรณ จันทร์เพชร ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา กล่าวว่า ชาวบ้านและชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ยังเสียขวัญและกำลังใจ จึงต้องรออีกระยะหนึ่งก่อนกลับมาทำหน้าที่ขณะที่นายไพโรจน์ นิ่มน้อย ชาวบ้าน ต.ลำพะยา ระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่สุดตั้งแต่ปี 2547 จึงรู้สึกเสียและกำลังใจ และหลังจากนี้ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นส่วนบรรยากาศจุดเกิดเหตุ ป้อมจุดตรวจคุ้มครองตำบลลำพะยา เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่และเก็บกวาดสิ่งของที่เสียหาย รวมทั้งนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และหลักฐานอื่น ๆ ออกจากพื้นที่ เหลือเพียงร่องรอยคราบเลือด และรอยกระสุนจำนวนมากบริเวณบังเกอร์ในจุดตรวจ ส่วนพื้นที่โดยรอบที่เป็นสวนยางพารา ยังไม่มีชาวบ้านเข้ามาในพื้นที่ มีเพียงชาวบ้านบางคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปมาเท่านั้น | ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงถล่มป้อมชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา ทยอยเดินทางไปยังโรงพยาบาล จ.ยะลา เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลที่วัดลำพะยา รวม 9 ศพ | ภูมิภาค | ยะลา,กลุ่มก่อความไม่สงบ,ยิงถล่มป้อมยาม,ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน,สามจังหวัดชายแดนใต้,ลำพะยา | https://news.thaipbs.or.th/content/285873 |
เตเซร่า หันหลังให้วงการฟุตบอลเต็มตัว ลาออกบอร์ดฟีฟ่าแล้ว | ริคาร์โด้ เตเซร่า ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล หรือ CBF รวมทั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยให้เหตุผลในเรื่องของปัญหาสุขภาพ ล่าสุดเตเซร่าตัดสินใจหันหลังให้กับวงการฟุตบอลแบบเด็ดขาดเพราะได้ยื่นจดหมายลาออกจากบอร์ดบริหารฟีฟ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยให้เหตุผลเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวสำหรับ เตเซร่า เข้ามาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของฟีฟ่าตั้งแต่ปี 1994 และเจ้าตัวถูกข้อกล่าวหามากมายเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่เขารับเงินสินบนจาก ISL อดีตคู่สัญญาทางการตลาดของฟีฟ่าในช่วงทศวรรษที่ 90ส่วน เป๊ป กวาดิโอล่า โค้ชของบาร์เซโลน่ามั่นใจว่า ลูกทีมของเขายังมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมป์ลาลีก้าเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันได้ในฤดูกาลนี้หลังจากที่ รีล มาดริด ทีมจ่าฝูงพลาดโอกาสเกม 3 คะแนนในเกมที่ถูก มาลาก้า ตีเสมอในช่วงท้ายเกมโดย กวาดิโอล่า ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมที่บาร์เซโลน่าจะลงเล่นฟุตบอลลาลีก้าสเปนนัดกลางสัปดาห์พบกับกราเนด้าในคืนนี้ ( 20 มี.ค.) ว่า เป็นเรื่องดีที่ช่องว่างของคะแนนระหว่างบาร์เซโลน่ากับรีล มาดริด เหลือห่างเพียงแค่ 8 คะแนน และ หากบาร์เซโลน่าชนะในคืนนี้ช่องว่างจะถูกบีบเหลือเพียง 5 คะแนนที่สำคัญมาดริดยังมีอีก 1 เกมที่พวกเขาต้องบุกมาเยือนบาร์เซโลน่าที่คัมป์นูสำหรับบาร์เซโลน่ายังมีลุ้นทั้งสามแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดย โคปาเดลเรย์ พวกเขาผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับแอตเลติก บิลเบา ส่วนยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก จะพบกับเอซี มิลาน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และหากบาร์ซ่าผ่านเข้าชิงได้สำเร็จมีโอกาสที่จะพบกับรีล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ | หลังจากที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล ล่าสุด ริคาร์โด้ เตเซร่า ได้หันหลังให้วงการฟุตบอลแบบเด็ดขาดด้วยการลาออกจากบอร์ดบริหารฟีฟ่า | กีฬา | บราซิล,ฟีฟ่า,ฟุตบอล,ริคาร์โด้ เตเซร่า | https://news.thaipbs.or.th/content/73822 |
สงครามชนชั้น | พวกตัวสำเร็จการศึกษาที่สูงกว่า และเขยิบขึ้นอยู่สถานะแถวหน้าของสังคม,ที่สหรัฐฯ มีการพูดจาสนทนาถึงคำถากถางระหว่าง ส.ส.ของพรรคเด็มโมแครตที่อายุ 29 ปี กับพวกนักจัดรายการสายอนุรักษนิยมทางสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง เรื่องนี้น่าสนใจครับ,พ.ศ.2551 พ่อของนางสาวอเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ตายด้วยโรคมะเร็งขณะที่ลูกสาวกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เมื่อสิ้นพ่อ ลูกสาวกับแม่ก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินไม่ให้บ้านที่ซุกหัวนอนถูกขายทอดตลาด บางวันลูกสาวซึ่งเป็นนักศึกษาต้องทำงานมากถึง 18 ชั่วโมงเวียนไปตามร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆเพื่อหาเงินพยุง สถานะทางบ้านและเพื่อเรียนหนังสือ,พ.ศ.2554 เด็กสาวกำพร้าพ่อผู้นี้ก็สำเร็จการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยคะแนนเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยบอสตัน แต่ก็ยังต้องทำงานหนักในงานบาร์เทนเดอร์,การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลางเทอมของสหรัฐฯ ต้นเดือนนี้ นางสาวโอคาซิโอ-คอร์เทซ สมัคร ส.ส.ในนามพรรคเด็มโมแครต เขต 14 ของมหานครนิวยอร์ก สู้กับนายแอนโธนี แพพพาส จากพรรครีพับลิกัน ผลก็คือ นางสาวโอคาซิโอ-คอร์เทซ ชนะด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายร้อยละ 78 ส่วนนายแพพพาสได้คะแนนเพียงร้อยละ 13.8,นางสาวโอคาซิโอ-คอร์เทซ เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เธอบอกว่าปัญหาของเธอในเวลานี้ก็คือ ไม่สามารถจะหาเงินจ่ายค่าอพาร์ตเมนต์ได้ เงินที่เธอหาได้จากงานสาวเสิร์ฟและบาร์เทนเดอร์มีจำนวนเพียง 2.5-2.6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี สิ่งที่เธอเล่ากลายเป็นเรื่องที่พวกสถานีโทรทัศน์สายอนุรักษ์นิยม เช่น ช่องฟ็อกซ์นิวส์นำมาพูดจาเยาะเย้ยถากถาง,จอห์น คาร์ดิลโล เจ้าของรายการอเมริกา ทอล์ค ไลฟ์ ของสื่อ อนุรักษนิยมนิวส์แม็กซ์ เอารูปบ้านเก่าที่แม่ของโอคาซิโอ-คอร์เทซ ขายไป ซึ่งเป็นบ้านที่สวยงามและอยู่ในเขตปลอดภัย ก่อนที่เธอจะ ไปศึกษาในมหาวิทยาลัยบราวน์ สื่อเหล่านี้จะถากถางว่าเมื่อก่อนเธอก็เคยอยู่ในบ้านดีแต่ตอนหลังต้องขาย เหมือนกับจะบอกว่าเดิมพื้นเพเป็นคนมีฐานะ,โอคาซิโอ-คอร์เทซ เล่าว่าแม่ของเธอต้องทำงานรับจ้างขัดส้วมเพื่อพยุงสถานะ และเธอโต้นายคาร์ดิลโลว่า เธอจบมหาวิทยาลัยบอสตันไม่ใช่มหาวิทยาลัยบราวน์อย่างที่เขาว่า,นี่คือสงครามระหว่างคนรวย-คนจน คนรวยยอมรับไม่ได้ที่คนจนชนะ ส.ส. ได้คะแนนถล่มทลาย แถมยังชนะในมหานครนิวยอร์ก ก็เลยทั้งเสียดสี เยาะเย้ยถากถาง,ผมคิดว่าโอคาซิโอ-คอร์เทซ เป็นฝ่ายชนะในสังคม เพราะอเมริกันส่วนใหญ่ก็มีชีวิตดิ้นรนแบบเดียวกับโอคาซิโอ-คอร์เทซ เธอเป็นเหมือนตัวแทนของคนชั้นกลาง-ล่าง ที่บางเดือนไม่มีเงินจ่ายค่าอพาร์ตเมนต์ แต่ก็ยังดีที่เธอไม่ได้ปิดบัง สำหรับผมผมคิดว่าในระยะยาวเป็นเรื่องดีสำหรับโอคาซิโอ-คอร์เทซ เสียด้วยซ้ำที่แม้ว่าพ่อเสีย ทำให้กลายเป็นคนฐานะยากจน แต่ก็ยังพยายามเรียนจนจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ,พรรคการเมืองเป็นตัวแทนของคนแต่ละชนชั้น คนจนเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายและการปฏิบัติดูแลคนยากคนจน ความที่คนจนมีจำนวนมากกว่าจึงได้ ส.ส.มากกว่าและได้ตั้งรัฐบาลของคนจน เป็นปากเป็นเสียงปกป้องสิทธิของคนจนและคนด้อยโอกาสทางสังคม สื่อของคนรวยทนเห็นภาพและเรื่องที่คนจนได้ดี ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้มีเฉพาะในสหรัฐฯดอกครับ ในหลายประเทศก็มี ที่พวกพิธีกรทั้งรายการวิทยุและโทรทัศน์ถากถางเสียดสีคนจน,แถมหน่อยครับ ว่าค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ในวอชิงตัน ดี.ซี. ที่โอคาซิโอ-คอร์เทซ ต้องย้ายไปอยู่นั้นเฉลี่ยเดือนละ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8.9 หมื่นบาทต่อเดือน ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายของรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ อยู่ที่ 15 ดอลลาร์หรือ 500 บาท ต่อชั่วโมง,แต่ในความเป็นจริงพนักงานเสิร์ฟและบาร์เทนเดอร์ได้รับค่าแรงต่ำกว่านั้นมาก.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,songlok1997@gmail.com | ประเทศทุนนิยมยังเต็มไปด้วยปัญหาความไม่เป็นธรรม การเหยียดชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา ความคิด สถานะทางการเงินและทางสังคม บางครั้ง คนชั้นสูงยอมรับไม่ได้กับการที่เห็นคนชนชั้นที่ต่ำกว่า | null | ประเทศทุนนิยม,สงครามชนชั้น,เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1423668 |
อ.ต.ก.เร่งรวมเอกสารยื่นฟ้องแพ่ง 79 คดี | เหตุโครงการจำนำข้าวรัฐสูญหาย-เสื่อม,นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐมอบหมายให้เป็นผู้จัดเก็บข้าว รวบรวมเอกสาร เพื่อยื่นฟ้องผู้กระทำผิดที่ทำให้ข้าวรัฐสูญหายและเสื่อมคุณภาพ โดย อ.ต.ก.ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาไปแล้ว 200 คดี เหลือคดีแพ่งอีกประมาณ 79 คดี ซึ่งเดิม อ.ต.ก.ต้องรอผลคดีอาญาให้ชี้ขาดก่อน จึงจะฟ้องคดีแพ่งได้,ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า หลังนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ อ.ต.ก.เร่งเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งกับบริษัทผู้รับจ้างตรวจสอบข้าว ซึ่งต้องรับผิดชอบตามสัญญาดูแลสภาพข้าวในโครงการรับจำนำ ซึ่งต้องส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดภายใน ธ.ค.2561 เพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดีให้ทันก่อนหมดอายุความ ดังนั้น อ.ต.ก.จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามกำกับดูแลการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาล เพื่อรวบรวมเอกสารส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดแล้วเสร็จเดือน ก.ย.2561 ซึ่งการยื่นฟ้องจะดำเนินการได้หลังมีการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับข้าวในสต๊อกรัฐบาล การฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายครั้งนี้ เกิดจากมติคณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว (นบข.) มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และ อ.ต.ก. ดำเนินการเป็นผู้จัดเก็บข้าวของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2551-2557. | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐมอบหมายให้เป็นผู้จัดเก็บข้าว รวบรวมเอกสาร เพื่อยื่นฟ้องผู้กระทำผิดที่ทำให้ข้าวรัฐ | ข่าว,เศรษฐกิจ | อ.ต.ก.,จำนำข้าว,ราคาข้าว,ทุจริตรับจำนำข้าว,โครงการรับจำนำข้าว | https://www.thairath.co.th/news/business/1342627 |
วิกฤติภัยแล้ง58 น้ำแห้งภาคกลางทำพิษ บ้าน-โรงเรียนทรุดเพียบ | ทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลายแห่งเข้าขั้นวิกฤติ พื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว ไร่อ้อยจำนวนมากใกล้ยืนต้นตาย ขณะที่ฝนตกลงมาในระยะนี้ได้ช่วยต่อชีวิตนาข้าวให้อยู่รอดไปได้อีกระยะหนึ่ง,เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 10 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้กำลังแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการแหล่งน้ำ และต้นทุนที่มีอยู่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอย่าตื่นตระหนก วันนี้ฝนเริ่มตกแล้วในหลายจังหวัด ปริมาณน้ำในเขื่อนบางเขื่อนเริ่มสูงขึ้น แม้ปริมาณยังน้อยอยู่ แต่ถือว่าเริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าเรียกร้องมากเกินไปมันไม่เกิดประโยชน์ยังไงฝนก็ยังไม่ตก ตกแล้วค่อยพูดกันแล้วบริหารจัดการใหม่ ส่วนการขุดลอกบ่อน้ำ ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อจะช่วยเหลือเกษตรกรที่มีความเดือดร้อนเป็นพื้นที่ไป ไม่ใช่ว่าทุกพื้นที่ต้องได้เท่ากันหมด มันเป็นไปไม่ได้ วันนี้ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันกันบ้าง,พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กล่าวหลังการสัมมนาแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายืนยันว่าปลายเดือน ก.ค.นี้ จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝนแน่นอน ตนกำชับให้คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำให้ประชุมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สัปดาห์ละ 3 วัน ส่วนข้อเสนอให้ลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา จากปัจจุบันระบายวันละ 28 ล้าน ลบ.ม.ลงไปอีก คณะอนุกรรมการฯยืนยันกับตนว่าการระบายน้ำวันละ 28 ล้าน ลบ.ม. ประคองให้มีน้ำใช้ไปได้ตลอดจนถึงเดือน ส.ค.,ผู้สื่อข่าวถามว่า นักวิชาการเสนอให้รัฐปรับเกณฑ์ขั้นต่ำ (โลเวอร์ รูล เคิร์ฟ) ในการเก็บน้ำในเขื่อน หลังจากที่ปรับลดเก็บน้ำน้อยลงหลังจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เพราะเป็นข้อกังวลจากฝ่ายการเมืองในขณะนั้น จะมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในเรื่องนี้ยังไม่ได้เสนอเข้ามา ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้พิจารณาตามหลักความเหมาะสม ไม่ต้องห่วงเรื่องการเมืองยืนยันวันนี้ไม่มีการเมือง,นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การระบายน้ำปัจจุบัน ในอัตราวันละ 28 ล้าน ลบ.ม.สามารถส่งน้ำให้การประปาได้เต็มอยู่แล้ว ยืนยันว่าเรื่องการประปาจะไม่ให้ขาดแคลน สามารถส่งน้ำเพื่อการประปาให้ได้นานไปตลอดฤดูแล้ง ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ต้องบริหารจัดการมาก ปัจจุบันชาวนาลงมือปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มเจ้าพระยาประมาณ 4.6 ล้านไร่ แบ่งเป็นกลุ่มที่ปลูกตามคำแนะนำของกรมฯในเดือน พ.ค.ประมาณ 3.4 ล้านไร่ และกลุ่มที่ฝืนปลูกใหม่ 1.2 ล้านไร่ คาดว่ามีนาที่เสี่ยงจะเสียหายประมาณ 850,000 ไร่,พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกูล รรท.ผบก.สท. เปิดเผยว่า จากปัญหาฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่สัญจรของกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการด่วนที่สุดให้เตรียมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมขัง และแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเป็นเอกภาพ โดยกำชับให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด จัดทำแผนการปฏิบัติงาน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเป็นขั้นตอน ประสานการปฏิบัติกับจังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบการระบายน้ำ หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขังขึ้นในหลายพื้นที่ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.เข้าควบคุมและสั่งการปฏิบัติงาน โดยใช้ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) เป็นศูนย์บัญชาการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน,นายสมหวัง ปารสุขสาร ผอ.เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนแต่ถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกต้องเก็บกักน้ำให้มากที่สุด เนื่องจากขณะนี้มีน้ำในเขื่อนเพียง 104.300 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 939 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 11.11 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ำได้เพียง 61.3 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 6.53 เปอร์เซ็นต์,น.ส.ปัญจพัฒน์ เกียรติไพบูลย์ นายก อบต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมด้วยทหารกองร้อยรักษาความสงบ ร.29 พัน.3 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ตรวจสอบบ้านปูนสองชั้น เลขที่ 148 หมู่ 8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน ปลูกสร้างติดคลองญี่ปุ่นทรุดตัวพังเสียหาย หลังแนวตลิ่งทรุดตัวยาวกว่า 100 เมตร จากการสอบถาม น.ส.พุฒชาติ เจี่ยสมบูณ์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงพื้นลั่นมาจากหลังบ้าน จากนั้นบ้านเริ่มมีรอยร้าวและทรุดตัวแต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ มูลค่าความเสียหายประมาณ 3.5 แสนบาท น.ส.ปัญจพัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่กองช่างสำรวจความเสียหาย เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากน้ำในคลองญี่ปุ่นแห้งทำให้ตลิ่งทรุดจนบ้านพังเสียหายดังกล่าว,นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.นครปฐม ตรวจสอบโรงเรียนบ้านบางประแดง หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน ภายหลังอาคารเรียน 2 ชั้น อยู่ติดแม่น้ำท่าจีนทรุดตัว นายชาติชาย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณรอบอาคารปูด้วยอิฐตัวหนอนแตกและทรุดตัวลึก 1.2 เมตร แต่ตัวอาคารเรียนยังมีความแข็งแรง แต่สั่งให้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และกั้นไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในอาคารเรียนเด็ดขาด ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากน้ำในแม่น้ำท่าจีนลดลง,นายประมวล มีแป้น หัวหน้าประมง จ.พระนครศรีอยุธยา นำเจ้าหน้าที่จับปลาพันธุ์ไทย อาทิ ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลาตะโกะ ปลาหมู และปลาดำ ภายในคลองระพีพัฒน์ หน้าวัดทองจันทริการาม หมู่ 3 ต.พยอม อ.วังน้อย เพื่อนำไปบำบัดฟื้นฟูที่สถาบันวิจัยพัฒนาประมงบางไทร ภายหลังภัยแล้งทำให้ระดับน้ำในคลองลดลงเหลือเพียง 1 เมตร ส่งผลให้ปลาในคลองตายเป็นจำนวนมาก นายประมวลเปิดเผยว่า จะนำปลาไปบำบัดฟื้นฟู ส่วนปลาที่หายากจะนำไปเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะนำมาปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป | สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย แม้มีการระดมทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีน้ำมาเติมในเขื่อนหลัก อาทิ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ | ข่าว,ทั่วไทย | ภัยแล้ง,น้ำแล้ง,แห้งแล้ง,ชลประทาน,แก้ภัยแล้ง,ขุดบ่อบาดาล,เขื่อน,ระบายน้ำ,ปริมาณน้ำ,บ้านทรุด,โรงเรียนทรุด | https://www.thairath.co.th/news/local/510855 |
เกือบไป ฮาเล็ป อัดดาวรุ่ง 2-0 เซต เข้ารอบ 2 ออสเตรเลียน โอเพ่น | การแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 แกรนด์สแลมรายการแรกของปี ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย วันอังคารที่ 16 มกราคม ยังเป็นเกมในประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก ซิโมนา ฮาเล็ป นักเทนนิสมือ 1 โลก และมือ 1 ของรายการ วัย 26 ปี จากโรมาเนีย พบกับ เดสทานี อยาวา นักเทนนิสดาวรุ่ง วัย 17 ปี จากออสเตรเลีย ที่เพิ่งจะเล่นอาชีพเมื่อปี 2015,เซตแรก นักหวดเจ้าถิ่นมาแรง ทำแต้มออกนำไปก่อน 5-2 แต่มือ 1 โลกไม่ยอมเสียหน้า แม้จะมีอาการเจ็บรบกวนระหว่างแข่ง ไล่ตามตีเสมอ 5-5 ก่อนจะเฉือนเอาชนะไปแบบหืดจับ 7-6 ไทเบรก 7-5 ขึ้นนำ 1-0 เซต,จากนั้นในเซตที่ 2 ฮาเล็ปไม่ปล่อยให้รุ่นน้องสร้างความลำบากให้อีก จัดการไล่ต้อนเอาชนะไปขาดลอย 6-1 ทำให้ชนะ 2-0 เซต ผ่านเข้ารอบ 2 ได้สำเร็จ,ทั้งนี้ ในรอบ 2 ฮาเล็ป จะพบกับ ยูจีน บูชาร์ด นักเทนนิสสาวสวย มือ 81 โลก วัย 23 ปี จากแคนาดา ที่เอาชนะ โอเซียน โดแด็ง จากฝรั่งเศส วัย 21 ปี 2-0 เซต 6-3, 7-6 ไทเบรก 7-5 ,หญิงเดี่ยว,แคโรไลนา การ์เซีย (ฝรั่งเศส, 8) ชนะ คารินา วิตต์โฮฟต์ (เยอรมัน) 2-0 เซต 7-5, 6-3,โจแฮนนา คอนตา (สหราชอาณาจักร, 9) ชนะ เมดิสัน เบรงเกิล (สหรัฐอเมริกา) 2-0 เซต 6-3, 6-1,ลูซี ซาฟาโรวา (เช็ก, 29) ชนะ อัจยา ทอมยาโนวิช (ออสเตรเลีย) 2-0 เซต 7-5, 6-3,บาร์โบรา สไตรโควา (เช็ก, 20) ชนะ คริสตี้ อาห์น (สหรัฐอเมริกา) 2-0 เซต 6-1, 7-5,แคโรไลนา พลิสโควา (เช็ก, 6) ชนะ เบโรนิกา เซเปเด รอยจ์ (ปารากวัย) 2-0 เซต 6-3, 6-4,อังเยลิค แคร์เบอร์ (เยอรมัน, 21) ชนะ อันนา-เลนา ฟรีดซัม (เยอรมัน) 2-0 เซต 6-0, 6-4,มาเรีย ชาราโปวา (รัสเซีย) ชนะ ทัตยานา มาเรีย (เยอรมัน) 2-0 เซต 6-1, 6-4,เอเลนา เวสนินา (รัสเซีย, 16) ชนะ ออนส์ จาบูร์ (ตูนิเซีย) 2-0 เซต 6-3, 6-4,เมียร์ยานา ลูซิช-บาโรนี (โครเอเชีย, 28) ชนะ เชลบี โรเจอร์ส (สหรัฐอเมริกา) 2-1 เซต 7-6(8-6), 5-7, 6-2,อนาสตาซิยา เซวาสโตวา (ลัตเวีย, 14) ชนะ วาร์วารา เล็ปเชนโก (สหรัฐอเมริกา) 2-1 เซต 3-6, 6-3, 6-2,เมดิสัน คีย์ส (สหรัฐอเมริกา, 17) ชนะ หวัง เกียน (จีน) 2-0 เซต 6-1, 7-5,อันเดรีย เพตโควิช (เยอรมัน) ชนะ เพตรา ควิโตวา (เช็ก, 27) 2-1 เซต 6-3, 4-6, 10-8,
,อักเนียสซ์กา รัดวานสกา (โปแลนด์, 26) ชนะ คริสตินา พลิสโควา (เช็ก) 2-1 เซต 2-6, 6-3, 6-2,การ์บิเน มูกูรูซา (สเปน, 3) ชนะ เจสสิกา ปงเชต์ (ฝรั่งเศส) 2-0 เซต 6-4, 6-3,อนา บ็อกดาน (โรมาเนีย) ชนะ คริสตินา มลาเดโนวิช (ฝรั่งเศส) 2-0 เซต 6-3, 6-2,แอสลีห์ บาร์ตี้ (ออสเตรเลีย, 18) ชนะ อรินา ซาบาเลนกา (เบลารุส) 2-1 เซต 6-7(2-7), 6-4, 6-4,ชายเดี่ยว,ลูคัส ลัคโก (สโลวาเกีย) ชนะ มิลอส ราโอนิช (แคนาดา, 22) 3-1 เซต 6-7(5-7), 7-5, 6-4, 7-6(7-4),เอเดรียน มันนาริโน (ฝรั่งเศส, 26) ชนะ มัตเตโอ แบร์เรตตินี (อิตาลี) 3-0 เซต 6-4, 6-4, 6-4,เฟร์นันโด เบร์ดัสโก (สเปน) ชนะ โรเบร์โต เบาติสตา อกุต (สเปน, 20) 3-0 เซต 6-1, 7-5, 7-5,แซม เคอร์รีย์ (สหรัฐอเมริกา, 13) ชนะ เฟลิเซียโน โลเปซ (สเปน) 3-0 เซต 6-3, 6-4, 6-2,อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ (เยอรมัน, 4) ชนะ โธมัส แฟ็บเบียโน (อิตาลี) 3-0 เซต 6-1, 7-6(7-5), 7-5,เดวิด กอฟแฟง (เบลเยียม, 7) ชนะ มัทธีอัส บาคินเจอร์ (เยอรมัน) 3-1 เซต 6-7(3-7), 6-3, 6-2, 6-4,สแตน วาวรินกา (สวิตเซอร์แลนด์, 9) ชนะ ริคาร์ดัส เบรันคิส (ลิธัวเนีย) 3-1 เซต 6-3, 6-4, 2-6, 7-6(7-2),อัลเบิร์ต รามอส บีโยลาส (สเปน, 21) ชนะ จาเร็ด โดนัลด์สัน (สหรัฐอเมริกา) 3-0 เซต 6-2, 6-3, 6-4,โนวัค ยอโควิช (เซอร์เบีย, 14) ชนะ โดนัลด์ ยัง (สหรัฐอเมริกา) 3-0 เซต 6-1, 6-2, 6-4,ฟาบิโอ ฟ็อกนินี (อิตาลี, 25) ชนะ โฮราซิโอ เซบัลลอส (อาร์เจนตินา) 3-0 เซต 6-4, 6-4, 7-5,ริชาร์ด กาสเกต์ (ฝรั่งเศส, 29) ชนะ บลัซ คาฟซิช (สโลวีเนีย) 3-0 เซต 6-1, 6-4, 7-5,โทมัส เบอร์ดิช (เช็ก, 19) ชนะ อเลกซ์ เด มิเนาร์ (ออสเตรเลีย) 3-1 เซต 6-3, 3-6, 6-0, 6-1,โรเจอร์ เฟเดเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์, 2) ชนะ อัลยาซ เบเดเน (สโลวีเนีย) 3-0 เซต 6-3, 6-4, 6-3,โดมินิค ธีม (ออสเตรีย, 5) ชนะ กีโด เปลลา (อาร์เจนตินา) 3-0 เซต 6-4, 6-4, 6-4,ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร (อาร์เจนตินา, 12) ชนะ ฟรานเซส เทียโฟ (สหรัฐอเมริกา) 3-0 เซต 6-3, 6-4, 6-3 | ซิโมนา ฮาเล็ป เกือบแย่ในเซตแรก ดีที่อาศัยความเก๋าพลิกกลับมาชนะได้ ก่อนจะไล่บดเอาชนะนักหวดดาวรุ่งไปได้ 2-0 เซต ตบเท้าเข้ารอบ 2 ศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 ตามคาด | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ซิโมนา ฮาเล็ป,ออสเตรเลียน โอเพ่น,เทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2018,แกรนด์สแลม,มาเรีย ชาราโปวา,เทนทิส | https://www.thairath.co.th/sport/others/1178662 |
