content
stringlengths 2
11.3k
| url
stringlengths 26
27
| title
stringlengths 3
125
|
---|---|---|
ปรากฎการณ์ปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเหลือกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนเชื่อกันว่าปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกทวีปอาร์กติกในปีนี้จะลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการสำรวจครั้งแรกในปี 1980 นั้น ตัวเลขปริมาณน้ำแข็งต่ำสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็มาอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร ยังคงสูงกว่าปีที่แล้วที่น้ำแข็งเหลือเพียง 4.13 ล้านตารางกิโมเมตรเท่านั้น
ปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับภาวะโลกร้อนในทุกวันนี้ เนื่องจากอุณภูมิเฉลี่ยที่ร้อนขึ้นนั้นวัดได้ไม่กี่องศาเซลเซียสเท่านั้น
ที่มา - PhysOrg
ที่มาภาพ - NASA
» lew's blog
107 reads | https://jusci.net/node/768 | น้ำแข็งทวีปอาร์กติกยังไม่ทำลายสถิติต่ำสุดในปีนี้ |
แม้ว่าเฮอร์ริเคน Ike จะทำให้สถานีควบคุมการบินเสียหายจนไม่สามารถปฎิบัติภารกิจได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่วันนี้ก็มีข่าวออกมาว่าองค์การนาซ่าจะไม่เลื่อนกำหนดการส่งกระสวยอวกาศ Atlantis ที่มีกำหนดการยิงในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เพื่อขึ้นซ่อมแซมกล้องโทรทรรศ์ฮับเบิล
ขั้นตอนแรกของการเตรียมการปล่อยกระสวยอวกาศคือการย้ายกระสวยอวกาศ Endeavour ไปยังฐานยิงหมายเลข 39B เพื่อเตรียมการเป็นกระสวยสำรองให้กับกระสวยอวกาศ Atlantis ที่อยู่บนฐานยิงหมายเลข 39A ในกรณีที่มีปัญหาระหว่างภารกิจ
ที่มา - SPACE.com
» lew's blog
90 reads | https://jusci.net/node/769 | นาซ่าระบุ เฮอร์ริเคน Ike ไม่ทำให้การส่งกระสวยอวกาศเลื่อนกำหนด |
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร The Financial Review ได้ทำการศึกษามุมมองทางการเมืองของผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท กับความรับผิดชอบของบริษัทที่มีต่อสังคม (CSR) นักวิจัยพบว่า บริษัที่มีความรับผิดชอบสูง มักจะอยู่ในรัฐที่มีความนิยมในพรรคการเดโมแครต ในขณะที่บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่ำกว่า มักจะอยู่ในรัฐที่มีความนิยมในพรรครีพับลิกัน
Amir Rubin จากมหาวิทยาลัย Simon Fraser ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลใน การวิเคราะห์การเลือกตั้งประธานนาธิบดีเมื่อปี 2004 โดยดูผลของชุมชนที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ ซึ่งนักวิจัยนำผลลัพธ์ทีไ่ด้มาทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์
จากผลลัพธ์ที่ได้บริษัทที่รับผิดชอบต่อสังคมสูง มักจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐที่นิยมพรรคเดโมแครต ส่วนบริษัทที่รับผิดชอบต่อสังคมต่ำกว่า มักจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐที่นิยมพรรครีพับลิกัน
ขอความกรุณาอย่าคอมเม้นท์เรื่องการเมืองนะครับ เดี๋ยววงแตก
ที่มา -Phsorg
» Mr.JoH's blog
168 reads | https://jusci.net/node/770 | มุมมองทางการเมือง มีผลต่อความรับผิดชอบของบริษัทต่อสังคม |
อาร์กบิชอป Gianfranco Ravasi รัฐมนตรีวัฒนธรรมแห่งกรุงวาติกันได้ออกมาระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นไม่ได้ขัดแย้งกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิลแต่อย่างใด และทางวาติกันเตรียมการที่จะจัดประชุมวิชาการที่รวมเอานักวิทยาศาสตร์, นักศาสนศาสตร์, และนักปรัชญา ในเดือนมีนาคมปีหน้าในโอกาสครบรอบ 150 ปีของทฤษฎีวิวัฒนาการอีกด้วย
ชุมชนคริสเตียนหลายกลุ่มในโลกมีความคิดในแง่ลบต่อทฤษฎีวิวัฒนาการเนื่องจากเนื้อความในพระคัมภีร์ไบเบิลส่วนปฐมกาล (Genesis) ได้มีการระบุถึงการที่พระเจ้าได้สร้างโลกในยุคเริ่มต้นเอาไว้ เช่นในเมือง Dover ที่สหรัฐฯ ได้มีการฟ้องร้องกันเพื่อให้มีการระบุถึงทฤษฎี Intelligent Design ไว้ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกันไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการยอมรับทฤษฎีวิวัฒนาการจากทางวาติกัน โดยครั้งแรกนั้นเป็นการแสดงความยอมรับจากสันตะปาปา Pius ที่เจ็ดในปี 1950 และอีกครั้งหนึ่งจากสันตะปาปา John Paul ในปี 1996 ส่วนสันตะปาปา Benedict นั้นเคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตีความพระคัมภีร์ไบเบิลแบบตามตัวอักษร
ที่มา - Reuters
» lew's blog
292 reads | https://jusci.net/node/771 | วาติกันระบุ "ทฤษฎีวิวัฒนาการเข้ากันได้กับไบเบิล" |
เกาหลีใต้จะทำการจัดตั้งบริษัทขายคาร์บอนแห่งแรก เพื่อช่วยควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยบริษัทดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า Korean Carbon Finance (KCF) มีเงินทุนในการจัดตั้งกว่า 4 ล้านดอลลาร์
บริษัทที่จะตั้งใหม่นี้ จะทำการลงทุนโดยตรงและให้คำปรึกษา ให้กับบริษัทที่ต้องการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทางเกาหลีใต้คาดว่า จะเป็นการกระตุ้นตลาดของคาร์บอนเครดิต ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
184 reads | https://jusci.net/node/772 | เกาหลีใต้เตรียมจัดตั้งบริษัทขายคาร์บอนแห่งแรก |
หลังจากเปิดใช้งานได้สิบวัน เครื่อง LHC ก็พบปัญหาในระบบหล่อเย็นทำให้ต้องหยุดทำงานลงไปเมื่อวานนี้ แต่ทีมงานคาดว่าจะเดือนเครื่อง LHC ได้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ระบบหล่อเย็นของเครื่อง LHC นับว่าเป็นระบบที่สำคัญไม่แพ้ระบบอื่นๆ เนื่องจากแนวท่องเร่งความเร็วอนุภาคนั้นต้องมีการหล่อเย็นระบบแม่เหล็กให้อยู่ที่ -271 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นแล้วการสร้างสนามแม่เหล็กจะต้องใช้พลังงานสูงมากเนื่องจากวัสดุจะมีความต้านทานสูงขึ้น
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
220 reads | https://jusci.net/node/773 | เครื่อง LHC ต้องหยุดทำงานเนื่องจากไฟฟ้าขัดข้อง |
ความก้าวหน้าของกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ก้าวหน้าไปอีกขั้น เมื่อโมเดลจำลอง ของอุปกรณ์วัดรังสีอินฟราเรดระยะกลาง (Mid-Infrared) ที่วิศวกรของนาซาได้ทำการออกแบบ สามารถผ่านการทดสอบเบื้องต้นด้านอุณหภูมิและแรงสั่นสะเทือน ทำให้วิศวกรสามารถนำไปสร้างเป็นอุปกรณ์จริงได้ทันที
กล้อโทรทรรศน์อวกาส James Webb ถือเป็นกล้องย่านความถี่อินฟราเรดที่ไวที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมา มันสามารถมองเห็นกาแล็กซีที่อยู่ไกลสุดขอบจักรวาล, สามารถศึกษาระบบดาวเคราห์ที่พึ่งถือกำเนิด และสามารถมองหาเงื่อนไขที่เหมาะสมที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต บนระบบดาวฤกษ์ดวงอื่น
อุปกรณวัดรังสีอินฟราเรดระยะกลาง ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดความยาวคลื่นมากที่สุดของตัวกล้อง สามารถทำงานในช่วงคลื่นความถี่ของอินฟราเรดระยะกลาง ซึ่งมีความคลื่นประมาณ 5 ถึง 28.5 ไมครอน
เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้วัดรังสีอินฟราเรดไวต่อความร้อน ทำให้มันต้องมีการหล่อเย็นอยู่ตลอดเวลา เครื่องทำความเย็นจะต้องควบคุมอุณหภูมิ ให้่ตำถึง 7 เคลวิน ซึ่งเย็นสุดเท่าที่เคยมีมา
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
216 reads | https://jusci.net/node/774 | ความก้าวหน้าอีกขั้น ของกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb |
มีรายงานถึงการทดลองนำน้ำอสุจิของชาย 32 คนมาทดสอบให้อยู่ใกล้กับโทรศัพท์ในย่าน 850 เมกกะเฮิร์ตที่ระยะห่าง 2.5 เซ็นติเมตร เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แล้วพบว่าปริมาณสาร Anti-Oxidant ในน้ำอสุจิเหล่านั้นมีปริมาณลดลง
การทดลองนี้ยังไม่เป็นการยืนยันว่าการใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงจะลดโอกาสการมีบุตรหรือไม่ โดยผลการทดลองนี้เป็นเพียงขั้นเริ่มต้น และยังต้องการการพิสูจน์ในอีกหลายๆ แง่
งานวิจัยนี้ทำโดยศูนยการแพทย์เพื่อการมีบุตรแห่ง Caveland Clinic โดยมีผู้นำทีมวิจัยคือ Ashok Agarwal และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility
ว่าแต่ตระกูล Agarwal นี่ดังไปทุกวงการจริงๆ แฮะ
ที่มา - UPI
» lew's blog
156 reads | https://jusci.net/node/775 | คลื่นโทรศัพท์อาจจะมีผลต่อความแข็งแรงของสเปิร์ม |
หลังจากมีปัญหาในระบบหล่อเย็นไปเมื่อวันก่อน ทาง CERN ก็ออกมาให้ข่าวว่าเครื่อง LHC นั้นประสบความเสียหายรุนแรงเนื่องจากระบบหล่อเย็นของแม่เหล็กประมาณหนึ่งร้อยชุดล้มเหลว ทำให้แม่ตัวแม่เหล็กมีอุณภูมิขึ้นไปถึง 100 องศาเซลเซียส
ความร้อนระดับนั้นทำให้ฮีเลียมเหลวหลายตันรั่วออกมาตามท่อ LHC จนต้องมีการเรียกหน่วยดับเพลิง โดยส่วนที่เสียหายนั้นเป็นท่อเร่งความเร็วอนุภาคช่วงระหว่างเครื่องตรวจจับ Alice และ CMS
ที่มา - BBC
» lew's blog
273 reads | https://jusci.net/node/776 | LHC อาการแย่กว่าที่คิด, ต้องหยุดการทำงานสองเดือน |
นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ได้ค้นพบกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยสสารมืด ซึ่งสว่างน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบกันมา
กาแล็กซีดังกล่าว มีชื่อว่า Segue 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในกาแล็กซีที่เป็นบริวารของกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งมันมีความสว่างน้อยกว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกนับพันล้านเท่า การค้นพบครั้งนี้ ได้รับการตีพิมพ์ในวาสาร The Astrophysical Journal
ถึงแม้ Segue 1 จะมีดาวที่มองเห็นได้เป็นจำนวนน้อย แต่มันกลับมีมวลมากกว่าที่เห็นถึงพันเท่า ซึ่งนักดาราศาสตร์ให้ความเห็นว่า มวลที่เพิ่มขึ้นมา จะต้องเป็นมวลของสสารมืดอย่างแน่นอน
เมื่อมองเฉพาะแสงที่เปล่งออกมาจากกาแล็กซี นักวิจัยคาดการณ์ว่ามันน่าจะมีมวลน้อย แต่กลับพบว่ามันมีมวลตั้งแต่ 100 ถึง 1000 เท่า ของมวลที่ปรากฏ
เนื่องจากสสารมืดไม่ดูดกลืนแสงหรือเปล่งแสงออกมา นักวิทยาศาสตร์จะทำการวัดผลกระทบต่อแรงโน้มถ่วงของมัน และเชื่อว่า 85% ของมวลทั้งหมดในจักรวาลคือสสารมืด
ที่มา - EureakAlert
» Mr.JoH's blog
283 reads | https://jusci.net/node/777 | นักดาราศาสตร์ค้นพบ กาแล็กซีที่เต็มไปด้วยสสารมืด |
The European commercial space-launch ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Arianespace ได้เซ็นสัญญากับรัสเซีย ในการซื้อจรวด Soyuz จำนวน 10 ลำ เป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก อียูได้ให้ไฟเขียวสำหรับระบบนำทางของสภาพยุโรป หรือที่รู้จักกันในชื่อกาลิเลโอ (Galileo) ซึ่งตามข้อกำหนดของ European Space Agency ระบบการปล่อยขึ้นสู่อวกาศ จะต้องใช้ระบบที่แตกต่างกันอย่างน้อย 2 ระบบ ซึงทำให้บริษัท Arianespace จะใช้ทั้งจรวด Ariane 5 และจรวด Soyuz ในการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
123 reads | https://jusci.net/node/778 | ฝรั่งเศสเซ็นสัญญา ซื้อจรวด Soyuz จากรัสเซีย |
โรงงานไฟฟ้าถ่านหินแบบไม่ปล่อยคาร์บอนขึ้นสู่ขั้นบรรยากาศแห่งแรกของโลกเริ่มทำงานแล้วในวันนี้ โดยโรงงานไฟฟ้า Schwarze Pumpe ที่ตั้งอยู่ในเมือง Spremberg ทางด้านตะวันออกของเยอรมันแห่งนี้มีกำลังผลิต 30 เมกกะวัตต์ โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนำร่องระยะเวลาสามปีในการทดสอบการใช้งานโรงงานไฟฟ้าถ่านหินแบบไม่ปล่อยคาร์บอนนี้
โรงงานไฟฟ้าแห่งนี้อาศัยการแยกไนโตรเจนออกจากอากาศทำให้ได้อากาศที่มีออกซิเจนในปริมาณสูงมาก เมื่อนำไปเผาไหม้แล้วจะได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไอน้ำเป็นของเสียออกมา โรงงานไฟฟ้านี้จะนำก๊าซที่ได้กลับไปเผาไหม้อีกครั้งจนได้ก๊าซที่มีคาร์บอนเข้มข้นเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 98 แล้วจึงนำก๊าซนั้นไปอัดเหลวเพื่อส่งไปอัดลงใต้ดินเป็นระยะทางสามกิโลเมตรใต้พื้นโลกต่อไป
ไฟฟ้าพลังงานถ่านหินนั้นเป็นแหล่งพลังงานประมาณร้อยละ 50 ของสหรัฐฯ และยังเป็นแหล่งพลังงานสำคัญไปทั่วโลกเนื่องจากมีราคาถูก แต่ปัญหาหลักของมันคือโรงงานไฟฟ้าแบบนี้สร้างคาร์บอนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด จนถือได้ว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังต้องพึ่งพิงถ่านหินไปอีกนาน จึงมีการเสนอเทคโนโลยีเก็บกักคาร์บอนไว้ใต้ดิน แทนที่จะรอเทคโนโลยืผลิตไฟฟ้าที่ไร้คาร์บอนแบบอื่นๆ ที่ยังดูห่างไกล
ไม่มีบอกต้นทุน แต่ทางบริษัทผู้สร้างคือ Vattenfall ระบุว่าบริษัทกำลังเตรียมสร้างโรงงานแบบเดียวกันนี้แต่มีขนาดถึง 300 ถึง 500 เมกกะวัตต์ในปี 2015 และสร้างโรงงานขนาด 1,000 เมกกะวัตต์ในปี 2020 ส่วนสหภาพยุโรปนั้นวางแผนไว้ให้มีโรงงานแบบเดียวกันนี้ประมาณ 10 แห่งในปี 2015
ที่มา - MIT Technology Review
» lew's blog
172 reads | https://jusci.net/node/779 | โรงงานไฟฟ้าถ่านหินแบบไร้คาร์บอนแห่งแรกในโลกเริ่มทำงานแล้ว |
เนื่องด้วยความสำเร็จอันงดงาม ของยานสำรวจดาวอังคาร “ฟีนิกซ์” ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของนาซา ตัดสินใจยืดอายุภารกิจของมันไปอีกครั้ง หลังจากที่เคยยืดอายุภารกิจจนถึงปลายเดือนนี้ (ดู ข่าวเก่า)
นาซาจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกประมาณ 6 ล้านดอลลาร์ เพื่อยืดอายุภารกิจของโครงการที่มีมูลค่า 422 ล้านดอลลาร์ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ไปจนถึงเดือนธันวาคม
การยืดอายุภารกิจในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองและน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย เรื่องจากตัวยานไม่ได้ถูกออกแบบให้ทนต่อสภาพอากาศ ในช่วงฤดูหนาวของดาวอังคารได้
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
162 reads | https://jusci.net/node/780 | นาซาตัดสินใจขยายเวลาภารกิจของยาน "ฟินิกซ์" อีกครั้ง |
มีรายงานการค้นพบอิกัวน่าสายพันธุ์ Brachylophus bulabula บริเวณหมู่เกาะฟิจิ ทำให้ฟิจิในตอนนี้มีสามสายพันธุ์ด้วยกัน ที่น่าเสียใจสักหน่อยคือทั้งสามสายพันธุ์นั้นล้วนอยู่ในภาวะอันตรายทั้งสิ้น หลังจากที่มนุษย์เข้าไปอาศัยในหมู่เกาะนี้เมื่อสามพันปีก่อน
