en
stringlengths
9
458
th
stringlengths
13
451
Tobacco and nicotine industry tactics addict youth for life
กลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบและนิโคตินทำให้เยาวชนเสพติดไปชั่วชีวิต
Young people using e-cigarettes at rates higher than adults in many countries
ในหลายประเทศพบกว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนนั้นสูงกว่าผู้ใหญ่
Geneva / New York – The World Health Organization (WHO) and STOP, a global tobacco industry watchdog, are launching today "Hooking the next generation,"
เจนีวา / นิวยอร์ก – วันนี้ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) และ STOP ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังอุตสาหกรรมยาสูบระดับโลกได้ร่วมกันเปิดตัวรายงานชื่อ "Hooking the next generation" (การหลอกล่อคนรุ่นต่อไป)
The report highlights how the tobacco and nicotine industry designs products, implements marketing campaigns and works to shape policy environments to help them addict the world's youth.
รายงานนี้เน้นย้ำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยาสูบและนิโคตินใช้การออกแบบผลิตภัณฑ์ แคมเปญการตลาด และดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อแทรกแซงการกำหนดนโยบายที่จะช่วยให้เยาวชนทั่วโลกเสพติดผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
This comes just ahead of World No Tobacco Day marked on 31 May
กิจกรรมนี้เกิดขึ้นก่อนวันงดสูบบุหรี่โลกซึ่งตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม
WHO is amplifying the voices of young people who are calling on governments to protect them from being targets of the tobacco and nicotine industry.
WHO กำลังช่วยเป็นกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ที่เรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องพวกเขาจากการตกเป็นเป้าหมายของอุตสาหกรรมยาสูบและนิโคติน
The report shows that globally an estimated 37 million children aged 13–15 years use tobacco
รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเด็กอายุ 13-15 ปีทั่วโลกประมาณ 37 ล้านคนใช้ยาสูบ
In many countries, the rate of e-cigarette use among adolescents exceeds that of adults.
ในหลายประเทศ อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในหมู่วัยรุ่นนั้นสูงกว่าผู้ใหญ่
In the WHO European Region, 20% of 15-year-olds surveyed reported using e-cigarettes in the past 30 days.
ประเทศที่อยู่ในภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลกรายงานว่า ร้อยละ 20 ของผู้ตอบแบบสำรวจอายุ 15 ปีรายงานว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
Despite significant progress in reducing tobacco use, the emergence of e-cigarettes and other new tobacco and nicotine products present a grave threat to youth and tobacco control.
แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมากในการลดอัตราการใช้ยาสูบ แต่การเกิดขึ้นของบุหรี่ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินชนิดใหม่ๆ ก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อเยาวชนและการควบคุมยาสูบ
Studies demonstrate that e-cigarette use increases conventional cigarette use, particularly among non-smoking youth, by nearly three times.
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีแนวโน้มพัฒนาไปสูบบุหรี่มวนเพิ่มขึ้นถึงเกือบสามเท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มเยาวชนที่ไม่สูบบุหรี่
"History is repeating, as the tobacco industry tries to sell the same nicotine to our children in different packaging," said Dr Tedros Adhanom Ghebreyesus, WHO Director-General."
"ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย อุตสาหกรรมยาสูบพยายามขายนิโคตินแบบเดิมให้กับเด็กและเยาวชนของเราในบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ" นายแพทย์เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก กล่าว
"These industries are actively targeting schools, children and young people with new products that are essentially a candy-flavoured trap.
"อุตสาหกรรมเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่โรงเรียน เด็ก และเยาวชนด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ในรูปแบบกับดักรสลูกกวาด
How can they talk about harm reduction when they are marketing these dangerous, highly-addictive products to children?"
พวกเขาจะพูดถึงการลดอันตรายได้อย่างไรเมื่อพวกเขาทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายและเสพติดสูงเหล่านี้ให้กับเด็กๆ"
These industries continue to market their products to young people with enticing flavours like candy and fruit.