กอร.พระราชพิธีฯ เพิ่มพื้นที่รองรับประชาชน | วันนี้ (23 ต.ค.2560) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้รับสั่งกับนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ต้องการให้เข้มงวดกับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีจนเกินไป พร้อมเปิดพื้นที่เพิ่มเติมให้ประชาชนเข้าเฝ้าถวายบังคมลาในหลวงรัชกาลที่ 9ส่วนการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในการดูแลพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขาดเพียงรายละเอียดบางส่วนที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบที่สุดในวันจริง แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงขั้นตอนการเข้าพื้นที่รวมถึงการแต่งกาย และการนำกล้องถ่ายรูปเข้าพื้นที่จะอนุญาตเพียงกล้องขนาดเล็ก และกล้องจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้นขณะที่ กอร.พระราชพิธี แถลงความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยช่วงงานพระราชพิธี โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำการถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช รวมทั้งต้องถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์สูงสุดขณะเดียวกันต้องตรวจเข้มจุดคัดกรอง กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่เพื่อไม่ให้มีกลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาแฝงตัวก่อเหตุ ซึ่งจะเริ่มเคลียร์พื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 24 ต.ค. ก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าพื้นที่ตั้งแต่ 05.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค.นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่รองรับประชาชนอีก 18840 คน แยกเป็นบริเวณถนนสนามไชย 6600 คน ถนนท้ายวัง ฝั่งวัดโพธิ์ 4080 คน ฝั่งติดรั้ววัง 3760 คน และถนนมหาราช 4400 คน เพื่อให้ประชาชนใกล้ชิดริ้วขบวนที่ 12 และสามารถเห็นริ้วขบวนที่ 3นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ ชื่นชมประชาชนที่ปฏิบัติตามการขอความร่วมมือของ กอร.ในวันซ้อมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ เหลือเพียงการใช้เคสโทรศัพท์หลากสี จึงได้จัดเจ้าหน้าที่คอยประชาสัมพันธ์ พร้อมขอความร่วมมืองดนำไม้เซลฟี่และเลนส์ซูมเข้ามายังบริเวณพื้นที่สนามหลวงส่วนการวางดอกไม้จันทน์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ประตูวิเศษไชยศรี ยังไม่มีกำหนดยกเลิกแต่อย่างใดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อย พระเมรุมาศจำลองและสิ่งปลูกสร้างประกอบ ที่วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี โดยระบุว่า ขณะนี้เสร็จสิ้นในทุกจังหวัดแล้วและไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย แต่อาจจะส่งผลกระทบบ้างกับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมที่จะเดินทางไปร่วมงานพิธีวางดอกไม้จันทน์ของประชาชน | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีรับสั่งผ่านนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้เข้มงวดกับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จนเกินไปและเปิดพื้นที่เพิ่มเติมให้ประชาชนเข้าเฝ้าถวายบังคมลา | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,รัชกาลที่9,ในหลวง รัชกาลที่9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | https://news.thaipbs.or.th/content/267157 |
ผู้บริหาร กฟผ.ชี้ พฤติกรรมใช้ไฟฟ้ามากอาจกระทบต้นทุนค่าไฟพุ่ง-นักวิชาการแนะรัฐออก กม.สร้างตึกประหยัดพลังงาน | จากสถานการณ์การใช้ไฟที่มีปริมาณใช้ไฟฟ้าสูงสุดอย่างต่อเนื่องหรือพีค จนทำลายสถิติครั้งที่ 7 ของปี 2559 ที่่ 29618.8 เมกะวัตต์เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) และทำลายสถิติวันเดียวถึง 2 รอบวันนี้ (12 พ.ค.2559)นายเริงชัย คงทอง ผู้อำนวยการฝ่ายกำลังผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) กล่าวว่า ยังมีโอกาสเกิดสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดครั้งใหม่ได้อีก โดยปริมาณไฟฟ้าสูงสุดจะเพิ่มขึ้น 200-300 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าอาจสูงทะลุถึง 30000 เมกะวัตต์ ขณะที่ค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วยนายเริงชัย กล่าวกล่าวต่ออีกว่า ปกติช่วงพีคจะเกิดในเวลากลางวันที่มีการทำงานเต็มรูปแบบ แต่การที่พีคขยับเวลามาเกิดช่วงกลางคืน ทำให้ต้องปรับแผนการรณรงค์ประหยัดไฟฟ้าที่ต้องหันมาเน้นช่วงกลางคืนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เน้นเฉพาะช่วงบ่าย ทั้งนี้ ปัจจุบัน กฟผ.สำรองการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 32000 เมกะวัตต์ หรือประมาณร้อยละ 10-15 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ปกติ จึงไม่อยากให้กังวลว่าจะมีปริมาณไฟฟ้าไม่พอใช้ภาพกราฟิกอธิบายปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดครั้ง 7 ที่ 2559ด้าน นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ทางกระทรวงอยู่ระหว่างทดลองโครงการอาสาสมัครปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า 100 หลังคาเรือน โดยติดตั้งอุปกรณ์แสดงปริมาณใช้ไฟฟ้าและปิดเครื่องปรับอากาศผ่านโทรศัพท์มือถือขณะที่ นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า สถานการณ์การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง ส่งผลให้ประชาชนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 32218 เมกะวัตต์อีกปัจจัยที่ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น คือความล้มเหลวของการรณรงค์การลดการใช้ไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ยังทำได้ไม่เต็มที่เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงเสนอว่าจากนี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าและ กฟผ. รวมทั้งภาครัฐบาลควรมีการออกกฎหมายกำหนดแบบอาคาร สำนักงาน และที่อยู่อาศัย ให้รองรับการประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการใช้ไฟฟ้าในระยะยาว นายเดชรัตน์ ระบุ | นักวิชาการชี้รณรงค์ประหยัดไฟฟ้าล้มเหลว เสนอรัฐออกกฎหมายกำหนดแบบอาคารประหยัดพลังงาน ขณะที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยชี้ พฤติกรรมใช้ไฟฟ้าในปริมาณมากของประชาชน อาจกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าพุ่ง | เศรษฐกิจ | กฟผ.,พีค,ไฟฟ้า,ประหยัดไฟ,เมกะวัตต์,ลดใช้ไฟฟ้า,รณรงค์,ทำลายสถิติ,พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า,เดชรันต์ สุขกำเนิด,คณะเศรษฐศาสตร์,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ทวารัฐ สูตะบุตร,รณรงค์ประหยัดไฟฟ้าล้มเหลว,อาคารประหยัดพลังงาน,ต้นทุนค่าไฟ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/252304 |
คนแม่สะเรียงทวงไม้สักทอง ค่า50ล.ส่งไปอยุธยา ขอมาทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น | ,วันที่ 22 ก.พ.60 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ในฐานะปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เผยว่า เมื่อเย็นวานนี้ ได้ประชุมเพื่อหารือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านทุกแห่งใน ต.แม่สะเรียง สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มมวลชนและประชาชนทั่วไปประมาณ 100 คน ที่บริเวณอาคารประชุมลานโพธิ์ วัดจอมแจ้ง ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง,ทั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียน และคัดค้านกรณีสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ได้ขนย้ายไม้ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วจากหน่วยป้องกันรักษาป่าในท้องที่ จ.แม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 อำเภอ เมื่อวันที่ 23-25 มกราคม 60 ที่ผ่านมา ประกอบด้วยไม้สักท่อนจำนวน 201 ท่อน ปริมาตร 36.69 ลบ.ม. ไม้สักแปรรูป จำนวน 2,637 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 47.86 ลบ.ม. รวมปริมาตรไม้ทั้งสิ้น 84.55 ลบ.ม. ส่วนไม้ของกลางในท้องที่ อ.ปาย อ.ขุนยวม อีกจำนวนหนึ่งได้ขนย้ายไปก่อนหน้าแล้ว เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 โดยนำส่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) อู่บกพหลโยธิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้ในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 974/2559 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2559,อย่างไรก็ตาม ได้เกิดกระแสคัดค้านขึ้น จึงได้บันทึกส่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งในเรื่องนี้ ประชาชนชาวแม่สะเรียง ไม่เห็นด้วยกับการส่งมอบไม้สักดังกล่าว ที่มีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทให้สร้างพิพิธภัณฑ์ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แทนที่จะเก็บไม้เหล่านี้ไว้สำหรับจัดสร้างพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง แทนของเดิมเป็นอาคารไม้สักเกือบทั้งหลัง ที่เกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2558 และฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับปากจะก่อสร้างขึ้นใหม่ ใช้แสดงถึงประวัติศาสตร์ของ อ.แม่สะเรียง และการทำไม้สักในพื้นที่ ให้ลูกหลานได้ดูว่าเมืองแม่สะเรียงคือเมืองแห่งไม้สักทอง แต่ล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว ยังไม่คืบหน้า มีเพียงชี้แจงว่าได้งบประมาณมาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่กลับเอาไม้ไปสร้างให้ต่างถิ่น ทำให้รู้สึกหดหู่ที่ป่าไม้ถูกตัดโค่นยังไม่พอ กลับนำไม้ออกไปให้ที่อื่นอีก,การประชุมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมไม่เห็นด้วยที่จะให้นำไม้สักของกลางในพื้นที่ป่าสาละวิน ซึ่งเป็นไม้สักเนื้อดีที่สุดในโลก ออกไปใช้ก่อสร้างนอกพื้นที่ ควรจะขอความเห็นและชี้แจงถึงเหตุผลให้ประชาชนได้ทราบ เพราะเป็นการนำไม้ออกไปก่อสร้างที่อื่น ซึ่งมีงบประมาณอยู่แล้ว ควรจะนำไม้ดังกล่าวมาก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่มากกว่า เพราะยังขาดงบประมาณอยู่ จึงจะเป็นการนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ดีกว่าขนย้ายไปสร้างที่อื่น และถูกกองทิ้งให้เสื่อมสภาพ. | ชาวแม่สะเรียงไม่พอใจขนย้ายของกลางไม้สักทองป่าสาละวิน ค่ากว่า 50 ล้าน ไปสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อยุธยา โวยพิพิธภัณฑ์ของเดิม ในพื้นที่ถูกไฟไหม้ ผ่านมาเกือบ 2 ปียังไม่ได้สร้างใหม่ จะเอาไม้ไปไว้ที่อื่นทำไม | ข่าว,ทั่วไทย | ไม้สักทอง,ไม้สักของกลาง,ไม้สักทองป่าสาละวิน,แม่สะเรียง | https://www.thairath.co.th/news/local/864310 |
ม.44 ให้อำนาจ กพท.สั่งสายการบินไม่ผ่านมาตรฐานเดินอากาศห้ามทำการบิน | ตามที่สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ยื่นขอรับการตรวจประเมินความก้าวหน้า เกี่ยวกับการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสําคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern (SSC)) และการออกใบรับรองผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ (Recertification of Air Operator Certificate (RE-AOC)) ต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization (ICAO)) พร้อมทั้งได้แจ้งเงื่อนไขสําคัญว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้ดําเนินการเดินอากาศที่ยังไม่ผ่านการตรวจประเมิน และออกใบรับรองผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ ทําการบินระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 ซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศได้แจ้งต่อสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ว่า คณะ ICAO Coordinated Validation Mission (ICVM) จะเข้าทําการตรวจประเมินความก้าวหน้าฯ ในระหว่างวันที่ 20 กันยายน 2560 ถึงวันที่ 27 กันยายน 2560 และโดยเหตุที่ในปัจจุบัน ปรากฏว่ามีผู้ดําเนินการเดินอากาศจํานวนหนึ่งที่ยังไม่ผ่านการตรวจประเมินและได้รับใบรับรอง ผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ (RE-AOC) จึงมีความจําเป็นที่ต้องให้อํานาจสํานักงานการบินพลเรือน แห่งประเทศไทยในการกําหนดข้อห้ามมิให้ผู้ดําเนินการเดินอากาศที่ยังไม่ผ่านการตรวจประเมินและ ออกใบรับรองผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ทําการบินระหว่างประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะดําเนินการแล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขสําคัญที่สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้แจ้งไว้ต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในการที่จะเข้ามาตรวจประเมิน ซึ่งผลของการตรวจประเมิน ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสิทธิการบินและการทําการบินของไทยอย่างมีนัยสําคัญ อันจะเป็นการลดทอน ความเชื่อมั่นและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในด้านการบินของประเทศได้อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 เพื่อให้การกํากับดูแลและควบคุมการดําเนินการเดินอากาศในระหว่างการตรวจ ประเมินเพื่อขอรับใบรับรองผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ (Recertification of Air Operator Certificate (RE-AOC)) เป็นไปตามเงื่อนไขสําคัญที่สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้แจ้งไว้ต่อองค์การ การบินพลเรือนระหว่างประเทศ ให้สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยมีอํานาจกําหนดข้อห้ามมิให้ ผู้ดําเนินการเดินอากาศที่ยังไม่ผ่านการตรวจประเมินและได้รับใบรับรองผู้ดําเนินการเดินอากาศใหม่ ทําการบินระหว่างประเทศ ในระหว่างวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2561การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามตามวรรคหนึ่ง เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และให้นำบทกำหนดโทษตามมาตรา 76 (2) แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินอากาศ(ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 มาใช้บังคับกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามดังกล่าวข้อ 2.ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยดำ เนินการตรวจประเมินและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ด้วยความรวดเร็วและเป็นไปตามมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศกำหนดข้อ 3.ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้ข้อ 4.คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปสั่ง ณ วันที่ 13 ก.ย.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | วันนี้ (13 ก.ย.2560) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 40/2560 มาตรการรองรับเพื่อให้การดําเนินการเดินอากาศ เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้ | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ราชกิจจานุเบกษา | https://news.thaipbs.or.th/content/266059 |
อัพเดตอาการ ปอ วันที่ 5 ยังคงที่ พบหัวใจเต้นผิดจังหวะ | ปอ ทฤษฎี, สหวงษ์ ที่ทุกคนต่างก็ลุ้นเอาใจช่วย พร้อมทั้งพยายามหาทุกวิถีทางในการช่วย ไม่ว่าจะทั้งทางการแพทย์หรือการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้หนุ่มปอหาย และกลับมาเหมือนเดิม โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ย. คณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ส่งแถลงอาการป่วยฉบับที่ 7 ของ ปอ ทฤษฎี ว่า โดยรวมแล้วมีความดันเลือดต่ำเป็นระยะ หัวใจเต้นผิดจังหวะสั้นๆ การตอบสนองของม่านตา-การทำงานของตับ และภาวะไตวายยังคงเดิม แต่ไม่พบการติดเชื้อแทรกซ้อน,09.00 น. แถลงการณ์ ฉบับ 7 รพ.รามาธิบดี เรื่อง ชี้แจงอาการป่วยของ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์,ความคืบหน้าอาการป่วยจากไข้เลือดออกของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ),อาการโดยรวมมีความดันเลือดต่ำเป็นระยะ มีหัวใจเต้นผิดจังหวะระยะสั้นๆ ในช่วงเช้า การตอบสนองของม่านตาปกติ ภาวะเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้ายเท่าเดิม การทำงานของตับ และภาวะไตวายเฉียบพลันคงเดิม ค่าออกซิเจน เกลือแร่ และความเป็นกรดในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับเกล็ดเลือดคงที่ ยังไม่พบการติดเชื้อแทรกซ้อนเพิ่มเติม,ขณะนี้ให้การรักษาด้วยยากระตุ้นความดันเลือด ยาต้านการอักเสบ การฟอกไต การพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ ด้วยเครื่อง Extracorporeal Membrance Oxygenator (ECMO) อย่างต่อเนื่อง ให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำและให้เลือด และส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะ,โดยสรุป ผู้ป่วยยังอยู่ในภาวะวิกฤติ และยังต้องได้รับการเฝ้าระวังใน CCU อย่างต่อเนื่อง,โรงพยาบาลรามาธิบดี,วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2558,เวลา 09.00 น.,ในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าแฟนคลับ คนรักปอ ที่มีทุกเพศทุกวัย ยังร่วมมาให้กำลังใจ เขียนข้อความให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา อีกทั้งเพื่อนนักแสดงในวงการบันเทิง ผู้จัดละครทั้งที่เคยร่วมงานและยังไม่เคยร่วมงาน ต่างก็มาร่วมส่งกำลังใจให้พระเอกหนุ่มและครอบครัวด้วย,11.04 น. นักร้องค่ายอาร์เอส ขนมจีน กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์ ที่เคยร่วมงานกับปอ โดยรับบทเป็นพระนางสีวลีเทวี ในละครเวทีกลางแจ้งสุดอลังการเรื่อง พระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์โชว์ (MAHAJANAKA THE PHENOMENON LIVE SHOW) ขนมจีนสนิทสนมกันปอเป็นอย่างดี เพราะต้องร่วมงานร่วมโชว์ด้วยกันกว่า 29 รอบ ขนมจีนได้เข้ามาเยี่ยมมอบช่อดอกกุหลาบแดง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับปอด้วย ไม่เคยไปบ้านพี่ปอที่บุรีรัมย์ค่ะ พี่ปอมีสปิริตในการทำงานมาก เป็นผู้ชายที่เราควรจะเป็นตัวอย่างในการทำงานค่ะ ได้ทำงานด้วยกันแล้วแฮปปี้มาก ไม่เคยเห็นพี่ปอบ่นเลยตอนทำงาน ก็เป็นพี่ชายในการทำงานนั่นค่ะ ส่วนโชว์พระมหาชนกจะนำกลับมาทำใหม่อีกหรือเปล่านั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ อาจจะเป็นไปได้ ก็ต้องรอดูกันในปีหน้าค่ะ,11.33 น. ก้อย ทาริกา ผู้จัดละครชื่อดัง ที่เคยร่วมงานกับปอในละครหลายเรื่อง อาทิ นางสาวทองสร้อย และ เป็ป ณพสิทธิ์ ได้เดินทางมาเยี่ยม ปอ ทฤษฎีและครอบครัว ,ก้อย ทาริกา ไม่เคยได้ยินคำปฏิเสธจากเขา ไม่เฉพาะทีมนักแสดงที่รักปอนะ รวมถึงทีมงานก็รักปอมาก อยากให้นักแสดงเอาเยี่ยงอย่างปอเรื่องความอึด (เน้นเสียงดังมากๆ) ปออึดมากๆ แล้วเขาเป็นคนสดชื่นมาก เวลาอยู่ในกองถ่ายถึงแม้เขาจะนอนมาน้อย แต่พอเวลาจะเรียกเข้าฉาก เขาจะสดชื่นพร้อมทำงานทันที บอกได้เลยว่าปอได้ใจพวกเราทุกคนที่ทำงานด้วย ละครเรื่องใหม่เรื่อง คุณแม่มือใหม่หัวใจฟรุ้งฟริ้ง และยังมีละครใหม่อีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องถามว่าเราจะรอปอหรือไม่ ตอนนี้ไม่พร้อมไม่เป็นไร เรารอปออยู่แล้วค่ะ (ยิ้มอย่างมีความหวัง),เป็ป พ่อแม่ก็ให้ดูแลให้เข้มแข็งด้วย พ่อแม่มีกำลังใจ ต้องไม่มีคำว่าใจเสีย ต้องให้พลังกันสู้ๆ,12.20 น. ส้ม ธัญสินี และ จิ๊ก เนาวรัตน์ เดินทางมาเยี่ยม ,ส้ม อยากให้พี่ปอหายเร็วๆ สู้ ตื่นมาเจอกันนะ ส่งกำลังใจให้ตั้งแต่วันแรก เป็นผู้ชายท่ีดีมาก อารมณ์ดี ตอนป่วยรู้เลยว่ามีคนรักพี่ปอมาก,จิ๊ก ปอเป็นคนดีจริงๆ คนดีๆ มักจะเจออะไรแบบนี้ ปาฏิหาริย์อยากให้มี ช่วยกันอวยพร,ส่วนสองสาวพยาบาล แฟนคลับปอ ที่มาร่วมให้กำลังใจด้วย กล่าวถึงเรื่องลูกปอว่า ไม่ได้ติดใจอะไร ไม่คิดว่าเป็นการปกปิด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ชอบปอเพราะเล่นละครเก่งและนิสัยดี ชอบช่วยเหลือสังคม,ในช่วงบ่ายเพื่อนดาราและผู้จัดละครยังคงทยอยเดินทางมาเยี่ยม ปอ ทฤษฎี ต่อเนื่องมี แหม่ม ฐิติมา, ดา ทหัยรัตน์, หนุ่ม กฤษณ์, หนู สรวงสุดา ชลลัมพี, พลอย ภัทรากร, เก๋ ชลลดา ,แหม่ม ฐิติมา เคยร่วมงานละครกับปอมาแล้ว 4 เรื่อง ปอเป็นคนน่ารัก ภูมิใจมากที่ใครๆ ก็เป็นห่วงและรักเขา,ดา ทหัยรัตน์ มีความหวังเต็มที่ เขาก็ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดแล้ว,หนุ่ม กฤษณ์ พ่อแม่ปอก็กำลังใจดี พวกเราก็ช่วยกันภาวนา ให้กลับมาเหมือนเดิมดีๆ อยากให้น้องหายเร็วๆ,15:16 แพทย์ออกมาแถลงอาการของ ปอ ทฤษฎี เผยอาการยังทรงตัวแต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย คาดอีก 2 สัปดาห์ไตอาจฟื้นขึ้นมา แต่อาการยังน่าเป็นห่วงเพราะไตอักเสบขั้นรุนแรง ,รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี อาการคงที่วิกฤติ ยังต้องใช้ยาฟอกไต ต้องดูแลเป็นชั่วโมงๆ ประชาชนยังบริจาคเลือดได้เรื่อยๆ เพื่อช่วยคนอื่นได้ด้วย ใจเย็นๆ พวกเราเต็มที่ทั้งเรื่องยาและทรัพยากรบุคคล อย่าตื่นตระหนกเรื่องโรคไข้เลือดออก ต้องดูเองตัวเองด้วย และไปพบแพทย์เมื่อจำเป็น,นายแพทย์มารุต จันทรา ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชวิกฤติ หัวใจอักเสบยังเต้นปกติ หัวใจทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง,ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวชศิริ หัวหน้าสาขาวิชาโรคไต และ พญ.ศรินยา บุญเกิด ผู้เชี่ยวชาญแผนกโรคไต ไตยังหยุดทำงาน ต้องใช้ไตเทียม ล้างไต 24 ชม. รออีกไม่เกิน 2 อาทิตย์อาจจะฟื้นขึ้นมา ความดันไม่คงที่ ไม่ต้องเปลี่ยนไต แต่เรายังไม่ไว้วางใจ เพราะไตอักเสบรุนแรง จนทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนน้อยลง อาการไม่ดี ทรงตัวยังไม่ปลอดภัย,อาน้ำอ้อย ผู้จัดการส่วนตัวของ ปอ ทฤษฎี ได้เปิดใจจากที่คุณหมอแถลงอาการล่าสุดของหนุ่มปอแล้ว โดยอาน้ำอ้อยได้บอกว่า,งานที่ต้องยกเลิก ปอจะรับเล่นเป็นพระนเรศวร เป็นโชว์แสงสีแสง ที่ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี งานโชว์ตัวที่ต่างประเทศ 2 ทริป ฮ่องกงและญี่ปุ่น ก็ต้องยกเลิกไปค่ะ ไม่อยากจะคิดมูลค่าว่าเสียหายไปเท่าไหร่,ส่วนนาข้าวที่บ้านบุรีรัมย์ ปีที่ผ่านๆ มา มีทั้งขายและแจกจ่ายให้ชาวบ้านในละแวกนั้นด้วย เรื่องแบ่งที่นาข้าวให้ชาวบ้านแถวนั้นทำฟรี จริงหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ ต้องให้ปอออกมาพูดเองค่ะ ตอนนี้โบ แวนด้า ยังไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์ สภาพจิตใจอ่อนแอมากๆ ร้องไห้ตลอดเวลาคุณหมอมาอัพเดตอาการอะไร,16:35 แอน ทองประสม ได้เดินทางมาเยี่ยม ปอ ทฤษฎี และครอบครัว พร้อมกับถือขนมกล่องใหญ่มาฝากบรรดาสื่อมวลชนและญาติคนไข้อีกด้วย โดยแอนให้สัมภาษณ์ว่า,ปอเป็นคนที่ไปไหนมาไหนก็จะมีแต่เสียงหัวเราะ จริงๆ อยากมาตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว แต่คิดว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แม่ปอดูมีความหวังและมีกำลังใจมากขึ้น แอนก็ได้ภาวนาส่งกำลังใจกับพ่อแม่ เพื่อจะได้ส่งต่อกำลังใจไปให้ปออีกที ก็กลัวเหมือนกันโรคไข้เลือดออก เวลาอยู่ในกองละครแอนก็จะจับนักแสดงมาฉีดยากันยุงไว้ก่อนเลย ใครจะไม่ชอบกลิ่นไม่ได้ค่ะ ต้องจับฉีดกันยุงไว้ก่อน ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา มันไม่คุ้ม,18.50 น. พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร นักร้องดัง และเป็นนางเอกที่เคยร่วมงานกับปอ ในเรื่อง ทัดดาวบุษยา ได้เดินทางมาเยี่ยมปอ พร้อมเซ็นในสมุดเยี่ยม โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ | เข้าสู่วันที่ 5 ของการรักษาตัว อาการป่วยไข้เลือดออกของ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ทุกคนต่างก็ลุ้นเอาใจช่วย พร้อมทั้งพยายามหาทุกวิถีทางในการช่วย ไม่ว่าจะทั้งทางการแพทย์หรือการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้หนุ่มปอหายและกลับมาเหมือนเดิม | null | ปอ ทฤษฎี สหวงษ์,ปอ ทฤษฎี ป่วยหนัก,ปอ ทฤษฎี ป่วยโคม่า,ปอ ทฤษฎี ไข้เลือดออก,ปอ ทฤษฎี โคม่า,ปอ ทฤษฎี บริจาคเลือด,บริจาคเลือดให้ปอ ทฤษฎี,ปอ ทฤษฎี รพ.รามา,ปอ ทฤษฎี เลือดกรุ๊ปเอ,บริจาคเลือดให้ ปอ ทฤษฎี ที่ไหน,ปอ ทฤษฎี ป่วย,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,ปอ เป็นไข้เลือดออก,ไข้เลือดออก,ภาวะไตวาย,ปอ ไตวาย,ไตวายเฉียบพลัน,ปอ ทฤษฎีขอบริจาคเลือด,บริจาคเลือดกรุ๊ป เอ,เลือดกรุ๊ป เอ,แถลงอาการป่วยปอ,ปอป่วย,แพทย์แถลง,อาการป่วยปอ ทฤษฎี | https://www.thairath.co.th/content/539386 |