ที่น่าสนใจคือญาติที่ใกล้กับอิกัวน่าของหมู่เกาะฟิจินั้นอาศัยอยู่บริเวณอเมริกาใต้ ห่างออกไป 8,000 กิโลเมตรโดยยังไม่มีใครรู้ว่ามันเดินทางข้ามทวีปมาได้อย่างไร
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
295 reads | https://jusci.net/node/781 | พบอิกัวน่าพันธุ์ใหม่บริเวณหมู่เกาะฟิจิ |
อุบัติเหตุน่าหวาดเสียวเกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเด็กหญิง Erica Rix อายุหกขวบได้นั่งรถไปกับแม่ของเธอโดยที่กำลังเล่นเชือกสำหรับกระโดด แล้วพลาดทำเชือกหลุดออกนอกหน้าต่าง เชือกนั้นรัดเอาข้อมือของสาวน้อยจนมือขาดออกมา
คนขับรถอีกคันหนึ่งได้หยุดลงมาให้ความช่วยเหลือโดยการนำเข็มขัดมารัดข้อมือของ Erica เอาไว้ แล้วนำส่งโรงพยาบาลสแตนฟอร์ด ทีมแพทย์ได้ใช้เวลาสิบชั่วโมงในการผ่าตัดเพื่อต่อมือกลับคืนมา
Erica ยังไม่สามารถรับรู้และสั่งการมือของเธอที่เพิ่งต่อกลับมาได้ โดยแพทย์คาดว่าต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมและทำกายภาพบำบัดต่อไป
ถ้ามีเด็กนั่งในรถก็อย่าลืมปิดหน้าต่างกันนะครับ
ที่มา - NBC
» lew's blog
121 reads | https://jusci.net/node/782 | แพทย์สหรัฐฯ ต่อมือเด็กอายุหกขวบสำเร็จ |
ปีที่แล้วถ้าใครจำได้คงมีเรื่องราวของดาวชนิดใหม่คือ Plutoid กันไปแล้วมาวันนี้หลังจากที่ข้อตกลงในเรื่องของการแบ่งชนิดดาวสิ้นสุดลงก็ได้เวลาตั้งชื่อดาวในหมวดต่างๆ กัน
ดาวดวงล่าสุดที่ได้ชื่อนี้คือดาว Haumea ที่ได้ชื่อตามเทพแห่งการให้กำเนิดของชาวฮาวาย
ดาวเคราะห์แคระ Haumea มีดวงจันทร์โคจรรอบสองดวงคือ Hiʻiaka และ Namaka ระยะเวลาหมุนรอบตัวเองนั้นอยู่ที่สี่ชั่วโมง ความเร็วเช่นนี้เองทำให้ตัวดาวมีรูปร่างค่อนข้างรีมาก
ที่มา - AHN
ที่มาภาพ - Wikipedia
» lew's blog
125 reads | https://jusci.net/node/783 | ดาวเคราะห์แคระดวงใหม่ได้ชื่อ Haumea |
ผลการศึกษาชิ้นใหม่ ของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย (University of Georgia) ได้เสนอว่า เว็บไซท์เครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเช่น Facebook สามารถให้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ ว่าบางคนเป็นโรคหลงตัวเอง (narcissism)
นักวิจัยได้ให้ผู้ใช้งาน Facebook เกือบ 130 คน ทำการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับบุคลิก, ทำการวิเคราะห์เนื้อหาในหน้าผู้ใช้แต่ละคน และให้คนที่ไม่รู้จักดูหน้านั้นๆ แล้วทำการให้คะแนนความประทับใจแรกเห็น
นักวิจัยพบว่า จำนวนของเพื่อนใน Facebook และ wallpost ที่แต่ละคนมี สัมพันธ์กับพฤติกรรมหลงตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมในโลกจริง นอกจากนี้คนที่เป็นโรคหลงตัวเอง มักจะเลือกรูปที่ดูมีสเสน่ห์, รูปเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเอง ซึ่งต่างจากคนทั่วไป ที่ใช้รูปถ่ายทั่วไป
คนทั่วไปก็สามารถพบความหลงตัวเองได้เช่นกัน นักวิจัยพบว่าคนทั่วไป ใช้คุณลักษณะ 3 อย่างในการระบุว่าหลงตัวเอง นั่นก็คือ จำนวนของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม, ความน่าดึงดูดของแต่ละบุคคล และระดับความโปรโมตตัวเองในรูปถ่าย
ก่อนหน้านี้เคยมีนักวิจัยให้ข้อสังเกตว่า เว็บเพจส่วนบุคคลเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนหลงตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีหลักฐานว่า ผู้ใช้งาน Facebook จะเป็นพวกหลงตัวเองมากกว่าที่อื่นๆ
อันที่จริงถ้าดูเฉพาะรูปถ่าย น่ามาวิจัย Hi5 ในบ้านเราดูบ้างนะ
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
284 reads | https://jusci.net/node/784 | หลงตัวเองหรือไม่ ดูได้จาก Facebook |
นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด (University of Colorado) ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง ในการสร้างแบบจำลองและใช้ข้อมูลจากยานสำรวจอวกาศแคสสินี ทำให้ทราบว่าวงแหวนของดาวเสาร์ นั้นใหญ่และเก่าแก่กว่าที่คิด
แบบจำลองที่พัฒนาขึ้น ได้คำนวนแรงดึงดูดและการชน ของชิ้นส่วนและอนุภาคที่เป็นน้ำแข็งกว่า 100,000 ชิ้น ในชั้นของวงแหวนบางขั้นของดาวเสาร์
จากผลการคำนวน วงแหวนของดาวเสาร์น่าจะมีมวลมากว่าที่เคยคิดกัน 3 เท่า และน่าจะมีอายุมากกว่า 1,000 ล้านปี แทนที่จะเป็น 100 ล้านปี เหมือนที่เคยเชื่อกันมา
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
318 reads | https://jusci.net/node/785 | วงแหวนของดาวเสาร์ เก่าแก่กว่าที่คิด |
วันที่ 23 กันยายน เป็นวันวิษุวัติ เหมาะแก่การวัดเส้นรอบวงโลก ด้วยไม้บรรทัด
ดร. พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า วันอังคารที่ 23 กันยายน เกิดปรากฏการณ์โลกตั้งฉากกับดวงอาทิตย์ เรียกว่า วันวิษุวัติ หรือ อีควินอกซ์ (Equinox) จึงเหมาะที่สุดสำหรับการจัดกิจกรรมวัดความยาวของเส้นรอบวงโลกด้วยไม้บรรทัด จากการสังเกตเงาของดวงอาทิตย์ ซึ่งเรียกว่า วิธีของเอราทอสเทนีส (Eratosthenes’ method)
(วันวิษุวัติ คือวันที่โลกทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์พอดี ทำให้ช่วงเวลากลางวันกับกลางคืนเท่ากัน ซึ่งแต่ละปี มีวันวิษุวัติเพียง 2 ครั้งคือประมาณ 20 - 21 มีนาคม และ 22 - 23 กันยายน
ใช้หลักการเรขาคณิตข้อที่สามของ เทลีส เกี่ยวกับเส้นคู่ขนานและมุมตรงข้าม โดยสมมุติเส้นคู่ขนานแทนลำแสงอาทิตย์ 2 ลำที่ตกกระทบพื้นโลก - ผู้รายงาน)
นายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านดาราศาสตร์ในกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กล่าวว่า การวัดขนาดโลกด้วยวิธีเอราทอสเทนีส เป็นกิจกรรมที่แพร่หลายทั่วโลก ทั้งในสหรัฐ สเปน ออสเตรเลีย รวมถึงไทย กิจกรรมจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551 นี้ ที่โรงเรียนในนครพนมและอุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นลองจิจูดเดียวกัน
วิธีโบราณนี้คิดขึ้นโดยชาวกรีกชื่อ เอราทอสเทนีส แห่งไซอีน บิดาแห่งวิชาภูมิศาสตร์ โดยสังเกตการณ์จากสถานที่ 2 จุด แต่ละจุดสังเกตเงาที่พาดผ่านเสาที่ปักอยู่กลางนาฬิกาแดด นำองศาของเงากับความยาวของเสา และระยะห่างจากจุดทั้ง 2 ที่วัดได้มาคำนวณ ทำให้ทราบขนาดของโลก (เส้นรอบวง) ที่แท้จริง โดยผลที่เขาคำนวณได้คลาดเคลื่อนเพียง 10% ใกล้เคียงกับผลที่วัดได้จากภาพถ่ายดาวเทียมของนาซ่า
(เอราทอสเทนีส และลูกมือชาวอียิปต์ ทดลองที่เมืองไซอีน (ปัจจุบันคืออัสวาน) และเมืองอะเล็กซานเดรีย ในวันครีษมายัน (Summer solstice) คำนวณได้ 25,000 ไมล์ คาดเคลื่อนไปเพียง 140 ไมล์เท่านั้น - ผู้รายงาน)
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ ภาพถ่ายดาวเทียม และจีพีเอส ทำให้การวัดขนาดโลกแม่นยำมากขึ้น โดยวัดเส้นรอบวงได้ 40,008 กิโลเมตร ขณะที่การวัดในแบบโบราณสามารถวัดได้ใกล้เคียงมากคือ 46,200 กิโลเมตร
แม้วิธีโบราณจะไม่จำเป็นแล้ว แต่หลายคนยังสนใจกิจกรรมการวัดด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์แบบเก่าอยู่
นายสรรค์สนธิ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยให้เยาวชนสนใจดาราศาสตร์ โดยนำหลักการทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์ ในการคำนวณและหาคำตอบจากเหตุการณ์จริง ช่วยกระตุ้นให้เยาวชนเกิดจินตนาการในการเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น
ทั้งนี้ อพวช. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง เอราทอสเทนีส เป็นครั้งแรกให้แก่ครูอาจารย์จากทั่วประเทศ สำหรับนำความรู้ไปถ่ายทอดเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียน ผ่านกิจกรรมการทดลองวัดเส้นรอบวงของโลกด้วยไม้บรรทัด จากการสังเกตเงาของดวงอาทิตย์ ระหว่าง 22 - 23 กันยายนนี้ ที่องค์กรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลอง 5 ปทุมธานี
มีครูวิทยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา สนใจเข้ารับการอบรมกว่า 50 คน จาก 30 โรงเรียนทั่วประเทศ
พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ตัวแทนครูแต่ละโรงเรียนจับคู่โรงเรียนที่อยู่ในเส้นลองจิจูดเดียวกัน ทำการหาขนาดเส้นรอบวงของโลกโดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์
ที่มาข้อมูล - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์, จุฑารัตน์ ทิพย์นำภา
ที่มารูป -
Maria Zsygmond Baca, permission of Peter Gordon -
Charles Brant Chesney Elementary School -
Martha Haynes -
Michael Lahanas -
National Oceanic & Atmospheric Administration
ดูเพิ่มเติม -
เอราทอสเทนีส, วิกิพีเดียไทย -
วิธีของเอราทอสเทนีส, วิกิพีเดียอังกฤษ -
รวมการทดลองที่โด่งดัง, Julian Rubin -
วิษุวัติ, วิกิพีเดียอังกฤษ
» kru_taweepong's blog
37 reads | https://jusci.net/node/786 | วัดเส้นรอบวงโลกด้วยไม้บรรทัด |
9
voted
ภารกิจค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของนาซา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เคปเลอร์” (Kepler) มีความก้าวหน้าไปอีกขั้น เมื่อตัวยานสามารถผ่านการทดสอบอุณหภูมิแบบสุดขั้ว
การทดสอบอุณหภูมิในภาวะสูญญากาศ เป็นส่วนหนึ่งของชุดทดสอบยานอวกาศก่อนที่จะปล่อยออกสู่อวกาศ ซึ่งตามกำหนดการ ยานสำรวจอวกาศเคปเลอร์ จะถูกส่งด้วยจรวด Delta 2 ภายในปี 2009
เคปเลอร์ จะทำการเฝ้ามองดวงดาวกว่า 100,000 ดวง, ทำการค้นหาสัญญาณของดาวเคราะห์ ซึ่งรวมถึงดาวเคราะห์ที่มีขนาดเท่าหรือเล็กกว่าโลก ซึ่งจนถึงปัจจุบันดาวเคราะห์ที่ค้นพบล้วนมีขนาดใหญ่กว่าโลกทั้งสิ้น
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
153 reads | https://jusci.net/node/787 | นาซาเตรียมความพร้อมให้กับภารกิจ "เคปเลอร์" |
8
voted
กล้องโทรทรรศน์ที่หายไปนานของไอน์สไตน์ ซึ่งถูกลืมไปนานนับทศวรรษ ได้ถูกนำมาจัดแสดงให้คนที่สนใจได้ชม หลังจากที่ใช้เวลาในการบูรณะกว่า 3 ปี และใช้เงินไปกว่า 10,000 เหรียญ
กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงสีดำขนาด 8 นิ้ว อาจจะดูเทอะทะเมื่อเทียบกับกล้องโทรทรรศน์สมัยใหม่ แต่จากการพิสูจน์ก็พบว่า มันสามารถใช้งานได้ดีอยุ่ สามารถเห็นดวงจันทร์ของดาวพฤหัสทั้ง 5 ดวง และวงแหวนของดาวเคราะห์ใหญ่ๆ ได้ทั้งหมด
ไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นตำนานจากทฤษฏีสัมพัทธภาพ ได้รับกล้องอันนี้เมื่อปี 1954 ซึ่งเป็นของขวัญที่ได้จากเพื่อนชื่อ Zvi Gizeri ซึ่งอาจจะสร้างกล้องอันนี้ด้วยตัวเอง
กล้องโทรทรรศน์ที่ถูกลืม ถูกค้นพบคร้งแรกในโรงเก็บของในช่วงปลายปี 1990 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัย แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นกล้องโทรทรรศน์ของไอน์สไตน์ ทำให้มันยังคงถูกทิ้งไว้ในโรงเก็บของต่อไป
Eshel Ophir นักชีววิทยา ค้นพบกล้องตัวนี้โดยบังเอิญ เนื่องจากตอนแรกเขาตั้งใจค้นหากล้องโทรทรรศน์ของนักฟิสิกส์คนอื่นๆ แต่หลังจากค้นหารูปภาพและบันทึกที่มีการเก็บไว้ ทำให้รู้ว่ากล้องโทรทรรศน์ที่อยู่ในโรงเก็บของเป็นของไอน์สไตน์
ไอน์สไตน์เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฏี ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้กล้องโทรรทรรศน์ในการทำงาน และเขาก็ไม่ได้เป็นนักดูดาวตัวยง ไอน์สไตน์น่าจะใช้กล้องตัวนี้ในการผ่อนคลายความเครียดมากกว่า
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
320 reads | https://jusci.net/node/788 | กล้องโทรทรรศน์ที่หายไปของไอน์สไตน์ |
8
voted
หลังจากที่ วีดีโอแร็ปอธิบาย LHC ของ CERN ประสบความสำเร็จ หน่วยงานหลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจ ทำวีดีโอแร็ปเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
ล่าสุดนาซาก็เล่นด้วย เมื่อได้ทำ วีดีโอแร็ปอธิบาย Astrobiology ซึ่งเป็นสาขาที่ว่าด้วยการอธิบายสิ่งมีชีวิตนอกโลก
แร็ปเปอร์ไทยคนไหน สนใจทำบ้างมั้ยครับ
ที่มา - slashdot
» Mr.JoH's blog
215 reads | https://jusci.net/node/789 | วีดีโอแร็ปอธิบาย Astrobiology |
หลังจากโครงการ LHC ได้สร้างวีดีโอเพลงแรปเพื่ออธิบายถึงความสำคัญของโครงการทำให้คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับโครงการนี้เป็นอย่างมากนั้น โครงการนาซ่าก็เดินตามเส้นทางเดียวกัน ด้วยวีดีโออธิบายเรื่องราวชีววิทยาในอวกาศ
วีดีโอนี้สร้างขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาที่ผ่านมา แต่กระแสวีดีโอของ LHC นั้นคงกลบไปหมด
ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบเพลงแรปอย่างรุนแรง เวลาฟังแล้วเลยชวนงงมากกว่าชวนให้เข้าใจ
ที่มา - AstroBio
» lew's blog
15 reads | https://jusci.net/node/790 | นาซ่าสร้างมิวสิควีดีโอแรปอธิบายชีววิทยาอวกาศ |
4
voted
จีนประสบความสำเร็จ ในการปล่อยยานอวกาศเสินโจว7 ด้วยจรวด Long March 2F เมื่อเวลาประมาณ 20.15 น. ตามเวลาประเทศไทย และประสบความสำเร็จในการเข้าสู่วงโคจร ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่จีนส่งนักบินขึ้นสู่อวกาศ
Zhai Zhigang นักบินขับไล่ของจีน จะรับหน้าที่ใ่นการทำ Space walk ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของจีน ซึ่งภารกิจนี้จะอยู่ระหว่างวันที่ 26 ถึง 27 เดือนนี้ ขึ้นอยู่กับว่านักบินอวกาศ สามารถปรับตัวเข้ากับภาวะไร้น้ำหนักได้เร็วแค่ไหน
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
290 reads | https://jusci.net/node/791 | เสินโจว7 ประสบความเร็จ จีนพร้อมทำ Space walk |
แม้การทำ Space Walk ของจีนจะเป็นความน่าตื่นเต้นของเอเซียทั้งทวีปก็ตาม แต่จีนเองก็มีข่าวฉาวโฉ่หลายครั้งในเรื่องของการปลอมแปลงผลงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพพลุโอลิมปิก หรือเสียงร้องเพลงในงานนั้น และภารกิจการทำ Space Walk ซึ่งเป็นหน้าตาของประเทศก็ดูเหมือนจะตกในวังวนเดียวกัน
งานนี้สำนักข่าวซินหัวซึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลจีนก็ได้เผยแพร่บทความบทสนทนากับมนุษย์อวกาศขณะปฎิบัติภารกิจซึ่งก็เป็นเรื่องปรกติของการทำข่าวแนวนี้ แต่ปัญหาคือขณะที่ข่าวนี้ขึ้นเว็บของซินหัวนั้น จรวดเสินโจว 7 นั้นยังอยู่บนโลก!!!