อุตสาหกรรมเหล่านี้ยังคงทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของตนกับเด็กและเยาวชน โดยทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสชาติที่น่าดึงดูด เช่น ลูกอม และผลไม้
Research in the United States of America found that more than 70% of youth e-cigarette users would quit if the products were only available in tobacco flavour.
การวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่ามากกว่าร้อยละ 70 ของเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากล่าวว่าจะเลิกบุหรี่ไฟฟ้าหากผลิตภัณฑ์นั้นมีรสชาติยาสูบเท่านั้น
"These industries are intentionally designing products and utilizing marketing strategies that appeal directly to children," said Dr Ruediger Krech, Director, WHO Director of Health Promotion."
"อุตสาหกรรมเหล่านี้ตั้งใจออกแบบผลิตภัณฑ์และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดึงดูดเด็กโดยตรง" นายแพทย์รูดิเกอร์ เคร็ช ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสุขภาพขององค์การอนามัยโลกกล่าว
"The use of child-friendly flavours like cotton candy and bubblegum, combined with sleek and colourful designs that resemble toys, is a blatant attempt to addict young people to these harmful products."
"การใช้รสชาติที่เด็กชอบ เช่น ขนมสายไหม และลูกอมหมากฝรั่ง ผสมผสานกับการออกแบบที่ทันสมัยและมีสีสันที่คล้ายกับของเล่น ถือเป็นความพยายามที่ชัดเจนในการทำให้เด็กและเยาวชนเสพติดผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้"
These deceptive tactics highlight the urgent need for strong regulations to protect young people from a lifetime of harmful dependence.
กลวิธีหลอกลวงเหล่านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากการเสพติดสิ่งที่เป็นอันตรายตลอดชีวิต"
WHO urges governments to protect young people from the uptake of tobacco, e-cigarettes and other nicotine products by banning or tightly regulating these products.
องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องเยาวชนจากการบริโภคยาสูบ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์นิโคตินอื่นๆ โดยการห้ามหรือควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างเข้มงวด
WHO recommendations include creating 100% smoke-free indoor public places, banning flavoured e-cigarettes, bans on marketing, advertising and promotion, higher taxes, increasing public awareness of the deceptive tactics used by the industry and supporting youth-led education and awareness initiatives.
คำแนะนำขององค์การอนามัยโลกประกอบไปด้วย การสร้างสถานที่สาธารณะปลอดบุหรี่ 100% การห้ามบุหรี่ไฟฟ้าปรุงแต่งกลิ่นรส การห้ามการทำการตลาด การโฆษณา และการส่งเสริมการขาย การเพิ่มอัตราภาษี การเพิ่มความตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับกลวิธีหลอกลวงที่ใช้โดยอุตสาหกรรม และการสนับสนุนกิจกรรมการให้ความรู้และสร้างความตระหนักที่นำโดยเยาวชน
"Addicted youth represent a lifetime of profits to the industry," said Jorge Alday, Director, STOP at Vital Strategies."
"เยาวชนที่ติดยาเสพติดถือเป็นผลกำไรตลอดชีวิตของอุตสาหกรรมบุหรี่" จอร์จ อัลเดย์ ผู้อำนวยการของ STOP หน่วยงานภายใต้ Vital Strategies กล่าว"
"That's why the industry aggressively lobbies to create an environment that makes it cheap, attractive and easy for youth to get hooked."
"นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอุตสาหกรรมจึงพยายามล็อบบี้อย่างจริงจังเพื่อสร้างนโยบายและสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาถูก น่าดึงดูด และง่ายสำหรับเยาวชนที่จะเสพติด"
If policy makers don't act, current and future generations may be facing a new wave of harms, characterized by addiction to and use of many tobacco and nicotine products, including cigarettes."