ม.หอการค้าไทยประเมินเทศกาลตรุษจีนเงินสะพัด 54927.16 ล้านบาท | เมื่อวานนี้ (25 ม.ค.2560) ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การจับจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักที่สุดในรอบ 10 ปี โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดสูงถึง 54927.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าช่วงตรุษจีนปีก่อนร้อยละ 4.5 โดยเป็นมูลค่าการใช้จ่ายที่สูงสุด นับตั้งแต่การสำรวจมาเมื่อปี 2550 โดยผลสำรวจร้อยละ 55.6 ระบุว่ามีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่นำไปซื้อของเซ่นไหว้ ทำบุญ ท่องเที่ยวส่วนผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ไม่มีผลกระทบต่อบรรยากาศจับจ่ายตรุษจีนโดยรวม โดยชาวไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้อาจจะมีการจับจ่ายลดลง แต่ไม่มาก ทั้งนี้ การใช้จ่ายดังกล่าวส่วนใหญ่ประชาชนจะใช้เงินซื้อของเซ่นไหว้ 3950.21 ล้านบาท ทำบุญ 1990.93 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 2627.70 ล้านบาท ให้แต๊ะเอีย 3954.15 ล้านบาท จัดเลี้ยงสังสรรค์ 4441.04 ล้านบาท และท่องเที่ยว 11802.34 ล้านบาท | มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินการจับจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักที่สุดในรอบ 10 ปี และจะมีเงินสะพัดสูงถึง 54927.16 ล้านบาท | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,น้ำท่วมภาคใต้,น้ำท่วมใต้,น้ำท่วม,อุทกภัย,ภาคใต้,ตรุษจีน,ม.หอการค้าไทย,มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/259793 |
เจ้าอาวาสใหม่นำพระ 30รูปพัฒนาพื้นที่ลุยสอบบัญชีล้างมาเฟียวัดวังตะวันตก | เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2560 พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิกาย) ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 22.2 /2560 เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก มีข้อความในคำสั่งว่า ด้วยพระเทพสิริโสภณ (ภากร) อายุ 79 ปี พรรษา 58 อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับการยกย่องเป็นเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.2560 เป็นเหตุให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกว่างจากผู้ครองตำแหน่ง แต่ในการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอไม่สามารถแก้ไขขัดข้องได้ เพราะมีเหตุการณ์ฆาตกรรมสามเณรอันเป็นคดีอุกฉกรรจ์,จึงสั่งให้พระครูพรหมเขตคณารักษ์ (ชัยสิทธ์) อายุ 45 ปี พรรษา 24 เจ้าคณะอำเภอพระพรหม และเจ้าอาวาสวัดสระเรียน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ให้มีอำนาจเสมือนหนึ่งเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2560 ต่อมาวันนี้ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ก็เดินทางมารับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกทันที โดยพระเทพสิริโสภณ (ภากร) อดีตเจ้าอาวาสคนเก่าถูกนิมนต์ไปยังวัดสมอ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพักผ่อนเนื่องจากสุขภาพไม่ค่อยดี,ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก เมื่อเดินทางมารับตำแหน่งวันแรก ก็มีการนำสามเณรจำนวน 30 รูป มาพัฒนาทำความสะอาดวัดวังตะวันตกทัน โดยเฉพาะบริเวณกุฏิที่เกิดเหตุและบริเวณขุดหลุมฝังศพสามเณรปลื้ม ได้มีการนำปูนขาวมาโรยเพื่อฆ่าเชื้อและดับกลิ่น และพัฒนาบริเวณรอบๆ วัดอีกด้วย ส่วนลานจอดรถของวัดวังตะวันตกก็มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาจอดฟรีโดยไม่มีการเก็บค่าจอดแต่อย่างใด และมีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้ามาดูบรรยากาศภายในบริเวณวัดโดยเฉพาะบริเวณหลุมฝังศพสามเณรปลื้มด้วยความสนใจตลอดทั้งวัน,อาตมาได้รับคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดให้มาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในวัด โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ภายในวัดจะต้องไม่มีมาเฟียหรืออิทธิพลเหมือนในวัดที่ผ่านมา แต่เนื่องจากปัญหาถูกหมักหมมจำนวนมากอาตมาก็จะพยายามแก้ไปทีละเรื่อง สิ่งแรกที่ต้องทำเร่งด่วนก็คืออาตมาได้ทำหนังสือไปถึงธนาคารทุกแห่งเพื่อขอตรวจสอบยอดเงินของวัดว่ามีเงินคงเหลืออยู่เท่าไร เพราะตอนนี้ตนยังไม่เห็นตัวเลขยอดเงินของวัดแม้แต่บาทเดียวเลย เงินรายได้จากการเช่าที่จอดรถภายในบริเวณวัดก็ไม่ได้มีการนำเงินเข้าบัญชีวัดเลยแม้แต่บาทเดียว อาตมาจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อล้างวัดให้สะอาด อาตมาไม่หนักใจแต่เป็นเรื่องที่ท้าทายต้องกวาดล้างวัดให้สะอาดให้ได้ โดยเฉพาะหลังจากนี้จะมีพุทธบริษัทที่อาศัยรอบๆ วัดเข้ามาช่วยเหลือวัดในการแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ลุล่วงไปด้วยดี พระครูพรหมเขตคณารักษ์ (ชัยสิทธิ์) กล่าว,ด้าน นายชวน เอกเกียรติกุล อายุ 42 ปี พ่อของสามเณรปลื้ม เปิดเผยว่า ตามปกติตนทำงานขับรถบรรทุก 10 ล้อ ก่อสร้างถนนใน จ.กาฬสินธุ์ แต่ได้ติดต่อสามเณรปลื้มมาโดยตลอด พร้อมกับส่งเงินมาให้สามเณรปลื้ม ใช้จ่ายบ่อยครั้ง โดยครั้งสุดท้ายช่วงหลังปีใหม่ และทราบว่าสามเณรปลื้ม มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับคนข้างวัด จากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อกับสามเณรปลื้มได้ แต่มีญาติคอยติดตามหาสามเณรปลื้มมาโดยตลอด จนกระทั่งทราบข่าว ว่าสามเณรปลื้ม ถูกฆ่าฝังศพภายในวัด ตนจึงเดินทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามที่กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าสามเณรปลื้ม ขโมยเงินของกลุ่มผู้ต้องหา จึงต้องฆ่าฝังดินนั้น ส่วนตัวตนไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด เพราะสามเณรปลื้มไม่มีนิสัยขี้ลักขี้ขโมย,พ่อของสามเณรปลื้ม กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าสามเณรปลื้ม มีนิสัยพูดจาโผงผาง ไม่เกรงกลัวใคร แต่เชื่อว่าสามเณรอาจไปรู้เห็นเกี่ยวกับความลับสำคัญบางอย่างภายในวัด จึงถูกฆ่าปิดปากมากกว่า ตนรับไม่ได้และไม่ขอพูดถึงกลุ่มฆาตกรที่เหี้ยมโหด ที่ฆ่าสามเณรปลื้ม ตนอยากให้คดีนี้มีโทษถึงประหารชีวิต ตนอยากให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องรับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ให้รับเวรกรรมที่กระทำกับสามเณรปลื้ม เพราะว่ากลุ่มฆาตกร มีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดผิดมนุษย์ นอกจากฆ่าแล้วยังขุดหลุมฝังศพเพื่อปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพอีก ตนขอให้โทษประหารชีวิต จะได้สาสมกับความชั่วช้าที่กระทำกับสามเณรปลื้ม,นายชวน กล่าวด้วยว่า ขอให้กลุ่มฆาตรกรคิดดูว่า หากคนตายเป็นลูกหลานของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร ตนไม่ต้องการให้กลุ่มฆาตกรรับโทษจำคุก เพราะถ้าติดคุก 8-9 ปี พอพ้นโทษออกมาอยู่อย่างสุขสบาย แต่สามเณรปลื้มต้องมาตายในวัยก่อนวัยอันควรเพียง 17 ปี เท่านั้น ตนไม่คิดเลยว่าที่ลูกชายที่ต้องการบวชเป็นพระ เพื่อศึกษาร่ำเรียน ต้องมาเจอจุดจบของชีวิตด้วยวัยเท่านี้.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,พระโหด ฆ่าเณรคู่แค้น ฝังศพใต้ฐานพระวัดดังเมืองคอน ญาติหา3เดือนไม่เจอ,รู้ความจริงยิ่งสยอง คดีฆ่าเณร โบกปูนฝังหน้ากุฏิ ฆาตกรลงทุนบวชพระเฝ้า,สยอง ขุดศพเณรปลื้ม ถูกพระฆ่าฝังในวัดเมืองคอน พบโบกปูน2ชั้น-เน่าแล้ว (คลิป), | พระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก นำสามเณรจำนวน 30 รูป มาพัฒนาบริเวณวัดวังตะวันตก และเริ่มตรวจสอบบัญชีการเงินต่างๆ ของวัดทันทีว่ายังมีเหลืออยู่เท่าไร เพื่อล้างมาเฟียและอิทธิพลที่อยู่ในวัดมายาวนาน | ข่าว,ทั่วไทย | พระฆ่าเณร,ฝังศพเณร,วัดวังตะวันตก,นครศรีธรรมราช,พระครูพรหมเขตคณารักษ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/south/961593 |
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีฯ | ตามที่ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ด้วยพระอาการชาบริเวณปลายนิ้วพระหัตถ์ขวา นั้นคณะแพทย์ได้ถวายการตรวจพระอาการแล้วพบว่า เกิดจาก พระกิโลมกะ (พังผืด) รัดพระธมนี (เส้นประสาท) ที่บริเวณใต้พระกัประ (ข้อศอก) คณะแพทย์จึงได้ถวายการผ่าตัดผ่านกล้องเลาะแผ่นพระกิโลมกะ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 โดยไม่มีพระอาการแทรกซ้อนจากการผ่าตัด พะอาการชาค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับและทรงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติแล้วคณะแพทย์จึงขอพระราชทานกราบทูลเชิญเสด็จกลับไปประทับ ณ พระตำหนักจักรีบงกชในวันเสาร์ ที่ 27 มิถุนายน 2563จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกันสำนักพระราชวัง27 มิถุนายน 2563 | วันนี้ (27 มิ.ย.2563) สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปรับการถวายการตรวจพระอาการชาบริเวณพระกร (แขน) ขวา ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ ฉบับที่ 2 ความว่า | สังคม | สำนักพระราชวัง,แถลงการณ์สำนักพระราชวัง | https://news.thaipbs.or.th/content/294057 |
วิจักขณ์ พานิช: เยี่ยมคุกความคิด | คอยเป็นธุระและเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับญาติพี่น้องของคนที่ถูกจับกุมตัว ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และนักโทษการเมืองเหล่านั้น ไม่รู้เลยว่าวันๆ เธอต้องหมดเวลาไปกับการรับฟังถ้อยคำระบายทุกข์จากเพื่อนมนุษย์ที่ไม่ใช่ญาติของตัวเองวันละเท่าไหร่ ไหนจะต้องคอยตามข่าว ประสาน ตามคดี ปลอบญาติ เขียนข่าวในฐานะสื่อ ฯลฯ วันแล้ววันเล่า เธอเดินเข้าออกสโมสรกองทัพบก สถานีตำรวจ ศาล กองปราบ เรือนจำ ราวกับแยกร่างได้ ในขณะที่ผู้คนมากมายตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว บ้างเอาแต่บ่น ก่นด่า หรือไม่ก็เฉยชา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการลิดรอนเสรีภาพที่เกิดขึ้น เธอยังคงทำหน้าที่ในแต่ละวันต่อไป และนับวันดูเหมือนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจะเข้ามาหาเธอมากขึ้นเรื่อยๆวันนี้ผมมีโอกาสติดตามเธอมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้มาเยี่ยมนักโทษในเรือนจำ อีกทั้งนักโทษที่เราติดต่อขอเยี่ยมทั้งหมดยังได้ชื่อว่าเป็น นักโทษทางความคิด อีกด้วย พวกเขาไม่ใช่นักฆ่า โจรห้าร้อย หัวขโมย หรืออาชญากรโหดเหี้ยม พวกเขาถูกจองจำเพียงเพราะคิดต่างจากสิ่งที่ผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้อยากให้คิดก็เท่านั้นเฉลียวเป็นชายร่างเล็กผิวคล้ำ เขาปรากฏตัวในชุดนักโทษสีน้ำตาล สภาพห้องเยี่ยมที่เราเข้าไปนั้นไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ โทรศัพท์ที่ใช้สื่อสารระหว่างภายในกับภายนอกไม่ทำงาน ทำให้ต่างฝ่ายต่างต้องคอยย่อตัวเก้ๆ กังๆ ตะโกนผ่านช่องเล็กๆ ย้ำคำถามคำตอบกันไปมาแบบไม่สะดวกนักเฉลียวประกอบอาชีพเป็นช่างตัดสูท ตัดกางเกง แถวสะพานซังฮี้ เป็นประชาชนที่มีความสนใจการเมือง เขาชอบฟังรายการวิทยุของดีเจเสื้อแดงคนหนึ่ง ซึ่งดูจะมีเนื้อหาวิเคราะห์การเมืองที่ค่อนข้างล่อแหลมตรงไปตรงมา เขาชื่นชอบจนถึงกับโหลดคลิปรายการเหล่านั้นมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ทั้งยังอัพโหลดขึ้น 4shared ให้ใครที่สนใจสามารถโหลดเอาไปฟังก็ได้ เมื่อถามว่าดีเจ…เป็นใคร เอาคลิปมาจากไหน เฉลียวตอบว่า หาไม่ยากเลยครับ ใน google ก็มีหลังจากถูกคสช. เรียกรายงานตัว เฉลียวถูกสอบสวนอย่างหนัก เพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่าตัวเขานั่นแหละคือดีเจเสื้อแดงคนนั้น…เฉลียวยืนยันว่าเป็นแค่แฟนที่ติดตามรายการ แต่แล้วเขาก็ถูกตั้งข้อหา ทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และพรบ.คอมพิวเตอร์เฉลียวดูเป็นชาวบ้านซื่อๆ ธรรมดาผู้ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เขาตัดสินใจรับสารภาพตั้งแต่ในชั้นสอบสวน ตอนนี้รอขึ้นศาล ฟังคำตัดสิน และเตรียมยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ตามลำดับผมแค่สนใจการเมืองเท่านั้นเอง ผมรับสารภาพเรื่อง upload คลิปบนอินเตอร์เน็ต แต่โทษที่ได้รับมันรุนแรงเกินไป …ตอนนี้ก็ทำใจแล้วว่าคงต้องอยู่ในนี้ไปอีกพักใหญ่อภิชาติอยู่ในชุดนักโทษสีเหลือง แววตาของเขาดูมีประกายและเข้มแข็ง เพื่อนที่ไปเยี่ยมด้วยกันเล่าให้ฟังว่าครั้งที่แล้ว สภาพจิตใจเขาค่อนข้างแย่ เพราะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ นอนไม่หลับ ตาโหลลึก แต่พอได้มาเยี่ยมครั้งนี้ เขาดูโอเคเลยทีเดียว คุยไปคุยมา กลายเป็นว่าคนที่ได้รับกำลังใจคือคนที่อยู่ข้างนอกเสียมากกว่า…อภิชาติ นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัย 25 ปี ถูกทหารจับตัวขึ้นรถไปตั้งแต่เย็นวันที่ 23 พฤษภาคม ระหว่างกิจกรรมชูป้ายต้านรัฐประหารที่หน้าหอศิลป์ อีกคนที่ถูกจับไปพร้อมกันคือธนาพล ซึ่งในกรณีนั้น หลังจากถูกกักตัวในค่ายทหารเจ็ดวันก็ได้รับปล่อยตัว โดยไม่ถูกตั้งข้อหา แต่ในกรณีอภิชาตินั้นแตกต่างออกไป…เขาถูกยัดข้อหา 112 เพิ่ม โดยเล่าว่ามีบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีและเคยขัดแย้งทางความคิดกับเขาในโลกออนไลน์ แคปโพสต์ต่างๆ ที่เขาเคยแสดงทัศนะเชิงตั้งคำถามในทางวิชาการต่อสถาบันกษัตริย์ลงใน FB ไปเป็นหลักฐานให้กับทหาร เขาถูกสอบอย่างหนัก และสุดท้ายก็ถูกสั่งฟ้อง เขายืนยันว่าข้อความเหล่านั้นไม่มีอะไรเลย เป็นข้อความที่โพสต์มาเป็นปีแล้ว ไม่ใช่ข้อความหมิ่นฯ ตอนที่เขาเห็นข้อความทั้งหมดที่ปริ้นท์ออกมา ก็รู้เลยว่าเป็นฝีมือใคร เพราะเคยถูกกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ด้วยคนคนเดียวกันและข้อความเดียวกันนี้มาก่อนแล้ว นี่คือตัวอย่างของการใช้ ม.112 มากลั่นแกล้งคนที่เห็นต่างทางการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต่างกับที่เห็นในเพจล่าแม่มดมากมาย หรือในเพจองค์กรเก็บขยะแผ่นดินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากการออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านรัฐประหารในเย็นวันที่ 23 พฤษภาคม แต่วันนี้อภิชาติอาจต้องอยู่ในเรือนจำ นานกว่าความผิดฐานการชูป้ายหลายเท่า เพราะถูกตั้งข้อหาทั้งในส่วนของการผิดคำสั่ง คสช. พรบ.คอมพิวเตอร์ และกฏหมายอาญามาตรา 112ผมยังมีกำลังใจดีอยู่ และเริ่มปรับตัวได้บ้าง อยู่แดน 3 ก็ไม่ได้ลำบากมาก งานที่ถูกจัดให้ทำ โดยรวมๆ ไม่ใช่งานหนักอะไร มีพวกงานเช็ดโต๊ะ ทำความสะอาด (ล่าสุดมีข่าวดี ว่าเขาได้รับการย้ายจากแดน 3 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแดนอันตราย มาอยู่รวมกับนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ในแดน 1 แล้ว)ในส่วนของการถูกฟ้องดำเนินคดี ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกฎหมาย 112 เป็นกฏหมายที่เป็นปัญหามาก และกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างรุนแรง อยู่ในนี้มีโอกาสได้เจอพี่สมยศบ้าง พี่เขาก็คอยให้กำลังใจ มีคนที่อยู่มาก่อน แล้วยังอยู่ได้ ก็ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจได้บ้างติดคุกต้องมีวันออก …อยากส่งกำลังใจให้เพื่อนที่อยู่ข้างนอก เราจะสู้ไปด้วยกันสมยศปรากฏตัวพร้อมกับนักโทษการเมืองจากแดน 1 อีกหลายคน เขาอยู่ในชุดเสื้อนักโทษสีน้ำตาลอ่อน แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่อยู่ในชุดสีฟ้า ระหว่างที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจไปที่บก.ลายจุด แถวต่อรอคุยกับสมยศจึงไม่ยาวนักคำถามแรก ผมถามสมยศว่า รู้สึกยังไงที่เห็นคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องเข้ามาอยู่ในคุกด้วยเหตุผลทางการเมือง แถมจำนวนไม่น้อยยังถูกยัดข้อหา 112?การนำสถาบันกษัตริย์และกฏหมายอาญามาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือในการทำลายผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยเช่นนี้ จะไม่เป็นผลดีต่อสถาบัน ทั้งยังเป็นการเพิ่มความขัดแย้ง แตกแยกในสังคมให้ร้าวลึกยิ่งขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ เต็มไปด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วทุกหนทุกแห่ง กระบวนการยุติธรรมไม่ทำงาน จิตสำนึกทางสังคมถึงขั้นบิดเบี้ยว ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว การปรองดองไม่มีทางสำเร็จ ถามว่าผมรู้สึกยังไง ผมรู้สึกเป็นห่วงประเทศชาติ การใช้กฏหมายนี้เพื่อกำจัดคนคิดต่างทางเมืองไม่เป็นผลดีกับใครเลยจริงๆการที่สังคมไทยมีนักโทษทางความคิด หรือนักโทษทางมโนธรรม มากขึ้นเรื่อยๆ มันสะท้อนถึงอะไร? จำนวนนักโทษการเมืองที่เพิ่มขึ้น เป็นดัชนีบ่งชี้ความตกต่ำทางการเมือง…ประเทศไทยกำลังเป็นเหมือนพม่าคำถามที่สอง ผมถามว่าสมยศรู้สึกยังไง ที่เห็นคนจำนวนมากขึ้นต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเขา?การใช้กฏหมายอาญามาตรา 112 เป็นปัญหามากๆ โดยปกติความรุนแรงของมันก็มากอยู่แล้ว แต่นี่กลับถูกใช้แบบหว่านแห ครอบจักรวาล อย่างตอนนี้บางคนถูกจับเรื่องชุมนุมต้านรัฐประหาร หรือขัดขืนคำสั่ง คสช. แต่ไปๆ มาๆ กลับถูกสอบหนักแล้วยัดข้อหา 112 หรือพรบ.คอมพิวเตอร์ เพิ่มเติม ซึ่งมันร้ายแรงมาก การใช้เครื่องมือชิ้นนี้ทำให้ต้นทุนการรัฐประหารครั้งนี้สูงมาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานภาพขององค์กรทางการเมืองในทุกระดับ สร้างบรรยากาศของความหวาดกลัว ความเกลียดชัง และความแตกแยกให้ร้าวลึกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นผมเห็นว่า ต้องทบทวนการใช้กฏหมายอาญามาตรา 112 ให้ดีและคำถามสุดท้าย ผมถามสมยศว่า ประสบการณ์การอยู่ในนี้มาระยะหนึ่ง เป็นประโยชน์กับ รุ่นน้อง ที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างไรบ้าง?ผมอยู่ในนี้มานาน ก็คอยช่วยเป็นกำลังใจให้กับหลายๆ คนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ แรกๆ มันปรับตัวยาก เราเข้าใจเพราะเราเคยผ่านมา ก็คอยเกื้อกูลปัจจัยให้เอื้อต่อการดำรงชีพในนี้ คอยดูแลไม่ให้เกิดอันตราย นักโทษการเมือง นักโทษ112 เราไม่ได้ไปฆ่าใคร แต่ก็ถูกเอาไปอยู่รวมกับนักโทษที่เป็นอาชญากร ฆ่าคน ทำความผิดหนักๆ ผมอยู่มาสักระยะก็พอมีพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่พอสมควร ก็คอยช่วยดูแลไม่ให้เกิดอันตรายจากนักโทษที่อยู่มาก่อนเรือนจำพิเศษกรุงเทพวันนี้คราครั่งไปด้วยผู้คน ส่วนใหญ่ไม่ใช่ญาติของนักโทษที่พวกเขาตั้งใจมาเยี่ยมโดยตรง แต่อาจเรียกได้ว่าเป็น ญาติทางความคิด เพื่อนมนุษย์ที่มีความคิดและความรู้สึกไปในทางเห็นอกเห็นใจต่อความไม่เป็นธรรมที่พวกเขาได้รับ นักโทษทางความคิดเป็นใคร? พวกเขาเป็นอมนุษย์ ปีศาจ เชื้อโรคร้าย เป็นพวกต่ำช้าที่ไม่น่าคบหาสมาคมด้วยอย่างที่เราคิดจริงหรือไม่?ด้านหนึ่ง สังคมไทยพยายามส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ กล้าคิด และ คิดเป็น แต่อีกด้านหนึ่งก็ตัดสินให้ความคิดบางอย่างเป็นความคิดต้องห้าม ห้ามคิด และ คิดไม่ได้ ผู้มีอำนาจจึงพยายามเอาความคิดเหล่านั้นไปขังไว้ในคุก จนถึงตอนนี้ เลยชักไม่แน่ใจว่าคุกทางความคิดของประเทศไทยจะต้องมีขนาดใหญ่เท่าไร จึงจะสามารถขังคนที่มีความคิดต่างทางการเมืองได้หมด รู้แต่ว่านับวันคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นทุกทีๆ เช่นเดียวกับคนรัก เพื่อน ญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมทุกข์ที่รู้สึกห่วงใยและเจ็บปวดไปกับพวกเขา ก็ทวีจำนวนขึ้นตามไปด้วยเราแยกย้ายกันตรงหน้าเรือนจำ เธอต้องเดินทางไปกองปราบต่อ ผมกล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมต่อสิ่งที่เธอทำอยู่ เจออะไรแบบนี้ทุกวันๆ ไม่รู้เธอยังทำมันอยู่ได้ยังไงทุกคนก็ทำได้เท่าที่ทำอ่ะพี่จริงอย่างที่เธอว่าในสภาพสังคมแห่งความสุขเช่นทุกวันนี้ เราทุกคนต่างก็เป็นนักโทษทางความคิด | ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร ในสถานการณ์ที่ผู้คนถูกเรียกรายงานตัวและโดนจับกุมไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะพักหลังที่ชะตากรรมเริ่มตกอยู่กับประชาชนคนธรรมดาที่ไม่ได้มีสถานะและชื่อเสียง เธอ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | นักโทษการเมือง,นักโทษทางความคิด,มาตรา112,วิจักขณ์ พานิช | https://prachatai.com/journal/2014/06/54149 |
คอร์สเรียนพิสดารโผล่ สอนเป็นหมอเก๊ทำสวย แนะเทคนิคจับสังเกตคลินิกลวงโลก | ในวันที่ใครบางคนทุ่มเงินทั้งกระเป๋า เพื่อแลกกับความงดงามบนเรือนร่าง ,ในวันที่ใครบางคนเทใจให้กับคลินิกเสริมความงาม เพียงเพราะว่าข้อมูลในอินเทอร์เน็ต,ในวันที่ใครบางคนยอมเจ็บเจียนตาย พร้อมขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ที่ไม่ต่างอะไรจากโรงฆ่า,และในวันที่ใครบางคนทุรนทุราย เมื่อรู้ว่าตัวเองหลงกลให้กับ ,หมอเถื่อน ,และ, คลินิกลวงโลก,หมอเถื่อน ,และ, คลินิกลวงโลก, อุทาหรณ์เตือนใจของคนรักสวยรักงามที่ปรากฏให้เห็นอยู่บนหน้าสังคมหลายต่อหลายครั้ง,สารพัดสารเพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยโอกาสนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้ยกทุกกระบวนท่าขนมาให้คนรักสวยรักงาม การันตีไม่ตกหลุมพราง ,หมอเถื่อน, และ ,คลินิกลวงโลก, แน่นอน,แหล่งข่าวภายในกรม สบส. (ไม่ประสงค์ออกนาม) บอกเล่ากับทีมข่าวว่า กรณีของหมอเถื่อน และคลินิกลวงโลกนั้น มีขบวนการมืดที่คอยสนับสนุนการกระทำนี้อยู่ โดยมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบทำธุรกิจเปิดคอร์สสอนการทำหัตถการประเภทต่างๆ เช่น ฉีด, เจาะ, ใช้รังสี ให้แก่ผู้ที่ต้องการเรียน, ,แหล่งข่าวภายในกรม สบส. ระบุ,ทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง ,นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, ซึ่งรองโฆษกกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า สำหรับผู้ที่แอบลักลอบเปิดคลินิกเถื่อนนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนใจกล้า และต้องการเงิน คนเหล่านี้จึงกล้าตัดสินใจกระทำความผิด,โดย นายแพทย์ภัทรพล แบ่งพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. กลุ่มที่เคยทำงานร่วมกับแพทย์มาก่อน เพราะฉะนั้น พวกเขาจะมีโอกาสเห็นวิธีการทำหัตถการต่างๆ ของแพทย์ 2. กลุ่มคนที่ไม่ได้จบแพทย์ หรือจบเพียงมัธยมศึกษา 6 เท่านั้น 3. กลุ่มคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ และ 4. กลุ่มคนที่กำลังเป็นนักศึกษาแพทย์, รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงสภาพปัญหา,ผู้สื่อข่าวถามต่อจากประเด็นข้างต้นว่า ,กรณีที่คนเหล่านี้กล้าทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจมาจากบทลงโทษทางกฎหมายที่ยังไม่หนักเท่าที่ควร หรือไม่?,นายแพทย์ภัทรพล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตอบข้อซักถามดังกล่าวว่า ล่าสุด สบส.ได้จัดทำ ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่) พ.ศ. ขึ้นใหม่ โดยปรับปรุงจากกฎหมายฉบับเดิมคือ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งใช้มานาน 18 ปี ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยเพิ่มบทลงโทษให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการโปรดเกล้าฯ และ,ในกรณีที่เปิดสถานพยาบาลเถื่อนโดยไม่ได้ขออนุญาตนั้น จะมีความผิดโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเดิมจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท,ส่วนผู้ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต (หมอเถื่อน) มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,ในกรณีที่มีการปลอมแปลงเอกสารราชการมีความผิดตามกฎหมายอาญา (อ้างตัวว่าเป็นแพทย์) มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท,หากผู้ใดจำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท,หากผู้ใดจำหน่ายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,โดย นายแพทย์ภัทรพล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ให้ข้อมูลผลการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกฎหมาย ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ,ประจำปี 2558, จำนวนทั้งสิ้น 27 คดี โดยแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้,1. คลินิกเถื่อนและหมอเถื่อน จำนวน 16 คดี,2. คลินิกเถื่อน จำนวน 2 คดี ,3. หมอเถื่อน จำนวน 6 คดี,4. ทำแท้ง จำนวน 1 คดี,5. ขายยาเถื่อน จำนวน 1 คดี ,คำสั่งปิดส่วนให้บริการ จำนวน 1 คดี,ขณะที่ เรื่องร้องเรียนคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ได้รับการดำเนินคดี ,ประจำปี 2559, นั้น มีจำนวน 37 เรื่อง โดยดำเนินการตามกฎหมาย 22 เรื่อง, ไม่มีการกระทำความผิด 11 เรื่อง และไม่มีสภาพเป็นสถานพยาบาล 3 เรื่อง และอยู่ระหว่างพิจารณา 1 เรื่อง,รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงวิธีการปราบ หมอเถื่อน และ คลินิกลวงโลก ไว้ว่า ปัจจุบัน กรม สบส.มีมาตรการป้องกันปัญหาคลินิกเถื่อน และหมอเถื่อน ดังต่อไปนี้ 1. จัดอบรมพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ 2. เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังทางสื่อโซเชียลมีเดีย 3. ให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลือกใช้สถานพยาบาลที่ถูกต้อง 4. จัดทีมเข้าไปสุ่มตรวจสถานพยาบาลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งแหล่งที่ตั้งของหมอเถื่อนและคลินิกเถื่อนนั้น ส่วนใหญ่มักอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองไทย,ขณะที่ นายแพทย์ภัทรพล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนที่นิยมหาข้อมูลสถานเสริมความงามในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งจริงและเท็จปะปนกัน หากผู้ใดพลาดท่าเสียทีก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จนทำให้รูปร่างหน้าตาเสียหายจนยากที่จะแก้ไข หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น นายแพทย์ภัทรพล จึงแนะวิธีรู้เท่าทัน ,หมอเถื่อน ,และ, คลินิกลวงโลก, เอาไว้ ดังต่อไปนี้,1. แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ และอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ,2. ติดป้ายชื่อ ประเภทและลักษณะการให้บริการ รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการจำนวน 11 หลัก ที่ด้านหน้าสถานพยาบาล,3. ติดป้ายชื่อพร้อมรูปถ่าย เลขที่ใบอนุญาตของแพทย์ที่ทำการรักษา ที่หน้าห้องตรวจ-รักษา โดยประชาชนสามารถตรวจสอบสถานพยาบาลที่เว็บไซต์, กรม สบส., และประชาชนสามารถตรวจสอบ แพทย์ที่ทำการรักษาว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ ที่เว็บไซต์ของ ,แพทยสภา, ,4. หากมีข้อสงสัยหรือพบ หมอเถื่อน และ คลินิกลวงโลก สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เฟซบุ๊กมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน, เฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ และสายด่วน สบส.02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง,นายแพทย์ภัทรพล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทิ้งท้าย | สารพัดสารเพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยโอกาสนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ยกทุกกระบวนท่าขนมาให้คนรักสวยรักงาม การันตีไม่ตกหลุมพราง หมอเถื่อน และ คลินิกลวงโลก แน่นอน! | null | ตรวจสอบคลินิก,คลินิกเถื่อน,คลินิกเสริมความงาม,คลินิกเสริมความงามเถื่อน,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/812227 |