ข่าวดังกล่าวถูกนำออกจากหน้าเว็บของซินหัวไปไม่นานหลังจากโพสขึ้นเว็บ และถูกระบุว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค (สงสัยเอาขึ้นผิดเวลา?)
ขณะนี้เองยานเสินโจว 7 ก็อยู่ในอวกาศแล้ว และมีกำหนดกลับวันเสาร์นี้
ที่มา - UPI
» lew's blog
228 reads | https://jusci.net/node/792 | สำนักข่าวซินหัวถูกจับได้เรื่องปลอมข่าวยานอวกาศจีน |
ความฝันในเรื่องของการขนส่งวัตถุขึ้นสู่อวกาศในราคาถูกด้วยลิฟต์แทนที่ยาวอวกาศนั้นเป็นความฝันอันยาวนานของมนุษยชาติ นับแต่นิยายเรื่อง “สู่สวรรค์” (The Fountain of Paradise) ของ Authur C. Clarke แต่ดูเหมือนว่าชาติแรกที่จริงจังต่อความฝันนี้กลับกลายเป็นญี่ปุ่นไปเสียแล้ว
JSEA หรือ Japan Space Elevator Association เป็นหน่วยงานที่ตั้งมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นเตรียมงบประมาณไว้สำหรับโครงการนี้แล้วกว่าสามแสนล้าน
ลิฟต์อวกาศนั้นหากสำเร็จได้จะมีประโยชน์หลายประการ นับแต่การส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศในราคาถูก, การตั้งโรงงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงแล้วส่งไฟฟ้าลงมาตามเคเบิลในลิฟต์, ตลอดจนการขนขยะนิวเคลียร์ไปทิ้งในอวกาศแทนการฝัง
ที่มา - Telegraph
» lew's blog
318 reads | https://jusci.net/node/793 | ญี่ปุ่นเตรียมสร้างลิฟต์อวกาศ, ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ |
7
voted
รายงานล่าสุดจากบริษัทค้าน้ำมัน BP PLC ได้ระบุว่าปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไม่ได้ลดลงเลยในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากความพยายามในการรนณรงค์ไปทั่วโลกให้ตระหนักต่อปัญหานี้ ซ้ำร้ายปริมาณคาร์บอนยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ในปี 2007 เทียบกับปี 2006
ประเทศที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญต่อปัญหานี้น้อยที่สุดคงจะเป็นจีน ที่ปล่อยคาร์บอนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.5 เป็น 1.8 พันล้านเมตริกตัน ส่วนอันดับสองของโลกคือสหรัฐฯ นั้นเพิ่มขึ้นมาร้อยละ 2 เป็น 1.58 พันล้านเมตริกตัน
ทางด้านยุโรปนั้นปัญหาคาร์บอนดูจะไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเดนมาร์กนั้นปล่อยคาร์บอนลดลงถึงร้อยละ 8 ส่วนอังกฤษและเยอรมันนั้นลดลงร้อยละ 3 และฝรั่งเศสก็ลดลงไปร้อยละ 2
เริ่มกันที่ตัวเราก่อนเลยครับ ไม่ขอถุงพลาสติกโดยไม่จำเป็น ใช้แก้วน้ำขวดน้ำซ้ำเท่าที่ทำได้
ที่มา - Yahoo! News
» lew's blog
193 reads | https://jusci.net/node/794 | ปัญหาโลกร้อนยังไม่ได้รับการแก้ไข คาร์บอนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง |
5
voted
ในการ์ตูนตั้งแต่สมัยเด็กๆ เราคงได้เห็นฮีโร่พันธุ์ใหม่ใช้ปีกส่วนตัวบินไปมากันบ่อยครั้ง แต่ Yves Rossy นักบินวัย 49 ปีตัดสินใจทำความฝันให้เป็นจริงด้วยตัวเอง ด้วยการประดิษฐ์ปีกขนาดเล็กแล้วบินสาธิตข้ามช่องแคบอังกฤษ
ใต้ปีกของเขานั้นมีเจ็ตแบบใช้ kerosene ทั้งหมดสี่ตัว น้ำหนักปีรวมประมาณ 55 กิโลกรัม แม้จะไม่สามารถขึ้นบินได้ด้วยตัวเองแบบในการ์ตูน (ต้องลงมาจากเครื่องบิน) แต่ปีกนี้ก็บินได้นานจน Rossy มีเวลาบินวนบริเวณชายฝั่งก่อนที่จะกระตุกร่มเพื่อลงจอด ที่น่าสนใจอีกอย่างคือปีนี้ไม่มีระบบควบคุมทิศทางนักบินจะต้องใช้หัวและหลังควบคุมเอาเอง
Rossy หวังว่าอุปกรณ์แบบนี้จะเป็นที่นิยมในอนาคต และเขาเตรียมจะตั้งทีมแสดงการบินแบบผาดโผนด้วยปีนี้แล้ว
ที่มา - The Telegraph
» lew's blog
190 reads | https://jusci.net/node/795 | Jet Man บินข้ามช่องแคบอังกฤษด้วยปีกส่วนบุคคลเป็นคนแรกของโลก |
นักคณิตศาสตร์จาก UCLA ได้ค้นพบจำนวน Mersenne Prime ซึ่งเป็นจำนวน Mersenne Prime ลำดับที่ 46 และมีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจบัน โดยมีขนาดกว่า 13 ล้านหลัก
ทางกลุ่มของผู้ค้นพบ ได้ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์กว่า 75 เครื่อง ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Windows XP โดยจำนวนดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบอื่นๆ ที่ใช้อัลอกริทึมต่างกันไป
นอกจากนี้ ผู้ค้นพบยังจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 เหรียญ จากมูลนิธิ Electronic Frontier สำหรับการค้นพบ Mersenne Prime ที่มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านหลัก
ที่มา - Live Science
» Mr.JoH's blog
742 reads | https://jusci.net/node/796 | นักคณิตศาสตร์ ค้นพบจำนวนเฉพาะใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา |
มีรายงานการค้นพบก้อนหินที่มีอายุถึง 4.28 พันล้านปีบริเวณอ่าวฮัดสัน ประเทศแคนาดา ทำสถิติใหม่ของก้อนหินที่มีอายุมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือในชั้นหินที่พบนี้ พบร่องรอยเบื้องต้นว่าในยุคของก้อนหินนี้อาจจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ในโลกแล้ว แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา แต่หากเป็นจริง ก้อนหินก้อนนี้จะเป็นหลักฐานไปยังสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเช่นกัน
ก้อนหินที่เก่าที่สุดเท่าที่เราเคยพบมาก่อนหน้านี้มีอายุ 4.03 พันล้านปี ส่วนวัตถุโบราณที่เก่าที่สุดจริงๆ คงเป็นสายแร่ Zircon ในออสเตรเลียที่มีอายุถึง 4.36 พันล้านปี
ที่มา - BBC
» lew's blog
409 reads | https://jusci.net/node/798 | นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก |
หลังจากพบความล้มเหลวมาถึงสามครั้ง SpaceX ก็แถลงความสำเร็จครั้งแรกในการส่งจรวดขึ้นไปโคจรรอบโลกด้วยเทคโนโลยีจากเอกชนล้วนๆ เป็นครั้งแรกในโลก ด้วยจรวด Falcon 1
SpaceX เป็นบริษัทเอกชนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการขนส่งดาวเทียมโดยเฉพาะ โดยบริษัทให้ความหวังว่าเมื่อเอกชนมีเทคโนโลยีชนส่งดาวเทียมเป็นของตัวเองแล้วจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งดาวเทียมต่ำลงมาก
Falcon 1 กำลังเตรียมการยิงครั้งที่ 5 เพื่อส่งดาวเทียม RazakSat ของมาเลเซียขึ้นสู่งวงโคจร โดยการยิงครั้งนี้เป็นการยิงโดยมีสัมภาระเทียมเพื่อทดสอบการขนส่งเท่านั้น
ที่มา - Space Fellowship
» lew's blog
418 reads | https://jusci.net/node/799 | SpaceX Falcon 1 โคจรรอบโลกสำเร็จ |
ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาส่วนมากนั้นคาร์บอนมักมีแหล่งกำเนิดจากโรงงานอุตสาหกรรม การเกษตร และการขนส่งเป็นหลัก แต่ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการค้าเช่นสหรัฐฯ นั้นพลังงานร้อยละ 18 ของประเทศถูกใช้ไปในอาคารสำนักงาน กระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ จึงพยายามที่จะสนับสนุนให้อาคารเหล่านี้ลดการใช้พลังงาน จนในที่สุดแล้วอาคารเหล่านี้อาจจะพัฒนาจนไม่เป็นแหล่งกำเนิดคาร์บอนอีกต่อไป
เป้าหมายหลักของโครงการนี้คืออาคารพานิชขนาดเล็กที่มีสัดส่วนร้อยละ 62 ของอาคารพานิช คิดเป็นพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ใช้งานทั้งหมด
กองทุนนี้เป็นเงินสดจำนวน 15 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับคำมั่นว่าจะให้เข้าปรึกษากับวิศวกรของทางกระทรวงพลังงานได้อีกด้วย
ที่มา - ArsTechnica
» lew's blog
182 reads | https://jusci.net/node/800 | กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ตั้งกองทุนสนับสนุนอาคารสำนักงานปลอดคาร์บอน |
ยานขนส่งแบบอัตโนมัติ (Automated Transfer Vehicle - ATV) ของสหภาพยุโรปได้ตกลงสู่ชั้นบรรยากาศและเผาไหม้ไปตามแผน โดยยานไร้มนุษย์ลำนี้สร้างขึ้นเพื่อขนส่งวัสดุ อาหาร และน้ำ ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ และขนขยะจากสถานีกลับลงมาเพื่อให้ถูกเผาไหม้ไปในชั้นบรรยากาศ
ตัวยานแตกออกเป็นหลายสิบชิ้นในชั้นบรรยากาศ และมีการประกาศพื้นที่อันตรายเป็นความยาว 2,700 กิโลเมตร กว้าง 200 กิโลเมตร ตลอดเวลาที่ยานเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมีการถ่ายวีดีโอเก็บไว้ศึกษาอย่างละเอียด
จริงๆ แล้วความสำเร็จของงานนี้อยู่ที่ตัว ATV สามารถบินขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ และเชื่อมต่อไปยังตัวสถานีได้เอง
ที่มา - eFluxMedia
» lew's blog
204 reads | https://jusci.net/node/801 | ATV ของสหภาพยุโรปถูกทำลายตามแผน |
ประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากในการต่อสู้กับไวรัสเช่น HIV นั้นคือความรู้เกี่ยวกับแนวทางการวิวัฒนาการของไวรัสเอง ซึ่งมีวิวัฒนาการที่เร็วมากเมื่อเทียบกับสัตว์ใหญ่ๆ แต่รายงานล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันต้นกำเนิดของ HIV เมื่อ 50 ปีก่อนและยังทำนายถึงต้นตอของ HIV ว่าต้นกำเนิดแรกนั้นเริ่มเกิดขึ้นมาในช่วงปี 1900 ต้นๆ
การค้นพบครั้งนี้คือการพบเชื้อ DRC60 ที่พบในประเทศคองโก แล้วพบว่ามีความใกล้เคียงกับเชื้อ ZR59 ซึ่งเป็นเชื้อตัวแรกๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นต้นเหตุของโรคเอดส์ได้ตั้งแต่ปี 1984 โดย DRC60 นั้นถูกเก็บรักษาไว้ในตัวอย่างตั้งแต่ช่วงปี 1960
เชื้อทั้งสองตัวมีส่วนเหมือนกันของจีโนมอยู่ร้อยละ 88 ด้วยการคำนวณทางสถิติพบว่าไวรัสตัวแรกน่าจะกำเนิดขึ้นราวปี 1902 ถึง 1921
ในรายงานระบุว่าหากมีการศึกษาตัวอย่างที่ถูกเก็บเอาไว้เพิ่มเติมต่อไป ความแม่นยำและปริมาณข้อมูลเกี่ยวกับต้นตอของเชื้อ HIV ก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
ที่มา - ArsTechnica
» lew's blog
549 reads | https://jusci.net/node/802 | นักวิทยาศาสตร์เข้าใกล้จุดกำเนิด HIV ไปอีกขั้น |
นักวิทยาศาสตร์ของนาซา คาดหวังที่จะได้ยินเสียงจากพื้นผิวของดาวอังคารเป็นครั้งแรก เมื่อมีการพยายามที่จะเปิดการทำงาน ของไมโครโฟนที่อยู่ในยานฟินิกซ์ ภายในสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์นี้
ไมโครโฟนของยานฟินิกซ์ เป็นส่วนหนึ่งของ Mars Descent Imager system ซึ่งใช้ถ่ายภาพในขณะที่ยานกำลังจะลงจอดบนดาวอังคาร โดยระบบนี้ตอนเริ่มแรกถูกออกแบบมาให้ใช้กับยาน Mars Surveyor ที่ถูกยกเลิกภารกิจไปในปี 2001
นักวิทยาศาสตร์วางแผนจะใช้ไมโครโฟนในตัวยาน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่ยานลงจอด แต่จาการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ ถ้าหากเปิดใช้ระบบนี้ในขณะที่ยานลงจอด อาจจะเกิดความผิดพลาดที่ยอมรับไม่ได้ จึงทำให้ยังไม่มีการเปิดใช้ระบบนี้
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถเปิดการทำงานของไมโครโฟนได้ทันที เนื่องจากต้องตรวจสอบในเรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ของตัวยานอีกเล็กน้อย
นี่ถ้าได้ยินเสียงเพลงจากดาวอังคาร คงแตกตื่นกันน่าดู
ที่มา - Live Science
» Mr.JoH's blog
350 reads | https://jusci.net/node/803 | เตรียมตัวฟังเสียงจากดาวอังคาร |
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาดาวเทียมฮับเบิลได้ทำงานผิดพลาดจนตัวดาวเทียมเองปรับการทำงานเข้าสู่ Safe mode โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้การทำงานตามปรกติหยุดชะงักลง
รายงานระบุเพียงว่าความผิดพลาดนี้เกิดจากส่วนควบคุมและระบบจัดข้อมูลวิทยาศาสตร์ชุด A (Control Unit/Science Data Formatter-Side A) โดยนักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามกู้การทำงานกลับมา ด้วยการดาวน์โหลดข้อมูลในหน่วยความจำกลับมาแต่ไม่สำเร็จ
ทางเลือกในตอนนี้คือการกลับไปใช้ระบบในชุด B ซึ่งไม่ได้ทำงานมากกว่า 20 ปีแล้วนับแต่มีการทำทดสอบบนพื้นโลก อีกทางหนึ่งคือการส่งอุปกรณ์สำรองขึ้นไปติดตั้งในวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งมีกำหนดการซ่อมบำรุงตามปรกติอยู่แล้ว แต่อุปกรณ์สำรองนั้นต้องผ่านการทดสอบที่น่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนมกราคม หากมีการใช้งานก่อนที่จะตรวจสอบให้เรียบร้อยก็อาจจะสร้างปัญหาเพิ่มได้
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
227 reads | https://jusci.net/node/804 | ดาวเทียมฮับเบิลปิดตัวเองเข้าสู่ Safe mode |
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้ตรวจพบเมลามีนในอาหาร 18 รายการ โดยระบุว่าอาหารทั้งหมดนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อีกสามประเทศคือ ไทย, มาเลเซีย, และอินโดนีเซีย รายงานจากเวียดนามนี้นับเป็นรายงานล่าสุด หลังจากมีคำสั่งงดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนมไปแล้ว 25 ประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรปที่มีคำสั่งให้เก็บสินค้าเหล่านี้ออกจากชั้นวางจำหน่ายทั้งหมด
หลังการตรวจพบนี้ ทางการเวียดนามก็ได้สั่งทำลายสินค้าทั้งหมด
อุตสาหกรรมของสินค้าที่เกี่ยวกับนมของจีนมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อปีถึงร้อยละ 90 และการปนเปื้อนนี้ทำให้มีการจับกุมผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Sanlu ถูกจับกุมพร้อมกับผู้ค้านมอีกนับสิบราย
ที่มา - PhysOrg, Wikipedia
» lew's blog
276 reads | https://jusci.net/node/805 | เวียดนามพบเมลามีนในอาหาร 18 รายการ |
เพิ่งประกาศไปสดๆ ร้อนๆ สำหรับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ซึ่งปีนี้มีนักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 3 ท่าน
Harald zur Hausen สำหรับการค้นพบ papilloma viruses ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
Françoise Barré-Sinoussi และ Luc Montagnier สำหรับการค้นพบเชื้อไวรัส HIV
สำหรับ Harald zur Hausen จะได้รับเงินรางวัล 1/2 ของเงินรางวัลทั้งหมด ส่วน Françoise Barré-Sinoussi และ Luc Montagnier จะได้รับเงินรางวัลไปคนละครึ่งของเงินที่เหลือ
สำหรับพรุ่งนี้จะเป็นการประกาศผลรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์
ที่มา - nobelprize.org
» Mr.JoH's blog
275 reads | https://jusci.net/node/806 | ผลรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ปี 2008 |
นาซาเริ่มเอาจริงกับชีวดาราศาสตร์ หลังจากที่ปล่อย วีดีโอแร็ปอธิบายวิชาชีวดาราศาสตร์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไป ล่าสุดนาซาได้จัดตั้งสถาบันชีวดาราศาสตร์ (Astrobiology Institute) โดยให้เงินทุนจำนวน 7 ล้านดอลลาร์ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี สำหรับทีมวิจัยจำนวน 10 ทีม ทั่วสหรัฐ
ทีมวิจัยดังกล่าว ประกอบไปด้วย
นักวิจัยจาก JPL ของนาซาจำนวน 2 ทีม ทำการศึกษาเรื่องสภาพแวดล้อมทางเคมี บนดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ทำการศึกษาถึงต้นกำเนิด, การแพร่กระจายของน้ำ และสิ่งมีชีวิต ในเอกภพ
นักวิจัยจากสถาบันคาร์เนกี ทำการศึกษาในวงกว้าง โดยเน้นไปยังวิวัฒนาการทางเคมีและกายภาพของสิ่งมีชีวิต
นักวิจัยสถาบันโพลีเทคนิคเรนเซลเลอร์ ทำการมุ่งเน้นไปยังสภาพแวดล้อมที่สามารถอาศัยอยู่ได้ และกระบวนการทางเคมีที่นำไปสู่การเกิดสิ่งมีชีวิต
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ทำการพัฒนาระบบที่ใช้ตรวจจับสิ่งมีชีวิต
นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย วิจัยการสังคราะห์โปรตีนที่อยู่ในช่วงแรกของการกำเนิดเอกภพ
นักวิจัยจากศูนย์วิจัยอาเมส ทำการสำรวจการสร้างและแพร่กระจายของสภาพแวดล้อมในยุคเริ่มแรก ของดาวเคราะห์ที่พึ่งกำเนิด
มีทีมวิจัยระดับเทพๆ อย่างนี้ ในอนาคตคงให้ผลลัพธ์ที่ชวนตะลึงแน่นอน
ที่มา - Physorg
» Mr.JoH's blog
299 reads | https://jusci.net/node/807 | นาซาจัดตั้งสถาบันชีวดาราศาสตร์ |
รายงานสด LHC ผ่านทาง Twitter
http://twitter.com/jusci
Popular Tags | https://jusci.net/node/808 | Page not found |
โนเบลสาขาฟิสิกส์ปีนี้ ตกเป็นของ 3 นักฟิสิกส์เชื้อชาติญี่ปุ่น โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 2 ส่วน ให้กับทั้ง 3 คน
รางวัลครึ่งแรกตกเป็นของ โยอิชิโร นามบุ (Yoichiro Nambu)สำหรับการค้นพบกลไกทำลายสมมาตรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในฟิสิกส์อนุภาค
ส่วนรางวัลอีกครึ่งหนึ่ง ตกเป็นของนักฟิสิกส์ 2 คน คือ มาโกโต โคบายาชิ (Makoto Kobayashi) และ โตชิฮิเดะ มัสกาวา (Toshihide Maskawa) สำหรับการค้นพบ ต้นกำเนิดการทำลายสมมาตรด้วยตัวเอง (broken symmetry) ซึ่งทำนายการมีอยู่ของควาร์กในธรรมชาติ อย่างน้อยก็ 3 ตระกูล
เมื่อไหร่จะถึงโอกาสของนักฟิสิกส์ไทย ?