หากผู้กำหนดนโยบายไม่ดำเนินการอะไรเลย เด็กและเยาวชนในปัจจุบันและในอนาคตอาจเผชิญกับอันตรายระลอกใหม่ โดยมีลักษณะเฉพาะคือการเสพติดและใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินหลายชนิด รวมถึงบุหรี่มวนด้วย
Youth advocates around the world are taking a stand against the tobacco and nicotine industry's destructive influence and manipulative marketing.
เยาวชนนักรณรงค์ทั่วโลกกำลังยืนหยัดต่อสู้กับอิทธิพลด้านลบและการตลาดที่บิดเบือนของอุตสาหกรรมยาสูบและนิโคติน
They are exposing these deceptive practices and advocating for their own tobacco-free future.
พวกเขากำลังเปิดโปงแนวทางปฏิบัติที่หลอกลวงเหล่านี้ และเรียกร้องอนาคตที่ปราศจากยาสูบ
Youth organizations from around the world participated in [("Youth organizations from around the world participated in the latest session of the Conference of the Parties to the WHO Framework Convention on Tobacco Control (COP10)
องค์กรเยาวชนจากทั่วโลกเข้าร่วมในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 10
They delivered a powerful message to policy makers: "Future generations will remember you as the ones who protected them or the ones who failed them and put them in danger."
เพื่อส่งข้อความอันทรงพลังถึงผู้กำหนดนโยบายว่า "คนรุ่นต่อๆ ไปจะจดจำคุณในฐานะคนที่ปกป้องพวกเขา หรือคนที่ล้มเหลวและทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย"
Dr Tedros recognized the following youth organizations among the 2024 World No Tobacco Day Awards:
นายแพทย์เทดรอส ยกย่ององค์กรเยาวชนเหล่านี้สำหรับรางวัลวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2567
Thailand Youth Institute, Kingdom of Thailand
สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ประเทศไทย
Tobacco Abstinence Club, Federal Republic of Nigeria
Tobacco Abstinence Club ประเทศไนจีเรีย
Campaign for Tobacco-Free Kids, Argentine Republic
Campaign for Tobacco-Free Kids ประเทศอาร์เจนตินา
These inspiring young leaders are protecting their generation from an industry that sees them as profits, not people
ผู้นำรุ่นเยาว์ที่สร้างแรงบันดาลใจเหล่านี้กำลังปกป้องคนรุ่นต่อไปจากอุตสาหกรรมที่มองว่าพวกเขาเป็นผลกำไร ไม่ใช่ประชาชน
By working together, governments, public health organizations, civil society, and empowered youth can create a world where the next generation is free from the dangers of tobacco and nicotine addiction.
การทำงานร่วมกันของรัฐบาล หน่วยงานสาธารณสุข ภาคประชาสังคม และเยาวชนที่มีพลังจะสามารถสร้างโลกสำหรับคนรุ่นต่อไปที่ปราศจากอันตรายของการเสพติดยาสูบและนิโคติน
Thailand's new road safety Parliamentary Advisory Group takes aim at road crashes
รัฐสภาไทยจัดตั้งคณะที่ปรึกษารัฐสภาด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อมุ่งเป้าลดอุบัติเหตุบนถนน
Thailand's National Assembly has launched a new Parliamentary Advisory Group on Road Safety
รัฐสภาไทยได้เปิดตัวคณะที่ปรึกษารัฐสภาด้านความปลอดภัยทางถนน
to strengthen the country's efforts to meet its road traffic fatality and injury reduction targets.
เพื่อช่วยสนับสนุนความพยายามของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายที่จะลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน
Parliamentarians play a key role in shaping laws, regulations and policies on road safety
สมาชิกรัฐสภามีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติโดยการตรากฎหมาย กำหนดกฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนน
including monitoring and evaluating progress.