ชาวเขมรผวาสงคราม ทหาร-ตร.กัมพูชา คุมเข้มชายแดน หวั่นกบฏกลับเข้าประเทศ | ,เมื่อเช้าวันนี้ 4 พ.ย. 62 ที่ ด่านพรมแดนปอยเปต กรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้าม ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.ทหารและตำรวจกัมพูชา ยังคงสะพายอาวุธสงครามคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาของบุคคลทั่วไปอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ จนท.ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชาได้ทำการตรวจพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศกัมพูชาอย่างเข้มงวดพร้อมทั้งนำภาพของ 8 แกนนำกบฏกัมพูชาและกลุ่มสนับสนุน ที่รัฐบาลกัมพูชาออกหมายจับและห้ามเข้าประเทศมาติดไว้บริเวณด่าน ตม.ปอยเปตฯเพื่อให้ จนท.เปรียบเทียบใบหน้าป้องกันการแปลงโฉมและตกแต่งใบหน้าลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา ,ส่วนบรรยากาศในตลาดปอยเปต กรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประมาณ 1.5 กม.ยังคงมีทหาร และ ตชด.กัมพูชา สะพายอาวุธสงครามเดินลาดตระเวนตรวจตราตามท้องถนนและตามตรอกซอกซอย ตลอดเวลา ทำให้ประชาชนชาวเขมรในปอยเปตฯ ต่างอกสั่นขวัญแขวน มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะการวิจารณ์ว่าอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชากลับมาอีกครั้งหากนายสม รังสี แกนนำกลุ่มกบฏกัมพูชาเดินทางกลับกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 9 พ.ย. 62 ตามที่นายสม รังสี ได้ประกาศและปลุกระดมชาวกัมพูชาให้ขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและโค่นล้มระบบฮุน เซน ในกัมพูชา,ทั้งนี้ นายเจือน ซกฮือ ชาวกัมพูชาในตลาดปอยเปตฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ในกรุงปอยเปต ไม่ปกติเพราะมีแต่ทหาร ตำรวจเขมรถืออาวุธสงคราม เดินตรวจตราทั่วเมือง โดยเฉพาะตอนกลางคืนชาวเขมรในกรุงปอยเปต ไม่มีใครกล้าออกจากบ้านเพราะกลัวถูกจับหรือถูกยิงตาย พอ 2 ทุ่มต่างก็รีบเข้านอนกันหมด แม้แต่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ในกรุงปอยเปตฯช่วงกลางคืนเหมือนห้างร้างไม่มีชาวเขมรกล้าเข้าไปเดินในห้างฯ ตอนนี้ชาวเขมรต่างกลัวสงครามกลางเมืองกันมาก ไม่อยากให้กัมพูชากลับไปอยู่ในสภาพสงครามอีกครั้ง มีการกักตุนอาหารและน้ำดื่มกันแล้ว ,ตอนนี้ชาวเขมรส่วนใหญ่จับตามองในวันที่ 9 พ.ย. 62 ที่นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ที่รัฐบาลกัมพูชาตั้งข้อหากบฏ และได้หลบหนีไปอยู่ฝรั่งเศส ประกาศว่าจะกลับมาเรียกร้องประชาธิปไตยในกัมพูชา จึงเกรงว่าหากเป็นเรื่องจริงอาจมีการยิงปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มใต้ดินที่สนับสนุนนายสม รังสี,ส่วนทางด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ จนท.ตม.ประจำ ด่าน ตม.อรัญประเทศฯ ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนคนไทยที่ทำงานอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ให้ระมัดระวังพกหนังสือเดินทางตลอดเวลา และห้ามทำผิดกฎหมายในกัมพูชา โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนห้ามออกมาเดินเล่นในตลาดปอยเปตฯ และอย่าพยายามปิดบังใบหน้า หรือใส่หมวกคลุมใบหน้าเพราะจะทำให้ถูก จนท.กัมพูชา ตรวจค้นหรือเกิดสงสัยได้,จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา พบว่าทางรัฐบาลกัมพูชา ได้มอบหมายให้ พล.อ.เค็ง ซาเมด รอง ผบ.ตร.กัมพูชา ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนประเทศกัมพูชาทั่วประเทศ รับผิดชอบและสั่งการให้ จนท.ทหารและตำรวจกัมพูชาปฏิบัติการเข้มป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มกบฏกัมพูชาสามารถลักลอบเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ได้ ,เบื้องต้นมีการสั่งการให้ พล.ท.เป็ก วันนา ผบ.สน.ปกท.(ผู้บัญชาการสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย) ของกัมพูชา นำกำลังทหารประจำจังหวัดบันเตียเมียนเจยฯพร้อมอาวุธสงครามคุมเข้มพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.บันเตียเมียนเจยฯ และให้ พ.ต.อ.โซ จันนารี ผบ.กองพัน ตชด.ที่ 911 กัมพูชา นำกำลังพร้อมอาวุธสงครามดูแลรับผิดชอบพื้นที่ตะเข็บชายแดน ด้านกรุงปอยเปตฯ โดยมี พล.ต.บอน บิน หน.สห.กัมพูชา(หัวหน้าสารวัตรทหารกัมพูชา) ประจำจังหวัดบันเตียเมียนเจย นำหน่วยสารวัตรทหารกัมพูชา ออกตรวจค้นตามแหล่งชุมชนทั่วกรุงปอยเปตฯ. | ชาวบ้านผวาสงครามแห่ตุนเสบียง ด้าน ทหาร-ตร.เขมร ขนอาวุธสงครามครบมือคุมเข้มชายแดนปอยเปต ล่าสกัดกลุ่มกบฏ ตม.สระแก้ว เตือนคนไทยอย่าออกบ้านตอนดึก พกพาสปอร์ตตลอด งดสวมหมวก-ที่คลุมหน้า | ข่าว,ทั่วไทย | ผวาสงคราม,ชาวกัมพูชา,สม รังสี,ชายแดนไทย-กัมพูชา,ปอยเปต,ตม.สระแก้ว,ด่านอรัญประเทศ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1696685 |
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ ชี้วิธีป้องกัน | กรมการแพทย์ชี้ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบบ่อยในคนไทยทุกเพศทุกวัย พร้อมแนะหมั่นสังเกตตนเอง หากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็น 1 ใน 10 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย พบมากเป็นอันดับ 5 ในเพศชาย และอันดับ 9 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 4300 ราย และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1300 ราย หรือคิดเป็น 4 คนต่อวัน มะเร็งชนิดนี้พบได้ในทุกกลุ่มวัยและจะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจัดเป็นโรคมะเร็งของระบบโลหิตวิทยา หรือระบบโรคเลือด มักเกิดกับเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เช่น บริเวณลำคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขน ข้อพับขา ในช่องอก และในช่องท้อง เป็นต้นสำหรับสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากข้อมูลพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ การสัมผัสสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สารเคมีปราบศัตรูพืช รวมไปถึงการมีภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง เช่น โรคเอดส์ การปลูกถ่ายอวัยวะ โรคไขข้ออักเสบ เป็นต้นทางด้าน นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการในระยะแรกมักพบต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น ซึ่งจะคลำพบได้ง่ายในบริเวณที่อยู่ตื้น คลำได้ และอาจไม่รู้สึกเจ็บ เช่น บริเวณข้างลำคอ รักแร้ เต้านม หรือขาหนีบ นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ต่อมทอนซิลโต เหงื่อออกกลางคืน ท้องอืดแน่น ตับม้ามโตโดยไม่ทราบสาเหตุสำหรับในด้านวิธีรักษานั้นจำเป็นต้องพิจารณาชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะโรค อายุและภาวะสุขภาพคนผู้ป่วยโดยรวม การรักษาอาจประกอบด้วยการให้ยาเคมีบำบัด และ/หรือการให้รังสีรักษา ซึ่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาจะให้คำแนะนำเพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับโรคและสภาวะคนไข้มากที่สุดขณะที่โดยทั่วไป ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะมีผลการรักษาดี มีโอกาสหายขาดจากโรค และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะเริ่มแรก ดังนั้นการหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์. | กรมการแพทย์ชี้ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบบ่อยในคนไทยทุกเพศทุกวัย พร้อมแนะหมั่นสังเกตตนเอง หากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ | ข่าว,ทั่วไทย | มะเร็งต่อมน้ำเหลือง,ต่อมน้ำเหลือง,ต่อมน้ำเหลืองโต,มะเร็ง,กรมการแพทย์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1896423 |
ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา บิดาเนวินเสียชีวิต | รวมทั้งทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 อีกด้วย24 ม.ค. 63 ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา เสียชีวิตแล้วในวัย 92 ปี โดยเขาเป็นบิดาของเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมชัย ชิดชอบ เกิดเมื่อ 5 เมษายน 2471 ที่บ้านเพี้ยราม ต.เพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรของนายเมียศ กับนางเรียด ชิดชอบ จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จ.สุรินทร์ชีวิตส่วนตัว สมรสกับละออง ชิดชอบ มีบุตรชาย 5 คน หญิง 1 คน บุตรคือ เนวิน ชิดชอบ เป็นประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย โดยตัวเขาชื่นชอบนักการเมืองชาวอิสราเอลคนหนึ่ง ที่ชื่อ โมเช่ ดายัน ถึงขนาดตั้งฉายาให้ตัวเองว่า ชัย โมเช่ชัย ชิดชอบ เริ่มต้นงานการเมืองจากการเมืองท้องถิ่น เป็นกำนัน ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และทำธุรกิจโรงโม่หิน ชื่อโรงโม่หินศิลาชัย เขาสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2500 แต่แพ้เลือกตั้ง แต่ชนะเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรสมัยแรกในนามอิสระเมื่อปี 2512 โดยใช้วุฒิการศึกษา ม.6 สมัครมาตลอด จนกระทั่งเมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 กำหนดให้ ส.ส. ต้องจบปริญญาตรี เขาจึงสมัครเรียนปริญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาตรี สาขาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเขายังเคยเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และอดีตวุฒิสมาชิกด้วย ในงานการเมืองเขาได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎรในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่าง พ.ศ. 2551 ถึง 2554โดยเขาเปลี่ยนสังกัดพรรคการเมืองหลายครั้ง โดยครั้งหลังเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เมื่อยุบพรรคก็ย้ายมาพรรคพลังประชาชน ก่อนย้ายไปร่วมพรรคภูมิใจไทย หลังจากบุตรชายคือเนวิน ตัดสินใจแยกขั้วจากพรรคประชาชน/พรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรคใหม่เพื่อร่วมรัฐบาลผสมกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนธันวาคม 2551ทั้งนี้หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวเพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยในการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เขาออกเสียงเรียกชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผิดเป็น คุณธนากร | ชัย ชิดชอบ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 92 ปี จบเส้นทาง ส.ส.หลายสมัย รวมทั้งเคยเป็นประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน-พรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างปี 2551-2554 | การเมือง | obituary,ชัย ชิดชอบ,ประธานรัฐสภา,การเมืองไทย,พรรคภูมิใจไทย,บุรีรัมย์ | https://prachatai.com/journal/2020/01/86067 |
ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน งดโอนเงิน 2-4 พ.ค. จ่ายอีกครั้ง 2 เดือนควบ | ภายหลัง รัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19(COVID-19) จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ ยกเลิกการลงทะเบียน ยื่นทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้นั้นวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังจะเร่ิมโอนเงินเยียวยา 5000 บาทให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เนื่องจากวันที่ 2-4 พฤษภาคม ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันแล้วกด ยกเลิกการลงทะเบียน ด้วยความเข้าใจผิดนั้น ยังสามารถยื่นขอรับสิทธิ์คืนอีกครั้ง โดยใช้ปุ่มสีม่วงยื่นทบทวนสิทธิ์บนหน้าเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com หากคุณสมบัติตรงกับที่ระบุ ก็สามารถรับเงินเยียวยา 5000 บาทสำหรับวิธีตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน มีดังนี้1. เช็กสถานะเราไม่ทิ้งกัน ได้ที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. กดที่คำว่า ตรวจสอบสถานะ หรือ (คลิกที่นี่)3. ระบบจะเข้าสู่หน้า ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน มาตรการเยียวยาฯ ให้กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนโดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการตรวจสอบสถานะ มีดังนี้4. จากนั้นระบบจะแจ้งว่าขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถตรวจสอบสถานะได้ผลการเช็กสิทธิ์เราไม่ทิ้งกันแต่ละสถานะ มีความหมายดังต่อไปนี้1. อยู่ระหว่างการตรวจสอบหากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ความหมายคือ อยู่ในกระบวนการคัดกรองคำแนะนำ : ควรเข้าตรวจสอบสถานะในระบบ แล้วรออย่างน้อย 2-5 วัน เพื่อเช็กการเปลี่ยงแปลง2. อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่านหากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน (ไม่สามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้) ความหมายคือ ได้รับสิทธิ์ รอการโอนเงินคำแนะนำ : ควรตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เนื่องจากบางรายยอดเงิน 5000 บาท จะเข้าก่อน แล้วจึงค่อยมี SMS ตามมาทีหลัง3. ไม่สามารถทำรายการต่อได้หากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า ไม่สามารถทำรายการต่อได้ (ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง) ความหมายคือ คำแนะนำ : เช็กข้อมูล หรือรอ SMS ว่ามีการลงข้อมูลผิดหรือไม่. | ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน กระทรวงการคลังงดโอนเงินเยียวยา 5000 บาท วันที่ 2-4 พ.ค.63 เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ผู้ผ่านเกณฑ์เตรียมรับเงิน 10000 บาท 2 เดือนควบ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1834928 |
ปปท.นำวิศกรลุยสอบ ร.ร.สตรีชัยภูมิ สร้างอาคารติดแอร์ 44 ล. | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนักไปทั่วในโลกโซเชียลมีเดีย ว่าโรงเรียนสตรีชัยภูมิ ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับชั้นมัธยมขนาดใหญ่ชื่อดัง ประจำจังหวัดชัยภูมิ มีนักเรียนจำนวนมากกว่า 3,400 คน หลังมีการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารขนาด 4 ชั้น และมีการติดตั้งแอร์เครื่องปรับอากาศ และหลอดไฟมากเกินความจำเป็นไม่เว้นทางขึ้นบันไดภายในตัวอาคารแทบทุกชั้น และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณของรัฐโดยใช่เหตุหรือไม่,ล่าสุดวันนี้ (29 ต.ค.58) เวลา 10.00 น. สำนักงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภายในภาครัฐ เขต 3 หรือ (ปปท.) มอบหมายให้นายณัฐพงษ์ พาสิงห์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปปท.เขต 3 พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ มหาวิวัฒน์ วิศวกรโยธาประจำ ปปท.เขต 3 นำคณะลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมโดยมีนายวิจิตร ชิณศรี รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีชัยภูมิ เป็นตัวแทนโรงเรียนเป็นผู้นำชี้แจง และพาตรวจสถานที่ ภายในตัวอาคารอเนกประสงค์ แบบพิเศษของโรงเรียนสตรีชัยภูมิ ที่มีการดำเนินการประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างตัวอาคารขนาดสูง 4 ชั้น มาตั้งแต่ปี 2556-2558 ในวงเงินงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน จาก สพฐ.ที่มีผู้รับเหมาเสนอราคาประมูลงานไปได้คือบริษัทราฤธานี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพลู อำเภอเมือง จังหวัดประทุมธานี ที่เสนอมาในราคา 44,300,000 บาท ต่ำกว่าราคากลางกว่า 3.7 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 48 ล้านบาท โดยเบื้องต้นทางหัวหน้าชุดคณะ ปปท.เขต 3 ได้เข้าตรวจสอบเอกสารหลักฐานการออกแบบที่ล่าสุดพบว่าทางโรงเรียนสตรีชัยภูมิ สมัยอดีตผู้อำนวยการคนก่อนที่ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว เป็นผู้จัดทำและหาวิศวกรมาออกแบบการก่อสร้างอาคารแห่งนี้เองทั้งหมด ก่อนที่จะเสนอไปขออนุมัติงบประมาณจาก สพฐ.เพื่อลงมาดำเนินการเองตามแบบที่อ้างว่าได้ผ่านการรับรองตัวอาคารสูงขนาด 4 ชั้น รวมมีห้องเรียน ห้องผู้บริหาร ห้องพักครู ห้องพัสดุ ห้องนั่งเล่นเด็ก ห้องสืบค้น ห้องปฏิบัติการพิเศษและห้องประชุมขนาดกลางและเล็กรวมทั้งหมดเพียง 27 ห้อง และการจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งหลอดไฟและระบบแอร์มากเกินความจำเป็น เบื้องต้นเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณรัฐเสียเปล่าโดยใช่เหตุเตรียมเสนอ คณะ ปปท.ใหญ่พิจารณาดำเนินการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด. | ปปท.นำวิศวกรโยธา ลุยสอบสร้างตึกติดแอร์หรูโรงเรียนสตรีชัยภูมิ หลังพบมีการดำเนินการจัดสร้างงบประมาณถึง 44 ล้านบาท แถมติดหลอดไฟมากเกินความจำเป็น เบื้องต้นพบเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ | ข่าว,ทั่วไทย | โรงเรียนติดแอร์,รร.ติดแอร์,งบประมาณแผ่นดิน,ทุจริตงบประมาณ,ร.ร.สตรีชัยภูมิ,ติดแอร์บันได,ร.ร.ดังประจำจังหวัดชัยภูมิ,ตึกร.ร.44ล้าน,วิจิตร ชิณศรี,รองผอ.ร.ร.สตรีชัยภูมิ,ณัฐพงษ์ พาสิงห์,นักสืบ ปปท.เขต 3,ประสิทธิ์ มหาวิวัฒน์,วิศวกรโยธาประจำ ปปท.เขต 3,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,โรงเรียนประจำจังหวัด,สิ้นเปลืองงบประมาณ,งบ 44 ล้าน,ชัยภูมิ | https://www.thairath.co.th/news/local/535706 |
บอร์ดกสท.เล็งปรับ มักซ์ อสมท เหตุล่มซ้ำซาก | เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2558 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้ตรวจสอบพบว่าการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ให้บริการสถานีกรุงเทพขัดข้อง เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2558 เป็นเวลาประมาณ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ทำให้ไม่สามารถให้บริการแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินที่ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถดูรายการของช่องทีวีดิจิตอลที่ใช้บริการโครงข่ายฯ อสมท ประกอบด้วย ช่อง 10 ทีวีรัฐสภา ช่อง 14 เอ็มคอท แฟมิลี่ ช่อง 19 สปริงนิวส์ ช่อง 21 วอยซ์ทีวี ช่อง 30 เอ็มคอทเอชดี และช่อง 32 ไทยรัฐทีวี,ดังนั้น สำนักงาน จะทำหนังสือแจ้งให้ อสมท ดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้องให้แล้วเสร็จในทันที พร้อมทั้งรายงานปัญหาและสาเหตุของปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ตลอดจนแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก,ที่ผ่านมา กสท. ได้มีการพิจารณาการดำเนินการต่อกรณีเกิดข้อขัดข้องโดยมีความเห็นว่าผู้ให้บริการโครงข่ายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ระดับชาติ ซึ่งต้องมีระยะเวลาที่สามารถให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์แก่ผู้ใช้หรือเชื่อมต่อโครงข่ายโทรทัศน์แต่ละรายไม่น้อยกว่า ร้อยละ 99.98 ของเวลาออกอากาศทั้งหมดต่อปีต่อสถานีหลัก โดยเมื่อคำนวณระยะเวลาการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ตลอด 24 ชม. แล้วจะสามารถยอมรับการเกิดเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถให้บริการโครงข่ายได้ในแต่ละสถานีหลักไม่เกิน 1 ชั่วโมง 45 นาที ต่อปี ซึ่งข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นจากการให้บริการโครงข่ายฯ ของ อสมท ในครั้งนี้ จะทำให้เกินระยะเวลาที่สามารถยอมรับการเกิดเหตุขัดข้องได้และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตฯ,นอกจากนี้ การเกิดเหตุขัดข้องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน ผู้รับชมรายการทางทีวีดิจิตอลจำนวนมาก ซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะอย่างร้ายแรง จึงอาจเป็นกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ตามประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะนำกรณีดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองต่อไป โดยสามารถปรับทางปกครองได้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 100,000 บาท | สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอบอร์ด กสท. พิจารณาโทษปรับทางปกครอง อสมท กรณีโครงข่ายทีวีดิจิตอลในเขตกรุงเทพและปริมณฑลล่ม สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 100,000บาท | null | โครงข่ายล่ม,อสมท,โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดิน,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,มักซ์ อสมท,ปรับทางปกครอง,ทีวีดิจิตอล,กสท.,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/524811 |