ที่มา - nobelprize.org, ผู้จัดการ
» Mr.JoH's blog
370 reads | https://jusci.net/node/809 | ผลรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ปี 2008 |
33
voted
3 นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐ กอดคอกันคว้ารางวัลโนเบลสาขาเคมีในปีนี้ จากผลงานการค้นพบและพัฒนาโปรตีนฟลูออเรสเซต์สีเขียวหรือ GFP
ซึ่งรางวัลจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยเป็นผลงานของนักวิจัย 3 ท่าน คือ
โอซามุ ชิโมรุระ (Osamu Shimomura)
มาร์ติน ชาลฟี (Martin Chalfie)
โรเจอร์ เฉิน (Roger Y. Tsien)
ที่มา - nobelprize.org
» Mr.JoH's blog
412 reads | https://jusci.net/node/810 | ผลรางวัลโนเบลสาขาเคมี ปี 2008 |
นักพันธุศาสตร์ชาวอังกฤษ Steve Jones ได้บรรยายในหัวข้อเรื่อง “Human evolution is over” โดยกล่าวว่า มนุษย์ในปัจจุบัน ได้หยุดการวิวัฒนาการ เพราะว่าสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป
การวิวัฒนาการเกิดขึ้นจากองค์ประกอบด้วย การคัดเลือกตามธรรมชาติ, การกลายพันธุ์, และการเปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม เนื่องจากรูปแบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อัตราการกลายพันธุ์ลดลง
สาเหตุที่อัตราการกลายพันธุ์ลดลง ก็เพราะมนุษย์เพศชายในปัจจุบันไม่นิยมมีลูกเมื่ออายุมากๆ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น การแบ่งเซลล์ในเพศชายก็มีมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดโอกาสในการกลายพันธุ์สูงกว่า
ที่มา - Slashdot
» Mr.JoH's blog
591 reads | https://jusci.net/node/811 | เมื่อมนุษย์หยุดวิวัฒนาการ |
มีรายงานระบุว่าปลาฉลามหูดำแอตแลนติก (Atlantic blacktip) ได้ให้กำเนิดลูกโดยไม่มีเพศสัมพันธ์ โดยรายงานนี้ได้รับการตรวจสอบจากดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว โดยแม่ฉลามตัวนี้ชื่อ ทิดบิต (Tidbit)
รายงานนี้เกิดขึ้นหลังการตายของแม่ปลาเมื่อ 16 เดือนก่อน เนื่องจากความเครียดจากการตั้งท้อง ระหว่างการชันสูตรทีมงานจึงพบว่าทิดบิตได้ตั้งท้อง โดยช่วงแรกยังสันนิษฐานว่าอาจมีการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กับฉลามพันธุ์อื่นในตู้ เนื่องจากไม่มีฉลามเพศผู้สายพันธุ์เดียวกันในตู้เลย แต่จากการตรวจสอบดีเอ็นเอก็แน่ใจได้ว่าลูกฉลามที่เกิดขึ้นได้รับดีเอ็นเอจากแม่เท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีรายงานแบบเดียวกันแต่เป็นฉลามหัวฆ้อนมาก่อนแล้ว
ลูกฉลามที่ทิดบิตคลอดออกมาถูกฉลามตัวอื่นในตู้กินหลังคลอดไปไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ต้องนำซากที่เก็บได้จากตู้เพื่อมาตรวจสอบดีเอ็นเอ
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
359 reads | https://jusci.net/node/812 | นักวิทยาศาสตร์ยืนยันปลาฉลามตั้งท้องโดยไม่ได้ผสมพันธุ์ครั้งที่สอง |
9
voted
นักวิทยาศาสตร์จาก UCLA ได้ค้นพบว่า ผู้ใหญ่วัยกลางคนหรือสูงกว่า ที่มีความสามารถในการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล สามารถช่วยกระตุ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงานของสมองให้สูงขึ้น งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of Geriatric Psychiatry
นักวิจัยได้ใช้อาสาสมัครจำนวน 24 คน ที่มีอายุระหว่าง 55 ถึง 76 ปี ซึ่งครึ่งหนึ่งของอาสาสมัคร มีประสบการณ์ในการค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตมาบ้างแล้ว ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เหลือ ไม่เคยมีประสบการณ์ในการค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตมาก่อนเลย
นักวิจัยได้ให้อาสาสมัคร ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตและอ่านหนังสือ ซึ่งในระหว่างนั้นมีการใช้เครื่อง fMRI (functional Magnetic Resonance) ในการวัดความเปลี่ยนแปลงของสมองในระหว่างการทำงาน
จากผลการทดลอง อาสาสมัครที่มีประสบการณ์ ในการค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต จะมีการกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจ และสมองส่วนที่ควบคุมการใช้เหตุผลที่ซับซ้อน มากกว่าการอ่านหนังสือ
ที่มา - EurekaAlert
» Mr.JoH's blog
50 reads | https://jusci.net/node/813 | ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สมองดีขึ้น |
8
voted
แม้จีนจะเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุดในโลกในตอนนี้ แต่ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแบบยั่งยืนของมหาวิทยาลัย Nottingham วิทยาเขต Ningbo ก็นับเป็นอาคารที่ไม่ปล่อยคาร์บอนเป็นอาคารแรกของจีน
อาคารแห่งนี้ใช้พลังงานหลักจากแสงอาทิตย์ร่วมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถจ่ายพลังงานให้ทั้งตึกได้ถึงสองสัปดาห์หากไม่มีแสงอาทิตย์ ส่วนระบบทำความร้อนในอาคารนั้นใช้ความร้อนจากพื้นดินขึ้นมา และตัวอาคารได้รับการออกแบบเพื่อใช้แสงอาทิตย์ และลมจากภายนอกให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ภายในอาคารนี้มีทั้งห้องวิจัย ห้องเรียน และศูนย์ผู้เข้าชม คาดว่าอาคารนี้จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนตลอดอายุการใช้งาน 25 ปีได้ถึงกว่าพันตัน
ที่มา - Inhabitat
» lew's blog
49 reads | https://jusci.net/node/814 | มหาวิทยาลัย Nottingham สร้างอาคารไร้คาร์บอนในจีน |
6
voted
องค์การนาซ่าได้ตรวจสอบพบสาเหตุของความผิดพลาดที่ทำให้ดาวเทียมฮับเบิลเปลี่ยนโหมดการทำงานไปสู่ Safe mode เรียบร้อยแล้ว และกำลังเตรียมการเพื่อส่งคำสั่งรีบูตขึ้นไปในวันพรุ่งนี้
นาซ่าคาดว่าดาวเทียมจะกลับมาทำงานได้ตามปรกติภายในวันศุกร์
ที่มา - The New York Times
» lew's blog
81 reads | https://jusci.net/node/815 | นาซ่าพบสาเหตุ Hubble เข้า Safe mode เตรียมรีบูตดาวเทียม |
ความสามารถของตุ๊กแกในการเกาะผนังแล้วสามารถเดินได้อย่างสบาย ได้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับนักวิจัยจำนวนมาก ที่ต้องการผลิตวัสดุเลียนแบบตีนตุ๊กแก ความลับของตุ๊กแกอยู่ที่ปุ่มขนาดเล็กจำนวนมาก ที่อยู่ด้านใต้ของมัน ซึ่งแรงยึดเกาะที่เกิดขึ้นเรียกว่าแรงแวนเดอวาลล์ (Van der Waals force)
นักวิจัยซึ่งนำทีมโดย Liming Dai จากมหาวิทยาลัย Dayton ได้รายงานในนิตยสาร Science ประสบความสำเร็จในการสร้างวัสดุ ที่สามารถยึดติดได้เหมือนตุ๊กแก โดยสามารถทนแรงได้ถึง 100 นิวตัน/ตารางเซนติเมตร ซึ่งแข็งแรงกว่าตีนตุ๊กแกในธรรมชาติถึง 10 เท่า
นักวิจัยสร้างวัสดุดังกล่าว โดยชั้นของคาร์บอนนาโนทิวบ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยสองชั้น ชั้นล่างสุดประกอบไปด้วยคาร์บอนนาโนทิวบ์ที่เรียงกันอยู่ในแนวตั้ง ในขณะที่ชั้นบนมีลักษณะเป็นขดๆ คล้ายกับเส้นสปาเก็ตตีที่ยุ่งเหยิง
ที่มา - EurekAlert
» Mr.JoH's blog
354 reads | https://jusci.net/node/816 | เหนียวเหมือนตีนตุ๊กแก...แต่แข็งแรงกว่า 10 เท่า ! |
รู้จัก
ไม่รู้จัก
» 128 reads | https://jusci.net/node/817 | ดาวเธียมธีออส |
Richard Knecht และ Jake Benner จากมหาวิทยาลัย Tuft ได้รายงานถึงการค้นพบฟอสซิลแมลงที่ขุดจากหลังห้างสรรพสินค้าให้เมือง North Attleboro รัฐแมสซาชูเซตส์ หลังจากการตรวจสอบอายุแล้วพบว่ามีฟอสซิลมีอายุถึงสามร้อยล้านปี เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา
การค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการศึกษางานวิทยานิพนธ์ฉบับหนึ่งของมหาวิทยาลัย Brown ที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1929 ถึงการพบซากสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในบริเวณเดียวกัน เมื่อสองนักวิจัยได้ตามรอยการค้นพบนั้นแล้วขุดลงไปจึงพบศฟอสซิลดังกล่าว
ไปขุดวิทยานิพนธ์เก่าๆ มาอ่านกันมั่งดีม่ะ
ที่มา - ArsTechnica
» lew's blog
355 reads | https://jusci.net/node/818 | รายงานพบฟอสซิลแมลงเก่าแก่ที่สุดในโลก อายุ 300 ล้านปี |
หลังจากปิดตัวเองให้คนทางนี้หนาวกันเล่นๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ดาวเทียมฮับเบิลก็สวิตซ์อุปกรณ์ที่หยุดทำงานไปยังชุด B เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว และกำลังจับภาพส่งกลับมายังพื้นโลกต่อไป รายงานสุดท้ายของอุปกรณ์ที่หยุดทำงานมีทั้งหมดสี่ชุดคือ
Science Instrument Control and Data handling (SIC&DH)
Advanced Camera for Surveys (ACS)
Wide Field Planetary Camera 2 (WFPC2)
Multi-Object Spectrometer (NICMOS)
สำหรับภารกิจในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าที่กระสวยอวกาศจะขึ้นไปยังดาวเทียมฮับเบิลนั้นจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มอีกสองชุดคือ
Wide Field Camera 3 (WFC3) ที่ใช้สำหรับศึกษาสสารมืดและการกำเนิดดวงดาวในระยะไกลกว่าอุปกรณ์ชุดเดิม
Cosmic Origins Spectrograph (COS) จะใช้ในการศึกษาการวิวัฒนาการของแกแล็กซีและกลุ่มก๊าซ
ดาวเทียมฮับเบิลถูกส่งขึ้นไปโคจรรอบโลกตั้งแต่ปี 1990 และมีกำหนดการจะหยุดทำงานในปี 2014
ที่มา - eFluxMedia
» lew's blog
339 reads | https://jusci.net/node/819 | ฮับเบิลกลับมาเป็นปรกติ เตรียมส่งภาพกลับโลก |
ถ้าใครเคยเรียนเขียนโปรแกรมมาบ้าง อาจจะได้เคยได้ยินกฏของเมอร์ฟี่ที่ว่า “If something can go wrong,it will.” (ถ้ามีอะไรผิดพลาดได้ มันจะผิดพลาด) หลังจากการรีบูตกล้องฮับเบิลไปเมื่อวานนี้ นาซ่าซึ่งกำลังหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดีก็พบกับ “ความไม่ปรกติ” สองประการ
อย่างแรกเกิดขึ้นกับโมดูล ACS ที่กำลังบูตใหม่ในขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นการจ่ายไฟฟ้าโวลต์ต่ำเข้าตัววงจร แล้วมีรายงานว่าโวลต์ที่เข้ามานั้นผิดพลาดทำให้คอมพิวเตอร์ตัดสินใจปิด ACS ไป
ตามมาด้วยโมดูล SIC&DH ที่หยุดส่งสัญญาณ Keep Alive และโมดูลอื่นๆ อีกหลายตัวก็มีปัญหาแบบเดียวกัน
การซ่อมบำรุงที่เร็วที่สุดจะมีขึ้นในปีหน้า และถ้าวิศวกรภาคพื้นดินหาทางแก้ปัญหาไม่ได้ นาซ่าอาจจะต้องรอถึงตอนนั้นจึงจะสามารถเปิดให้กล้องฮับเบิลกลับมาทำงานตามเดิม
ที่มา - BetaNews
» lew's blog
509 reads | https://jusci.net/node/820 | ลาก่อนฮับเบิล? |
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยดันดีในสก็อตแลนด์ พบว่าชนิดของโทรทัศน์ที่ดูในวัยเด็ก จะมีผลต่อลักษณะของความฝัน
กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ซึ่งโตมากับทีวีขาวดำ มักจะฝันเป็นภาพขาวดำ ถึงแม้ขณะนี้ทุกคนจะมีทีวีสีกันหมดแล้ว และกลุ่มตัวอย่างที่อายุต่ำกว่า 25 ปีทุกราย ฝันเป็นภาพสีทั้งหมด
นักวิจัยให้ความเห็นว่า อิทธิพลของการรับชมภาพเคลื่อนไหวในช่วงอายุหนึ่งๆ (ประมาณ 3-10 ขวบ) นั้นมีผลต่อสีในความฝัน ที่น่าสนใจคือก่อนมีการประดิษฐ์ทีวีขาวดำขึ้นมา เราฝันเป็นภาพสี!!!