รวมถึงการติดตามและประเมินความก้าวหน้า
The new Parliamentary Advisory Group that was established with support from WHO and partners
คณะที่ปรึกษารัฐสภาชุดใหม่นี้ ก่อตั้งขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การอนามัยโลกและภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน
will help shape and assess laws, policies and actions.
เพื่อช่วยกำหนดรูปแบบและประเมินกฎหมาย นโยบาย และวิธีการดำเนินงาน
It will also undertake studies and make recommendations on laws and regulations
นอกจากนี้ยังจะดำเนินการศึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับ
support coordination, and engage with parliamentarians, partners and the public
หนุนเสริมการประสานงานและการมีส่วนร่วมกับสมาชิกรัฐสภา ภาคีเครือข่าย และสาธารณชน
to boost interest and accountability for road safety.
เพื่อเพิ่มความตระหนัก ความรู้ความเข้าใจ และความรับผิดชอบร่วมกันต่อความปลอดภัยทางถนน
"Everyone has a role to play in road safety
"ทุกคนมีบทบาททำให้ถนนปลอดภัย
and this philosophy underpins our support for Thailand's Parliamentary Advisory Group.
ซึ่งหลักปรัชญานี้คือรากฐานของการจัดตั้งคณะที่ปรึกษารัฐสภาของประเทศไทย
It is a clarion call for engagement across all levels of society
อีกทั้งยังเป็นการเรียกร้องอย่างจริงจังให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม
government, business, communities and individuals
ทั้งภาครัฐ ธุรกิจ ชุมชน และประชาชนทั่วไป
to unite to prevent road traffic deaths and injuries.
เพื่อร่วมมือกันในการป้องกันการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน
Only by working together, embracing an all-society approach,
การร่วมกันกำหนดแนวทางจากทุกภาคส่วน รวมไปถึงการทำงานร่วมกันบนข้อตกลงเหล่านี้
can we achieve the reductions in road traffic deaths that Thailand aspires to,"
จะทำให้เราสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนตามที่ประเทศไทยตั้งเป้าไว้ได้"
said Dr Jos Vandelaer, WHO Representative in Thailand.
ดร.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าว
Thailand has made significant progress in reducing road fatalities
ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนน
with a 10% decline in deaths per year in the decade to 2020.
โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงปี พ.ศ.2563
Yet around 18,000 people are still killed each year
แต่ยังคงมีผู้เสียชีวิตประมาณ 18,000 คนในแต่ละปี
and the fatality rate remains in the top 20% of countries globally
และอัตราการเสียชีวิตยังคงอยู่ในอันดับร้อยละ 20 แรกของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
with 25 deaths per 100 000 population.
โดยมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 25 รายต่อแสนประชากร
In line with the United Nations Decade of Action for Road Safety 2021-2030
เพื่อให้สอดคล้องกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนแห่งสหประชาชาติปี พ.ศ. 2564-2573
the country aims to halve road traffic deaths by 2027.
ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ.2570
Chaired by the President of the National Assembly, the Advisory Group includes Members of Parliament
คณะที่ปรึกษามีประธานรัฐสภาเป็นประธาน คณะที่ปรึกษาประกอบไปด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
government experts - including the Ministries of Transport, Health and the Interior
ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย
the Royal Thai Police, experts from academia
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา
from the National Broadcast and Telecommunications Commission, insurance sector, civil society organizations
คณะกรรมการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ภาคประกันภัย องค์กรภาคประชาสังคม
and from the WHO Collaborating Center on Injury Prevention and Safety Promotion at Thailand's Khon Kaen Regional Hospital.
ศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและโรงพยาบาลขอนแก่นด้านการป้องกันการบาดเจ็บและการส่งเสริมความปลอดภัย
The Parliamentary Advisory Group is inspired by the work of the All Party Parliamentary Group for Transport Safety in the United Kingdom
คณะที่ปรึกษารัฐสภาไทยได้รับแรงบันดาลใจจากการทำงานของ คณะรัฐสภาจากทุกพรรคและสภาที่ปรึกษาอิสระรัฐสภาเพื่อความปลอดภัยในการขนส่งของสหราชอาณาจักร
and the UK's independent Parliamentary Advisory Council on Road Safety
และสภาที่ปรึกษาอิสระรัฐสภาเพื่อความปลอดภัยทางถนนของสหราชอาณาจักร
that brings safety professionals, experts and legislators together to improve road safety.