บัลติมอร์ พลิกนรก บุกเฉือน พิตส์เบิร์ก คาบ้าน 23-20 | วันที่ 2 ต.ค. การแข่งขันศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล สหรัฐอเมริกา ฤดูกาล 2015 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ในสายเอเอฟซี พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส เปิดสนามไฮนซ์ ฟิลด์ สเตเดียม พบกับ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทีมอันดับสุดท้ายของสาย ที่แพ้มาแล้ว 3 เกมก่อนหน้านี้,เริ่มเกมในควอเตอร์แรก เป็นฝ่ายเจ้าถิ่นที่ออกนำไปก่อน 3-0 จากผลงานการเตะฟิลด์โกลของ จอช สโคบี แต่ในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย ไมเคิล คัมปานาโร มาทำทัชดาวน์ให้กับ บัลติมอร์ พลิกขึ้นนำในควอเตอร์แรก 3-7,ถัดมาในควอเตอร์ที่ 2 เลอวอน เบล ก็มาวิ่งทำทัชดาวน์ ให้กับ พิตส์เบิร์ก แซงกลับมานำอีกครั้งเป็น 10-7 และ จอช สโคบี เตะฟิลด์โกลระยะ 36 หลา ช่วยให้เจ้าถิ่นนำห่างออกไปที่ 13-7,จากนั้นควอเตอร์ที่ 3 ไมค์ วิค ขว้างบอลให้กับ ดาร์ริอุส เฮย์วอร์ด-เบย์ วิ่งทำทัชดาวน์ระยะ 6 หลา ทำแต้มให้ พิตส์เบิร์ก ฉีกหนีไปอีกครั้งเป็น 20-7 แต่หลังจากนั้นไม่นาน โจ แฟล็คโก ก็มาขว้างให้กับ คามาร์ ไอเคน แก้คืน 1 ทัชดาวน์ ให้กับทีมเยือน ขยับตามมาที่ 20-14,ในควอเตอร์ที่ 4 เกมรุกของเจ้าถิ่นกลับช็อตไปดื้อๆ ปล่อยให้ จัสติน ทัคเกอร์ เตะ 2 ฟิลด์โกลสำคัญ ช่วยให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 20-20 ไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ,และในช่วงต่อเวลา จัสติน ทัคเกอร์ ก็มาสวมบทฮีโร่ เตะฟิลด์โกลจากระยะ 52 หลา ช่วยให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ บุกมาเอาชนะ พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ ไปอย่างสนุกสุดมัน 20-23 เก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ | จัสติน ทัคเกอร์ แผลงฤทธิ์ในช่วงท้ายเกม เตะฟิลด์โกลสำคัญ 3 ครั้งติดต่อกัน ช่วยให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ พลิกเฉือนเอาชนะ พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส ได้ถึงถิ่น 23-20 ปลดล็อกคว้าชัยเป็นเกมแรกได้สำเร็จในศึกเอ็นเอฟแอล 2015 | null | อเมริกันฟุตบอล,ศึกคนชนคน,เอ็นเอฟแอล 2015,สายเอเอฟซี,พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส,บัลติมอร์ เรฟเวนส์,จอช สโคบี,จัสติน ทัคเกอร์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/529475 |
เสมา 1 ปลื้ม มหิดลวิทยานุสรณ์-จ่อขยาย ม. พี่เลี้ยง | พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ว่าเป็นการมาตรวจเยี่ยมเพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งจัดการเรียนการสอนได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ตนได้ฝากผู้บริหารโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เรื่องการผลิตคนให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโรงเรียน คือ การผลิตนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย ซึ่งเป็นสาขาที่ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลน ดังนั้น โรงเรียนก็ควรต่อยอดการผลิตนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย เพราะเด็กเหล่านี้มีพื้นฐานความสามารถที่เก่งอยู่แล้ว ทั้งนี้ จากการรับฟังรายงานพบว่านักเรียนมีผลงานเป็นจำนวนมากและมีกว่า 50 ผลงานที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์ ซึ่งตนถือว่าเด็กอายุขนาดนี้มีผลงานเป็นลิขสิทธิ์ของตัวเองถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากและคนเหล่านี้ถือเป็นความหวังของประเทศชาติ,รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการศึกษาของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ นอกจากความเก่งของโรงเรียนแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการมีมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยง จึงทำให้การจัดการเรียนการสอนมีคุณภาพ ดังนั้น ตนจึงมีแนวคิดที่จะขยายผลโดยให้นำมหาวิทยาลัยมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในปีการศึกษา 2559 ตนจะเน้นเรื่องของการพัฒนาครูและการนำสะเต็มศึกษามาใช้ โดยเฉพาะการขยายผลรูปแบบสะเต็มศึกษาให้โรงเรียนได้นำไปใช้ เพื่อให้การดำเนินการเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม. | พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียนมหิดล-วิทยานุสรณ์ ว่าเป็นการมาตรวจเยี่ยมเพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ | null | มหิดลวิทยานุสรณ์,เยี่ยมโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์,ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ,การเรียนการสอน,กระทรวงศึกษาธิการ,การผลิตนักวิทยาศาสตร์,มหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการศึกษา | https://www.thairath.co.th/content/579451 |
รมว.อุตสาหกรรมสั่ง กพร.ดำเนินการใบอนุญาตเหมืองแร่ชาตรีให้สอดคล้องมติ ครม. | วันนี้ (12 พ.ค.2559) นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) พิจารณาใบประทานบัตรของเหมืองแร่ทองคำชาตรี ซึ่งมีบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับใบอนุญาตและจะสิ้นสุดในปี 2571ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร เพื่อให้สอดคล้องเป็นไปตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 พ.ค.2559 ที่ต้องยุติการประกอบกิจกรรมเหมืองแร่ ไปพร้อมๆ กับการประกอบโลหะกรรมของบริษัท ซึ่งใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม คณะรัฐมนตรี กำหนดให้ระยะเวลาสิ้นสุดในสิ้นปีนี้นอกจากนี้ ได้สั่งให้ กพร.ดูแลมาตรการแผนงานฟื้นฟูสภาพแวดล้อม หลังจากเหมืองแร่ยุติประกอบกิจการ โดยให้ยึดตามเงื่อนไขในรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพ (อีเอชไอเอ) และรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ตามหลักของมติคณะรัฐมนตรีนั้น ยืนยันชัดเจนว่าต้องการให้ยุติการทำเหมืองแร่ ซึ่งมีคำสั่งระงับคำขอของผู้ประกอบการที่ขอเข้ามาตอนนี้ไปแล้ว ส่วนกรณีที่ยังต้องพิจารณา คือใบประทานบัตรของบริษัท อัคราฯ ที่ทำเหมืองแร่ชาตรีและจะหมดในปี 2571 ฝ่ายกฎหมายต้องไปดูเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของคณะรัฐมนตรีและในทางปฏิบัตินั้น เมื่อนโยบายของ ครม.ต้องการให้ยุตินโยบายเหมืองแร่ ดังนั้น แม้ว่าใบอนุญาตการทำเหมืองจะหมดปี 2571 แต่ว่าการประกอบโลหะกรรม ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ จะสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ บริษัทก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ หรือหากจะทำกิจการต่อ แต่ถลุงทองคำ หรือหลอมทองไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ นางอรรชกา กล่าว สำหรับแผนงานการฟื้นฟูเหมืองแร่ทองคำในวันนี้ มีกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร นำโดย น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง เข้าพบคณะทำงานแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของ กพร. เพื่อติดตามสอบถามว่า กพร.มีแผนงานจะฟื้นฟูที่ชัดเจนอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนในช่วงระยะเวลา 7 เดือน ที่เหมืองแร่ยังดำเนินงาน โดยกลุ่มชาวบ้านมีความเป็นห่วงเรื่องการใช้เครื่องมือหนักทำงานในพื้นที่มากขึ้น และการเร่งขนย้ายแร่ จะกระทบต่อการใช้พื้นที่ในชุมชนร่วมกันขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เจ้าของเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร จะแถลงความชัดเจนเป็นทางการ หลังจากมีมติคณะรัฐมนตรีสั่งให้การประกอบโลหะกรรมสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรมสั่งให้ฝ่ายกฎหมาย กพร.พิจารณาใบประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำชาตรีที่สิ้นสุดในปี 2571 เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ยุติการประกอบกิจกรรมเหมืองแร่ในสิ้นปีนี้ | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ครม.,คณะรัฐมนตรี,เหมืองแร่ทองคำชาตรี,เหมืองแร่,เหมืองทอง,เหมืองทองคำ,พิจิตร | https://news.thaipbs.or.th/content/252290 |
‘ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสู่การพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า’ ส่องยุทธศาสตร์ต่อสู้มลพิษฝุ่น PM2.5 ของจีนที่อาจเป็นต้นแบบของโลก | ความศิวิไลซ์ของมนุษย์มักต้องแลกมาด้วยต้นทุนทางธรรมชาติอันประเมินค่าไม่ได้ จากอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน เราพบว่ามนุษย์ยังคงทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่เรียนรู้บทเรียนจากผลเสียของการทำลายธรรมชาติท่ามกลางปัญหาหมอกพิษที่กำลังรุมเร้าหลายภูมิภาคทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ หลายประเทศเพิ่งตระหนักกับปัญหามลพิษอย่างจริงจัง ขณะที่หลายประเทศเพิ่งเริ่มตระหนักและกดดันภาครัฐให้งัดมาตรการต่างๆ เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น อาจถือได้ว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีที่ทั่วโลกพร้อมใจกันยกประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ปัญหาโลกร้อนและมลพิษเป็นวาระสำคัญของประเทศ ซึ่งทำให้โลกนี้ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวที่จะมีอากาศสะอาดให้คนรุ่นหลังได้สูดเข้าไปอย่างเต็มปอด ไม่ไกลจากประเทศไทย จีนซึ่งเป็นชาติที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก และครองแชมป์แหล่งต้นตอของมลพิษทางอากาศมานานหลายปี เวลานี้กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกในด้านการพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้จีนยังรับบทหัวเรือใหญ่ในการผลักดันมาตรการแก้ปัญหาโลกร้อนบนเวทีโลก ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตสำหรับประเทศที่ทำลายธรรมชาติจนบอบช้ำ ถึงแม้ว่ากว่าที่จีนจะเริ่มตระหนักและแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง พวกเขาต้องแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตของประชากรและต้นทุนสิ่งแวดล้อมที่มากมายมหาศาลข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่าจีนมีผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากปัญหามลพิษในอากาศมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ขณะที่นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้วัดดัชนีความสุขโดยใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์อารมณ์ของผู้ใช้เว่ยป๋อ (Weibo) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่คล้ายทวิตเตอร์) ใน 144 เมือง นับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งพบว่าเมื่อระดับฝุ่น PM2.5 (ฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน) สูงขึ้น ข้อความที่สะท้อนความสุขของประชาชนจะลดลง ซึ่งถือเป็นสหสัมพันธ์เชิงลบระหว่างระดับมลพิษกับความสุขในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีการสอดส่องโซเชียลมีเดียเพื่อศึกษาความต้องการของประชาชนมาตลอด บ่อยครั้งนโยบายระดับชาติที่กำหนดออกมาบังคับใช้ก็มาจากเสียงโอดครวญในโลกออนไลน์ มาตรการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็เช่นเดียวกัน และเมื่อรัฐตระหนักถึงปัญหานี้อย่างจริงจังก็เป็นตัวเร่งให้ต้องทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อวิจัยและพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือก จนกระทั่งจีนก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้นำโลกภายในช่วงเวลาไม่กี่ปี ขณะที่ค่ามลพิษก็ลดลงจนน่าพอใจ ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับไทยเราไปดูกันว่ายุทธศาสตร์การทำสงครามกับมลพิษทางอากาศของจีนเป็นอย่างไร ได้ผลมากน้อยแค่ไหน เราสามารถยึดเป็นแบบอย่างได้เพียงใดกรณีศึกษา: สงครามต่อสู้มลพิษของจีนหลังจีนเปิดประเทศและเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมในทุกๆ ด้าน ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายสวนทางกับความเจริญ เนื่องจากจีนพึ่งพาพลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลัก ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษมหาศาล เช่นเดียวกับการขยายตัวของตัวเมืองก็เป็นอีกตัวเร่งให้ปัญหามลพิษเลวร้ายลง กระทั่งจีนกระโดดขึ้นมาเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) รวมกันเมื่อปัญหามลพิษหนักขึ้นจนทำให้ประชาชนไม่มีความสุข รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน และได้กำหนดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นระบบตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทในการต่อสู้กับมลพิษที่ชัดเจนที่สุดของจีนในแผนปฏิบัติการลดมลพิษทางอากาศที่คลอดเมื่อเดือนกันยายน ปี 2013 ช่วยให้จีนปรับปรุงคุณภาพอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ หลังกำหนดเป้าหมายลดค่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงปักกิ่งและเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงลง 33% และ 15% ตามลำดับ ภายในช่วงระหว่างปี 2013-2017ในช่วงเวลาดังกล่าว กรุงปักกิ่งต้องลดค่าฝุ่น PM2.5 จากระดับ 89.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรให้เหลือ 60 ไมโครกรัม ซึ่งมาตรการฉุกเฉินที่ทางการงัดมาใช้ในตอนนั้นมีตั้งแต่การสั่งปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วกรุงปักกิ่ง และห้ามประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงและพื้นที่รอบข้างเผาถ่านหินเพื่อให้ความอบอุ่น ซึ่งแม้จะมีกระแสต่อต้านจากหลายๆ ฝ่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือปักกิ่งสามารถลดค่าฝุ่น PM2.5 ลงเหลือเฉลี่ย 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือลดลงถึง 35% ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เสียอีกสำหรับมหานครเทียนจินที่อยู่ติดกับปักกิ่ง รวมถึงมณฑลข้างเคียงอย่างเหอเป่ยต่างก็ดำเนินมาตรการต่อสู้กับมลพิษเช่นกัน โดยพื้นที่แถบนี้จัดอยู่ในกลุ่มเมืองขนาดใหญ่ (Clusters) เช่นเดียวกับกลุ่มเมืองในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงและแยงซีที่ใช้มาตรการต่างๆ จนสามารถลดระดับมลพิษได้ตามเป้าเช่นกันอย่างไรก็ตาม แม้หลายเมืองของประเทศจีนจะทำได้ตามเป้า แต่ก็ยังไม่มีเมืองไหนที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพอากาศตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรสำหรับฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ขณะที่สิ้นปี 2017 มีเพียง 107 เมืองจากทั้งหมด 338 เมืองใหญ่ที่ทำได้ตามมาตรฐานระดับพอรับได้ขององค์การอนามัยโลกที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรหลังแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปีฉบับแรกของรัฐบาลจีนสิ้นสุดลง จีนมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องทำต่อคือปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐานโลก เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้นและยั่งยืนดังนั้นแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ต่อสู้กับมลพิษทางอากาศเฟสที่ 2 จึงกำหนดขอบเขตควบคุมให้กว้างขวางขึ้นทั่วประเทศ และเพิ่มความท้าทายด้วยกรอบเวลาที่สั้นลงเหลือเพียง 3 ปี (2018-2020) โดยรัฐบาลเรียกมันว่า แผนปฏิบัติการทำสงครามเพื่อท้องฟ้าที่สดใสแผนปฏิบัติการใหม่นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทว่าด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีน ซึ่งมีข้อบังคับสำหรับเมืองขนาดใหญ่หรือเขตพื้นที่ที่อากาศไม่ได้มาตรฐานคุณภาพให้ลดค่าฝุ่น PM2.5 ลงอย่างน้อย 18% เมื่อเทียบกับระดับมลพิษในปี 2015 ข้อมูลจาก หวงเหว่ย หัวหน้าแผนกภูมิอากาศและพลังงานแห่งองค์กรสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ อีสต์เอเชีย ระบุว่าแผนปฏิบัติการใหม่มีการควบคุมการปล่อยมลพิษในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น ส่งผลให้หลายเมืองที่ไม่เคยถูกควบคุมเรื่องมลพิษมาก่อนถูกกดดันให้ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ จากเดิมที่เคยเป็นเป้าหมายเฉพาะสำหรับกลุ่มเมืองปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย รวมถึงเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงและแยงซีเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางการระบุว่าในบรรดาเมืองขนาดใหญ่จำนวน 338 เมืองที่อยู่ในข่ายถูกควบคุม มีถึง 231 เมืองที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพอากาศตามเกณฑ์ค่า PM2.5 ซึ่งอนุญาตให้มีปริมาณฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือเทียบเท่ากับมาตรฐานที่พอรับได้ขององค์การอนามัยโลกมีการตั้งข้อสังเกตว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การควบคุมมลพิษตามแผนปฏิบัติการฉบับ 3 ปีไม่ได้ผลมากนักเป็นเพราะส่วนกลางไม่ได้กำหนดเป้าหมายให้ลดฝุ่นละอองโดยเทียบจากระดับมลพิษในปี 2017 ทว่ากลับใช้ตัวเลขของปี 2015 เป็นเส้นฐานแทน ซึ่งดูไม่สมเหตุสมผลนักมีเสียงวิจารณ์ว่าเป้าหมายลดค่าฝุ่น PM2.5 ลง 18% ภายในปี 2020 เป็นเรื่องที่ง่ายดายเกินไปสำหรับบางเมือง ส่งผลให้มาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนในหลายเมืองไม่เข้มข้นมากนักก่อนหน้านี้มีกว่า 70 เมืองที่ลดมลพิษในอากาศได้เกินเป้าของแผนปฏิบัติการฉบับแรก ซึ่งเป็นฉบับที่มีการกำหนดเป้าหมายใหม่ แต่สำหรับเฟสที่ 2 กลับไม่จูงใจให้เมืองเหล่านี้ดำเนินมาตรการมากขึ้น เพราะเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนระยะ 3 ปีไม่ท้าทายเพียงพอและแม้ว่าทุกเมืองจะทำได้ตามเป้าโดยลดฝุ่น PM2.5 ลง 18% แต่ก็จะมีกว่า 200 เมืองที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพอากาศที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในปี 2020 อย่างไรก็ตาม หวังจินหนาน ผู้อำนวยการสถาบันวางแผนด้านสิ่งแวดล้อมในสังกัดกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน ชี้แจงว่าการกำหนดเป้าหมายโดยแยกจากแผนแม่บทว่าด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมระยะ 5 ปี (2016-2020) ของรัฐบาลอาจสร้างความสับสนให้กับรัฐบาลท้องถิ่นผู้รับแผนไปปฏิบัติ เพราะตัวเลขต้องสอดคล้องกับเป้าหมายที่ประกาศไปในปี 2016 ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถกำหนดเป้าหมายด้านปริมาณใหม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือเพียงตอกย้ำถึงความจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายใหญ่ของแผนแม่บทว่าด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมฉบับที่ 13 ของจีนโฟกัสโอโซนระดับพื้นดินมากขึ้นนอกเหนือจากฝุ่นละอองขนาดเล็กแล้ว โอโซนที่เป็นพิษซึ่งส่งผลเสียต่อระบบหายใจเมื่อสูดเข้าไปในร่างกายก็เป็นสิ่งที่ทางการจีนวิตกกังวลและถูกบรรจุลงในแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ของรัฐบาลด้วย โอโซนที่ว่านี้อยู่ในระดับพื้นดิน ซึ่งเกิดจากสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) หรือสาร VOCs ที่ทำปฏิกิริยากับไนโตรเจนออกไซด์ โดยทางการได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยสาร VOCs และไนโตรเจนออกไซด์ลง 10% และ 15% ตามลำดับ โดยใช้ตัวเลขปี 2015 เป็นฐานปัจจุบันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าปัญหามลพิษโอโซนในจีนเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนจะทำให้โอโซนในระดับพื้นดินเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ ขณะกรีนพีซเคยคำนวณไว้ว่าระดับโอโซนเฉลี่ยทั่วประเทศจีนในเดือนมิถุนายน ปี 2018 สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 11% โมเดลระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งในกรณีศึกษาน่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อสู้กับปัญหามลพิษ นอกเหนือไปจากการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน ย้ายที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมออกนอกเขตเมือง และควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมแล้ว รัฐบาลจีนยังโดดเด่นในเรื่องการส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ดีเซลและเบนซินที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หนึ่งในแรงผลักดันสำคัญก็คือถึงแม้รัฐบาลจีนพบว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในกรุงปักกิ่ง แต่ความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากการย้ายที่ตั้งอุตสาหกรรมที่ปล่อยมลพิษให้ไกลออกไปจากเมืองหลวง ซึ่งหากจีนต้องการบรรลุเป้าหมายคุณภาพอากาศทั่วประเทศภายในปี 2035 รัฐบาลจำเป็นต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงระบบ การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้จึงต้องมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเพราะรถยนต์เป็นอีกหนึ่งต้นตอของมลพิษทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองใหญ่ของจีน ในบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของนิตยสาร Forbes เมื่อปี 2018 มีการคาดการณ์ว่าจีนจะกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่มีระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เรื่องนี้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลยสำหรับจีน เพราะภาครัฐได้กำหนดยุทธศาสตร์ถนนสีเขียวและสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังมานานแล้ว โดยเมื่อเร็วๆ นี้เราได้เห็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญคือบริษัท Tesla ของ อีลอน มัสก์ ได้ทำพิธีลงเสาเข็มเพื่อเดินหน้าสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Tesla แห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จจะเป็นฐานผลิตรถ Model 3 ที่สำคัญของ Teslaหากคุณยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนพอ ลองดูข้อมูลจาก Forbes ประกอบก่อน Forbes ระบุว่าในปี 2017 จีนผลิตรถเก๋ง รถบัส และรถบรรทุกที่เป็นระบบไฟฟ้าจำนวน 680000 คัน ซึ่งมากกว่าทั่วโลกผลิตรวมกันเสียอีก นอกจากนี้จีนยังมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วกว่าประเทศที่เหลือทั่วโลกด้วยขณะที่เมืองใหญ่อย่างเซินเจิ้นก็ประสบความสำเร็จในการยกเครื่องรถบัสโดยสารให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEVs) ทั้งหมด ซึ่งเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ ดำเนินรอยตาม ขณะที่ยานยนต์ลูกผสมอย่างรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) ก็กำลังหายไปจากท้องถนนในจีนอย่างรวดเร็วยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกตัวสะท้อนความนิยมที่มีต่อยานยนต์ทางเลือก โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยว่า จีนมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทะลุ 800000 คันในปี 2017 พุ่งขึ้นจากตัวเลขไม่ถึง 100000 คันในปี 2014แต่ปัญหาการใช้รถ BEVs ก็ยังมีอยู่ รัฐบาลจีนได้ส่งเสริมการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทำให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จแบตครั้งเดียว โดยเป้าหมายคือการทำให้รถ BEVs วิ่งได้ไกลเกิน 160 กิโลเมตร (100 ไมล์) ต่อการชาร์จแบต 1 ครั้งและเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จีนตั้งเป้าเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะให้ได้ 500000 จุดภายในปี 2020 จากที่มีอยู่ 214000 จุดในปี 2017 เฉพาะบริษัทการไฟฟ้าแห่งชาติของจีน (State Grid) ก็มีแผนจะเพิ่มจุดชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า 120000 จุด จากจำนวน 10000 จุดในปัจจุบัน โดยจะมีการติดตั้งเพิ่มตามเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น เซินเจิ้น ซึ่งทดลองติดตั้งอยู่ริมถนนในบริเวณที่จอดรถ ทั้งหมดนี้ถือเป็นโมเดลสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า BEVs เพราะยิ่งมีจุดชาร์จแบตกระจายไปทั่วมากเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังชั่งใจว่าจะเลือกรถ BEVs หรือไม่ เพราะแทนที่พวกเขาจะขับรถไปเติมน้ำมันตามปั๊มแบบเดิม พวกเขาก็สามารถเสียบปลั๊กชาร์จแบตขณะจอดรถตามที่ต่างๆ ได้ดังนั้นหากคุณเดินทางไปจีนในอีก 10 ปีข้างหน้า คุณอาจเห็นท้องฟ้าที่สดใสปลอดโปร่งขึ้นในเมืองใหญ่ๆ เพราะปัญหาแหล่งมลพิษจากรถเชื้อเพลิงฟอสซิลอาจค่อยๆ หมดไปจากถนนในจีนความหวังใหม่ความหวังใหม่สำหรับกรุงปักกิ่งที่เผชิญปัญหาหมอกพิษมานานหลายปี วันนี้ประชาชนได้เห็นท้องฟ้าที่สดใสขึ้น พร้อมกับความหวังใหม่ที่จะสามารถสูดอากาศได้เต็มปอดอย่างสบายใจในสักวันหนึ่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 ปักกิ่งวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศเฉลี่ยทั้งเดือนได้ 34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้มาตรฐานคุณภาพอากาศระดับชาติที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเป็นครั้งแรกสิ่งที่กรุงปักกิ่งโฟกัสเป็นพิเศษคือการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเข้มงวด มีทั้งการสั่งปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหลืออยู่ รวมถึงระงับโครงการก่อสร้างทั้งหมดในช่วงฤดูหนาว และยังออกกฎห้ามการเผาถ่านหินในเขตพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งทีมเจ้าหน้าที่ขจัดควันพิษ หรือ Smog Squad เพื่อตระเวนห้ามชาวเมืองทำกิจกรรมปิ้งย่างบาร์บีคิวกลางแจ้งและเผาขยะด้วย สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของกรุงปักกิ่งเปิดเผยว่า ตลอดเดือนมกราคม ปี 2018 คุณภาพอากาศอยู่ที่ระดับ ดี และ ดีเยี่ยม รวม 25 วันจากทั้งหมด 31 วัน และสามารถลดความหนาแน่นของอนุภาคฝุ่นละอองในอากาศถึง 70.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วนอกจากค่า PM2.5 แล้ว ค่าฝุ่นละออง PM10 ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนไดออกไซด์ของกรุงปักกิ่งยังลดลง 51.1% 55.6% และ 35.4% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้วนอกจากเดือนมกราคมที่เป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จแล้ว ปักกิ่งยังทำได้ตามเป้าคุณภาพอากาศในเดือนสิงหาคมและกันยายนในปีที่แล้วอีกด้วยสำหรับภาพรวมในปี 2018 ของปักกิ่ง หลังสามารถลดปริมาณฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนอันเป็นต้นตอของหมอกพิษได้ถึง 12% ในปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลงานที่รัฐบาลค่อนข้างพอใจ แม้ตัวเลขเฉลี่ยตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ระดับ 51 โมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานคุณภาพอากาศของจีนที่ระดับ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายก็เป็นเรื่องสำคัญเพื่อไปสู่เป้าหมาย ทางการจีนเผยว่าเมื่อปีที่แล้วมีผู้ประกอบการที่ปล่อยมลพิษจำนวน 656 รายถูกสั่งให้ย้ายฐานที่ตั้ง ขณะที่บริษัทและบุคคลถูกปรับเงินรวมกว่า 230 ล้านหยวนฐานฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 22.5%กรณีศึกษาของจีนถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศที่กำลังคิดใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกอบกู้วิกฤต ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการลงมือปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ เพราะกว่าที่จีนจะเห็นผลลัพธ์ที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ นั้น พวกเขาเริ่มตระหนักและแก้ปัญหามลพิษด้วยการจัดทำแผนยุทธศาสตร์อย่างเป็นระบบตั้งแต่เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เพราะการจะแก้ปัญหาฝุ่นพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและดำเนินมาตรการอย่างเคร่งครัดเท่านั้น จึงจะช่วยขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้พิสูจน์อักษร:อ้างอิง: | จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกในมิติการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดและต้นแบบการแก้ปัญหาโลกร้อนด้วยนโยบายจากภาครัฐ แต่กว่าที่จะมีวันนี้ ต้นทุนทางธรรมชาติของพวกเขาถูกทำลายย่อยยับ ขณะที่คุณภาพชีวิตของประชากรย่ำแย่ลงจากปัญหาฝุ่นละอองและหมอกพิษ ซึ่งมีต้นตอมาจากการเร่งรัดพัฒนาอุตสาหกรรมข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก จีนมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี เมื่อปัญหามลพิษร้ายแรงขึ้นจนประชาชนไม่มีความสุข รัฐบาลจึงถูกบีบให้ต้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน และได้กำหนดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นระบบตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทในการต่อสู้กับมลพิษที่ชัดเจนที่สุดของจีนจากแผนปฏิบัติการลดมลพิษทางอากาศ สู่แผนปฏิบัติการทำสงครามเพื่อท้องฟ้าที่สดใส ทำให้ค่าฝุ่นขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในอากาศลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับมาตรการที่ครอบคลุมตั้งแต่การปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน ย้ายที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมไปนอกเมือง ควบคุมการปล่อยมลพิษในภาคอุตสาหกรรม จำกัดผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนนในเขตเมือง ไปจนถึงการสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลหนึ่งในยุทธศาสตร์ของจีนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายคุณภาพอากาศทั่วประเทศภายในปี 2035 คือการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อหันหลังให้กับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลอย่างถาวร | null | null | https://thestandard.co/pollution-prevention-strategy-pm-25-dust-china/ |
ศาลไม่ให้ประกันตัว ผบญ. จำเลยคดีฆ่าน้องสโนว์ญาติยื่น 1 ล้านวืด | จากคดีสะเทือนขวัญ ที่นางสาวฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบถีบรถที่น้องสโนว์ กำลังขับขี่กลับบ้านพัก ที่บ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จนจักรยานยนต์ล้ม คนร้ายเข้าทุบตีทำร้ายร่างกายน่องสโนว์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในอีก 3 วันต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 ธ.ค.58 ริมถนนสายบ้านสีถาน – บ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย,คดีนี้ หลังตำรวจรวบรวมหลักฐานเป็นเวลานานถึง 102 วัน จึงได้ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับนายกฤติเดช ระเวงรรณ อายุ 36 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย ตกเป็นผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 4 เม.ย.59 และคัดค้านการประกันตัวมาตลอด เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล,ต่อมาวันที่ 16 พ.ค.59 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง.ผกก.(สอบสวน) สภ.กมลาไสย ตำรวจสอบสวนเจ้าของคดี ได้ส่งสำนวนฟ้องนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ต่อพนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินคดี 2 ข้อกล่าวหาคือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา,ความคืบหน้าของคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 มิ.ย ที่ห้องพิจารณาคดี 6 ชั้น 2 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้พิพากษาได้เบิกตัวนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลยในคดีนี้ มาเพื่อสอบคำให้การว่า จะรับสารภาพหรือปฏิเสธ โดยมีญาติของจำเลยมานั่งฟัง ส่วนฝ่ายของน้องสโนว์ มีนายกฤช นางลำไย พลประสิทธิ์ พ่อแม่ พร้อมญาติประมาณ 20 คน มาร่วมรับฟังที่ห้องพิจารณาคดี โดยมีตำรวจศาล 2 นาย คุมตัวนายกฤติเดช ที่สวมเสื้อผ้าสีน้ำตาลของทางเรือนจำ ที่เท้ามีโซ่ตรวน ยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และประสงค์จะต่อสู้คดีด้วยตัวเอง,จากนั้นญาติของจำเลย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน 4 แปลง มูลค่า 1,005,950 บาท (หนึ่งล้านห้าพันเก้าร้อยหาสิบบาท) แต่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาต เนื่องจากพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา เห็นว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก ประกอบกับตามฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเกิดเหตุ เกรงว่าจะมีการข่มขู่พยาน จึงขอคัดค้าน พิจารณาแล้วจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง และนัดไต่สวนคดีนัดแรก วันที่ 28 ก.ค.59,ทางด้านนางลำไย พลประสิทธิ์ มารดาของน้องสโนว์ กล่าวว่า ต่อนี้ไปเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม คงให้ความเห็นอะไรไม่ได้ จะใช้ชีวิตทำมาหากินตามประสาชาวบ้านตามปกติ และจะสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกสาว., อ่านเพิ่มเติม,แกะรอย3เดือน รวบผญบ. ฆ่าโหดน้องสโนว์,ส่งตรวจอัณฑะ ผญบ.ต้องหาฆ่าน้องสโนว์ อ้างบวมประจำ ตร.ค้านประกันตัว,ตร.ส่งสำนวนอัยการ ฟ้อง 2 ข้อหาหนัก ผญบ.ฆ่าน้องสโนว์ แม่ค้านประกัน | ศาลกาฬสินธุ์ ไม่ให้ประกันตัวผู้ใหญ่บ้าน จำเลยคดีฆ่า น้องสโนว์ หลังญาติยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดมูลค่ากว่า 1 ล้าน เพราะเห็นว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และอาจไปข่มขู่พยาน ขณะที่เจ้าตัวยังยืนยันปฏิเสธ ขอสู้คดี
| null | น้องสโนว์,คดีน้องสโนว์,ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์,กฤติเดช ระเวงรรณ,ผู้ใหญ่บ้าน,ไม่ให้ประกันตัวผู้ใหญ่บ้าน,กมลาไสย,กาฬสินธุ์,ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/648751 |
ทั้งหล่อทั้งเก่ง ปธน.มาครง เฮลั่น นำพรรคชนะเลือกตั้งส.ส.ถล่มทลาย | เมื่อ 12 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส สุดปลื้มเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากเพิ่งคว้าชัยเลือกตั้ง สร้างประวัติศาสตร์ได้เป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยสุดในฝรั่งเศส เมื่อผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รอบแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่ามา ปรากฏว่า พรรคอองมาร์ช ภายใต้การนำของมาครง ยังคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายเกินคาด ได้ส.ส.เข้าไปนั่งในสภามากที่สุดด้วย และเมื่อรวมกับจำนวน ส.ส. กับพรรคพันธมิตร MoDem ทำให้ได้ที่นั่งในสภารวมกันถึง 445 ที่นั่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง คิดเป็น 32.3%,ในขณะที่ 2 พรรคใหญ่ในฝรั่งเศส อย่าง พรรครีพับลิกัน พรรคฝ่ายขวา ได้ที่นั่งในสภาต่ำกว่า 16% และพรรคโซเชียลลิสต์ หรือพรรคสังคมนิยม ซึ่งเคยเป็นพรรครัฐบาลบริหารประเทศสมัยที่แล้ว ได้ที่นั่งในสภาน้อย แค่ 7.4% เท่านั้น ส่วนพรรคขวาจัด เนชั่นแนล ฟรอนต์ ของนางมารีน เลอ แปน ได้ 13.2% ตามด้วยพรรคซ้ายจัด ฟรานซ์ อันโบว์ด ได้ราว 11% โดยการเลือกตั้งสมาชิกสภารอบสองของฝรั่งเศสจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.,อย่างไรก็ตาม มีชาวฝรั่งเศสที่มีสิทธิเลือกตั้งออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเพียง 48.7% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา รอบแรก ครั้งที่แล้วในปี 2555 ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 57.2% | ชนะใจชาวฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง สร้างประวัติศาสตร์รอบสอง นำพรรคอองมาร์ช ชนะเลือกตั้ง ส.ส.รอบแรกอย่างถล่มทลายเกินคาด | ข่าว,ต่างประเทศ | เลือกตั้งส.ส.ฝรั่งเศส,เอ็มมานูเอล มาครง,พรรคอองมาร์ช,มาครง ชนะเลือกตั้ง,ได้ส.ส.มากที่สุดในสภา | https://www.thairath.co.th/news/foreign/970190 |
อินโดฯ จัดกิจกรรมศาสนา ไม่สนโควิด-19 หวั่นซ้ำรอยมาเลเซีย | สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า ชาวมุสลิมจำนวนมากกำลังเดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาซึ่งจะจัดขึ้นในอินโดนีเซีย โดยผู้จัดงานเชื่อว่า น่าจะมีชาวมุสลิมราว 8695 คน ทั้งชาวมุสลิมในอินโดนีเซีย และชาวมุสลิมจากต่างชาติ เช่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งจากประเทศไทยเข้าร่วมโดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่จังหวัดสุลาเวสีใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามขอความร่วมมือเลื่อนกิจกรรมดังกล่าวไปก่อน เนื่องจากกังวลถึงความเสี่ยงการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทางผู้จัดกิจกรรมยืนยันจะจัดต่อไปผู้จัดงานคนหนึ่งบอกว่า มนุษย์ทุกคนล้วนมีความกลัวต่อการเจ็บป่วยและความตาย แต่ยังมีสิ่งที่ยิ่งกว่าร่างกาย นั่นคือจิตวิญญาณ พร้อมกับย้ำว่า เขามีความกลัวต่อพระเจ้ามากกว่า โดยผู้จัดงานยืนยันว่า จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมทุกคนก่อนเข้าไปในพิธี และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแลความเรียบร้อยภายในงานรายงานระบุว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นในอินโดนีเซีย รวมทั้งที่จัดในมาเลเซียก่อนหน้านี้ ดำเนินการโดยกลุ่ม Tablighi Jamaat ซึ่งเป็นเครือข่ายมุสลิมที่มีความเคลื่อนไหวทั่วโลกโดยกิจกรรมที่มาเลเซีย ซึ่งจัดขึ้นในช่วง 27 ก.พ.ถึง 1 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมมากถึงราว 16000 คน ได้กลายเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในมาเลเซียมากถึง 2 ใน 3 มีประวัติเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางศาสนานี้ ขณะที่บรูไน พบผู้ป่วยโควิด-19 มากถึง 50 ราย มีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางศาสนาที่มาเลเซียเช่นกัน | อินโดนีเซียเดินหน้าจัดชุมนุมของชาวมุสลิมครั้งใหญ่ โดยเชื่อว่าน่าจะมีผู้เข้าร่วมหลายพันคน ท่ามกลางความกังวลจากหลายฝ่ายที่มองว่า อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงซ้ำรอยที่มาเลเซีย | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,อินโดนีเซีย,กิจกรรมทางศาสนา,มัสยิด | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1798244 |
พิรุธ แมวถูกหมากัดตาย 33 ตัวอาจถูกวางยาซึม | วันนี้ (11 ธ.ค.2561) ความคืบหน้ากรณีเจ้าของสัตว์เลี้ยงลักลอบนำแมวปล่อยทิ้งในวัดทุ่งงายอ. หาดใหญ่ จ.สงขลา และถูกสุนัขรุมกัดตาย 33 ตัว โดยเจ้าหน้าที่กลุ่มอาสาบ้านหมายิ้ม ซึ่งเป็นตัวแทนองค์ กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ หรือวอช ด็อก ไทยแลนด์ และตำรวจภูธรคอหงส์ ช่วยกันขุดซากแมวที่ฝังอยู่ในป่าช้าวัดทุ่งงาย เพื่อส่งซากให้สัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ หาสาเหตุทำให้แมว 33 ตัวถูกสุนัขในวัดกัดตายน.ส.ศิรพันธ์ งามพร้อมวงษ์ ตัวแทนองค์กรวอทช์ ด็อก ไทยแลนด์ ตั้งข้อสังเกตว่า การตายของแมวพร้อมกันกว่า 30 ตัว เป็นการตายที่ผิดปกติ เนื่องจากนิสัยของแมวมีนิสัยตื่นกลัว และมีความว่องไว เมื่อเห็นสุนัขก็ต้องวิ่งหนีด้านนายกิตติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา บอกว่า ปศุสัตว์ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ลักลอบนำแมวปล่อยทิ้ง และเป็นเหตุให้สุนัขกัดตายกว่า 30 ตัว ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์มาตราที่ 23 ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร และให้ตำรวจเร่งติดตามตัวดำเนินคดีเร็วที่สุดส่วนปัญหาการลักลอบนำสัตว์เลี้ยงปล่อยทิ้งวัดเจ้าอาวาสวัดทุ่งงาย บอกว่า มีขึ้นบ่อยครั้ง แม้ที่ผ่านมาทางวัดจะขึ้นป้ายห้ามนำสัตว์เลี้ยงมาทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้วัดต้องแบกรับภาระและหาเงินจัดซื้ออาหารเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงที่นำมาปล่อยภายในวัด ส่วนการติดตามรถกระบะต้องสงสัยนำแมวมาปล่อย และสุนัขกัดตาย 33 ตัว ขณะนี้ตำรวจกำลังเช็กภาพกล้องวงจรปิด ตามถนนสายต่างๆ ซึ่งคาดว่าอาจจะบันทึกป้ายทะเบียนรถได้ เพื่อติดตามตัวเจ้าของรถดำเนินคดีอ่าน | ขุดซากแมวถูกหมารุมกัดตาย 33 ตัวในวัดทุ่งงาย ส่งผ่าพิสูจน์ หลังตัวแทนวอทช์ ด็อก ไทยแลนด์ ตั้งข้อสังเกตอาจถูกวางยาซึมก่อนนำมาปล่อยทิ้งจนถูกหมากัดตาย เหตุนิสัยแมวจะตื่นกลัว และว่องไวเมื่อเห็นหมาต้องวิ่งหนี ขณะที่ตำรวจเร่งแกะรอยรถก่อเหตุ ติดตามตัวดำเนินคดี | ภูมิภาค | แมว,วัดทุ่งงาย,หาดใหญ่,สงขลา,ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา,กิตติกรณ์ เจนไพบูลย์,วอทช์ ด็อก ไทยแลนด์,หมารุมกัดแมว,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/276251 |
Insight : ซับซ้อนในซับซ้อน เดดล็อกการเมือง | วราวิทย์ ฉิมมณี ผู้สื่อข่าว/ผู้ประกาศข่าว ไทยพีบีเอส วิเคราะห์การจับขั้วของพรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ไว้ 3 แบบ1. เกิน 250 ไปมาก แต่มีเงื่อนไขคือ เคยประกาศว่า นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของคือ ซึ่งอาจสอบตกเพราะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม แต่จะกลืนน้ำลายตัวเอง โหวตให้ดีกว่าให้ตั้งรัฐบาลหรือไม่ หรือจะเสนอให้ยอมให้ เป็นนายกฯจะยอมหรือไม่ทั้งที่ตัวเองได้คะแนนอันดับ 1 (ล่าสุดนายธนาธรออกมาบอกว่า เขาพร้อมเป็นนายกฯ แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อ)ในขณะที่ อาจยื่นข้อเสนอเป็นคนกลาง ขอเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เอาเก้าอี้รัฐมนตรีอื่นให้พรรค แต่มีคะแนนมาเป็นอับดับ 3 ในกลุ่มพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล อันดับ 1 อันดับ 2 จะยอมได้หรืออย่างไร2.ถึงแม้นำจัดตั้งรัฐบาลตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นนายกฯ แล้ว ส.ว.อีก 250 เสียงจะโหวตอย่างไร จะโหวตสวนให้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่คงถูกกระแสสังคมกดดัน แม้จะทำตามรัฐธรรมนูญ หรือจะโหวตตามยอมที่ได้เสียงข้างมาก ถ้างั้น จะเลือก ส.ว.มาทำไมให้โหวตฝ่ายตรงข้าม3.ล่าสุด บอกว่า พรรคไหนไม่เอาเสรีกัญชาจะไม่ร่วมรัฐบาล ซึ่งสมาชิกก็เห็นจะมี ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้4.ถ้าจะตั้งรัฐบาล โดยหาได้เกิน 250 เสียง ต้องอาศัยพรรคร่วมจำนวนมาก เพราะอย่าง ก็ปาเข้าไป 215 เสียงแล้วแต่ ก็ยังได้แค่ 168 เสียง แม้ได้ อีก 53 เสียง ก็ยังได้เพียง 221 เสียง ก็ยังไม่ชัดว่า เมื่อไม่มี หัวหน้าพรรค แล้วจะเปลี่ยนข้างง่ายแบบนั้นจริงหรือไม่พรรคที่อาจจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐได้ก็มี กับ ก็ยังได้แค่ 237 ขาดอีก 13 แม้จะหางูเห่าจากบางพรรคได้อีก 13 แต่ถ้าเกิดแบบปริ่มน้ำ เช่น 255 – 260 เสียง รัฐบาลก็เหนื่อย โหวตกันทีคงต้องเข้าห้องน้ำคุยกันที เกิดเปลี่ยนใจ ขัดแย้งกัน มีหวังไม่ไว้วางใจ เลือกตั้งกันใหม่อ้างอิงตัวเลขไม่เป็นทางการจากการนับคะแนน 94 % เวลา 13.00 น. 25 มี.ค. 62 | แม้ว่าคะแนนเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคอย่างไม่เป็นทางการจะออกมาแล้วแบบสูสีกัน จนแกนนำพรรคต้องเดินเกม เพื่อจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว เร็วขนาดไม่สนใจมารยาททางการเมือง หรือจารีตปฏิบัติ | การเมือง | บทความ,บทวิเคราะห์,insight,จัดตั้งรัฐบาล,เลือกตั้ง62,เลือกตั้ง,เพื่อไทย,พลังประชารัฐ,ภูมิใจไทย,อนาคตใหม่,ผลเลือกตั้ง,ผลคะแนน | https://news.thaipbs.or.th/content/278736 |
งานเยอะ รถแห่ที่ร้อยเอ็ด ตกข้างทางชนตอไม้ เจ็บ 14 คนขับดับ | รับงานทั้งกลางวันกลางคืน ,เวลา 07.00 น. วันที่ 12 พ.ค. พ.ต.ต.อดิศร อินธิจักร สารวัตร(สอบสวน) สภ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์พลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ที่ถนนสายเกษตรวิสัย-จตุรพักตรพิมาน ช่วงระหว่าง กม.ที่ 6-7 หมู่ 5 ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ,พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่สีแดง ทะเบียน 82-7311 ร้อยเอ็ด ซึ่งดัดแปลงต่อเติมเป็นรถแห่และแสดงดนตรีสดของคณะสะม่านจ้าน สภาพชนกับตอไม้ยูคาลิปตัสริมถนน และพลิกคว่ำ อุปกรณ์เครื่องเสียงดนตรีกระจัดกระจาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งนั่งมาในตอนหน้าของรถ 3 คนคือ นายมนตรี ตีระศรี อายุ 22 ปี คนขับและเป็นนักดนตรี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 5 ต.กำแพง อ.เกษตรวิสัย นายนวพล โถชาลี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 5 ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย และ น.ส.สธิศร นามจันทร์ดา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 5 ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย ซึ่งเป็นนักร้องชายหญิงประจำวง,นอกจากนั้นยังมีผู้ที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน รวมทั้งสิ้น 14 คน เจ้าหน้าที่จึงรีบลำเลียงส่ง รพ.เกษตรวิสัย แต่ นายมนตรี คนขับรถยนต์ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน นายนวพล และ น.ส.สธิศร ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ร้อยเอ็ด,จากการสอบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายมนตรี ขับรถแห่คันดังกล่าวมุ่งหน้าจะไปทำการแสดงดนตรีสดเพื่อแห่ขบวนขันหมากเจ้าบ่าว ในเขต จ.กาฬสินธุ์ แต่พอขับมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ รถยนต์ก็เกิดเสียหลักลงข้างถนนไปชนกับตอไม้ยูคาลิปตัส ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 ซม. ที่อยู่ริมถนน ทำให้ตัวรถด้านหน้ายุบเข้ามาถึงห้องโดยสาร และรถพลิกคว่ำ ทั้งคนและสิ่งของเทกระจาด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว,คาดว่าสาเหตุเกิดจากคนขับหลับใน เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากรับงานการแสดงทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อคืนก็เพิ่งทำการแสดงดนตรีสดอยู่ในงานอุปสมบทแห่งหนึ่งด้วย | รถแห่เครื่องเสียง ที่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ตกข้างทางชนตอไม้พลิกคว่ำเทกระจาด ทั้งนักร้อง นักดนตรี ชาวบ้านที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บรวม 14 คน ก่อนที่คนขับจะเสียชีวิต คาดหลับใน เพราะงานชุก | ข่าว,ทั่วไทย | รถแห่คว่ำ,รถแห่เครื่องเสียง,ชนตอไม้,รถแห่,รถแห่ชนตอไม้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1566065 |
ร้าวรานเกินประสาน ครูเมียหลวงอาการทรุด ลูกชายวอนพ่อพูดความจริง | จากกรณีอื้อฉาวสะท้านวงการครู ครูเมียน้อยตามตบตีทำร้ายครูเมียหลวงที่สอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน จนมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ จ.อำนาจเจริญ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,ดราม่าวงการครู เมียน้อยตบเมียหลวงสนั่น ร.ร. คาดนัดเจรจายอมความกันแล้ว,, ,ญาติเผย ครูเมียหลวง เป็นดั่งศรีภรรยา ดูแลครอบครัวไม่ขาดตกบกพร่อง,, ,กรรมการจับแยก ศึก ครูเมียน้อยตบครูเมียหลวง ย้ายทั้งคู่ไปอยู่ที่อื่น,),เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ นักเรียนกว่า 200 คนได้รวมตัวประท้วงพร้อมแจกใบปลิวโจมตีครูเมียน้อย โดยนั่งชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณหน้าเสาธงไม่ยอมเข้าห้องเรียน ทำให้ ผอ.โรงเรียนดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงว่า ครูแค่ย้ายมาช่วยราชการชั่วคราว ไม่ได้ย้ายมาอยู่ประจำ และขอให้นักเรียนทุกคนเข้าใจ ขอให้กลับเข้าห้องเรียน แต่ก็ไม่เป็นผลกลุ่มนักเรียนยังคงนั่งประท้วงชุมนุมกันอยู่ ไม่ยอมแยกย้าย,ด้านครูเมียหลวง คู่กรณี ซึ่งมีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ นั้น ได้มีการขอชะลอการย้ายไว้ก่อน เนื่องจากเมื่อกลางดึก (6 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ครูเมียหลวงมีอาการทรุดลงอย่างหนัก โดยดวงตามองเห็นไม่ค่อยชัด และอักเสบบริเวณท้องน้อยและมีอาการเวียนหัวและอาเจียนอยู่เป็นระยะ หมอจึงต้องสั่งให้นอนพักรักษาตัวเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญไว้ก่อน ขณะที่ลูกชายของครูภาษาอังกฤษทั้งสองเดินทางกลับเพื่อเฝ้าไข้แม่ของตนเอง,ครูเมียหลวง เปิดใจทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่มีข่าวออกมาตนไม่เคยคิดที่จะตอบโต้หรือแถลงข่าวแต่อย่างใด เพราะด้วยความสงสารลูกที่จะต้องมารับรู้เรื่องราวที่ไม่เป็นมงคลนี้ แต่อยากบอกให้ทุกคนทราบว่าฝ่ายเราไม่ได้โกหกสังคมอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหา เราอยู่บนความจริงทุกอย่าง ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้อยู่แก่ใจตัวเอง เพราะวันที่เกิดเหตุนั้น ตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของสามีที่ไปงานเลี้ยงด้วยกันว่า สามีเมามาก ด้วยความเป็นห่วงตนจึงออกไปรับสามีกลับบ้าน แต่พอไปถึงงานเลี้ยงก็ไม่พบสามี พบเพียงรถของสามีจอดอยู่ แต่ก็มีคนบอกตนว่าเห็นสามีของตนไปกับคู่กรณี ตนจึงได้ติดตามไปที่บ้านหลังดังกล่าว,ทั้งนี้ เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าวตนก็เดินไปยังห้องเล็กๆ ที่อยู่บ้านหลังดังกล่าวตามที่เพื่อนบอกมา จากนั้นจึงตัดสินใจโทรหาสามีก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของสามีตนดังขึ้นจากห้องนั้น ตนจึงได้ตัดสินใจเคาะประตูห้องนั้น แล้วเรียกสามีของตนว่าทำไมถึงมานอนที่บ้านเขาอย่างนี้ บ้านเราก็มี กลับบ้านเถอะพ่อ จากนั้นก็เคาะอยู่อย่างนี้สองครั้ง,จากนั้นคู่กรณีก็ออกมาพร้อมกับล็อกห้องดังกล่าวจากด้านนอกไม่ให้ตนได้ส่องเข้าไปดูว่าสามีของตนอยู่ในห้องนั้นไหม จากนั้นคู่กรณีก็ตบตีตนอย่างเดียว โดยที่ตนทำได้แค่ดึงผมของคู่กรณีเท่านั้น เนื่องจากตนมีรูปร่างที่ตัวเล็กกว่าคู่กรณีมาก เรี่ยวแรงก็ไม่สามารถสู้ได้ จนตนเองมึนงงไม่รู้สึกตัวไปพักใหญ่ พอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองมานอนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์,ขณะที่ลูกชายคนโต กล่าวว่า ผมรับไม่ได้ที่เห็นแม่ต้องถูกรังแกจนบาดเจ็บขนาดนี้ ผมสงสารแม่มาก ถ้าเจ็บแทนได้ผมขอเจ็บแทน และอยากที่จะตามให้พ่อกลับบ้าน กลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ มีแม่ มีลูกเหมือนเดิม ตัวผมเองก็ได้เป็นตำรวจอย่างที่หวังไว้แล้วครับ อยากให้พ่อกลับมาพูดความจริง อธิบายความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวผมไม่อยากเป็นข่าว ไม่เคยคิดจะแถลงข่าว แม่ผมโดนทำร้ายตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ผมเองก็รู้พร้อมๆ นักข่าวเพราะแม่ปิดบังไว้ แม่คงสงสารผม ครอบครัวเราอยู่อย่างปกติเหมือนคนอื่น แต่ช่วงราว 2-3 ปี ที่ผ่านมาครอบครัวเรามีปัญหา พ่อและเขาคนนั้นรู้อยู่แก่ใจ สังคมในจังหวัดอำนาจเจริญรู้ดีครับ,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ครูเมียน้อย คู่กรณี โดยได้เดินทางไปยังบ้านพักของครูคนดังกล่าว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์. | นักเรียนกว่า 200 คน ลุกฮือต้าน ไม่เอาครูภาษาไทยที่ตกเป็นข่าวเมียน้อยแย่งสามี ครูภาษาอังกฤษที่เป็นเมียหลวง ขณะที่ทางครูเมียหลวงถูกหามส่งเข้ารพ.กลางดึก หลังอาการทรุดหนัก ส่วนลูกชายครูเมียหลวงบอกให้พ่อกลับมาพูดความจริง | ข่าว,ทั่วไทย | ครูเมียหลวง,ครูเมียน้อย,แย่งสามี,ครูเมียน้อยตบครูเมียหลวง,อำนาจเจริญ | https://www.thairath.co.th/news/local/804756 |
สโรชา โพสต์เฟซฯ ขอบคุณทุกกำลังใจ ยัน พร้อมสู้มะเร็ง จ่อ ผ่าตัดรพ.จุฬา | วันที่ 26 มี.ค. น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ พิธีกรข่าวชื่อดัง โพสต์เพซบุ๊กส่วนตัว ,สโรชา พรอุดมศักดิ์, ยอมรับว่าตนเองเป็นโรคมะเร็ง และกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ในวันที่ 3 เม.ย. 2561 ที่จะถึงนี้ และขอขอบคุณ ทุกคนที่ให้กำลังใจ ที่จะผ่านพ้นวิกฤติ ,กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะสำหรับความห่วงใย ความหวังดีและกำลังใจที่ทุกๆ ท่านส่งมา แอ้มจะพยายาม สู้ กับโรคนี้อย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้มีโอกาสดูแลคุณพ่อคุณแม่ต่อไปอย่างดีที่สุดตามที่เคยตั้งใจไว้ และหากมีโอกาสก็จะพยายามทำตัวเป็นประโยชน์ให้สังคมได้บ้างไม่มากก็น้อย,แอ้มป่วยเป็นโรคมะเร็งค่ะ,ช่วงนี้หลายท่านส่งกำลังใจมาถึงแอ้มมากมาย ให้แอ้มผ่าน วิกฤต ในชีวิตไปได้ด้วยดี แอ้มกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านค่ะ แอ้มได้อ่านทุกข้อความ ไม่เว้นแม้ข้อความเดียว,แต่หลายท่านที่ส่งกำลังใจมายังไม่ทราบว่า วิกฤต ครั้งนี้มันคืออะไร,แอ้มขอใช้โอกาสเรียนให้ทุกๆ ท่านทราบ ณ ที่นี้นะคะว่าแอ้มป่วยเป็นโรคมะเร็งค่ะ ตอนนี้แอ้มขออนุญาตยังไม่ลงรายละเอียดนะคะ,โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่แอ้มเงียบหายไป ก็เพื่อที่จะทำใจรับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราสามคนพ่อแม่ลูกที่ต้องใช้เวลาพยายามที่จะเยียวยาจิตใจของซึ่งกันและกัน และตัดสินใจเรื่องการรักษาค่ะ,จนมาถึงตอนนี้แอ้มได้รับความเมตตาจากคุณหมอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ตรวจร่างกายอย่างละเอียดและแนะนำให้ผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก,ฉะนั้นในวันที่ 3 เมย นี้ แอ้มก็จะเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ค่ะ,แอ้มกราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะสำหรับความห่วงใย ความหวังดีและกำลังใจที่ทุกๆ ท่านส่งมา แอ้มจะพยายาม สู้ กับโรคนี้อย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้มีโอกาสดูแลคุณพ่อคุณแม่ต่อไปอย่างดีที่สุดตามที่เคยตั้งใจไว้ และหากมีโอกาสก็จะพยายามทำตัวเป็นประโยชน์ให้สังคมได้บ้างไม่มากก็น้อย,ถ้าหากมีความคืบหน้าอย่างไร แอ้มขออนุญาตใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารกับทุกๆ ท่านนะคะ กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ | น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ยอมรับเป็นมะเร็ง กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ 3 เม.ย.นี้ เพื่อเอาเนื้อร้ายออก
| ข่าว,ทั่วไทย | สโรชา พรอุดมศักดิ์,มะเร็ง,ผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก,แอ้ม สโรชา,รพ.จุฬาลงกรณ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1239719 |
เริ่มแล้ว แข่งตกปลาทะเล อ่าวนางฟิชชิ่งเกมส์ หนุนท่องเที่ยวเมืองกระบี่ | วันที่ 21 พ.ย. 58 ที่ชายหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเมืองกระบี่ เป็นประธานในการเปิดการแข่งขัน ตกปลาทะเลอ่าวนางฟิชชิ่งเกมส์ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. 58 โดยกำหนดในพื้นที่อ่าวนางต่อเนื่องเกาะพีพี เป็นสนามแข่งขันรวมระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงฤดูกาลท่องเที่ยวของอ่าวนาง และเกาะพีพี ได้มาถึงแล้ว,โดยในปีนี้มีทีมนักตกปลา ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 45 ทีม ทีมละ 5 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สำหรับปลาที่จะนำมาคัดเลือกในการแข่งขัน จะเป็นปลาที่มีอยู่ในทะเลอันดามัน เช่น ปลากระโทงเทง ประกระโทงร่ม (ปลาใบ) ปลาสละ ปลาสาก ปลาทูน่า ปลาช่อนทะเล ปลาอีโต้มอญ ปลาอินทรี โดยมีเงินรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้สูงสุด มูลค่ากว่า 22,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการแข่งเก็บขยะในทะเลด้วย,นายพันคำ กิตติธรกุล นายกอบต.อ่าวนาง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นติดต่อกันเป็นครั้ง 3 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าฤดูกาลท่องเที่ยวของอ่าวนางเกาะพีพี ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายด้วยวัฒนธรรม เกาะพีพีและหาดอ่าวนาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และติดอันดับ 1ใน 25 ชายหาดที่สวยที่สุดในเอเชีย นอกจากจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว แล้วยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของภูมิปัญญาประมงพื้นบ้าน ปลูกจิตสำนึกรักหวงแหนทรัพยากรทางเลอย่างยั่งยืน ไม่ให้เครื่องมือผิดกฎหมายจับสัตว์น้ำ เพื่อให้ประชาประมงพื้นบ้านได้มีแหล่งทำมาหากินอย่างยั่งยืน | เปิดฉากการแข่งตกปลาทะเล อ่าวนางฟิชชิ่งเกมส์ ครั้งที่ 3 ประชาสัมพันธ์ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ พร้อมส่งเสริมภูมิปัญญาชาวประมง มีทีมนักตกปลาทั้งไทย และเทศเข้าร่วม จำนวน 45 ทีม ชิงเงินรางวัลสูงสุด กว่า 22,000 บาท | null | แข่งตกปลาทะเล,อ่าวนางฟิชชิ่งเกมส์,ฤดูกาลท่องเที่ยว,กระบี่,กระบี่ พร้อมส่งเสริมภูมิปัญญาชาวประมง,ทีมนักตกปลา,ตกปลาทะเล,อ่าวนาง,ทะเลอันดามัน,พันคำ กิตติธรกุล,นายกอบต.อ่าวนาง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/540995 |
พายุฝนกระหน่ำออสเตรเลีย กระแสไฟฟ้าดับกระทบประชาชน 25000 หลังคาเรือน | พายุฝนและลมกระโชกแรงทำให้บ้านเรือนในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลียไฟฟ้าดับกว่า 25000 หลังคาเรือน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถซ่อมแซมและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า บ้านเรือนประชาชนทั่วนครซิดนีย์ ได้รับความเสียหายจากแรงลม และมีรายงานต้นไม้ เสาไฟฟ้าหักโค่นกระแสลมแรงทำให้ต้องยกเลิกบริการเรือเฟอร์รี่ ขณะที่ชายฝั่งถูกชะลงไปบางส่วนเพราะคลื่นสูงกระแทกเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่องส่วนที่เมืองไบน์สเดล ในรัฐวิคตอเรีย ยังจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องตระเวนพักอาศัยในสถานบันเทิงเพื่อหาที่อยู่ในช่วงเวลากลางคืน หลังจากยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้เนื่องจากเหตุน้ำท่วม แต่สำหรับที่ประเทศนิวซีแลนด์ พื้นที่เกาะใต้เผชิญกับหิมะตกหนักปกคลุมทั่วเกาะ ทางการต้องสั่งปิดถนน และต้องยกเลิกเที่ยวบินรวมทั้งบริการรถโดยสาร เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้เพียงแค่ช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานเหตุรถชนอย่างน้อย 13ครั้ง ลมหนาวที่เกิดขึ้นยังทำให้ต้องปิดโรงเรียนทั่วเกาะ | ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เผชิญกับสภาพอากาศรุนแรง โดยที่นิวซีแลนด์มีหิมะตกหนัก ทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายจุด และต้องยกเลิกเที่ยวบิน ส่วนที่ออสเตรเลียเผชิญกับพายุฝนและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายทั้งรัฐนิวเซาธ์เวลส์และวิคตอเรีย | ต่างประเทศ | ซิดนีย์,นิวซีเแลนด์,นิวเซาธ์เวลส์,ฝน,วิคตอเรีย,หิมะ,ออสเตรเลีย | https://news.thaipbs.or.th/content/89644 |
นปช. รุกจี้ปล่อยเสื้อแดงอีก คณิตชี้ปล่อย 8 นปช. ก้าวแรกความถูกต้อง | นปช. รุกจี้ปล่อยเสื้อแดงอีก 100 กว่าคน จตุพร เผยรอสัญญาณพา กี้-แรมโบ้-พายัพ มอบตัวสู้คดี ลั่น 7 แกนนำขึ้นเวทีปราศรัยได้ศาลไมได้ห้าม คณิตชี้ปล่อย 8 นปช. ก้าวแรกความถูกต้อง เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่อิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 5 กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แถลงข่าวโดยมีแกนนำคนสำคัญร่วมแถลงข่าวอย่างพร้อมเพียง ทั้งนางธิดา โตจิราการ รักษาการประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ รักษาการโฆษกนปช. ส่วนแกนนำที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2 คนคือ น.พ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ร่วมอยู่บริเวณนี้ แต่ไม่ได้ร่วมแถลงข่าวด้วยโดยบรรยากาศการแถลงข่าวในครั้งนี้คึกคักว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หลังจากศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำ 7 คน และแนวร่วมอีก 1 คน หลังจากถูกจำคุกมากว่า 9 เดือน โดยคนเสื้อแดงที่มาฟังการแถลงข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนทำให้ชั้น 5 ของอิมพีเรียล ลาดพร้าวแน่นขนัดไปด้วยคนเสื้อแดงนายวรวุฒิ แถลงว่า เป็นความยินดีหลังจากแกนนำได้รับการปล่อยตัว แต่คนเสื้อแดงจะต้องสู้ต่อไปเพราะพี่น้องคนเสื้อแดงทั่วประเทศยังไม่ได้รับ การปล่อยตัว และไม่ได้รับความเป็นธรรม เราจึงจะต่อสู้ต่อไปเพื่อความเป็นธรรมของคนเสื้อแดงและทำให้ประเทศไทยมี ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. ทางแกนนำนปช.ทั้งหมด รวมถึงอีก 7 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจะไปทำบุญบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่วัด ปทุมวนาราม ส่วนวันที่ 12 มี.ค. ที่เป็นวันครบรอบ 1 ปี เคลื่อนพลทั้งแผ่นดิน จะมีจัดกิจกรรมรำลึกกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยจะมีแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวไปขึ้นเวทีปราศรัยครบทุกคน ส่วนวันที่ 26 มี.ค.จะมีการจัดคอนเสิร์ตรับขวัญแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวที่โบนันซ่าเขา ใหญ่นางธิดา แถลงว่า การชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค. จะมีทั้งความสนุกสนานและการต่อสู้ และต้องอย่าลืมว่านอกจากแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ยังมีคนที่ถูกจับกุมตัวอีก 100 กว่าคน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คนเสื้อแดงเท่าเทียมกันทุกคน ฉะนั้นจึงจะรณรงค์ให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังทุกคน โดยในวันที่ 12 มี.ค.จะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลปล่อยตัวคนเสื้อแดงทั้งหมด ส่วนการปล่อยตัวแกนนำคนเสื้อแดงถือว่าเป็นรุ่งอรุณของประชาธิปไตย แต่ต้องดูว่าต่อไปจะสว่างไสว หรือถูกถีบลงไป การเรียกร้องของคนเสื้อแดงจึงจะไม่ใช่เฉพาะคนที่ถูกจับกุม แต่จะเป็นการเรียกร้อง ทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บที่ไมได้รับการเยียวยาใดๆ จากผู้ที่กระทำคือรัฐบาล จึงจะเป็นหัวข้อหลักของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มในการรัฐประหาร ที่เป็นรัฐประหารแนวใหม่เนื่องมาจากปัญหาทางการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ และสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีอยู่ก็เป็นหัวข้อหลักในการต่อสู้ของคน เสื้อแดงเช่นกันด้านนายจตุพร แถลงว่า ตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสร้างข่าวในอินเตอร์เน็ตว่าตนได้ไปเจรจา เพื่อให้จับนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำแดงสยาม เพื่อแลกกับการปล่อยตัวแกนนำนปช.นั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่มีอำนาจอะไร และไม่ชั่วชาติอย่างนั้น และในคืนที่นายสุรชัยถูกจับ ตนก็นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงทั้งนายสุรชัย และห่วงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการประกันตัวแกนนำคนอื่นๆ และยังตั้งข้อสังเกตว่านายสุรชัยโดนออกหมายจับมานาน แต่ทำไมเพิ่งจะถูกจับในวันก่อนการไต่สวน และนอกจากนี้ยังขอให้คนที่อยู่ในโลกไซเบอร์ช่วยกันดูด้วย และยังมีคนไปตั้งกระทู้ว่านายจตุพร พูดว่านักศึกษาเป็นขอทาน ทั้งที่ไม่เคยพูด เพราะตนพูดว่าไปขอทานเศษเสี้ยวความยุติธรรมเท่านั้น ส่วนที่แกนนำที่ถูกปล่อยตัวไปที่บ้านของพล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ เพราะเป็นสัญญาลูกผู้ชายตอนที่อยู่ในคุกว่าจะไปบ้านของพล.ต.สนั่นหลังจากถูก ปล่อยตัวนายจตุพร แถลงต่อว่า การชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะงดการดาวกระจายไปในสถานที่ต่างๆ และจะรวม กันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ในต่างจังหวัดคือ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี มหาสารคาม และเรือนจำคลองเปรมนั้น ต่อไปจะมีการกำหนดเพื่อจะมีการเคลื่อนไหวไปที่ศาลของทุกจังหวัดเพื่อขอเศษ เสี้ยวความยุติธรรมให้คนที่ถูกคุมขัง และนอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าช่วงที่มีคนจะเผาศาลากลางนั้นมีอส.ไปห้าม แต่ถูกทหารใช้ปืนจ่อหัวอส.ไม่ให้ขัดขวางคนที่จะมาเผา ซึ่งสอดคล้องกับการเผาเซ็นทรัล เวิลด์ และเรื่องนี้จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยนายจตุพร แถลงต่อว่า เรื่องสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ วันนี้ให้คนมาเบี่ยงแบนประเด็นว่านายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ต้มตุ๋นคนพ.ต.ท.ทักษิณ และพ.ต.ท.ทักษิณ มาหลอกลวงคนเสื้อแดง นั้นไม่ใช่ แต่นายอภิสิทธิ์ยังไม่เคยตอบว่าสละสัญชาติไปหรือยัง อย่าเฉไฉว่าเป็นอย่างอื่น ตนไม่ได้ถามว่านายอภิสิทธิ์ มีสัญชาติไทยหรือไม่ แต่ถามว่าสละสัญชาติอังกฤษไปหรือยังนายจตุพร แถลงต่อด้วยว่า ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ที่หลบหนีอยู่เช่น นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายอดิศร เพียงเกษ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายอารีย์ ไกรนรา ฯลฯ นั้นได้พูดคุยกันเบื้องต้นกับทางแกนนำว่า ถ้าคนเสื้อแดงในเรือนจำได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด ก็จะเป็นคิวของพี่น้องเราเหล่านั้น เพื่อมาร่วมกันต่อสู้ต่อไป ให้พี่น้องเหล่านั้นมามอบตัว และหวังว่าจะได้รับการประกันตัว และคาดว่าน่าจะได้กลับมาก่อนวันที่ 26 มี.ค.ที่เป็นคอนเสิร์ตรับขวัญด้านประธาน คอป. เผย การปล่อยตัวแกนนำ นปช. เป็นก้าวแรกของความถูกต้อง และจะเป็นก้าวต่อไปของการปรองดอง ขณะที่ ประธาน กสม. ชี้ ต้องรอดูว่าแกนนำจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้หรือไม่ศ.ดร.คณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีการปล่อยตัวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ว่าการปล่อยตัวแกนนำดังกล่าวนั้น เป็นก้าวแรกของที่จะสร้างความถูกต้องให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของการปรองดอง แต่การให้ความเป็นธรรม ต้องไม่ใช่กับเฉพาะแกนนำเท่านั้น ต้องเป็นกับประชาชนทุกคน โดยประเด็นของความปรองดองที่แท้จริงนั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าหากไม่เอาความจริงมานำเสนอต่อสาธารณชน และไม่นำผู้ที่กระทำผิด มารับการลงโทษตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะมีแนวโน้มของการปรองดองในสังคมได้หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการร่วมมือของทุกฝ่ายทางด้านศาสตราจารย์ อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. กล่าวว่า จากนี้ไปคงต้องรอดูว่าทางแกนนำที่ถูกปล่อยตัว จะสามารถพิสูจน์ความจริงที่ได้บอกไว้และจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือ ไม่ ซึ่งหากว่าไม่เห็นพ้องต้องกัน และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น ก็ไม่สามารถที่จะเกิดความปรองดองในสังคมได้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลได้มีคำสั่งให้ประกันตัว 7 แกนนำนปช. และอีก 1 เครือข่ายคนเสื้่อแดง ว่า ตนเชื่อในดุลยพินิจของศาลและไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์อะไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาองค์กรศาลได้ถูกวิจารณ์ถึงความสองมาตรฐานมาโดยตลอด ซึ่งโดยส่วนตมมีความเชื่อมั่นในตัวองค์กรศาลเว่าป็นสถาบันที่มีความน่าเชื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภายในหลังการปล่อยตัวแกนนำนปช.แล้ว แกนนำนปช.ทั้งหมดได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.นี้ นายชวน กล่าวว่า หากยึดถือเงื่อนของศาลที่ให้ประกันตัวก็คงไม่มีปัญหาเมื่อถามว่า กังวลเหรือไม่ที่จะเกิดความวุ่ยวายเกิดขึ้นมาอีก นายชวน กล่าวปฎิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมระบุว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องรัฐบาลที่จะเข้ามาดูแลด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่แต่ละฝ่ายจะได้ออกมาแสดงความคิดเห็น และเชื่อว่า สถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น ขณะที่ หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีการชุมนุมในช่วงเดือนเมษายนอีกครั้ง ส่วนตัวเห็นว่า ตราบใดที่กฎหมายยังให้เสรีภาพ ทุกคนก็มีสิทธิ์ จะแสดงความคิดเห็น เว้นแต่จะมีกฎกติกาใหม่ขึ้นมาทั้งนี้ ทราบว่า ในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะเสนอร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากฝ่ายค้านจะยื่นญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปลายเดือนนี้ แต่ในเรื่องของกรอบเวลา คงต้องมีการเรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาหารือ เพื่อหามติที่ตรงกันอีกครั้งนอกจากนี้ นายชัย ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาน้ำมันปาล์มในขณะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและในสัปดาห์หน้าปัญหาดังกล่าว ก็จะได้รับการแก้ไขและหมดไป | นปช. รุกจี้ปล่อยเสื้อแดงอีก 100 กว่าคน จตุพร เผยรอสัญญาณพา กี้-แรมโบ้-พายัพ มอบตัวสู้คดี ลั่น 7 แกนนำขึ้นเวทีปราศรัยได้ศาลไมได้ห้าม คณิตชี้ปล่อย 8 นปช. ก้าวแรกความถูกต้อง เมื่อเวลา 13.00 น. | การเมือง | 7 แกนนำ นปช.,คณิต ณ นคร,คนเสื้อแดง,นปช. | https://prachatai.com/journal/2011/02/33263 |
กระจ่างแก่ใจ เปิดตัว ทีแคส คัดเข้ามหาลัย ปัดปลุกผีสมัยปู่ เอ็นทรานซ์ | . (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย) จะใช้ระบบใหม่ที่มีชื่อว่า ทีแคส แทนระบบปัจจุบันที่เรียกว่า แอดมิชชั่น,ทั้งนี้ ระบบทีแคส หรือ TCAS (Thai university Central Admission System) เป็นชื่อระบบใหม่ในการคัดเลือกคนเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย เริ่มปีการศึกษา 2561 ไม่ใช่เอ็นทรานซ์ แต่เป็นการรวม 5 วิธีการรับที่มีอยู่เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ นักเรียนทุกคนมีคนละ 1 สิทธิ์ เท่าเทียมกัน,นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธาน ทปอ. แถลงชี้แจงว่า ทีแคสจะเริ่มใช้ปีการศึกษา 2561 มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม 54 แห่ง คาดว่าจะรับนิสิตนักศึกษา จำนวน 206,506 คน แบ่งเป็น สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นสมาชิก ทปอ. 24 แห่ง รับได้ 148,000 คน, มหาวิทยาลัยราชภัฏ 18 แห่ง รับ 52,878 คน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง รับ 2,650 คน, สถาบันสมทบ 3 แห่ง ได้แก่ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รับ 2,978 คน,สำหรับแนวทางและปฏิทินการรับนิสิตนักศึกษาจะแบ่งการรับ รวม 5 รอบ คือรอบที่ 1 รับด้วยแฟ้มสะสมงาน โดยไม่มีการสอบข้อเขียน เปิดรับนักเรียนทั่วไป นักเรียนความสามารถพิเศษ โควตา นักเรียนเครือข่าย ให้ยื่นสมัครโดยตรงที่มหาวิทยาลัยนั้น ครั้งที่ 1 ประกาศรับและคัดเลือก 1 ต.ค.-30 พ.ย. 2560,ครั้งที่ 2 ประกาศรับและคัดเลือก วันที่ 22 ธ.ค.2560-วันที่ 28 ก.พ.2561 คาดว่ารอบที่ 1 จะรับได้ 44,258 คน รอบที่ 2 เป็นการรับระบบโควตา โดยมีการสอบข้อเขียนหรือสอบภาคปฏิบัติ,สำหรับนักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษต่างๆ มหาวิทยาลัยจะประกาศหลักเกณฑ์การสอบ ยื่นสมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัย สอบโดยใช้ข้อสอบกลางวิชาสามัญ 9 วิชา ข้อสอบความถนัดทั่วไปหรือ GAT ข้อสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ หรือ PAT ภายในเดือน ธ.ค.2560-เม.ย. 2561 รอบที่ 2 คาดว่าจะรับได้ 68,050 คน,รอบที่ 3 คือ เป็นการรับตรงร่วมกัน เปิดรับนักเรียนโครงการ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) โครงการอื่นๆ และนักเรียนทั่วไป ทปอ.จะเป็นหน่วยงานกลางในการรับสมัคร ผ่านเว็บไซต์ของ ทปอ. http://a.cupt.net ผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขา รับสมัครวันที่ 9-13 พ.ค.2561 คาดว่าจะรับได้ 44,390,รอบที่ 4 คือการรับระบบแอดมิชชั่นกลาง โดยรับนักเรียนทั่วไป มี ทปอ.เป็นหน่วยงานกลางในการรับสมัคร นักเรียนเลือกสมัครได้ใน 4 สาขา รับสมัครวันที่ 6-10 มิ.ย.2561 ชำระค่าสมัครวันที่ 6-11 มิ.ย.2561 ประกาศผลวันที่ 13 ก.ค.2561 คาดว่ารับได้ 34,744 คน,และรอบที่ 5 การรับตรงอิสระ เป็นการเปิดให้มหาวิทยาลัยต่างๆ เปิดรับนิสิตนักศึกษาโดยตรงด้วยวิธีการของแต่ละมหาวิทยาลัย คาดว่าจะรับได้ 15,064 คน,สำหรับการรับสมัครแต่ละรอบ เมื่อผู้สมัครสอบได้และยืนยันสิทธิ์ในรอบหนึ่งรอบใดแล้ว จะถูกตัดสิทธิ์ในรอบต่อไป เพื่อแก้ปัญหาการกันสิทธิหรือที่นั่งของผู้อื่น หากเปลี่ยนใจต้องการสมัครในรอบต่อไป ต้องสละสิทธิ์ จึงจะสมัครในรอบต่อไปได้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาการวิ่งรอกสอบหลายแห่ง ลดค่าใช้จ่าย ทุกคนจะมีสิทธิ์เท่ากันคนละหนึ่งสิทธิ์,นายสุชัชวีร์ ยืนยันว่า ระบบนี้ไม่ใช่ระบบเอ็นทรานซ์เหมือนที่ผ่านมา เพราะการเอ็นทรานซ์จะเลือกคนจากข้อสอบเพียงอย่างเดียว แต่ระบบใหม่ หรือทีแคส จะเป็นการรวมวิธีการรับนิสิตนักศึกษาทั้ง 5 รูปแบบมาไว้ด้วยกัน. | เป็นที่ชัดเจนกระจ่างแก่ใจไม่ต้องหัวร้อนแล้ว เพราะว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป การรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาระบบกลางโดย ทปอ | ข่าว,ทั่วไทย | ทีแคส,แอดมิชชั่น,เอ็นทรานซ์,มหาวิทยาลัย | https://www.thairath.co.th/news/local/960292 |
ปลูกต้นไม้ร.9 รอบสนามหลวง | มาตรวจความคืบหน้างานภูมิสถาปัตยกรรมแปลงนาข้าวประกอบพระเมรุมาศ ที่ท้องสนามหลวง มีนายพรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร รายงานความคืบหน้า จากนั้นนายอนันต์ได้ร่วมปลูกต้นมะม่วงมหาชนกและหญ้าแฝกลงในพื้นที่ตามแบบแปลน แล้วกล่าวว่า การออกแบบภูมิทัศน์ในงานพระเมรุมาศครั้งนี้ มีการจัดแสดงแปลงนาข้าว มีขอบคันนาเป็นเลข ๙ และได้นำไม้ยืนต้นที่เกี่ยวข้องกับในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้แก่ ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก มาปลูก รวมทั้งหญ้าแฝก พรรณพืชแต่ละชนิดจะปลูกตามที่กำหนดอย่างเป็นระเบียบและสวยงาม เพื่อแสดงให้ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีและประชาชนได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9,นายพรธรรมกล่าวว่า การจัดภูมิสถาปัตยกรรมแปลงนาข้าวและคันนาเลข ๙ มหามงคล คืบหน้ามาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแต่งพื้นดินเป็นแปลงนาข้าวและบ่อน้ำ เริ่มลงต้นไม้ประกอบด้วยต้นยางนา 9 ต้น สูงเฉลี่ย 7 เมตร นอกจากปลูก ต้นยางนาที่แปลงนาแล้ว จะปลูกบริเวณทิศใต้ของพระเมรุมาศ เพื่อบดบังจุดจอดรถพยาบาล รถดับเพลิง ส่วนหญ้าแฝกเลือกใช้ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ แฝกลุ่ม แฝกดอน และแฝกหอม,ในส่วนขอบคันนาเลข ๙ เริ่มดำเนินการตกแต่งผิวคันนาด้วยดินสีทอง จะไล่จากหางเลขเก้าขึ้นมา เป็นงานที่ต้องใช้ความประณีต พิถีพิถันและทำกลางแจ้ง มีอุปสรรคเรื่องฝนบ้าง หลังปลูกต้นไม้ต่างๆเสร็จ จะเริ่มติดตั้งไฟแปลงนาข้าวพระเมรุมาศ คือไฟเบอร์ออฟติก มีแสงออกเป็นจุดๆ เน้นคันนาเลข ๙ รวมถึงกระจายในกลุ่มต้นข้าว มีความระยิบระยับดูเป็นธรรมชาติ อีกแบบเป็นไฟสปอตไลต์สาดไฟเข้าใส่แปลงนาทำให้มีความแตกต่างกันระหว่าง แปลงนาข้าวและเลขเก้า ดูแล้วโดดเด่น ภูมิสถาปนิกกล่าว,อีกด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร นำคณะตรวจความเรียบร้อยเส้นทางริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวง แล้วเปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงซ่อมแซมพื้นผิวจราจรและทางเท้า วางระบบระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ ให้สำนักสิ่งแวดล้อมตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของต้นไม้ หากพบต้นไหนเสี่ยงโค่นล้มจะใช้เหล็กค้ำยันเพื่อความปลอดภัย ตัดแต่งต้นไม้ให้สวยงามเป็นระเบียบ ส่วนสายสื่อสารผู้ประกอบการทุกเครือข่ายนำลงใต้ดินเสร็จหมดเรียบร้อย เหลือเพียงบริเวณภายในท้องสนามหลวง,ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เริ่มลงมือทำถนนตั้งแต่ประตูทางออกของโรงราชรถ ไปจดกำแพงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เตรียมสำหรับการเคลื่อนราชรถ ราชยานออกจากโรงเก็บราชรถ ในพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ เจ้าหน้าที่ช่างวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์และจิตอาสาร่วมกันประดับตกแต่ง จัดทำงานด้านวิจิตรศิลป์ให้กับพระมหาพิชัยราชรถ หมายเลข 9780 ใช้อัญเชิญพระบรมโกศ ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 ขณะที่ราชรถน้อยหมายเลข 9784 การปิดทองประดับกระจกคืบหน้าไปมาก เช่นเดียวกับราชรถปืนใหญ่ หมายเลข 21863 ที่ใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 อยู่ระหว่างการปิดทองในส่วนล้อ,นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ เปิดเผยว่า ในช่วงพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ระหว่างวันที่ 19-30 ต.ค. คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางประมาณ 3-5 ล้านคน จึงประสานขอความร่วมมือจากสมาคมเรือไทย มีเรือด่วนเจ้าพระยา เรือทัวร์ ท่องเที่ยว เรือภัตตาคาร เรือข้ามฟาก ให้บริการแก่ ประชาชนฟรี จัดเตรียมเส้นทางเดินเรือโดยสารให้บริการ ประกอบด้วย ท่าเรือท่าน้ำนนท์-ท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ท่าเรือสาทร-ท่าเรือราชินี กำหนดเขตควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ 1.ด้านเหนือ สะพานกรุงธนบุรี 2.ด้านใต้ สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน วันที่ 25 ต.ค.60 เวลา 12.00-21.00 น., วันที่ 26 ต.ค.60 เวลา 06.00-23.00 น. และวันที่ 27 ต.ค.60 เวลา 08.00-14.00 น. และออกคำสั่งห้ามเดินเรือในสถานที่และวันเวลาที่กำหนด รวมถึงการปิดจราจรทางน้ำเป็นครั้งคราว | ความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเช้าวันที่ 17 ส.ค.60 นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร | ข่าว,พระราชสำนัก | อนันต์ ชูโชติ,สร้างพระเมรุมาศ,ณัฐ จับใจ,ปลูกต้นไม้,สนามหลวง | https://www.thairath.co.th/news/royal/1041617 |
ลือสะพัด ผู้ต้องหากรึ๊บเหล้าเมา ข่มขืนแม่ ผูกคอดับในเรือนจำ | วันที่ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันนี้ ในพื้นที่ จ.ตรัง มีข่าวลือว่า ชายวัย 47 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนแม่บังเกิดเกล้า (,ลูกทรพี กรึ๊บเหล้าจนเมา ข่มขืนแม่บังเกิดเกล้า-แถมขู่ฆ่า ห้ามบอกใคร,) ได้ผูกคอเสียชีวิตภายในเรือนจำ จ.ตรัง,ต่อมาผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.ตรัง ได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดตรัง ถึงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ทราบจากเจ้าหน้าที่ ว่า ผู้ต้องหายังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหวั่นจะเกิดอาการเครียด เพราะได้แยกขังจากผู้ต้องขังคดีอื่น ซึ่งข่าวที่ออกมาว่าผู้ต้องหาผู้คอเสียชีวิตแล้วภายในเรือนจำตรัง นั้นไม่เป็นความจริง,ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปทาง ผบ.เรือนจำจังหวัดตรัง แต่ทราบว่าเดินทางไปราชการ,ด้าน พ.ต.ต.รัชชานนท์ รุยันต์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยยอด ร.ต.อ.มนตรี สงคง รอง สว.(สอบสวน) ร้อยเวร เจ้าของคดี และ ทีมพนักงานสอบสวนคดีนี้ เผยว่า วันนี้ได้มีญาติของผู้ต้องหามาสอบถามที่โรงพักว่า ผู้ต้องหา ได้ผูกคอตายในเรือนจำจริงหรือไม่ จึงบอกไปว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งหากเกิดกรณีผู้ต้องหาเสียชีวิตจริง จะต้องมีเจ้าหน้าที่ฯ หลายฝ่ายเข้าไปร่วมตรวจตรวจทั้งตำรวจ นายอำเภอ และอัยการ และพรุ่งนี้ทางญาติระบุว่าจะเดินทางไปเยี่ยม ที่เรือนจำฯตรัง แต่เช้าตรู่.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,รวบแล้ว ลูกทรพีข่มขืนแม่ ขู่ฆ่าหากปากโป้ง ยังปฏิเสธ,- ,ลูกทรพีสารภาพ กรึ๊บยาดองเหล้า จนเมาขาดสติ ข่มขืนแม่บังเกิดเกล้า | เกิดข่าวลือสะพัด หนุ่มใหญ่ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนแม่บังเกิดเกล้า หลังเมายาดอง ผูกคอดับภายในเรือนจำ จ.ตรัง ด้าน จนท.ราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดตรัง ยันไม่เป็นความจริง ระบุมี จนท.ดูแลเข้ม หวั่นเครียด เนื่องจากถูกแยกขัง
| null | ลูกข่มขืนแม่,ลูกทรพี,เมายาดอง,ข่มขืนแม่,ตรัง,ข่าวลือ,ฆ่าตัวตาย,ผูกคอฆ่าตัวตาย,เรือนจำ จ.ตรัง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/600618 |
แถลงการณ์ พท. จี้ รบ.ต้องแจงปมทุจริตอุทยานราชภักดิ์ | วันที่ 18 พ.ย. ตามที่พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ฉบับลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เรียกร้องให้รัฐบาลแถลงรายละเอียด และมาตรการดำเนินการต่างๆ กรณีการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในระดับต่างๆ แต่ปรากฏว่า บุคคลในระดับสูงของรัฐบาลที่มีหน้าที่รับผิดชอบ กลับหลีกเลี่ยง และปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าโครงการดังกล่าวเป็นเรื่องของกองทัพบกไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล การจัดสร้างไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐบาล แต่ใช้เงินบริจาคประชาชน และแม้จะพบการทุจริต รัฐบาลก็ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบนั้น พรรคเพื่อไทย ขอแถลงในประเด็นดังกล่าว เพื่อความรับรู้ร่วมกันของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ดังนี้,1. คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงกลาโหม ให้กองทัพบกเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ สำหรับเงินงบประมาณ ให้ประสานความร่วมมือ และเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมบริจาค หากกระทรวงกลาโหม มีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนการจัดสร้างจากเงินงบประมาณด้วย ก็ให้ดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ปรากฏตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กห 0207/761 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2558 และหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0505/19102 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ดังนั้น โครงการอุทยานราชภักดิ์ จึงอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลมาแต่ต้น ภายใต้ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ร่วมในพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ ดังนั้น การที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ซึ่งเป็นผู้ลงนามนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อ้างว่า โครงการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล จึงฟังไม่ขึ้น เป็นการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบโดยแท้,2. กองทัพบก เจ้าของโครงการเป็นหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินของกองทัพบก อันเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการของกองทัพบก กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชน ใช้สถานที่ และทรัพย์สินของทางราชการในการดำเนินโครงการ การรับบริจาคดำเนินการในนามกองกิจการพลเรือนทหารบก ใช้ชื่อบัญชีที่รับบริจาคว่า กองทุนสวัสดิการกองทัพบก ผู้บริจาคสามารถนำใบเสร็จไปขอหักลดหย่อนภาษีอันเป็นรายได้ของแผ่นดิน สำหรับเงินบริจาคดังกล่าว ตามข้อ 5 (4) วรรคสอง ของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการรับเงิน หรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ทางราชการ พ.ศ. 2526 ให้ถือว่าเป็นการรับบริจาคในนามของทางราชการ เงินบริจาคดังกล่าว จึงเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เมื่อมีการทุจริตเกิดขึ้น อันเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญา จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ หาใช่เป็นเรื่องของกองทัพบก ซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามที่ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พยายามชี้แจงเพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบแต่อย่างใดไม่,3. การที่ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งดำรงตำแหน่งในระดับสูงของรัฐบาล และ คสช. ออกมายอมรับว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการจริง แต่ได้นำเงินดังกล่าวไปบริจาคแล้ว เท่ากับเป็นการยอมรับว่า มีการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาเกิดขึ้น ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งสำคัญ ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เลขาธิการ คสช. และเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ การทุจริตที่เกิดขึ้นจึงเป็นความรับผิดชอบที่ตัวผู้รับผิดชอบโครงการ และผู้บังคับบัญชา ในระดับที่เหนือขึ้นไป ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี และประธาน คสช. ซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองจะต้องแสดงความรับผิดชอบอันเป็นไปตาม ข้อ 10 และ ข้อ 29 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ แสดงความไม่รับผิดชอบ จึงขัดกับมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง,4. พรรคเพื่อไทย ขอเรียนว่า โครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อมีการทุจริตเกิดขึ้น และเกี่ยวพันถึงบุคคลในระดับสูงของรัฐบาล ชอบที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ และเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ รวมทั้งแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลนี้เข้าสู่อำนาจด้วยการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โดยมีข้ออ้างหนึ่งคือ เพื่อการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง ปรากฏตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ยิ่งต้องแสดงให้ประชาชนเห็นถึงมาตรฐานทางจริยธรรมที่ดีกว่า หรืออย่างน้อยเท่ากับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิรูปการเมืองที่ทุกฝ่าย รวมถึงรัฐบาลนี้เรียกร้องให้เกิดขึ้น ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลแสดงความไม่รับผิดชอบ นอกจากจะขัดกับมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยังขัดกับแนวทางปฏิรูปการเมือง รวมถึงนโยบายการป้องกัน และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ อันเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลเองอีกด้วย,พรรคเพื่อไทย จึงเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และประธานกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใส และประกาศให้สาธารณชนทราบโดยด่วน | เพื่อไทย ออกแถลงการณ์ จี้ รัฐบาลต้องแจงปมทุจริตอุทยานราชภักดิ์ อัด บิ๊กป้อม อย่าโยนเป็นเรื่องกองทัพบก ชี้ แท้จริงเป็นความรับผิดชอบรัฐบาล | null | เพื่อไทย,แถลงการณ์,ทุจริตอุทยานราชภักดิ์,อุทยานราชภักดิ์,ปมทุจริต,จี้รัฐบาล,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,บิ๊กป้อม,ทุจริต,กองทัพบก,กลาโหม,รมว.กลาโหม,คสช.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/540441 |
ททท.ขมีขมันโกยรายได้ท่องเที่ยว รับลูก สมคิด ชูบทพระเอก พุ่งเป้าหาเงินเข้า 3 ล้านล้าน | นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จะต้องทำให้นักท่องเที่ยวขยายตัวไม่ต่ำกว่าปีละ 20%,จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 30 ล้านคน จึงเท่ากับในปี 2559 จะต้องมีนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน และเพิ่มเป็น 43 ล้านคนในปี 2560 และในปี 2561 จะอยู่ที่ 51.8 ล้านคนและมีรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่ 3 ล้านล้านบาท ส่วนปีนี้จะทำรายได้ได้ตามเป้า 2.2 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน,หากต้องการจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเป็น 50 ล้านคนในปี 2561 นับจากนี้คงต้องรุกทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ รองรับให้เพียงพอ และจำเป็นต้องทำงานในลักษณะบูรณาการ เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน รวมทั้งต้องบังคับใช้กฎระเบียบการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติให้เข้มงวดมากขึ้น ป้องกันทรัพยากรตามแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น พร้อมกับแผนฟื้นฟูพัฒนาไปพร้อมๆกัน,ส่วนเรื่องความปลอดภัยหากนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากนั้น ไม่มีความกังวล เพราะมองว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นในทุกเมื่อแต่จะทำอย่างไรให้ปัญหาเหล่านี้ลดลง หากเรามัวแต่กังวล ขณะที่เศรษฐกิจภาคอื่นๆ ต่างเกิดปัญหา สุดท้ายแล้วรายได้ภาครัฐก็จะหายไปกระทบกันเป็นห่วงโซ่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราต้องตั้งกรอบไว้ว่าในจำนวนนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน จะต้องมีนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีศักยภาพในการใช้จ่ายเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมืองไทย เพราะการที่ไทยคาดหวังจำนวนนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน ไม่ได้หมายความว่าไทยจะกลับไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบคุ้มค่าเงิน (แวลู่ ฟอร์ มันนี่) เหมือนในอดีต ยังคงนโยบายยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่ความมั่งคั่งยั่งยืน (ควอลิตี้ เลเชอร์ เดสติเนชั่น) | ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ต้องการให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นพระเอกในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศนั้น ถ้าต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยเพิ่มเป็น 50 ล้านคนภายใน 3 ปี หรือปี 2561 | null | ข่าวเศรษฐกิจ,ยุทธศักดิ์ สุภสร,ททท.,การท่องเที่ยว,สร้างรายได้,นักท่องเที่ยว,นักท่องเที่ยวต่างชาติ,ขยายตัว,แผนฟื้นฟูพัฒนา,ความปลอดภัย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/529110 |
ติดดาบ ก.ล.ต.ฟันผู้บริหาร คลังปกป้องผู้ถือหุ้นรายย่อยก่อนเสียหายหนัก | ไปจนถึงผู้ถือหุ้นรายย่อย,นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ งานสัมมนาเปิดตัว CG Code ใหม่ บริษัทจดทะเบียนไทยก้าวไกลไปกับไทยแลนด์ 4.0 ว่า การออกเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ CG Code เป็นเรื่องของการพัฒนาตลาดทุนที่ดี โดยมุ่งหวังให้กิจการมีผลประกอบการที่ดี ยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น สังคม สิ่งแวดล้อม ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย,ล่าสุดกระทรวงการคลัง ได้ร่วมกับ ก.ล.ต. แก้ไข พ.ร.บ.กฎหมายหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มอำนาจให้ ก.ล.ต.มีอำนาจเข้าไปจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตลาดทุนได้ทันท่วงที เช่น หากผู้บริหาร หรือกรรมการทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการส่วนรวม หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ขัดแย้งหรือทะเลาะกัน จนส่งผลกระทบหรือเกิดความเสียหายไปถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยก็จะเพิ่มอำนาจ ให้ ก.ล.ต.เข้าไปจัดการได้อย่างรวดเร็ว หรือทันสถานการณ์ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายบานปลายมากขึ้น ถือเป็นการติดดาบให้อำนาจกับ ก.ล.ต. ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการกำกับดูแลตลาดทุนได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้กลางเดือนเมษายน 2560,ปัญหาบางเรื่องหากไม่เข้าไปจัดการอย่างรวดเร็ว จะเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ ขณะที่บริษัทมหาชนเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก และพบว่ากฎหมายปัจจุบัน ก.ล.ต.ไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการในบางเรื่องได้ เช่น เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ขัดแย้งกัน หรือผู้บริหารหรือกรรมการทะเลาะกันจนทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย ผู้ถือหุ้นเสียหาย ราคาหุ้นตกลง และเจ้าหนี้ได้รับผลกระทบ หากเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ส่วนรวมเสียหายก็จะให้อำนาจ ก.ล.ต.สามารถเข้าไปจัดการได้ทันที,รมว.คลังยังกล่าวถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีว่า ล่าสุดทาง ก.ล.ต.ได้ออกหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนฉบับใหม่ซึ่งเอกชนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการร่างหลักการขึ้นมาจึงเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้จริง,นอกจากนี้ ในเร็วๆนี้กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทที่รวมกลุ่มกันเพื่อลงทุนงานวิจัยใน 5 อุตสาหกรรม สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนได้ 2-3 เท่า เพื่อหนุนให้เกิดการพัฒนางานวิจัยที่ตรงกับความ ต้องการของผู้ประกอบการ และนำประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0,ขณะที่นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและ ก.ล.ต.ได้หารือถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) ซึ่งเป็นการปรับแก้เพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.ฉบับใหม่ที่เพิ่งปรับแก้ไปเมื่อปี 59 มีเรื่องที่แก้ไข 20 มาตรา เป็นประเด็นเกี่ยวกับการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ และอีกประเด็นคือกรณีที่บริษัทจดทะเบียน กรรมการ ผู้บริหาร มีปัญหาหรือเกิดเรื่องราวขัดแย้งหรือทะเลาะกันจนเกิดความเสียหายกับบริษัท พ.ร.บ.ฉบับใหม่จะให้อำนาจ ก.ล.ต.ปลดกรรมการบริษัทได้ หลังจากนั้นต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อคืนอำนาจให้ผู้ถือหุ้น เพื่อให้กรรมการใหม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้,ทั้งนี้ จะนำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ก.ล.ต.สิ้นเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาก่อนเสนอเข้า ครม.ต่อไป,ทั้งนี้ ในต่างประเทศ หน่วยงานกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนไม่ได้มีอำนาจเข้าไปปลดผู้บริหารเช่นนี้ แต่ครั้งนี้ถือเป็นอำนาจพิเศษที่หน่วยงานของไทยทำขึ้นมา เพราะเราเห็นปัญหาในประเทศที่เกิดขึ้นเนื่องจากต่างประเทศมีผู้ถือหุ้นมาใช้สิทธิ์ของตัวเอง แต่ประเทศไทยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมาก และการรวมตัวใช้สิทธิ์เกิดขึ้นยาก จึงคาดว่าการใช้อำนาจตรงนี้จะเป็นประโยชน์ในการดูแลคุ้มครองผู้ถือหุ้นรายย่อย,ที่ผ่านมาทุกคนเห็นปัญหาอยู่แล้ว หากปล่อยให้เกิดความขัดแย้งของผู้บริหารเช่นนี้ต่อไป บริษัทหรือธุรกิจก็จะเป็นปัญหาได้ และอำนาจนี้ไม่ได้แรงไป เพราะเป็นการคืนอำนาจให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเหตุในการใช้อำนาจของ ก.ล.ต.ไม่ได้ใช้ง่ายๆ ต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เชื่อหรือเห็นได้ว่าหากไม่ใช้อำนาจจะเกิดความเสียหายกับบริษัท ซึ่ง ก.ล.ต.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องกลุ่มต่างๆแล้ว เพราะตัวกฎหมายมีความเร่งด่วนมาก อย่างที่ รมว.คลังย้ำว่า ต้องเร่งดำเนินการเพราะจะไม่ทันต่อการนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.). | คลัง ติดดาบ ก.ล.ต. เตรียมชงกฎหมาย เพิ่มอำนาจปลดกรรมการและผู้บริหาร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ หากมีความขัดแย้งหรือทะเลาะกันรุนแรง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีโดยไม่ส่งผลกระทบบานปลายจนเสียหายหนัก | null | ไทยแลนด์ 4.0,กระทรวงการคลัง,ก.ล.ต.,ผู้ถือหุ้นรายย่อย,อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ | https://www.thairath.co.th/content/888327 |
เคฮิลล์ เชื่อ วิลเลียน ป่วนทัพเปแอสเชได้แน่ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 9 มี.ค. ว่า แกรี เคฮิลล์ กองหลังทีมชาติอังกฤษของทีม สิงโตน้ำงิน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อมั่น วิลเลียน ปีกทีมชาติบราซิล จะสร้างปัญหาให้กับทีม ปารีส แซงต์ แชร์แมง ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง คืนวันนี้ได้อย่างแน่นอน,เชลซี จะเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ เปแอสเช ในคืนวันนี้ หลังนัดแรกสิงห์บลูบุกไปพ่ายมา 1-2 โดย เคฮิลล์ เชื่อว่า วิลเลียน จะเป็นคีย์แมนคนสำคัญในการพาทีมเชลซีผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,จากช่วงเวลาที่ผมได้เล่นกับ วิลเลียน เขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ฤดูกาลนี้เขาแข็งแกร่งมากในสีเสื้อของเชลซี และเขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดของเรา น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับแฟนๆ ที่จะเข้ามาดูเรา เราจะให้บอลกับเขาแล้วเขาก็จะจัดการมันเอง ผมมั่นใจว่านักเตะของเปแอสเชไม่ได้อยากลิ้มลองฝีเท้าของเขาสักเท่าไรหรอก และในวันนี้เขาจะเป็นนักเตะที่พิเศษมาก เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เราหวังให้อยู่ในฟอร์มเก่งและสร้างผลกระทบได้ แต่คืนวันนี้มันจะเต็มไปด้วยนักเตะระดับท็อป เคฮิลล์ กล่าว | แกรี เคฮิลล์ กองหลังทีมเชลซี เชื่อมั่น วิลเลียน ปีกเพื่อนร่วมทีมชาวแซมบ้า จะสร้างปัญหาให้กับทีม ปารีส แซงต์ แชร์แมง ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง คืนวันนี้ ได้อย่างแน่นอน | null | ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,เชลซี,ปารีส แซงต์ แชร์แมง,วิลเลียน,แกรี เคฮิลล์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/588383 |