เด็กรุ่นถัดไปจะฝันเป็น HD หรือเปล่านะ?
ที่มา - Telegraph, Slashdot
» mk's blog
267 reads | https://jusci.net/node/821 | ดูทีวีขาวดำ ฝันเป็นสีขาวดำด้วย? |
โครงการ Interstellar Boundary Explorer (ย่อว่า IBEX เหมือนกับใน Ubuntu Intrepid Ibex) เป็นดาวเทียมขององค์การ NASA ซึ่งมีเป้าหมายจะถ่ายภาพเพื่อทำแผนที่ของระบบสุริยะ และจักรวาลที่ไกลออกไป
IBEX จะต่างจากดาวเทียมค้างฟ้าปกติ ตรงที่มันเหมือนยานอวกาศที่ส่งให้ลอยออกไปเรื่อยๆ แทน เพียงแต่อุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้นั้นเตรียมสำหรับการถ่ายภาพเพื่อสำรวจแผนที่ มากกว่ายานอวกาศลำอื่นๆ ในอดีต
วันนี้ NASA ได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมด้วยจรวด Pegasus XL จากหมู่เกาะ Marshall ในมหาสมุทรแปซิฟิกเรียบร้อย ภาระกิจของ IBEX มีอายุ 2 ปี
ที่น่าสนใจคือ NASA ได้ใช้สื่อออนไลน์ช่วยประชาสัมพันธ์ IBEX อย่างเข้มข้น ทั้ง Liveblogging สำหรับช่วงปล่อยจรวด และวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องของ IBEX ทันทีที่ถูกปล่อยออกจากจรวดในชั้นบรรยากาศ
ที่มา - NASA, Wikipedia
» mk's blog
222 reads | https://jusci.net/node/822 | NASA ปล่อยดาวเทียม IBEX สำเร็จ |
ท้องฟ้าจำลอง Morrison Planetarium ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ California Academy of Sciences ก่อสร้างด้วยงบประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ (700 ล้านบาทไทย) โฆษณาว่าเป็นท้องฟ้าจำลองที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในโลก
ขนาดของโดมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ฟุต ถ้าวัดข้างนอกยาว 90 ฟุต
เป็นท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา (แต่เข้าใจว่าไม่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ตัวท้องฟ้าจำลองสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1952 อันนี้คือปรับปรุงใหม่
ใช้โปรเจคเตอร์แบบดิจิทัล 6 ตัวแสดงภาพดวงดาว
จุคนได้ 300 คน ที่นั่งเอียง 30 องศาไม่ให้บังกัน
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ เรนเดอร์ภาพแบบเรียลไทม์ได้
เท่าที่ดูจากภาพแล้ว อารมณ์เหมือนไปดู IMAX มากกว่าไปท้องฟ้าจำลองแฮะ
ที่มา - Maximum PC
» mk's blog
496 reads | https://jusci.net/node/823 | ท้องฟ้าจำลองที่เจ๋งที่สุดในโลก |
Escober จากมหาวิทยาลัย California ได้ค้นพบว่าถ้าหากทำการดึงสก็อตเทปด้วยความเร็วที่เหมาะสมในสภาวะสุญญากาศจะปล่อยรังสีเอ็กซ์ออกมารอบๆ บริเวณที่ดึงออกจากม้วนเทป
การค้นพบครั้งนี้สามารถนำมาดัดแปลงสร้างเป็นเครื่องฉายรังสีเอ็กซ์ราคาถูก หรือใช้สำหรับในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ได้
สำหรับการใช้สก็อตเทปที่ใช้อยู่โดยทั่วไปก็ไม่ต้องกังวลอะไร เนื่องจากรังสีเอ็กซ์ที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดในสภาวะสุญญากาศเท่านั้น
ที่มา - CNN.com, Physorg
» darkdest's blog
231 reads | https://jusci.net/node/824 | สก็อตเทปปล่อยรังสีเอ็กซ์! |
8
voted
หลังจากที่การรีบูตคราวที่แล้วมีความผิดพลาดจนกล้องฮับเบิลปิดตัวเองลงไปอีกครั้ง นาซ่าก็ประกาศว่าจะมีการรีบูตครั้งใหม่เพื่อพยายามนำกล้องฮับเบิลกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง
ความผิดพลาดครั้งที่แล้วเกิดจากค่าระดับความต่างศักย์ไฟฟ้าผิดพลาดทำให้วงจรปิดตัวเองลงเพื่อป้องกันความเสียหาย วิศวกรของนาซ่าระบุว่าความผิดพลาดนี้น่าจะเกิดจากวงจรไฟฟ้าที่ลัดวงจรชั่วคราวหรือมีสัญญาณรบกวนอื่นๆ ซึ่งไม่ผิดปรกติอะไรกับวงจรที่ไม่ได้ทำงานมานาน 18 ปี
ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่านาซ่าจะนำชุดวงจรสำรองขึ้นไปเปลี่ยนใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยระหว่างนี้เป็นช่วงทดสอบวงจรชุดสำรองอยู่
ที่มา - The New York Times
» lew's blog
190 reads | https://jusci.net/node/825 | นาซ่าเตรียมรีบูตกล้องฮับเบิล "อีกครั้ง" |
นักวิจัยได้พบความสัมพันธ์ระหว่าง อุณหภูมิที่มือกับความรู้สึกที่คนอื่นมีต่อคนนั้น โดยได้ทำการทดลองดังนี้
ในการทดลองแรก ให้นักศึกษาบางส่วนถือแก้วกาแฟร้อน และที่เหลือถือแก้วกาแฟเย็น หลังจากนั้นให้คนอื่นบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อนักศึกษาเหล่านี้
ผลปรากฎว่า นักศึกษาที่ถือแก้วกาแฟร้อน จะดูเป็นคนที่ใจดี เป็นมิตร ห่วงใยผู้อื่น มากกว่ากลุ่มที่ถือแก้วกาแฟเย็น แต่ทั้งนี้ไม่มีผลต่อความรู้สึกในด้าน ความซื่อสัตย์ ความมีเสน่ห์ และนิสัยส่วนบุคคล
ในการทดลองที่สอง ให้อาสาสมัครทำการทดลองโดยบางส่วนถือแผ่นประคบร้อน และที่เหลือถือแผ่นประคบเย็น หลังจากนั้น ให้รางวัลสำหรับอาสาสมัครเหล่านี้ โดยสามารถเลือกได้ว่า จะให้รางวัลกับตัวเอง หรือให้รางวัลกับเพื่อน ผลปรากฎว่า กลุ่มที่ถือแผ่นประคบร้อน 54% เลือกที่จะให้รางวัลกับเพื่อน ในขณะที่ กลุ่มที่ถือแผ่นประคบเย็นถึง 75% เลือกที่จะให้รางวัลกับตัวเอง
สงสัยถ้าผมจะขออะไรจากใคร คงต้องถือหาอะไรอุ่นๆ ไปแตะที่มือก่อนซะแล้ว
ที่มา - Sciencenow, CNN.com
» darkdest's blog
99 reads | https://jusci.net/node/826 | มืออุ่นๆ ทำให้ดูเป็นคนที่อบอุ่นไปด้วย |
John Carmack คนทำเกม Doom และ Quake นั้นตั้งบริษัท Armadillo Aerospace ทำจรวดมานานแล้ว และเป็นหนึ่งในบริษัททำจรวดสมัครเล่นที่ชิงรางวัลจำพวก X-Prize แต่เผอิญว่ารายการนั้น บริษัทที่ชนะคือ SpaceShipOne ของ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์
Armadillo Aerospace จึงลงแข่งในรายการอื่น คราวนี้เป็นรายการ Lunar Lander Challenge ซึ่งสปอนเซอร์โดยบริษัทอาวุธ Northrop Grumman (และร่วมมือกับ X-Prize อีกทีหนึ่ง) เป้าหมายของรายการนี้คือสร้างยานอวกาศเพื่อไปสำรวจดวงจันทร์ โดยต้องเป็นยานที่กลับสู่โลกแล้วนำมาใช้ซ้ำได้ แบ่งเป็น 2 ระดับ
Level 1: ยิงจรวดขึ้นไปให้สูง 50 เมตร ลอยตัวนาน 90 วินาที แล้วลงจอดในจุดจอดที่กำหนด (อยู่ใกล้ๆ กับจุดปล่อย) ต้องทำซ้ำสองครั้งสลับจุดจอดกัน
Level 2: คล้ายๆ กันแต่ลอยตัวนานขึ้น 2 เท่า แถมจุดจอดจะขรุขระ จำลองสภาพของหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์
Armadillo Aerospace ผ่าน Level 1 และเก็บเงินรางวัล 350,000 เหรียญไปเรียบร้อย ส่วน Level 2 ซึ่งมีเงิน 1.65 ล้านเหรียญนั้นยังไม่ผ่าน
ที่มา - Lunar Lander Challenge, Slashdot | https://jusci.net/node/827 | บริษัทของ John Carmack ได้รับรางวัล Lunar Lander Level 1 |
Biology
Energy
Environment
Global Warming
Health
Medical
NASA
Physics
Research
Space
more tags
Site Search | https://jusci.net/node/828 | Page not found |
ถ้าใครเคยดูโดเรมอน ตอนหนึ่งจะมีพูดถึง “แสงแห้ง” เอาไว้ ด้วยของวิเศษที่รวมเอาแสงไว้เป็นก้อนใต้ดิน ทำให้เราสามารถนำพลังงานไปใช้งานได้ภายหลังอย่างน่าอัศจรรย์ (แน่นอนเพราะมันเป็นการ์ตูน)
ความฝันนี้เริ่มใกล้เข้ามาอย่างไม่น่าเชื่อ จากความรู้พื้นฐานทางเคมีว่าการใช้ “แมกนีเซียม” นั้นสามารถให้พลังงานได้เป็นอย่างดี โดยตัวมันเองเมื่อเจอน้ำแล้วจะเผาไหม้ แล้วปล่อยก๊าซไฮโดรเจนที่สามารถนำไปใช้ในเซลล์เชื้อเพลิงต่อไปได้ และที่สำคัญที่สุดคือกระบวนการนี้ย้อนกลับได้ด้วยแสงอาทิตย์
การย้อนกลับเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนั่นหมายความว่าเราสามารถเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ในรูปแบบของพลังงานเคมีในก้อนแมกนีเซียม ซึ่งเก็บง่ายกว่าพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานแบบอื่นๆ อยู่มาก ความท้าทายของกรณีนี้คือการสร้างเลเซอร์เข้มข้นสูง 100,000 วัตต์ต่อตารางเซนติเมตร เพื่อย้อนแมกนีเซียมออกไซด์ให้กลายเป็นแมกนีเซียมตามเดิม
ข่าวดีคือการแปลงแสงอาทิตย์มาเป็นเลเซอร์ความเข้มข้นสูงเช่นนี้ทำได้ไม่ยากนัก รายงานใน Journal of Applied Physics ระบุว่าสามารถทำได้ด้วยชุดรวมแสงขนาดเพียงสี่ตารางเมตรเท่านั้น และยังให้ประสิทธิภาพถึงร้อย 10 ซึ่งแม้จะน้อยกว่าโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ๆ แต่ก็ยังมีความหวังที่จะพัฒนาไปให้ดีกว่านี้ได้
ที่มา - ArsTechnica
» lew's blog
316 reads | https://jusci.net/node/829 | เริ่มหนทางสู่ "แสงแห้ง" |
นักบินอวกาศสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติเตรียมการที่จะเข้าร่วมลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในปีนี้ แม้จะอยู่ห่างจากพื้นโลกไปกว่า 300 กิโลเมตร
การเลือกตั้งจากอวกาศนี้ดูจะเป็นการประชาสัมพันธ์สักหน่อย โดย Mike Fincke นักบินคนหนึ่งที่ประจำการบนสถานีอวกาศนานาชาติกล่าวถึงการเลือกตั้งว่า “ถ้าพวกเรา[นักบินอวกาศ]ทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน”
กฏหมายของรัฐเท็กซัสที่นักบินมีภูมิลำเนาอยู่นั้น อนุญาตให้มีการจัดการเลือกตั้งทางไกลได้ เมื่อมีการส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส
ที่มา - am540WFLA
» lew's blog
246 reads | https://jusci.net/node/830 | นักบินอวกาศประกาศร่วมเลือกตั้งสหรัฐฯ |
หลังจากที่หน้าแตกไปเล็กน้อยในการรีบูตกล้องฮับเบิลรอบที่แล้ว นาซ่าก็ประกาศความสำเร็จอย่างเป็นทางการในการรีบูตกล้องฮับเบิลอีกครั้ง พร้อมกับการรับภาพแรกนับแต่คอมพิวเตอร์ในกล้องฮับเบิลหยุดทำงานไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
ภาพแรกที่กล้องฮับเบิลส่งกลับมานี้คือภาพ Perfect 10 ที่เป็นการเรียงตัวของกาแล็กซี่สองกาแล็กซี่ที่วิ่งชนกันจนเกิดเป็นกลุ่มดาวเป็นวงแหวนคล้ายหมายเลขศูนย์ไป
กาแล็กซี่ในภาพนี้อยู่ห่างไปจากโลกถึง 400 ปีแสง
ที่มา - NASA
» lew's blog
829 reads | https://jusci.net/node/831 | ฮับเบิลกลับมาเป็นปรกติ (จริงๆ) ส่งภาพกลับสู่โลกอีกครั้ง |
ข่าวกล้องฮับเบิลเป็นข่าวใหญ่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ แต่จริงๆ แล้วปัญหากับยานสำรวจอีกลำของนาซ่าที่จอดอยู่บนดาวอังคารนั้นก็น่าวิตกไม่แพ้กัน คือยานฟีนิกซ์ที่ทำภารกิจสำรวจดาวอังคารอยู่ ต้องพบกับพายุฝุ่นบนดาวทำให้สูญเสียพลังงานอย่างต่อเนื่องเพราะไม่สามารถชาร์จไฟจากแสงอาทิตย์ได้ตามปรกติ
หลังจากพลังงานตกลงถึงค่าที่กำหนด ยานฟีนิกซ์ก็ปิดตัวเองลงเพื่อทำงานในโหมดชาร์จพลังงานที่ทุกส่วนของยานสำรวจจะปิดตัวลงจนกว่าพลังงานจะสูงพอ
แต่การปิดตัวเองลงก็ทำให้ฟีนิกซ์ไม่สามารถติดต่อกับยานโอดิสซีซึ่งทำหน้าที่เป็นดาวเทียมสื่อสารอยู่รอบดาวอังคารได้จนเป็นที่วิตกของเจ้าหน้าที่หลายๆ คนว่าอาจจะเสียยานฟีนิกซ์ไปแล้ว
หลังจากการชาร์จพลังงานอยู่ 19 ชั่วโมง ยานฟีนิกซ์ก็กลับมาทำงานตามปรกติ โดยระดับพลังงานจะเพียงพอให้ใช้งานไปได้อีกหลายสัปดาห์
ยานฟีนิกซ์ถูกออกแบบมาเพื่อทำภารกิจสำรวจดาวอังคารเป็นเวลาสามเดือน โดยระหว่างช่วงเวลานี้ตัวยานจะอยู่ใกล้กับขั้วโลก (ของดาวอังคาร) ทำให้ได้รับแสงอยู่ตลอดเวลา
ที่มา - PhysOrg | https://jusci.net/node/832 | NASA กู้ยานสำรวจดาวอังคารฟีนิกซ์ได้สำเร็จ |
โรคหัวใจนั้นก็เป็นสาเหตุให้มีคนตายหนึ่งคนทุกๆ 34 วินาที เฉพาะในสหรัฐ แต่นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสก็ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาหัวใจเทียมที่ทำงานได้ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่เดิมนั้นหัวใจเทียมต้องการการเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ภายนอกเพื่อตรวจสอบความดันเลือด แต่หัวใจรุ่นใหม่นี้มีเซ็นเซอร์ในตัวทำให้มันทำงานได้ด้วยตัวเองจริงๆ แต่ไม่มีการระบุถึงแหล่งพลังงานว่าจะมาจากไหน?
ทีมวิจัยนี้ได้รับทุนจากกลุ่มกิจการอวกาศยานและการป้องกันแห่งสหภาพยุโรป
ที่มา - CNN
» lew's blog
333 reads | https://jusci.net/node/833 | นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสเปิดตัวหัวใจเทียมแบบสมบูรณ์ |
นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยตัวอ่อนชีวภาพแห่งเมืองโกเบได้ประกาศความสำเร็จในการโคลนหนูที่ถูกแช่แข็งไปแล้วกว่า 20 ปี
ความสำเร็จนี้เป็นการนำเอาเซลล์สมองที่ถูกแช่แข๋งในอุณภูมิติดลบ 20 องศาเซลเซียส ลบล้างความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าความเย็นจะทำลายดีเอ็นเอไปเสียจนไม่สามารถนำมาโคลนได้อีกต่อไป
ความสำเร็จนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามในการโคลนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธุ์ไปแล้วแต่ยังมีตัวอย่างเซลล์ที่ถูกแช่แข็งไว้เป็นอย่างดีเช่นช้างแมมมอธที่สูญพันธุ์ไปแล้วนับหมื่นปี อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยระบุว่าความยากในการโคลนสัตว์สูญพันธุ์เช่นนั้นคือการหาเซลล์ไข่เพื่อรับดีเอ็นเอ
ถ้าไม่ดูแลโลก ยังไงก็เอากลับมาไม่ได้ว่าอย่างนั้น
ที่มา - BBC
» lew's blog
431 reads | https://jusci.net/node/834 | ญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จ โคลนหนูแช่แข็งอายุ 16 ปี |
นักวิจัยจาก Brigham and Women's Hospital สหรัฐอเมริกา (เครือเดียวกับ Harvard) ทำการศึกษาติดตามผู้หญิงที่ทำงานด้านการแพทย์จำนวน 5,442 คนที่มีอายุตั้งแต่ 42 ปีขึ้นไป เป็นเวลากว่า 7 ปี โดยแบ่งสุ่มเป็นสองกลุ่ม คือให้อาหารเสริมที่ประกอบด้วย กรดโฟลิค (2.5 mg), วิตามินบี 6 (50 mg) และ วิตามินบี 12 (1 mg) หรืออาหารเสริมที่เป็นยาหลอก และดูผลที่เกิดขึ้นคือจำนวนของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม หรือมะเร็งเต้านม
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมดังกล่าว มีอัตราการเกิดมะเร็งระยะลุกลามไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้อาหารเสริมที่เป็นยาหลอก (Hazard Ratio 0.75, 95%CI 0.79-1.18, p=0.75) และในด้านมะเร็งเต้านม ก็ไม่พบว่าแตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มเหมือนกัน (HR 0.83, 95%CI 0.60-1.14, p=0.24)
ผู้วิจัยได้สรุปผลว่า การรับประทานอาหารเสริมดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการเกิดมะเร็ง ในยุคที่อาหารเสริมกำลังเฟื่องฟู
ถึงแม้จะเป็นงานวิจัยจากต่างประเทศ ซึ่งอาจแตกต่างจากคนในเอเชียก็ตาม ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เราน่าจะเลิกคิดว่ากินวิตามินเสริมด้วยเหตุผลแบบนี้ได้แล้ว.. แต่ถ้าคิดว่ากินเพื่อเป็นยารักษาด้านจิตใจ ก็แล้วแต่ครับ
ที่มา: Journal of American Medical Association via Reuters | https://jusci.net/node/835 | การรับประทานวิตามินบี หรือกรดโฟลิคเสริมไม่ได้ช่วยลดมะเร็ง |
ฮอนด้า มอเตอร์เปิดตัวชุดพยุงน้ำหนักเพื่อช่วยการเดินที่ช่วยรับน้ำหนักตัวแทนที่จะเป็นขาและเท้าตามปรกติ โดยงานวิจัยอายุสิบปี (เริ่มมาตั้งแต่ปี 1999) นี้อาศัยข้อมูลจากการศึกษาการเดินของมนุษย์ในโครงการ ASIMO ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
แม้จะมีความหวังในเชิงการแพทย์ที่จะใช้ขาหุ่นยนต์เพื่อการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสบางประการเช่นสถาพขาไม่สมบูรณ์ แต่โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นของการทดสอบการใช้งานกับผู้ที่สามารถเดินได้ตามปรกติเท่านั้น
ที่มา - Honda | https://jusci.net/node/836 | ฮอนด้าเปิดตัวเครื่อช่วยพยุงการเดิน |
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในแม็กซิโกประกาศความสำเร็จในการสร้างเพชรแบบฟิล์มบางด้วยการสลายเหล้าเตกีล่าบนซิลิกอนหรือสเตนเลส
ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยรายงานถึงความสำเร็จในการสร้างเพชรจากสารละลายแอลกอฮอล์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทีมงานวิจัยในแม็กซิโกพบว่าความเข้มข้นของแอกกอฮอล์ที่ร้อยละ 40 นั้นเหมาะสมที่สุดที่จะใช้สร้างเพชร
ในงานวิจัยนี้เหล้าเตกีล่าจะถูกต้มจนเป็นไอที่ 280 องศาเซลเซียส ไอยังคงได้รับความร้อนจนถึง 800 องศาเซลเซียสซึ่งจะทำให้โมเลกุลแตกสลาย แล้วจับตัวใหม่เป็นเพชรก้อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 ถึง 400 นาโนเมตร เมื่อตกลงบนถาดสเตนเลสจึงจับตัวเป็นแผ่น
ด้วยความบางขนาดนี้ ความหวังที่จะมีเพชรไปขอสาวแต่งงานในราคาถูกคงยังเป็นเรื่องห่างไกล แต่ถ้าเป็นการผลิตเพื่อไปใช้ในงานอุตสาหกรรมแล้ว คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่าหลังจากปี 2011
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
605 reads | https://jusci.net/node/837 | สร้างเพชรจากเหล้าเตกีล่า |
เรือรบ USS Intrepid นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Ubuntu 8.10 Intrepid Ibex แต่อย่างใด แต่การเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินให้กลับมาประจำการในฐานะพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำก็สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวสหรัฐฯ ได้มากพอสมควรทีเดียว
เรือลำนี้ประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 1943 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และปลดประจำการไปในปี 1974 ก่อนที่จะถูกซ่อมแซมกลับมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1982 หลังจากเปิดให้บริการอยู่สี่ปีก็ได้รับการประกาศจากเมืองนิวยอร์คให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำเมืองไป
ในปี 2006 ได้มีการระดมทุน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับปรุง USS Intrepid ใหม่ทั้งลำจนสามารถเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เต็มรูปแบบได้อีกครั้งในตอนนี้
น่าจะเปิดตัวอาทิตย์ที่แล้ว อาจจะมีงาน Ubuntu Release Party บนเรือรบก็ได้ ใครจะไปรู้
ที่มา - Wall Street Journal | https://jusci.net/node/838 | สหรัฐฯ เปิดเรือรบ USS Intrepid ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ (อีกครั้ง) |
นาซ่าประกาศตัดใจจากยานสำรวจดาวอังคาร Phoenix อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ หลังจากไม่สามารถสื่อสารกับตัวยานได้ตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมา โดยปัญหาเกิดจากพายุฝุ่นบนดาวอังคารทำให้ตัวยานไม่สามารถชาร์จพลังงานได้ตามปรกติ (ข่าวเก่า)
อย่างไรก็ดี โครงการนี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เนื่องจากตัวยานออกแบบให้ใช้งานได้เพียงสามเดือนเท่านั้น แต่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องถึงห้าเดือน และน่าจะทำงานได้นานกว่านี้หากไม่เจอกับพายุไปเสียก่อน
ข้อมูลที่ได้จากยาน Phoenix นั้นเพิ่มหลักฐานจำนวนมากให้กับความเชื่อที่ว่าครั้งหนึ่งแล้วดาวอังคารเคยมีสภาวะที่สิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยได้
ทางนาซ่ายังคงพยายามติดต่อกับยาน Phoenix ไปอีกหลายสัปดาห์ แต่ความหวังที่จะติดต่อได้นั้นเลือนลางเต็มที
ที่มา - NASA | https://jusci.net/node/839 | ลาก่อน Phoenix |
เรารู้กันดีว่าเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) มักจะทำงานผิดพลาดหากโดนสนามแม่เหล็กแรงสูง อย่างไรก็ดียังไม่ค่อยมีรายงานความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กเล็กๆ เช่นหูฟัง
ทีมนักวิจัยจาก Beth Israel Deaconess Medical Center แห่งบอสตัน (เครือ Harvard อีกแล้ว) ทำการศึกษาผู้ป่วยจำนวน 60 คนที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (ผู้ป่วยได้รับการดูแลอยู่ตลอดเผื่อเกิดความผิดพลาด) และให้ผู้ป่วยเข้าใกล้หูฟังชนิดต่างๆ รวมถึง iPod ด้วย หลังจากนั้นจะวัดความผิดปกติของเครื่องกระตุ้นหัวใจที่เกิดขึ้น
ผลปรากฎว่าไม่เกิดความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากเครื่องเล่น MP3 (iPod) แต่เมื่อถูกรบกวนโดยหูฟัง (Sony MDR-Q22LP, Philips SBC HS430, JVC HA-F130A) เครื่องกลับทำงานผิดพลาด 14 ครั้ง (23%) อย่างไรก็ดีหากเอาหูฟังไว้ห่างจากผิวหนังมากกว่า 3 ซม. จะไม่พบการรบกวนใดๆ ผู้วิจัยสรุปว่าผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ ไม่ควรเอาหูฟังเข้าใกล้เครื่องในระยะ 3 ซม.
ถึงแม้ว่าการวิจัยนี้จะเป็นเพียงการวิจัยเบื้องต้นที่มีกลุ่มตัวอย่างน้อย และไม่ได้เป็นการวิจัยเชิงเปรียบเทียบ แต่ก็น่าสนใจเหมือนกันใช่ไหมครับ?
ที่มา: Circulation | https://jusci.net/node/840 | การใช้หูฟังอาจจะทำให้เครื่องกระตุ้นหัวใจทำงานผิดพลาด |
ปัญหาหลักของการกินยาในทุกวันนี้คือการจ่ายยานั้นไม่สม่ำเสมอ เช่นเวลาที่เรากินยาเข้าไปใหม่ๆ ยาจะเพิ่มปริมาณในร่างกายของเราสูงมาก และลดลงต่ำกว่าที่เราต้องการอยู่ระยะหนึ่งจนกว่าเราจะกินเข้าไปใหม่
ก่อนหน้านี้เคยมีความพยายามหลากหลายที่จะสร้างยาที่ค่อยๆ ปล่อยตัวยาเข้าสู่ร่างกายของเราอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยสารแบบใหม่ๆ มาหุ้มตัวยาไว้ให้สลายตัวช้าๆ แต่บริษัท Philips จากประเทศเนเธอร์แลนด์ได้เสนอแนวทางใหม่ด้วยการกลืน "หุ่นยนต์" จ่ายยาเ้ข้าไปโดยตรง ในชื่อว่า "iPill"
ในเบื้องต้น iPill ถูกสร้างขึ้นมาเ้พื่อควบคุมความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ตัวหุ่นยนต์มีเซ็นเซอร์วัดความเป็นกรดทำให้จ่ายยาได้ถูกต้องตลอดเวลา และยังสามารถรายงานสภาวะในกระเพาะออกมายังคอมพิวเตอร์ข้างนอกได้อีกด้วย
iPill ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบเท่านั้น แต่ทาง Philips ก็ระบุว่าสามารถเริ่มได้แล้ว
ที่มา - Reuters | https://jusci.net/node/841 | เมื่อยาที่คุณกินไปกลายเป็นหุ่นยนต์ |
จากข่าวเก่าที่มีหลายคนสงสัยเรื่องแหล่งพลังงานสำหรับหัวใจเทียม วันนี้มีการเปิดตัวแหล่งพลังงานที่เกิดจากการทำงานของหัวใจเองแล้วครับ
บริษัท Zarlink Semiconductor จากสหราชอาณาจักร เปิดเผยในงานประชุมประจำปีของ American Heart Association เกี่ยวกับเครื่องกระตุ้นหัวใจที่ใช้พลังงานจากหัวใจเอง (Self-Energizing Implantable Medical Microsystem - SIMM) โดยเครื่องดังกล่าวจะทำงานโดยอาศัยบอลลูนที่อยู่ภายในห้องหัวใจในการรับแรงที่เกิดขึ้นจากการบีบตัวของหัวใจเพื่อกำเนิดไฟฟ้า และใช้ในการกระตุ้นหัวใจต่อไป
จากการวิจัยทางคลินิก พบว่าในสถานการณ์ที่หัวใจเต้นในอัตราปกติ (80 ครั้งต่อนาที) เครื่องสามารถกำเนิดพลังงานได้ 4.3 ไมโครจูล ต่อการบีบตัวของหัวใจในแต่ละครั้ง และหากหัวใจเต้นเร็วขึ้นในช่วง 100-130 ครั้งต่อนาทีก็จะทำให้เกิดพลังงานมากขึ้นอีก 40% และไม่พบผลกระทบร้ายแรงต่อหัวใจ (แต่ผมคิดเองว่า้ถ้าเร็วกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว -- ผู้ป่วยคงรู้สีกใจสั่น เป็นลมซะก่อน)
สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจเรื่องเครื่องกระตุ้นหัวใจ: การเต้นของหัวใจในผู้ป่วยบางรายเกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบควบคุมการเต้น เช่น ระบบควบคุมให้เต้นช้าเกินไป ทำให้ต้องมีเครื่องมาช่วยกระตุ้นให้เต้นเร็วขึ้น ซึ่งโดยปกติเครื่องแบบนี้ก็จะมีทั้งเครื่องที่ติดไว้กับผนังหน้าอกภายนอก (คล้ายๆ กับ แบบที่เห็นในโทรทัศน์ นั่นแหละครับ) แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะเป็นไปตลอดชีวิต จึงจำเป็นต้องฝังเครื่องมือไว้ภายในร่างกาย โดยส่วนใหญ่พลังงานที่ใช้นั้นไม่มากมายเท่าใดนัก (เพราะเป็นแค่สัญญาณไปสั่งหัวใจให้เต้นอีกที) ปัจจุบันที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นแบตเตอรี่ที่มักจะต้องมีการเปลี่ยนทุก 2-3 ปีครับ
ที่มา: SIMM Device, American Heart Association | https://jusci.net/node/842 | เครื่องกระตุ้นหัวใจอาจใช้พลังงานจากหัวใจเอง |
มีรายงานพบฟาร์มไก่ติดเชื้อ H5N1 ที่จังหวัดอุทัยธานี โดยในฟาร์มมีไก่ทั้งหมดประมาณสองร้อยตัว หลังการยืนยันเจ้าหน้าที่ได้ทำลายไก่ทั้งหมดในฟาร์มนั้นเพื่อควบคุมเชื้อโรคแล้ว
สัปดาห์นี้นับเป็นสัปดาห์แรกที่มีการรายงานการพบเชื้อ H5N1 ในเมืองไทยอีกครั้งหลังจากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน อย่างไรก็ดีไม่มีรายงานการติดเชื้อในคนแต่อย่างใด
ประเทศไทยพบเชื้อ H5N1 ตั้งแต่ปี 2549 และตลอดเวลาที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ 25 คน เสียชีวิตไปแล้ว 17 คน
ที่มา - PhysOrg | https://jusci.net/node/843 | พบไข้หวัดนกระบาดในไทยสองครั้งในสัปดาห์นี้ |
สงครามการแข่งขันไปยังดวงจันทร์รอบใหม่ยังเดินหน้าต่อไป โดยข่าวล่าสุดในวันนี้่คือดาวเทียมของทางอินเดียได้เดินทางไปถึงดวงจันทร์และโคจรที่ความสูง 100 กิโลเมตรเหนือพื้นผิวดวงจันทร์แล้ว โดยดาวเทียม Chandrayaan-1 นั้นถูกยิงขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา
น้ำหนักของดาวเทียม Chandrayaan-1 นั้นอยู่ที่ประมาณ 1.4 ตัน ติดตั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์จากทางอินเดียเองหกชุด และอุปกรณ์จากยุโรป, สหรัฐฯ, และบราซิลขึ้นไปด้วย โดยทางอินเดียไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายในการนำส่งอุปกรณ์เหล่านี้แต่อย่างใด
อายุการใช้งานโดยประมาณอยู่ที่สองปี เราคงได้เห็นภาพของดวงจันทร์ในรูปแบบใหม่ๆ กันขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจากนี้
ที่มา - PhysOrg, Wikipedia
» lew's blog
428 reads | https://jusci.net/node/844 | Chandrayaan-1 โคจรรอบดวงจันทร์สำเร็จแล้ว |
เลโก้นับเป็นของเล่นที่เรียบง่ายแต่สร้างความเพลิดเพลินออกมาได้ดีที่สุดขิ้นหนึ่ง แต่ก่อนหน้าที่ทางเลโก้เองได้พยายามรักษาสิทธิในการผลิตได้กับตัวเองเพียงรายเดียวมาโดยตลอด โดยอ้างความเป็น "เครื่องหมายการค้า" ซึ่งต่างจากทรัพย์สินทางปัญญาแบบอื่นๆ ที่ไม่มีวันหมดอายุ แต่ศาลของสหภาพยุโรปก็ประกาศคำตัดสินมาแล้วว่า สเปคทางเทคนิคเช่นความกว้างยาว ขนาดรูต่างๆ บนตัวเลโก้นั้นไม่เข้าข่ายของเครื่องหมายการค้า ทำให้บริษัทอื่นๆ สามารถผลิตตัวต่อเลโก้ได้โดยไม่ผิดกฏหมายทั่วทั้งยุโรป
คำตัดสินนี้แม้จะทำให้มีผู้ผลิตสร้างบล็อคขึ้นมาขายแข่งกับทางเลโก้ได้ แต่เลโก้เองก็มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Mindstorm และตัวเลโก้ที่สร้างตามตัวละครในหนังเรื่องต่างๆ ที่เลียนแบบไม่ได้อยู่แล้ว
ใครมีลูกก็รอซื้อของถูกให้ลูกเล่นกันได้ครับ
ที่มา - ArsTechnica | https://jusci.net/node/845 | Lego เสียสิทธิการป้องกันการเลียนแบบตัวต่อในยุโรป |
เวลาเล่นเกมแล้วหลายๆ คนที่ขับรถกันคงรู้สึกว่าถ้ารถที่ตัวเองขับมีมุมมองแบบเหมือนมองมาจากท้ายรถเหมือนในเกมคงขับง่ายขึ้นอีกเยอะ ข่าวดีคือการสร้างมุมมองแบบนี้เป็นไปได้แล้วด้วยเทคโนโลยีใหม่จากฟูจิตสึ
เทคโนโลยีนี้สร้างภาพจากกล้องในตัวรถทั้งหมดสี่ตัวซึ่งเป็นกล้องมุมกว้างเป็นพิเศษ เมื่อนำภาพทั้งหมดมาต่อเข้าด้วยกันแล้วอาศัยเทคนิคเพิ่มเติมทำให้เราสามารถสร้างภาพที่เหมือนเราลอยอยู่ท้ายรถได้
จริงๆ แล้วงานวิจัยนี้เป็นการแสดงศักยภาพของฟูจิตสึในการออกแบบไอซีเพื่อประมวลภาพวีดีโอความเร็วสูง ส่วนเรื่องวางตลาดนั้นในบทความระบุว่าอยู่ระหว่างการสำรวจตลาดอยู่
ที่มา - Fujitsu | https://jusci.net/node/846 | ฟูจิตสึเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ มองรถจากด้านหลังเหมือนในเกม |
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1998 จรวด Proton ของรัสเซียได้ทำภารกิจสำคัญอันหนึ่งของมนุษยชาติ นั่นคือขนส่วนประกอบชุดแรก (ที่มีชื่อว่า Zarya) ของสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) ขึ้นไปยังอวกาศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของสถานีอวกาศนานาชาติ
ตอนนี้ผ่านมาแล้วสิบปี สถานีอวกาศนานาชาติพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีการต่อเติมโมดูลเพิ่มเติมกว่า 20 ครั้ง (ปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์ดี คิดเป็น 85% ของแผนที่วางเอาไว้) มีนักบินและนักวิทยาศาสตร์สับเปลี่ยนขึ้นไปประจำการอยู่ตลอด
สถานีอวกาศนานาชาติเป็นความร่วมมือของหน่วยงานด้านอวกาศจากสหรัฐ รัสเซีย สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และแคนาดา ล่าสุดทางบราซิลกำลังจะเข้าร่วม มีข่าวว่าจีนก็สนใจเช่นกัน
อ่านเพิ่ม: ลำดับการก่อสร้างของสถานีอวกาศนานาชาติ
ที่มา - Space Fellowship | https://jusci.net/node/847 | 10 ปีสถานีอวกาศนานาชาติ |
ทฤษฎีเรื่องเคยมีน้ำบนดาวอังคารยังมีข้อเสนอใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาได้วิเคราะห์ข้อมูลรังสีแกมมา ที่ได้จากยาน Mars Odyssey ของนาซ่า และเสนอสมมติฐานใหม่ว่าพื้นผิวดาวอังคารอาจเคยถูกปกคลุมด้วยน้ำถึง 1 ใน 3
วิธีการวิเคราะห์นั้นดูปริมาณของแร่ธาตุบางชนิดตามแนวชายฝั่งในยุคโบราณ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทีมนี้มีไอเดียว่า น้ำที่เคยอยู่บนดาวอังคารนั้นกลายมาเป็นแร่ธาตุจำพวกโพแทสเซียม และเหล็กในปัจจุบัน
ที่มา - Space Fellowship | https://jusci.net/node/848 | ดาวอังคารอาจเคยมีน้ำอยู่ถึง 1 ใน 3 ของพื้นผิว |
กระสวยอวกาศ Endeavour นั้นเพิ่งถูกส่งขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานานชาติในเดือนนี้ และกำลังจะไปปฏิบัติภารกิจที่ แต่เรื่องราวก็วุ่นวายขึ้นมาเมื่อแมงมุมสองตัวที่ถูกส่งขึ้นไปยังอวกาศเพื่อทดสอบว่าแมงมุมจะสามารถสร้างใยแมงมุมในอวกาศได้หรือไม่นั้น กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยซะหนึ่งตัว
จนตอนนี้ยังหากันไม่พบ และนาซ่าเองก็ไม่แน่ใจว่าแมงมุมตัวนี้มันหายไปไหน
ที่มา - ABC | https://jusci.net/node/849 | นาซ่าทำแมงมุมหายไปในกระสวยอวกาศ |
ช่วงนี้สถานีอวกาศนานานชาติมีปัญหาค่อนข้างต่อเนื่อง นับแต่นักบินอวกาศทำถุงเครื่องมือหลุดลอยไปในอวกาศเพราะลืมมัด, ทำแมงมุมหายไปหนึ่งตัว, และล่าสุดเครื่องกรองน้ำที่ใช้ในการกรองปัสสาวะกลับมาเป็นน้ำดื่มก็แสดงอาการไม่ดีไปอีกชิ้น
เครื่องกรองน้ำเจ้าปัญหานี้เพิ่งถูกนำขึ้นไปติดตั้งกับกระสวยอวกาศ Endeavour เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทันทีที่เริ่มทำงานเครื่องกรองน้ำนี้ก็ทำให้สัญญาณเตือนไฟไหม้ทำงาน และปิดการทำงานตัวเองลงไป
งานนี้ลำบากนักบินต้องมาช่วยกันเอาแกนปั่นแยกของเครื่องกรอง (ซึ่งข้างในก็ปัสสาวะนั่นล่ะ) มาติดน๊อตเพื่อยึดกับตัวสถานีเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่น่าจะเป็นต้นเหตุของปัญหา
หลังจากนั้นเครื่องกรองนี้ก็ทำงานต่อได้ไปอีกสามชั่วโมง ได้น้ำดื่มมาประมาณสี่ลิตรแล้วก็หยุดทำงานอีกครั้ง
นักบินทุกคนยังคงต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป โดยไม่ได้รับส่วนแบ่งของน้ำดื่มจากเครื่องกรองน้ำนี้ตามที่วางแผนไว้แต่เดิม
ที่มา - The Register
» lew's blog
559 reads | https://jusci.net/node/850 | นักบินอวกาศเร่งซ่อม "เครื่องกรองน้ำ" บนสถานีอวกาศนานาชาติ |
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย (University of Melbourne, University of New South Wales, Bionic Ear Institute, Centre for Eye Research Australia และ Victoria Research Laboratory of NICTA) ได้รวมตัวกันในนาม Bionic Vision Australia เพื่อเตรียมผลิตจอประสาทตาเทียมให้ได้ภายในปีค.ศ. 2012
ดวงตาเทียมดังกล่าวจะมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับเซลล์รับแสงของจอประสาทตา (Retina) เช่นโรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) ถึงแม้ว่าชิพสำหรับรับแสงจะทำงานได้ดีไม่เท่ากับเซลล์จริงๆ แต่ทีมวิจัยก็หวังว่าจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง, สามารถมองเห็นวัตถุขนาดใหญ่ๆ อ่านหนังสือและมองหน้าคนอื่นได้บ้าง โดยจะมองเห็นเป็นจุดใหญ่ๆ ต่อกันเป็นรังผึ้ง (ลองดูตัวอย่างภาพได้จากวิดีโอครับ)
ความจริงแล้วเรื่องความคิดที่จะผลิตจอประสาทตาเทียมนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือสหรัฐ ก็มีงานวิจัยออกมาอยู่บ้าง
อ่านแล้วนึกถึงเมื่อเร็วๆ นี้มีศิลปินคนหนึ่งต้องการให้หมอใส่เว็บแคมแทนที่ดวงตาข้างที่บอด ไม่รู้ว่าถ้าเธอมาอ่านข่าวนี้แล้วจะเปลี่ยนใจหรือเปล่านะครับ
ที่มา: Medgadget
» pawinpawin's blog
57 reads | https://jusci.net/node/851 | นักวิจัยออสเตรเลียเตรียมผลิตดวงตาเทียมให้ได้ในสี่ปี |
เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วว่าการโทรศัพท์ระหว่างขับรถนั้นมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่อย่างมีนัยสำคัญจริงหรือไม่ แต่รายงานล่าสุดจากทีมงานของ Lee Strayer นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Utah ก็ได้ตีพิมพ์รายงานระบุว่าการโทรศัพท์ระหว่างขับรถนั้นมีผลอย่างชัดเจน และการใช้แฮนด์ฟรีนั้นไม่ได้ลดความเสี่ยงลงเท่าใดนัก
รายงานฉบับนี้อาศัยการทดลองจากอาสาสมัคร 98 คน โดยให้ขับรถในเครื่องจำลองการขับรถ พบว่าการการขับรถระหว่างโทรศัพท์นั้นส่งผลต่อการขับรถหลุดออกนอกเลน และพลาดการเลี้ยวในเส้นทางที่กำหนดอย่างมีนัยสำคัญ โดยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับผู้ที่ดื่มสุราในปริมาณที่กฏหมายกำหนดแล้วขับรถ
ที่น่าสนใจคือการพูดคุยกับผู้โดยสารนั้นไม่เพิ่มความเสี่ยงเหมือนกับการโทรศัพท์
ที่มา - Silicon.com
» lew's blog
532 reads | https://jusci.net/node/852 | รายงานยืนยัน "โทรศัพท์มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่" |
4 ธ.ค. 2008 รายงานจากประเทศลอนดอน David Nott ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษที่ออกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยในประเทศคองโก ในโครงการแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders) ได้ทำการผ่าตัด ตัดกระดูกไหปลาร้า และกระดูกสะบัก เพื่อช่วยชีวิตเด็กหนุ่มชาวคองโก ซึ่งแขนขาดจากอุบัติเหตุ และเนื้อเยื่อบริเวณนั้นกำลังกลายสภาพเป็นเนื้อเน่าตาย ได้เป็นผลสำเร็จ โดยอาศัยคำแนะนำ 10 ขั้นตอน ในการผ่าตัด ผ่านทาง SMS จาก Meirion Thomas เพื่อนศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในประเทศอังกฤษ
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับเลือดเพียงถุงเดียวเท่านั้น และขณะนี้ผู้ป่วยก็มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ
อย่างนี้คงเรียกว่าเป็น telemedicine แบบนึงได้เหมือนกันไหมครับ
ที่มา: CNN
» zybernav's blog
261 reads | https://jusci.net/node/853 | เด็กหนุ่มในคองโก รอดชีวิตจากการผ่าตัดที่ได้รับขั้นตอน และวิธีการจาก SMS |
19
voted
แม้ว่าปีนี้จีนจะครองความเป็นหนึ่งในแง่ของปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปแล้วก็ตาม แต่ตัวเลขจากฟากของสหรัฐฯ ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณ 8 พันล้านตันในปี 2007 เทียบกับ 7.9 พันล้านตันในปี 2006
ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่รวมเอาก๊าซเรือนกระจกทุกชนิด เช่น มีเทน, ไนตรัสออกไซด์, ฯลฯ และเทียบผลกระทบกับคาร์บอน โดยตัวเลขจริงๆ นั้นคาร์บอนไอออกไซด์ยังคงมีสัดส่วนถึงร้อยละ 83 ของก๊าซทั้งหมด
แนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหรัฐฯ ค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดี โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในปีที่ผ่านมา เทียบกับช่วงปี 1990 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ส่วนทั่วโลกนั้น ช่วงปี 2006 ถึง 2007 ตัวเลขเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ถ้านับจีนประเทศเดียวนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.5
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
168 reads | https://jusci.net/node/854 | ปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
ฮาร์ดแวร์ที่เป็นโอเพนซอร์สกำลังเริ่มเป็นที่รู้จัก แต่ส่วนมากจะจำกัดอยู่ในวงการวิศวกรรม (ข่าวเก่าโดยคุณ mk ที่ Blognone: มารู้จัก “ฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์ส” กันเถอะ) วันนี้ทางฝั่งการแพทย์ก็มีฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สเหมือนกันครับ
ดร. Ivor Kovic ซึ่งเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินที่โครเอเชีย ได้เปิดเผยเว็บไซต์สำหรับร่วมมือกันพัฒนาเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG/ECG - Electrocardiogram) แบบโอเพนซอร์ส โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะสร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์สำหรับอ่านคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และทำให้ประเทศที่ยากจนสามารถผลิตเครื่องดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยเงินมากนัก
ตอนนี้ที่เว็บไซต์ของโครงการยังมีอะไรไม่มากนัก มีแนวทางการสร้าง EKG แบบคร่าวๆ และความรู้พื้นฐานทั้งด้านการแพทย์และอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง
ใครสนใจก็มาช่วยกันนะครับ
หมายเหตุ เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นเครื่องมือที่ใช้เมื่อแพทย์สงสัยว่ามีความผิดปกติของหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โดยเมื่อเกิดความผิดปกติกับหัวใจ การนำไฟฟ้าของหัวใจจะผิดปกติไป เมื่อวัดความต่างศักย์ระหว่างหลายๆ จุดและแสดงออกมาเป็นกราฟ แพทย์ก็จะสามารถวินิจฉัยได้ว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น และรักษาต่อไป โดยทั่วไปเครื่องดังกล่าวมีราคา (อย่างน้อย) ประมาณ 20,000 บาทต่อเครื่องครับ
ที่มา: openECGproject via Medgadget
» pawinpawin's blog
344 reads | https://jusci.net/node/856 | มาช่วยกันสร้างเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบโอเพนซอร์ส |
มีความเห็นอย่างไร ช่วยกันเสนอแนะท่านหน่อย
* เพื่อว่าอาจมีประโยชน์ไปปรับปรุง (ปราชญ์ท่านว่า “สิ่งใดที่อยู่กับที่ ไม่เปลี่ยน ไม่โต สิ่งนั้นคือ สิ่งที่ตายแล้ว”)
* ถ้าเสนอหลายข้อ ก็ไล่เลขข้อกันไป เผื่อแสดงความเห็นร่วมกันเป็นข้อๆ ถ้ามีเลขข้อ จะได้ไม่ต้องพิมพ์ซ้ำทวนข้อความ ดีไหมครับ
ผมของเสนอก่อนเลย
ความเห็นที่พิมพ์มั่วๆ มา หรือเป็นข้อความไม่พึงประสงค์ (เช่น โฆษณา ด่าว่าแดกดัน คำหยาบ ฯลฯ) หรือพิมพ์ผิด
1.1 น่าจะแจ้งให้ผู้ดูแลลบได้ (เหมือนฟอรัมทั่วไป)
1.2 หรือถ้าเป็นข้อความตัวเอง น่าจะลบเองได้ หรือแก้ไขได้ (แต่บางคนรู้สึกจะแก้ไม่เป็น ติดนิสัยโพสต์ใหม่)
1.3 หรือถ้าให้สะดวกถ้าอยู่ในบล็อกของใคร เจ้าของลบได้เลย (เหมือนบล็อกทั่วโลก)
ตอนแรกจะเสนอตกแต่งหน้าแรก แต่เห็นว่ากำลังทำโลโก้อยู่ คงกำลังดำเนินการ
ก็ไม่ได้เร่ง แต่ขอบันทึกช่วยจำไว้ก่อน ว่ากำลังเฝ้ารออยู่
และเป็นกำลังใจให้ และยินดีช่วยเท่าที่ช่วยได้
ปล. อีกเรื่อง ขอเรียนถามครับ ไม่เข้าใจการใช้งาน ขอบคุณครับ
* ข่าวของผมทำไมจึงยังอยู่ใน Upcoming News ไม่เห็นขึ้นหน้าหลัก เหมือนชาวบ้าน ผมตั้งค่าอะไรผิดหรือเปล่า หรือเพราะอะไร ดี-ไม่ดีอย่างไร งง
‹ โลโก้
» 24 reads | https://jusci.net/node/857 | แสดงความเห็น+เสนอแนะปรับปรุง Jusci.Net |
การจูบอย่างรุนแรงอาจนำไปสู่อาการหูหนวก โดยเกิดขึ้นแล้วกับสาวชาวจีนจากมณฑลกวางตุ้ง
สำนักข่าวของจีนรายงานว่า หญิงสาววัยยี่สิบกว่า เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการหูซ้ายหนวก หลังจากจูบกับแฟนหนุ่มอย่างรุนแรง
หนังสือพิมพ์ China Daily ได้อ้างคำพูดของแพทย์ซึ่งดูแลคนไข้รายนี้ว่า การจูบนั้นลดความดันในปาก ซึ่งสร้างความเสียหายแก่เยื่อแก้วหู โดยหนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้เตือนว่า แม้การจูบโดยทั่วไปจะปลอดภัย แพทย์ได้แนะนำให้ใช้ความระมัดระวังด้วย หนังสือพิมพ์อีกฉบับ Shanghai Daily ก็ได้เตือนไว้ลักษณะเดียวกันว่า การจูบอย่างรุนแรงทำให้ความดันระหว่างหูชั้นในสองข้างไม่สมดุล และนำไปสู่ความเสียหายต่อเยื่อแก้วหู
คาดว่าหญิงสาวคนดังกล่าวจะกลับมาได้ยินปกติภายในสองเดือน
ที่มา - BBC News, Reuters
» chayaninw's blog
96 reads | https://jusci.net/node/858 | การจูบอย่างรุนแรงอาจทำให้หูหนวก |
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีแต่คลินิกลดน้ำหนัก แต่ทำไมเราจะต้องเสียเงินในเมื่อถ้าเอาเงินมาล่อแล้วคนเราจะลดน้ำหนักได้ดีกว่า?
ทีมนักวิจัยจาก Leonard Davis Institute of Health Economics มหาวิทยาลัย Pennsylvania ได้ทำการศึกษาการใช้เงินมาล่อให้คนลดน้ำหนัก โดยทีมวิจัยแบ่งอาสาสมัครอายุ 30-40 ปีเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มหนึ่งให้มาวัดน้ำหนักทุกเดือนเฉยๆ, กลุ่มที่สองจะได้เงิน 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันหากวัดแล้วลดได้ถึงเกณฑ์ และกลุ่มสุดท้ายจะได้รับการสุ่มรางวัลลอตเตอรี่ต่อเมื่อลดได้ถึงเกณฑ์ โดยทุกกลุ่มจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเหมือนๆ กัน
ผลการวิจัยปรากฏว่า เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี กลุ่มที่เอาเงินมาล่อทั้งสองกลุ่มสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่ากลุ่มควบคุม (กลุ่มสุ่มลอตเตอรี่ลดมากกว่ากลุ่มควบคุม 13.1 ปอนด์ และกลุ่มได้เงินลดมากกว่ากลุ่มควบคุม 14.0 ปอนด์, p=0.02 และ 0.006 ตามลำดับ) ผู้วิจัยสรุปว่าการใช้เงินล่อช่วยทำให้การลดน้ำหนักทำได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ทราบถึงผลระยะยาวของวิธีนี้
แทนที่จะเอาเงินไปเสียให้กับคลินิกลดน้ำหนัก เอาเงิินมาเก็บก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว โดยเฉพาะกับวิกฤตเศรษฐกิจตอนนี้นะครับ
ที่มา: Journal of the American Medical Association
» pawinpawin's blog
590 reads | https://jusci.net/node/859 | การลดน้ำหนักอาจทำได้ดีขึ้นถ้าเอาเงินมาล่อ |
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาของสหรัฐฯ ได้รายงานการค้นพบคาร์บอนไดออกไซด์ ในบรรยากาศของดาวเคราะห์ HD 189733b จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
มาร์ค สเวน นักวิจัยจากศูนย์ทดลองจรวดขับดันของนาซาที่แพซาดีนา แคลิฟอร์เนีย ได้ใช้กล้องใกล้อินฟราเรดและสเปกโตรมิเตอร์หลายวัตถุของโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลศึกษาแสงอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากดาวเคราะห์ ซึ่งสเวนได้พบหลักฐานแสดงคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนอกไซด์
HD 189733b เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาว HD 189733 อยู่ห่างจากโลกปี 63 ปีแสง จัดอยู่คลาสดาวพฤหัสบดีร้อน ซึ่งหมายถึงมีขนาดใกล้เคียงหรือใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดี แต่โคจรใกล้ดาวฤกษ์มากกว่าที่ดาวพฤหัสบดีโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตในรูปแบบที่เรารู้จัก
ก่อนหน้านี้ ทีมวิจัยของสเวน ได้ค้นพบมีเทนบนดาวเคราะห์ดวงดังกล่าว
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งได้ยืนยันการค้นพบไอน้ำบนดาวเคราะห์ดวงดังกล่าวเช่นกัน โดยรายงานในวารสาร Nature ระบุว่า คาร์ล กริลล์แมร์จากศูนย์วิทยาศาสตร์สปิตเซอร์ที่แพซาดีนา แคลิฟอร์เนีย ใช้อินฟราเรดสเปกโตรกราฟบนกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ในการสังเกตแสงจาก HD 189733b ในช่วงความยาวคลื่นอินฟราเรดกลาง ก่อนจะสรุปผลว่า แสดงการคงอยู่ของไอน้ำอย่างชัดเจน
ที่มา – NASA, Nature News,The New York Times
» chayaninw's blog
95 reads | https://jusci.net/node/860 | พบคาร์บอนไดออกไซด์บนดาวเคราะห์นอกระบบ |
Le Trung นักประดิษฐ์หนุ่มวัย 33 ปีที่อาศัยอยู่ในแคนาดา ได้ใช้เวลา 2 ปีและเงินอีก 14,000 ปอนด์ สร้างหุ่นยนต์ผู้หญิงในฝันของเขาขึ้นมา
Aiko เป็นหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์เพศหญิง มาพร้อมกับสัดส่วน 32-23-33 และชุดเมด!! (รูปภาพมีให้ดูในลิงก์) สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้ มีระบบจดจำใบหน้ามนุษย์ และพูดได้ถึง 13,000 ประโยค ปัจจุบัน Le Trung อาศัยอยู่ร่วมกับ Aiko โดยเธอจะอ่านหนังสือพิมพ์ให้เขาฟังทุกเช้า
Le Trung กำลังระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อทำให้ Aiko เดินได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น ส่วนเรื่องบนเตียงนั้น เขาให้สัมภาษณ์ว่าซอฟต์แวร์ของ Aiko สามารถแก้ไขให้ดูเหมือนว่าถึงจุดสุดยอดทางเพศได้ในอนาคต Le Trung วางแผนว่าถ้า Aiko เสร็จสมบูรณ์ตามที่เขาคาดหวัง เขาจะพัฒนาให้เป็นสินค้าขายต่อไป
ที่มา - The Sun
» mk's blog
789 reads | https://jusci.net/node/861 | นักประดิษฐ์สร้างหุ่นยนต์ "ภรรยา" |
จากข่าวก่อนหน้านี้ รายงานยืนยัน “โทรศัพท์มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่”
ได้มีผลการวิจัยโดยนักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Warwick พบว่า การใช้ hands-free ในการคุยโทรศัพท์จะมีผลต่อกิจกรรมที่ต้องจดจ่อกับการมองเห็น โดยการให้ผู้ถูกทดสอบสนทนาโทรศัพท์ผ่านทาง hands-free เกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไป ในระหว่างที่ผู้ถูกทดสอบทำงานอย่างอื่นไปด้วย พบว่าการตอบสนองของผู้ถูกทดสอบช้าลงกว่าเดิม 212 มิลลิวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับระยะทาง 5.7 เมตร ในการขับรถด้วยความเร็ว 60 ไมล์/ชั่วโมง (96.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง) นอกจากนี้ผู้ถูกทดสอบที่ถูกรบกวนโดยการสนทนาทางโทรศัพท์ยังมีโอกาสทำงานผิดพลาดเพิ่มขึ้นถึง 83%
นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้ทำการทดลองเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยินผ่านทาง hands-free อีก โดยให้ผู้ถูกทดสอบพูดทวนคำที่ได้ยินจากหูฟัง เปรียบเทียบกับการให้ผู้ถูกทดสอบฟังคำที่ได้ยินจาก hands-free เช่นเดิม แต่ให้คิดคำที่ตัวอักษรขึ้นต้นด้วยตัวท้ายของคำที่ได้ยิน แล้วพูดออกมาแทน ซึ่งจะต้องใช้สมาธิในการฟัง และคิด มากกว่าการทดสอบครั้งแรก จากการทดสอบพบว่า ผู้ถูกทดสอบสามารถตอบสนองได้เร็วเท่าปกติในการพูดทวนคำเพียงอย่างเดียว แต่ในการทดสอบที่ผู้ถูกทดสอบจะต้องคิดหาคำใหม่ด้วย พบว่าการตอบสนองช้าลง 480 มิลลิวินาที
ที่น่าสนใจก็คือ การฟังเรื่องราวเฉย ๆ แทบไม่ได้ทำให้สมาธิเสียไปเลย ไม่ว่าจะเป็นเวลาและความถูกต้องในการตอบสนอง จากการทดสอบโดยให้ผู้ถูกทดสอบฟังเนื้อหาในบทแรกของ Bram Stoker’s Dracula ในระหว่างทำงานอย่างอื่นไปด้วย
งานนี้ผู้วิจัยจึงสรุปว่า แม้ว่าจะใช้ hands-free ก็ยังมีผลต่อสมาธิในการขับรถอยู่ดี เพราะสมองของมนุษย์ไม่สามารถตอบสนองต่อบทสนทนาทางโทรศัพท์ ไปพร้อม ๆ กับการตอบสนองในการขับรถได้
ที่มา Physorg
» zybernav's blog
540 reads | https://jusci.net/node/862 | การคุยโทรศัพท์โดยใช้ Hands-free ระหว่างขับรถก็ยังไม่ปลอดภัย? |
Biology
Energy
Environment
Global Warming
Health
Medical
NASA
Physics
Research
Space
more tags
Site Search | https://jusci.net/node/863 | Page not found |
ขอเสนอปรับปรุง Jusci.net หน่อยนะครับ
ขอฟัีงก์ชันการเขียนสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ครับ
ขอเอาหัว comment ออก (ที่มักจะเป็นคำที่ตัดมาจากตัวอักษรแรกๆ ของโพสต์น่ะครับ) ผมคิดว่าไม่ค่อยมีประโยชน์? น่าจะทำแบบ Blognone มากกว่า
ไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเห็นด้วยหรือเปล่านะครับ ขอบคุณครับ
‹ แสดงความเห็น+เสนอแนะปรับปรุง Jusci.Net
» 9 reads | https://jusci.net/node/864 | ขอเสนอปรับปรุง Jusci.net |
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนำมาสู่ความก้ำกึ่งของหลักการทางจริยธรรมหลายประการที่เราเคยรู้สึกว่า “รู้ๆ กัน” อย่างเช่นประเด็นของการทำแท้ง ที่อาจจะมีการหยุดยั้งการตั้งครรภ์ได้หลายช่วงเวลา หรือการทำโคลนนิ่งที่มีการทำลายตัวอ่อนที่ระดับพัฒนาการต่างๆ
ประเด็นเหล่านี้นำมาซึ่งการเผยแพร่เอกสารว่าด้วยการรวบรวมหลักข้อเชื่อในประเด็นทางชีววิทยาต่างๆ โดยเนื้อความแล้วเอกสารฉบับนี้ต่อต้านเทคนิคการมีบุตรด้วยเทคนิคพิเศษหลายประการ เนื่องจากการมีบุตรเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นจากการแต่งงานจากคู่แต่งงานต่างเพศเท่านั้น รวมถึงการต่อต้านยาคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกจัดกลุ่มเข้าเป็นการทำแท้งชนิดหนึ่ง
เอกสารฉบับนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังการพูดคุยกันภายในเป็นเวลาหกปี และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปีที่วาติกันออกประกาศเช่นนี้
หาเอกสารฉบับเต็มได้ที่เว็บการประชุมบิชอปแห่งสหรัฐฯ (PDF)
ที่มา - The New York Times
» lew's blog
696 reads | https://jusci.net/node/865 | วาติกันเผนแพร่เอกสารว่าด้วยหลักการจริยธรรมทางชีววิทยา |
ช่วงนี้บ้านเรารณนรงค์เรื่องเมาแล้วอย่าขับกันมาก แต่งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่ศึกษาการเสียชีวิตในระบบรถไฟใต้ดินของนิวยอร์คก็ออกมาระบุว่า การเมามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในรถไฟใต้ดินอย่างเห็นได้ชัด
จากการศึกษาเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 668 รายการ พบว่าเป็นการเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ (ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย) ทั้งหมด 315 รายการ และร้อยละ 46 ของจำนวนนี้ตรวจพบว่าผู้ตายมีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกำหนด
บ้านเราน่าจะศึกษาบ้างว่าถ้าเมาแล้วขึ้นแท็กซี่จะมีผลอย่างไรบ้าง?
ที่มา - PhysOrg
» lew's blog
675 reads | https://jusci.net/node/866 | เมาแล้วอย่าขึ้นรถไฟฟ้า? |
เทคโนโลยีอวัยวะทดแทนกำลังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการรักษาในยุคต่อๆ ไป กระเด็นหนึ่งที่เราเจอบ่อยๆ คือเรื่องของกระดูกเทียมที่ใช้รักษาผู้ที่กระดูกแตกหักหรือมีปัญหาอื่นๆ ปัญหาคือการใส่กระดูกเทียมเข้าสู่ร่างกายนั้นต้องผ่าตัดค่อนข้างยุ่งยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ในอนาคตเราอาจจะไม่ต้องผ่าตัดเพื่อใส่กระดูกเทียมอีกต่อไป
เทคโนโลยีใหม่นี้เป็นการพัฒนาวัสดุที่มีความเหลวพอที่จะฉีดผ่านเข็มฉีดยาเข้าไปในร่างกายได้ และยังสามารถแข็งตัวได้โดยมีความทนทานเพียงพอ ตลอดจนไม่ก่อให้เกิดความร้อนระหว่างการแข็งตัว ทำให้แพทย์สามารถฉีดเข้าไปเพื่อซ่อมแซมกระดูกได้
งานวิจัยนี้มาจากมหาวิทยาลัย Nottingham และมีบริษัทที่แยกตัวออกมาเตรียมทำตลาดวัสดุใหม่นี้แล้ว และน่าจะได้รับการรับรองให้ใช้งานในสหรัฐฯ ภายใน 18 เดือนข้างหน้า
ที่มา - Cosmos Online
» lew's blog
459 reads | https://jusci.net/node/867 | กระดูกเทียมรุ่นใหม่ ฉีดเข้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด |
เครื่องนวดเท้าที่ดูจะไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อมีการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องกลับเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
รายงานเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อมีลูกค้าซื้อเครื่องนวดเท้ายี่ห้อหนึ่งในญี่ปุ่นแล้วนำไปใช้นวดคอและใหล่โดยที่ถอดผ้าคลุมตัวเครื่องออก ทำให้ตัวเครื่องไปพันกับคอเสื้อและแรงดึงของเครื่องทำให้ผู้ใช้เสียชีวิต
ยังไม่มีการเรียกสินค้าคืนแต่อย่างใด แต่งานนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโทษผู้ผลิตดีไหม
ที่มา - JapanProbe
» lew's blog
473 reads | https://jusci.net/node/868 | เครื่องนวดเท้าเป็นเหตุให้คนเสียชีวิตสามคน |
กีฬาบางประเภทอาจมีการใช้เสียงดังอย่างเห็นได้ชัด เช่นการยิงปืน ซึ่งอาจทำให้เกิดหูหนวกจากการได้ยินเสียงดังมาก (Noise-induced Hearing Loss) แต่สำหรับกอล์ฟที่ดูเหมือนจะเงียบๆ แล้วก็อาจทำให้หูหนวกได้
มีรายงานจาก Norfolk and Norwich University Hospital พบผู้ป่วยที่การได้ยินผิดปกติ หลังจากการตีกอล์ฟ โดยผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ไม่ได้ทำอย่างอื่นที่มีเสียงดังเลยนอกจากการหวดลูกกอล์ฟด้วยไม้กอล์ฟ King Cobra รุ่น LD ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเสียงดังเวลาหวดลูก ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการวินิจฉัยว่าการสูญเสียการได้ยินนั้นเกิดจากการได้รับเสียงดัง
เนื่องจากความสงสัยในเสียงที่ดังนี้ ทำให้ทางทีมแพทย์ที่รักษาทดลองเอาไม้กอล์ฟชนิดต่างๆ มาตีลูกแล้ววัดระดับเสียงที่เกิดขึ้น ผลปรากฎว่าไม้กอล์ฟรุ่นดังกล่าวส่งเสียงดังถึงเกือบ 130 เดซิเบล เวลาหวดลูก (เทียบเท่ากับเครื่องบินเจ็ตที่อยู่ห่างจากคนฟัง 100 ฟุตเลยทีเดียว) นอกจากนี้ยังพบว่าไม้กอล์ฟอีกหลายรุ่นโดยเฉพาะที่ทำจากไทเทเนียมทำให้เกิดเสียงดังมาก
ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นกอล์ฟแต่คิดว่าผู้ที่นิยมไม้ประเภทนี้มากๆ อาจจะต้องอุดหูบ้างแล้วกระมัง?
ที่มา: British Medical Journal
» pawinpawin's blog
491 reads | https://jusci.net/node/869 | การตีกอล์ฟอาจทำให้หูหนวก |