ที่นำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย และผู้บัญญัติกฎหมายมารวมตัวกันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา และร่วมส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน
WHO and partners have worked with Parliamentarians in Thailand to advance laws and policies for road safety for years.
องค์การอนามัยโลกและภาคีเครือข่ายได้ทำงานร่วมกับสมาชิกรัฐสภาในประเทศไทยเพื่อปรับปรุงกฎหมายและนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนมาเป็นเวลาหลายปี
This includes supporting a review of the country's progress against the voluntary global road safety performance targets
รวมถึงการสนับสนุนการทบทวนความก้าวหน้าของประเทศไทยตามกรอบเป้าหมายโลกการดําเนินงานโดยสมัครใจสําหรับปัจจัยเสี่ยงความปลอดภัยทางถนน
and supporting a range of legislative topics through the Bloomberg Initiative for Global Road Safety 2015-2019
และสนับสนุนข้อกฎหมายต่างๆ ผ่านโครงการความปลอดภัยทางถนนของโลกตามการริเริ่มของบลูมเบิร์ก 2558-2562
This helped lead to the establishment of new guidelines for reducing urban speed limits
ซึ่งนำไปสู่การกําหนดแนวทางใหม่ในการจํากัดความเร็วในเขตเมือง
the requirement for all vehicle occupants to wear seatbelts
ตลอดจนข้อกำหนดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารในยานพาหนะทุกที่นั่ง
the adoption of mandatory motorcycle ABS
การบังคับให้มีการติดตั้งระบบ ABS ของรถจักรยานยนต์
and the adoption of mandatory child safety restraints in vehicles for children up to age six.
และข้อกำหนดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในยานพาหนะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี
Update on COVID-19 in Thailand: 02 May 2024
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย: 2 พฤษภาคม 2567
Since March 2024, data reported by the Ministry of Public Health on a weekly basis indicates that hospital admissions due to COVID-19 have been increasing.
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่รายงานเป็นรายสัปดาห์บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
More recently, the increase has been more significant
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงผู้ป่วยใหม่
with the latest information showing 1672 new admissions and 9 deaths in the week prior
1,672 รายมีผู้เสียชีวิต 9 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
with 390 seriously unwell patients of which 148 required mechanical ventilation in hospitals on 27 April.
ผู้ป่วยที่อาการหนัก 390 ราย และมีจำนวน 148 รายที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ณ วันที่ 27 เมษายน
There is no evidence that current COVID-19 strains cause higher levels of illness
ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าสายพันธุ์โควิด 19 ปัจจุบันทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงขึ้น
instead, the upsurge in Thailand is likely due to higher transmissibility of currently circulating virus strains
แต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยน่าจะเป็นผลมาจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในปัจจุบันที่มีการแพร่เชื้อสูงขึ้น
and lower adherence of people to personal protective measures, including during Songkran festivities.
และการยึดมั่นในมาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่ลดลง รวมถึงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย
A significant minority of people in Thailand also remain either unvaccinated or are incompletely vaccinated.
นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนไม่น้อยในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน
What is the current situation with COVID-19 variants in Thailand?
สถานการณ์เชื้อโควิด19ในประเทศไทยเป็นอย่างไร?
The dominant COVID-19 strain in Thailand and in most other countries is known as JN.1.
ปัจจุบัน สายพันธุ์โควิด 19 ที่พบบ่อยในประเทศไทยและในหลายประเทศ คือสายพันธุ์ JN.1
Based on current evidence, tests, treatment, and vaccines all continue to work with this strain, as with previous variants
ซึ่งจากหลักฐานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษา และวัคซีน ณ ปัจจุบัน วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพต่อการป้องกันโรคและลดความรุนแรงเหมือนกับสายพันธุ์ก่อนหน้า
What can individuals do to protect infection against COVID-19?
มาตรการป้องกันโควิด19ที่บุคคลสามารถทำได้คืออะไร?
In the current situation, at risk individuals and their families may consider the regular use of personal protective measures including masks, cough etiquette and handwashing.
ในสถานการณ์ปัจจุบัน บุคคลที่มีความเสี่ยงและครอบครัวอาจพิจารณาใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสวมหน้ากาก มารยาทในการไอ และการล้างมือ
Any unvaccinated 'at risk' individuals who are concerned about the current situation should seek advice from a medical practitioner.
บุคคลที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและบุคคลที่มีความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์
If individuals are unsure whether they might need a booster vaccine, they should also seek guidance from a health professional
หากไม่แน่ใจว่าพวกเขาอาจต้องการวัคซีนกระตุ้นหรือไม่ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเช่นกัน
What should I do if I think I might be infected with COVID-19?
ควรทำอย่างไรหากคิดว่าติดเชื้อโควิด19?
Anyone who develops symptoms of COVID-19, especially if they have risk factors of severe illness should get tested to confirm the diagnosis
บุคคลที่มีอาการของโควิด 19โดยเฉพาะหากมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงควรได้รับการตรวจยืนยันการวินิจฉัย
and should seek medical care if the test is positive, so that appropriate decisions can be made about treatment and case management.
และควรเข้ารับการดูแลทางการแพทย์หากผลตรวจเป็นบวก เพื่อให้แพทย์สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
"Our Health, Our Right, Our Digital Future" - A Journey Towards Health Equity in Thailand
"สุขภาพของเรา สิทธิของเรา อนาคตดิจิทัลของเรา" – หนทางสู่ความเท่าเทียมด้านสุขภาพในประเทศไทย
The Ministry of Public Health (MoPH) (Thailand), in collaboration with the World Health Organization (WHO), organized this year's World Health Day on 22 April 2024 in Bangkok, under the theme "Our Health, Our Right, Our Digital Future."
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ของไทยได้ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดงานวันอนามัยโลกในปีนี้ขึ้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567 ที่กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด "สุขภาพของเรา สิทธิของเรา อนาคตดิจิทัลของเรา"
The event emphasized that health is not only "complete physical, mental and social wellbeing", it is also a basic human right.
งานนี้ได้ให้ความสำคัญต่อสุขภาพที่ไม่ใช่แค่ "ความเป็นอยู่ที่ดีทางร่างกาย จิตใจ และสังคม" เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
Dr. Jos Vandelaer, WHO Representative to Thailand, emphasized that "Our health is our right."
นายแพทย์จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้เน้นย้ำว่า "สุขภาพของเราเป็นสิทธิของเรา"
and reminded participants that everyone should have access to quality, affordable healthcare
และกล่าวย้ำกับผู้เข้าร่วมงานว่าทุกคนควรจะสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี มีคุณภาพและราคาไม่แพง
Advances in digital health systems can help to bring health care even closer to people.
ความก้าวหน้าในระบบสุขภาพดิจิทัลจะสามารถช่วยให้เกิดการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดกับผู้คนทั่วไปได้มากยิ่งขึ้น
Deputy Minister of Public Health, Mr Santi Promphat highlighted a significant advancement under Prime Minister Settha Thavisin's leadership—the upgrade of the national healthcare policy to "30 Baht Treat All Disease Anywhere with a Single ID Card."
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย กล่าวถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญครั้งนี้ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ยกระดับนโยบายการรักษาพยาบาลแห่งชาติเป็น "30 บาท รักษาโรคได้ทุกที่ด้วยบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว"